‘อุตสาหกรรมเหล็กเวียดนาม’ คว้าอันดับ 12 ด้านการผลิตเหล็กกล้าดิบของโลก

สมาคมเหล็กเวียดนาม (VSA) ได้ประกาศความสำเร็จของเวียดนามที่คว้าอันดับ 12 ด้านการผลิตเหล็กกล้าดิบของโลก ผลของความสำเร็จในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมเหล็กเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการผลิตและความหลากหลายของสินค้า

ทั้งนี้ คุณ Nghiêm Xuân Da ประธานสมาคมเหล็กเวียดนาม กล่าวว่าตั้งแต่ปี 2558 อุตสาหกรรมกลายมาเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ในอาเซียน ทั้งด้านการผลิตและการบริโภคเหล็กสำเร็จรูป และต่อมาในปี 2566 กำลังการผลิตเหล็กกล้าดิบของเวียดนาม อยู่ที่ 20 ล้านตัน ส่งผลให้เวียดนามก้าวมาเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเหล็กชั้นนำของโลก

นอกจากนี้ ภาคกลางของประเทศเป็นที่ตั้งของศูนย์อุตสาหกรรมสำคัญหลายแห่ง รวมถึงศูนย์กลางผลิตเหล็กและเหล็กกล้า ภายใต้ชื่อว่า ‘หวาฟัตสุงกว๊าต’ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเหล็กปิดขนาดใหญ่และมีความทันสมัยในระดับภูมิภาค

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1655840/vn-s-steel-industry-ranks-12th-in-world-crude-steel-production.html

สปป.ลาว คาด จีดีพี ปี 2567 โตได้ 4.7% ท่ามกลางความท้าทายหลายประการ

การประชุมผู้บริหารพรรคประชาชนปฏิวัติลาว ครั้งที่ 8 โดยมีนายทองลุด สีสุลิด เลขาธิการพรรคและประธานพรรคฯ เป็นประธานในที่ประชุม ได้พูดคุยถึงเศรษฐกิจของ สปป.ลาว โดยคาดว่าจีดีพีจะเติบโตที่ 4.7% ในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้ ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วท่ามกลางความท้าทายอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยภาคอุตสาหกรรมและบริการการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้นพร้อมกับการผลิตที่เพิ่มขึ้น มีส่วนสนับสนุนเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้ สำหรับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญอยู่ในประเทศลาว และสั่งให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อจัดการกับอัตราเงินเฟ้อในระดับสูง การอ่อนค่าของเงินกีบ และต้นทุนที่สูงขึ้น รวมถึงการเงินและปัญหาทางเศรษฐกิจ  แม้จะมีข้อกังวลนี้ แต่ธุรกิจต่างๆ ก็เริ่มขึ้นราคาหลังจากที่รัฐบาลประกาศขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เป็น 10% ที่มีผลบังคับใช้เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง โดยแตะ 24.92% ในเดือนเมษายน แม้ว่าจะลดลงเล็กน้อยจาก 24.98% ในเดือนมีนาคม

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_94_Economy_y24.php

กรมกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ออกตั๋วกำกับดูแลการขนส่งน้ำมัน

กรมกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมได้ออกตั๋วควบคุมการขนส่งน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเมื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดตามระเบียบแล้วโดยในขณะคัดกรองใบสมัคร พบว่าบางส่วนเป็นเอกสารปลอมแปลงข้อมูล ส่วนใหญ่จะถูกส่งโดยนายหน้า ดังนั้นกรมจึงสนับสนุนให้ผู้สมัครส่งไฟล์ด้วยตนเองที่สำนักงานภูมิภาคและของรัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ กรมฯ เตือนขอให้ส่งเอกสารต้นฉบับหรือเอกสารไม่ปลอมไม่ว่าจะนำไปใช้ในทางใดก็ตาม นอกจากนี้ หากพวกสามารถจัดเตรียมเอกสารที่ครบถ้วนและตรวจสอบได้ ค่าธรรมเนียมตั๋วการควบคุมดูแลจะอยู่ที่ 20,000 จ๊าดเท่านั้น และระยะเวลาดำเนินการตั๋วใช้เวลาเพียงสองวันทำการ สำหรับความไม่สะดวกบุคคลทั่วไปสามารถร้องเรียนไปยังหน่วยงานได้ตามหมายเลขติดต่อ 067 3411282 และ 067 3411129

