นายกฯ สปป.ลาว ร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-ญี่ปุ่น เน้นความร่วมมือระดับภูมิภาค

การประชุมสุดยอดผู้นำจากประเทศในกลุ่มอาเซียนและญี่ปุ่น มีความตั้งใจในการทบทวนความร่วมมือในช่วงห้าทศวรรษที่มุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ โดยการประชุมได้จัดลำดับความสำคัญของการสร้างวิสัยทัศน์ใหม่และความร่วมมือที่จับต้องได้ เน้นย้ำความพยายามในการทำงานร่วมกันเพื่อจัดการกับความท้าทาย ต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และส่งเสริมความร่วมมือทางอุตสาหกรรม ทั้งนี้ นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว มีส่วนร่วมในการอภิปรายทวิภาคีกับผู้นำจากทั่วภูมิภาค ในฐานะที่ สปป.ลาว กำลังเตรียมที่จะเป็นประธานอาเซียนในปีหน้า นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ให้การสนับสนุน สปป.ลาว โดยเน้นความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ก้าวข้ามความสัมพันธ์ที่นอกเหนือไปจากธุรกิจ และส่งเสริมความไว้วางใจผ่านความท้าทายร่วมกัน เนื่องจากมีบริษัทญี่ปุ่นประมาณ 160 แห่งที่ทำธุรกิจใน สปป.ลาว ซึ่งมีส่วนสนับสนุนความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมลาวเป็นอย่างมาก และสร้างโอกาสในการจ้างงานโดยส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และอำนวยความสะดวกในการถ่ายทอดเทคโนโลยี

ที่มา : https://laotiantimes.com/2023/12/15/lao-pm-to-join-asean-japan-summit-focus-on-regional-cooperation/

ผลสำรวจเจโทร ชี้ธุรกิจญี่ปุ่นในเวียดนามทำกำไร ปี 2566

จากการสำรวจขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) ในปี 2566 เปิดเผยว่าธุรกิจญี่ปุ่นในเวียดนามส่วนใหญ่เกินกว่า 50% มีผลกำไรในปีนี้ อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอาเซียนที่ 6.6% และในกลุ่มตัวอย่างราว 32% ระบุกำไรหรือผลประกอบการดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2565

ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มองว่าปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจกำไรได้ในปีนี้ เนื่องมาจากความต้องการการผลิตไปยังตลาดส่งออกมีมากขึ้น และความต้องการภาคบริการของตลาดในประเทศดีขึ้น

นอกจากนี้ การปรับปรุงประสิทธิภาพและการลดต้นทุน ยังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในปีนี้

ที่มา : https://tuoitrenews.vn/news/business/20231216/over-half-of-japanese-companies-in-vietnam-report-2023-profits-survey/77290.html

‘นายกฯ เวียดนาม’ เตรียมเยือนญี่ปุ่น 15-18 ธ.ค. นี้

นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เตรียมบินร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี และส่วนร่วมในการกระชับความสัมพันธ์แบบทวิภาคี ระหว่างวันที่ 15-18 ธันวาคม 2566 โดยการเดินทางในครั้งนี้ เป็นไปตามคำเชิญของนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น นับเป็นครั้งที่ 2 ของการเยือนของผู้นำรัฐบาลเวียดนามในปีนี้

นอกจากนี้ นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ ยังได้เข้าหารือกับผู้นำจากกลุ่มประเทศอาเซียน ตลอดจนเข้าไปมีส่วนร่วมกับภาคธุรกิจจากทั้งสองประเทศ

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/pm-chinh-set-to-come-to-japan-tomorrow/

เลขาธิการอาเซียนจะเดินทางเยือน สปป.ลาว เพื่อเตรียมพร้อมรับตำแหน่งประธานอาเซียนปีหน้า

ดร.เกา คิม เลขาธิการอาเซียน จะเดินทางเยือน สปป.ลาวเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 28-30 พฤศจิกายน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2567 ตามคำเชิญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว โดยจะนำคณะผู้แทนสำนักเลขาธิการอาเซียน ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากสามเสาหลักประชาคมเข้าร่วมการประชุมทวิภาคีกับเจ้าหน้าที่อาวุโสของ สปป.ลาว คณะผู้แทนจะพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายกรัฐมนตรี โสเนกชัย สีพันโดน รวมทั้งรัฐมนตรีคนสำคัญอื่นๆ ที่รับผิดชอบประเด็นข้ามเสาหลัก การประชุมนี้มีเป้าหมายเพื่อหารือเกี่ยวกับบทบาทของสำนักเลขาธิการอาเซียนในการสนับสนุนการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของ สปป.ลาว ที่กำลังจะมีขึ้น ภายใต้หัวข้อ “การเสริมสร้างการเชื่อมต่อและความยืดหยุ่น” เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เวียงจันทน์ได้เปิดเผยโลโก้อย่างเป็นทางการและธีมของตำแหน่งประธานอาเซียนที่จะจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศครั้งแรกในวันที่ 28-29 มกราคม 2567 ที่เมืองหลวงพระบาง โดยจะจัดการประชุมอาเซียนครั้งแรก และจะเป็นการประชุมครั้งแรกจากหลายร้อยการประชุมที่จะตามมาตลอดปี 2567 หลังจากที่ประธานอาเซียนคนใหม่เริ่มแผนปฏิบัติการและผลงาน

