เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศไหลเข้าเมืองดานัง 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2562

จากรายงานของกรมการวางแผนและการลงทุน (Municipal Department of Planning and Investment) เปิดเผยว่าเม็ดเงินทุนจากต่างชาติไหลเข้าบริเวณชายฝั่งทะเลของเมืองดานัง ด้วยมูลค่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจากทั้งหมด มีมูลค่า 440 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ลงทุนในโครงการจดทะเบียนใหม่ 132 โครงการ ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ มูลค่าราว 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ถูกอัดฉีดเข้าไปในโครงการที่ดำเนินการอยู่ 16 โครงการ นอกจากโครงการลงทุนจากต่างประเทศแล้ว ในปีทีแล้วเมืองดานังได้อนุมัติโครงการด้านการเงินจากในประเทศ ด้วยมูลค่า 8.82 ล้านล้านด่อง ทำให้มูลค่าเงินทุนของโครงการที่มาจากในประเทศปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 104 ล้านล้านด่อง ซึ่งจากตัวเลขเม็ดเงินทุนดังกล่าว เป็นผลมาจากการเร่งปฏิรูปด้านการบริหารของรัฐบาลที่จะอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ เมืองดานังยังมุ่งเน้นในการส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างกลยุทธ์การลงทุนในรูปแบบพาร์ทเนอร์ (Strategic Investors) ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น เป็นต้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/571472/fdi-inflow-in-da-nang-hits-nearly-700m-in-2019.html

ยอดส่งออกธัญพืชไปไทยเพิ่มขึ้น

ารส่งออกธัญพืชอย่างข้าวฟ่างกำลังทวีความรุนแรงขึ้นในขณะที่รอการส่งออกไปยังไทยของผู้ส่งออกในชายแดนเมียวดี แม้ว่าจะได้รับการยกเว้นภาษีตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึง 31 สิงหาคมเพื่อส่งออกไปยังประเทศไทยตามข้อตกลงร่วมกัน แต่ยังไม่สามารถส่งออกไปได้เนื่องจากรัฐบาลไทยขึ้นภาษีส่งออกข้าวข้าวฟ่างเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกร ในช่วงเวลานั้นการส่งออกมายังไทยไทยผู้ส่งออกได้รับความสูญเสียเนื่องจากรถบรรทุกที่ไม่สามารถข้ามสะพานเกียง เนื่องจากการเพิ่มระดับน้ำในแม่น้ำเกียง ทั้งผู้ส่งออกไม่สามารถส่งออกไปยังจีนได้เนื่องจากรัฐบาลจีนขึ้นภาษีเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกร ยอดการส่งออกจากการค้าชายแดนเมียวดีคิดเป็น 10% ของการนำเข้าและส่งออกของปีนี้ แม้ว่าไทยจะส่งออกสินค้ารถบรรทุกกว่า 500 คันในทุกๆ วัน แต่เมียนมาก็ไม่ได้ขึ้นภาษีแต่อย่างใด

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/millet-grains-pile-up-to-export-to-thailand

การเติบโตของการท่องเที่ยวสปป.ลาว

กระทรวงข้อมูลวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวได้เปิดเผยตัวเลข การท่องเที่ยวล่าสุดแสดงให้เห็นว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าสปป.ลาวในปี 62 มีมากขึ้น โดยเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเยอะที่สุด 4.7 ล้านคนเพิ่มขึ้น 14.44% จากปี 2561 Mr Soun Manivong ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดการท่องเที่ยวกล่าวว่าส่วนหนึ่งของการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวในปีที่ผ่านมามาจาก แคมเปญเยี่ยมชมปีลาว – ​​จีนซึ่งได้รับความร่วมมือจากจีนเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนจากประเทศเพื่อนบ้านทางตอนเหนือมาเที่ยว สปป.ลาวมากขึ้น ขณะนี้รัฐบาลได้เริ่มวางแผนการสำหรับการที่จะกระตุ้นให้การท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในปี 63 โดยจะมีการดำเนินการในเรื่องการให้บริการที่ดีขึ้นทั้งด้านสถานทีท่องเที่ยวและความสะดวกสบายสำหรับการข้ามพรมแดน นอกจากนี้การรักษาระดับของค่าเงินกีบให้เหมาะสมก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญและนำแผนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในปี63 โดยรัฐบาลหวังที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 4.7 ล้านคนและสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมากกว่า 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 63