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/pprd-issues-supervision-tickets-for-oil-transport/#article-title

การค้าชายแดนไทย-เมียนมา ทะลุ 297 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในหนึ่งเดือน

การค้าชายแดนของเมียนมากับประเทศเพื่อนบ้านไทยมีมูลค่า 297.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 10 พฤษภาคมของปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2567-2568 ตัวเลขดังกล่าวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีมูลค่าการค้า 428 ล้านดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ว่าลดลงอย่างมากถึง 131.2 ล้านดอลลาร์อย่างไรก็ดี เมียนมาดำเนินการค้าข้ามพรมแดนกับไทยผ่านทางชายแดน ท่าขี้เหล็ก เมียวดี เกาะสอง มะริด บ้านพุน้ำร้อน และมอตอง ในจำนวนนี้ ชายแดนบ้านพุน้ำร้อน มีการค้าขายมากที่สุด ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 185 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนที่ผ่านมา รองลงมาคือ ชายแดนเมียวดี มูลค่าการค้าอยู่ที่ 31.69 ล้านดอลลาร์, ชายแดนท่าขี้เหล็ก 23.97 ล้านดอลลาร์, ชายแดนมะริด 22 ล้านดอลลาร์, ชายแดนเกาะสอง 28.56 ล้านดอลลาร์ และชายแดนมอตอง 6.123 ล้านดอลลาร์ที่มอตอง

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-thailand-border-trade-hits-us297-mln-in-one-month/

‘สถาบันวิจัย’ คาดเศรษฐกิจเวียดนามปีนี้ ขยายตัว 6%

สถาบันวิจัยเศรษฐกิจและนโยบายของเวียดนาม (VEPR) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2567 จะขยายตัว 5.6% – 6% โดยได้ปัจจัยหนุนมาจากการส่งออก การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและภาคอุตสาหกรรม ในขณะที่อุปสงค์ในประเทศยังคงอ่อนแอ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจของเวียดนามในปีนี้ จะเห็นได้ว่าทิศทางของเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวในไตรมาสแรก บ่งชี้ให้เห็นสัญญาณเชิงบวก อย่างไรก็ดียังมีความไม่แน่นอนอยู่ นอกจากนี้ เวียดนามยังได้รับผลกระทบจากความล่าช้าในการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออก การลงทุนจากต่างประเทศและการผลิตของภาคอุตสาหกรรม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1655818/vepr-forecasts-vietnamese-economy-growth-at-below-6-per-cent.html

กัมพูชาส่งออกสินค้ากลุ่ม GFT เพิ่มขึ้น 17% ในช่วง 4 เดือนแรกของปี

กัมพูชาส่งออกสินค้ากลุ่มเสื้อผ้า รองเท้า และกระเป๋าเดินทาง (GFT) มูลค่ารวม 3,763 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2024 เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากมูลค่าราว 3,211 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าประเภทเสื้อผ้าและสิ่งทอ มีการส่งออกมากที่สุดคิดเป็นมูลค่า 2,748 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.4 ขณะที่การส่งออกรองเท้ามีการส่งออกมูลค่ารวม 453.7 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 และการส่งออกกระเป๋าเดินทางมีการส่งออกมูลค่า 562 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ซึ่งภาคอุตสาหกรรม GFT ถือเป็นแหล่งรายได้เงินด้านการส่งออกที่สำคัญที่สุดของกัมพูชา ด้านธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) คาดการณ์ว่าภาค GFT จะมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจกัมพูชาเติบโตร้อยละ 5.8 ภายในปี 2024 สำหรับภาคอุตสาหกรรม GFT ยังเป็นแหล่งจ้างงานขนาดใหญ่ โดยมีโรงงานและสาขาประมาณ 1,680 แห่ง จ้างแรงงานราว 918,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501489411/cambodia-records-17-pct-rise-in-garment-footwear-travel-goods-export-in-first-four-months/