ที่มา : https://www.thaipbsworld.com/asean-chief-visits-laos-this-week/

นักวิเคราะห์ มองศก.อาเซียนปี 67 กระเตื้องขึ้นแต่ยังน่าเป็นห่วง ประเมินจีดีพีไทยปีหน้าโต 3.8%

สำนักข่าว Nikkei รายงานว่านักเศรษฐศาสตร์รายหนึ่ง เปิดเผยว่าเศรษฐกิจของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ในปี 2567 ยังคงอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง แม้จะมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น หลังเผชิญกับภาคการส่งออกที่ซบเซา อันเนื่องมาจากผลกระทบของปัญหาเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ด้านนักวิเคราะห์จากบีเอ็มไอ ระบุว่า ประเมินเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ไว้ดีเกินไป และได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ ลงจากการขยายตัวที่ 2.8% สู่ 2.5%”  และคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2567 จะขยายตัวที่ 3.8%

ที่มา : https://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=A&id=LzlLeHJMeTltQm89

‘สปป.ลาว เปิดตัวโลโก้ในฐานะประธานอาเซียนปี 2024’ อย่างเป็นทางการ

กระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว ได้เปิดตัวโลโก้ เว็ไซต์ และธีม ในฐานะประธานอาเซียนประจำปี 2567 อย่างเป็นทางการ เพื่อเตรียมพร้อมรับตำแหน่งประธานอาเซียนที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 มกราคม 2567 โดยการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องกับอาเซียนครั้งที่ 44 และ 45 จะจัดขึ้นในเดือนตุลาคมปีหน้า ภายใต้หัวข้อ “อาเซียน: การเสริมสร้างการเชื่อมต่อและความยืดหยุ่น” สะท้อนถึงความปรารถนาของประธานอาเซียนในการส่งเสริมและกระชับความร่วมมือของกลุ่มในทุกด้านของการเชื่อมโยง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในระหว่างดำรงตำแหน่งประธานของ สปป.ลาว จะมีการให้ความสำคัญสูงสุดในการเสริมสร้างการเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐาน ลดช่องว่างในการหลบหนี และส่งเสริมการบูรณาการทางเศรษฐกิจที่มากขึ้นและการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน ส่วนความสัมพันธ์กับประเทศภายนอกอาเซียน สปป.ลาว จะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับคู่เจรจาของกลุ่ม ขณะเดียวกันก็รักษาความเกี่ยวข้องและการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ทั้งนี้ โลโก้ที่ สปป.ลาว เปิดตัวสื่อถึงลูกโลกและสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์และความร่วมมือของอาเซียนกับพันธมิตรภายนอกทั่วโลก ซึ่งมี 4 สี ได้แก่ น้ำเงิน แดง เหลือง และขาว ที่เป็นสีของธงสัญลักษณ์ของอาเซียน 

ที่มา : https://www.thaipbsworld.com/laos-officially-launched-the-asean-chairs-logo-and-theme-of-2024/

‘เศรษฐา’ เดินหน้าหาเงินเข้า ปท. อ้อนนักลงทุน เจรจาหลายชาติในเวที ‘เอเปก’

นายเศรษฐา กล่าวถึงการหารือทวิภาคี กับนายคิชิดะ ฟูมิโอ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 30 ว่า ได้หารือเรื่องของความสัมพันธ์ที่มีมานาน 50 ปี และหารือเรื่องการใช้รถยนต์สันดาป โดยตนให้ความมั่นใจกับทางญี่ปุ่นไปว่าจะไม่ทอดทิ้ง มีการพูดคุยกันว่าให้การประกอบรถยนต์สันดาปของญี่ปุ่น และกระบวนการจัดการผลิตอยู่ได้ ขณะที่รถไฟฟ้า (อีวี) ที่มีความต้องการสูง และได้พูดในหลายเวทีว่าประเทศญี่ปุ่นมีการลงทุนในประเทศไทยสูงที่สุดในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา จึงต้องมาดูแลช่วยเหลือกัน และทางญี่ปุ่นยืนยันว่าธุรกิจยานยนต์เป็นธุรกิจสำคัญและจะพัฒนาต่อในประเทศไทย และในระหว่างวันที่ 16-18 ธ.ค.นี้ ตนจะเดินทางไปร่วมประชุมอาเซียน ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นอกจากนั้นยังพูดคุยอีกหลายเรื่อง เช่น ฟรีวีซ่าสำหรับนักธุรกิจของสองประเทศ ที่ทั้งสองฝ่ายมีการตกลงเห็นตรงกันว่าไม่จำเป็นต้องขอ เพื่อให้นักธุรกิจ ติดต่อธุรกิจและไปมาหาสู่สะดวกมากขึ้น ทั้งนี้ ไทยมุ่งเน้นเปิดโอกาสเศรษฐกิจใหม่ๆ อาทิ เศรษฐกิจดิจิทัล นวัตกรรม เศรษฐกิจสีเขียว รวมทั้งเปิดกว้างในการเจรจาความตกลงการค้าเสรีที่มีมาตรฐานสูง โดยไทยมีโครงการ Landbridge เพื่อเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจตัวใหม่ จึงอยากเชิญญี่ปุ่นมาร่วมมือในโครงการนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย ญี่ปุ่น และภูมิภาค โดยนายกฯ ย้ำว่ารัฐบาลไทยจะอำนวยความสะดวกให้ภาคเอกชนอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงด้านความมั่นคง ซึ่งยินดีที่ไทยและญี่ปุ่นมีความร่วมมือด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศอย่างใกล้ชิดภายใต้กลไกความร่วมมือที่มีอยู่ อาทิ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ