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_New_17.php

กัมพูชาเสนอบริษัทญี่ปุ่นลงทุนในแหล่งน้ำสะอาดภายในประเทศ

บริษัทญี่ปุ่นถูกขอให้ลงทุนสร้างโรงผลิตน้ำสะอาดและจัดหาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำสะอาดให้แก่กัมพูชาตามนโยบายด้านสุขอนามัยของรัฐบาล โดยการเรียกร้องดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากรัฐบาลกัมพูชาต้องการเชื่อมโยงการแจกจ่ายน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคไปยังเขตเมืองทั้งหมดทั่วประเทศภายในปี 2568 และในพื้นที่ชนบททั้งหมดในปี 2573 ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและหัตถกรรมได้มีการเสนอกับบริษัทญี่ปุ่น ณ งานสัมมนาน้ำประปาและสิ่งปฏิกูลกัมพูชาและญี่ปุ่น 2563 โดยจัดขึ้นที่โรงแรมซันเวย์ในกรุงพนมเปญ โดยกระทรวงส่งเสริมให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศโดยเฉพาะญี่ปุ่นลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานน้ำของกัมพูชาเพื่อให้ชาวกัมพูชาสามารถเข้าถึงน้ำสะอาดที่ยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันกว่าร้อยละ 80 ของเขตเมืองทั่วประเทศสามารถเข้าถึงน้ำสะอาด ที่ดำเนินการผลิตโดยหน่วยงานประปาของรัฐและผู้จัดจำหน่ายน้ำสะอาดเอกชนที่ได้รับใบอนุญาตให้ทำงานในพื้นที่ที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับท่อส่งน้ำสะอาด โดยมีหน่วยงานผู้ให้บริการน้ำของรัฐ 11 แห่งและผู้ให้บริการน้ำสะอาดภาคเอกชนอีก 258 รายที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวง ซึ่งมีการใช้น้ำสะอาดประมาณ 30 ล้านลูกบาศก์เมตรทุกวันภายในประเทศกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50682452/japanese-firms-asked-to-invest-in-nations-clean-water-supplies

ภาคการเกษตรของกัมพูชากำลังเติบโต

โครงการ FoodSTEM ที่ก่อตั้งมาเป็นเวลา 3 ปี เพื่อฝึกอบรมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในสาขาเกษตรยั่งยืนและวิศวกรรมอาหารเริ่มต้นจากการประชุมเชิงที่นำโดยสถาบันเทคโนโลยีแห่งกัมพูชา (ITC) กับ 4 มหาวิทยาลัยที่ชั้นนำของกัมพูชา ซึ่งแนวคิดคือเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีอาหารเพียงพอต่อความต้องการของประชากรที่เพิ่มขึ้นของกัมพูชาโดยใช้ความหลากหลายของสาขาวิชาและทักษะที่ทันสมัย โดยการประชุมเชิงปฏิบัติการได้ให้คำปรึกษาร่วมกับ Agence Universitaire de la Francophonie ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ C-NEUF “Espace Techno Incubation” โดยเป็นโครงการระยะเวลา 3 ปีที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การสนับสนุนด้านเทคนิคแก่การบ่มเพาะโครงการล่วงหน้ากับผู้ประกอบการนักศึกษาในกัมพูชา เช่นดิจิตัลอิเล็กทรอนิคส์เมคคาทรอนิกส์ (ซึ่งรวมอิเล็กทรอนิกส์กับวิศวกรรมเครื่องกล) และหุ่นยนต์แหล่งพลังงานการเกษตรและอาหารเกษตร ซึ่งอุตสาหกรรมมีมูลค่าถึง 7.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีฮุนเซนได้เรียกร้องให้มีการลงทุนด้านการแปรรูปและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในกัมพูชามากขึ้น ซึ่งกล่าวว่าประมาณ 70% ของข้าวเปลือกที่เหลือถูกขายให้กับ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50682509/growing-the-agricultural-sector