‘เวียดนาม’ ร่วมมือออสเตรเลีย หนุนภาคการเกษตรที่ยั่งยืน

Do Thanh Trung รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุนของเวียดนาม ได้แสดงความปรารถนาดีที่จะได้รับการสนับสนุนจากศูนย์วิจัยด้านการเกษตรระหว่างประเทศของออสเตรเลีย (ACIAR) ในการยกระดับประสิทธิภาพทางการเกษตร โดยวิสัยทัศย์ของเวียดนามจะมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมการเกษตรที่มีความยั่งยืน ประกอบกับการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ให้ดีชึ้น ยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันและเชื่อมโยงกับหั่วโซ่อุปทาน ตั้งแต่การแปรรูป การเก็บรักษาหลังการเก็บเกี่ยว นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้มีการพัฒนาระบบเกษตรสู่การเติบโตสีเขียว เกษตรอินทรีย์และเกษตรกรรมหมุนเวียน

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-seeks-collaboration-with-australia-on-sustainable-agriculture-post1093824.vov

‘เวียดนาม’ มุ่งยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของการส่งออกสินค้าเกษตรไปยังตลาดสหรัฐฯ

จากข้อมูลของสำนักงานการค้าต่างประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า และตัวเลขสถิติของคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา พบว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 สหรัฐฯ มีการนำเข้ายางพารา 1.43 ล้านตัน อย่างไรก็ดีเวียดนามส่งออกไปยังสหรัฐฯได้เพียง 20,370 ตัน มูลค่า 28.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่ในอันดับที่ 13 ในกลุ่มซัพพลายเออร์ยางพาราในตลาดสหรัฐฯ และคิดเป็นสัดส่วนราว 1.42% ของปริมาณการนำเข้ายางทั้งหมดของสหรัฐฯ โดยคู่แข่งรายใหญ่ ได้แก่ อินโดนีเซียและไทยที่มีส่วนแบ่งการตลาดในสหรัฐฯ มากที่สุด

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาสินค้าประมง แสดงให้เห็นว่าในช่วง 10 เดือนของปีที่แล้ว เวียดนามส่งออกสินค้าประมงไปยังสหรัฐฯ อยู่ในระดับมาก และอยู่ในอันดับที่ 2 ของผู้ส่งออกรายใหญ่ โดยเฉพาะกุ้ง ปลาสวายและปลาทูน่า

นอกจากนี้ นาย Do Ngoc Hung ที่ปรึกษาด้านการพาณิชย์ของเวียดนาม แนะนำให้ผู้ประกอบการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงและมีมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-strives-to-increase-competitiveness-for-agricultural-exports-to-us/278092.vnp

มกอช. นำทีมคณะผู้แทนไทย เป็นเจ้าภาพประชุม EWG-OA เร่งปรับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ให้สอดคล้องกับ 10 ประเทศอาเซียน

นายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า มกอช. พร้อมด้วย กรมการข้าว กรมวิชาการเกษตร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้เข้าร่วมการประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรอินทรีย์ของอาเซียน (Expert Working Group for Organic Agriculture : EWG-OA) ครั้งที่ 6 ผ่านระบบทางไกลออนไลน์ ซึ่งในปีนี้สาธารณรัฐสิงคโปร์ทำหน้าที่เป็นประธาน โดยมีประเทศไทยทำหน้าที่รองประธาน และเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม โดยการประชุมดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรในอาเซียนที่ยั่งยืนมีระบบการจัดการที่จะทำให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัยของผู้บริโภค ลดการสูญเสีย และลดผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีการหารือประเด็นที่สำคัญ ประกอบไปด้วย 1. การปรับประสานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ของประเทศสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ ให้เทียบเท่ามาตรฐานเกษตรอินทรีย์ของอาเซียน (ASOA) 2. การปรับประสานระบบการตรวจสอบรับรองของประเทศสมาชิกเพื่อให้เกิดการยอมรับความเท่าเทียมของระบบของแต่ละประเทศ 3. การส่งเสริมการใช้มาตรฐาน ASOA และการพัฒนาองค์ความรู้เพื่อส่งเสริมให้ผู้ผลิตขนาดกลางและขนาดเล็กเข้าสู่ตลาดที่มีมูลค่าสูงได้

 

ที่มา : https://mgronline.com/politics/detail/9650000033951

ความต้องการสินค้าเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้นในเวียดนาม

ตามข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) เปิดเผยว่าพื้นที่เพาะปลูกผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้นจากในปี 2559 อยู่ที่ 53,350 เฮกตาร์ เป็น 237,693 เฮกตาร์ในปีที่แล้ว และส่งออกไปยัง 180 ประเทศทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป จีนและญี่ปุ่น เป็นต้น ด้วยมูลค่ารวม 335 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ว่าทางนาย Ha Phuc Mich ประธานสมาคมเกษตรอินทรีย์เวียดนาม กล่าวว่าการเติบโตที่รวดเร็วของเกษตรอินทรีย์ สร้างความกังวลในเรื่องการควบคุมคุณภาพ ทั้งนี้ ผู้อำนวยการของบริษัท Vinh Hiep Co. , Ltd ชี้ให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์เป็นที่ต้องการทั่วโลกและข้อกำหนด/มาตรฐานเป็นสิ่งที่จำเป็นของการพัฒนาการเกษตรที่ยั่งยืน แต่ในปัจจุบัน การผลิตเกษตรอินทรีย์ของเวียดนามยังคงเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะมาจากค่าใช้จ่ายในการวิจัยที่สูงและใช้เวลานาน เป็นต้น นอกจากนี้ ทางกระทรวงเกษตรฯ จึงปรับโครงสร้างภาคการเกษตร ในการยกระดับมูลค่าและทำให้ยั่งยืน ได้แก่ ขยายพื้นที่เกษตรกรรม สร้างแรงจูงใจให้กับธุรกิจและสหกรณ์ รวมถึงฝึกอบรมเพื่อพัฒนาความรู้เกี่ยวกับการทำเกษตรอินทรีย์

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/demand-for-organic-farm-produce-on-the-rise-in-vietnam/189381.vnp