ที่มา : https://www.naewna.com/politic/769777

ภาคการท่องเที่ยวอาเซียนผนึกกำลังภาคการขนส่ง ดันการเติบโตภาคนักท่องเที่ยว

การประชุมระหว่างคณะรัฐมนตรีการท่องเที่ยวอาเซียนและรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของอาเซียน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ กรุงพนมเปญ นำโดย Sok Soken รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา ได้มีฉันทามติในประเด็นเร่งด่วนร่วมกันในการสนับสนุนความร่วมมือของภาคการท่องเที่ยวและการขนส่งของอาเซียน ในการผลักดันให้ภาคการท่องเที่ยวอาเซียนกลับมาเติบโตอีกครั้งหลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด รวมถึงมีความพยายามที่จะเพิ่มการไหลเวียนด้านการเดินทางของนักท่องเที่ยวภายในกลุ่มประเทศอาเซียน สำหรับทางการกัมพูชาให้ความสำคัญกับการปรับใช้กลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยว ให้กลายมาเป็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ รวมถึงผลักดันให้ภาคสังคมเกิดการเติบโตด้วยการเพิ่มโอกาสการจ้างงานสร้างรายได้ โดยปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มสำคัญมาจากสหภาพยุโรป ซึ่งมีปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 80 และนักท่องเที่ยวจากกลุ่มชาติเอเชียเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2019 ก่อนเกิดการแพร่ระบาด สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 239.60 ล้านดอลลาร์ โดยมีอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR 2023-2027) ที่เฉลี่ยร้อยละ 10.34 ซึ่งคาดว่ามูลค่าจะปรับเพิ่มขึ้นสู่ 355.20 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2027

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501391621/asean-tourism-joins-forces-with-transport-sector-to-boost-numbers/

‘สหรัฐอเมริกา’ ยังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม

สหรัฐอเมริกายังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในขณะที่เวียดนามกลายมาเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับที่ 7 ของสหรัฐฯ และยังเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยจากตัวเลขสถิติการค้าระหว่างประเทศ พบว่ายอดการค้าระหว่างทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 16% ต่อปี เพิ่มขึ้นเกินกว่า 550% จาก 21.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2554 ขึ้นมาอยู่ที่ 123 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบัน สหรัฐฯ เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่อันดับที่ 11 จาก 108 นักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนในเวียดนาม และมีการลงทุน 1,200 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนราว 11.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ กิจการรายใหญ่ของสหรัฐฯ ยังคงให้ความสนใจและต้องการลงทุนระยะยาวในเวียดนาม รวมถึงมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มความร่วมมือกับเวียดนามและร่วมกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/us-remains-vietnams-largest-export-market-post1058710.vov

อาเซียน-จีน ตั้งเป้าอัปเกรด FTA ให้ได้เกินครึ่งทางภายในปีนี้ ก่อนสรุปผลปี 67

น.ส.โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยได้เข้าร่วมการเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA Upgrade Negotiations) ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 25-29 ต.ค.2566 ที่ผ่านมา ณ เมืองบันดุง สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยมีนายหวี เปิ่นหลิน อธิบดีกรมเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ เป็นประธานฝ่ายจีน โดยไทยในฐานะประธานร่วมฝ่ายอาเซียนได้ร่วมกับจีนผลักดันให้การเจรจารอบนี้ มีความคืบหน้ามากที่สุด ซึ่งตั้งเป้าให้การเจรจาคืบหน้าได้เกินครึ่งทางภายในปีนี้ เพื่อสรุปผลการเจรจาภายในปี 2567 ทั้งนี้ จีนจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรอบต่อไป ในช่วงปลายเดือน ม.ค.2567 ณ กรุงปักกิ่ง

ที่มา : https://corehoononline.com/index.php/economy/commerce-moc/showcontent/214785.html