เมียนมาเป็นประธานการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจริเริ่มเพื่อบูรณาการอาเซียน (IAI) ครั้งที่ 72

ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (MoFA) ระบุว่า U Aung Myo Myint ผู้แทนของเมียนมาประจำอาเซียน เป็นประธานการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจริเริ่มเพื่อการบูรณาการอาเซียน (IAI) ครั้งที่ 72 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ภายในการเสวนาได้มีการหารือถึงสัญญาณของความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนงาน IAI 4 (พ.ศ. 2564-2568) และมีการหารือถึงโครงการที่กำลังดำเนินอยู่ของการดำเนินการตามแผนงาน III สมาชิกของ IAI Task Force อนุมัติโครงการใหม่ 16 โครงการที่เกี่ยวข้องกับโครงการ Work Plan IV ที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งจะได้รับความช่วยเหลือจากสิงคโปร์ เยอรมนี ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น และอินเดีย นอกจากนี้ ยังหารือประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมของผู้ประสานงานระดับชาติจากกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ในการทำงานติดตามผลผลิตสำหรับแผนงาน IAI IV และความช่วยเหลือจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจสำหรับอาเซียนและเอเชียตะวันออก (ERIA) เพื่อพัฒนากรอบยุทธศาสตร์ Priority Economic Deliverable (PED) ของลาวในปีนี้

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-chairs-72nd-initiative-for-asean-integration-iai-task-force-meeting/

GDT พัฒนาแพลตฟอร์ม e-Administration อำนวยความสะดวกด้านภาษี

Kong Vibol ผู้อำนวยการกรมสรรพากรกัมพูชา (GDT) ประกาศเปิดตัวแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน “GDT e-Administration” สำหรับผู้เสียภาษี เพื่อเอื้อต่อทำธุรกรรม การตรวจสอบและติดตามเอกสารการชำระภาษี นอกเหนือจากระบบข้างต้น ยังมีฟังก์ชั่นต่างๆ เช่น การยื่นคำขอปรับปรุงข้อมูลนิติบุคคล การยื่นคำขอติดอากรแสตมป์ การโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ การยื่นคำขอชำระภาษีแบบผ่อนชำระ การยื่นคำขอหนังสือรับรองหรือใบอนุญาต และการยื่นคำขอเอกสารราชการอื่นๆ เพื่อเป็นการปรับปรุงระบบการยื่นเอกสารราชการจากรูปแบบเดิม และลดโอกาสที่เอกสารจะสูญหาย สำหรับ GDT มุ่งมั่นที่จะดำเนินนโยบายอย่างมีประสิทธิผล เช่นเดียวกับการปรับปรุงการบริหารภาษีให้ทันสมัย การปรับปรุงบริการต่อผู้เสียภาษี และการขยายสิ่งอำนวยความสะดวกในการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งการปรับระบบต่างๆ ส่งผลทำให้ GDT จัดเก็บภาษีได้มูลค่ารวมกว่า 3.6 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2023 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.49 จากปีก่อนหน้า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501460312/gdts-e-administration-platform-to-facilitate-tax-monitoring/

กัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 18% ในช่วง 2 เดือนแรกของปี

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา เปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนแรกของปี กัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 988,574 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยมากที่สุดที่จำนวน 247,530 คน รองลงมาคือ เวียดนาม 185,385 คน และ จีน 109,990 คน สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่าร้อยละ 42 เดินทางเข้าประเทศทางเครื่องบินขยายตัวกว่าร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาที่เดินทางออกนอกประเทศลดลงปรับตัวลดลงเล็กน้อยร้อยละ 3.9 ที่จำนวน 262,580 คน สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกัมพูชาในปัจจุบัน ถือเป็นหนึ่งในสี่เสาหลักที่สำคัญทางเศรษฐกิจของกัมพูชา นอกเหนือจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมการเกษตรกรรม และอุตสาหกรรมการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวมีความพยายามเป็นอย่างมากที่จะเชื่อมโยงตลาดเป้าหมายสำคัญ โดยการจัดหาเที่ยวบินตรงมายังกัมพูชาและปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมายังกัมพูชามากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501460336/foreign-tourist-arrivals-go-up-18-in-jan-feb/

ไทยอันดับ 1 ประเทศผู้ผลิตยานยนต์มากที่สุดในอาเซียน ด้านการแพทย์ดีที่สุดระดับโลก

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศวิสัยทัศน์ 8 ด้าน ให้ไทยก้าวขึ้นเป็นที่ 1 ในภูมิภาค มุ่งมั่นส่งเสริมทุกด้านที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ และเป็นด้านที่ไทยมีศักยภาพ โดยเฉพาะการเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคต (Future Mobility Hub) และศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพ (Medical and Wellness Hub) ทั้งนี้ เห็นความคืบหน้าจาก ไทยครองอันดับ 1 ประเทศผลิตรถยนต์มากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2566 และผลการจัดอันดับ 250 โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลกประจำปีพ.ศ. 2567 (250 World’s Best Hospitals 2024) ที่จัดให้โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ของไทย อยู่ในอันดับที่ 130 (สูงกว่าปีที่แล้วที่เคยอยู่ในอันดับที่ 182)

ที่มา : https://www.naewna.com/politic/795150#google_vignette

แรงงานเมียนมาเตรียมย้ายจากมาเลเซีย หลังประกาศกำหนดเส้นตายวีซ่า

เจ้าหน้าที่จากสหพันธ์หน่วยงานจัดหางานในต่างประเทศ (MOEAF) ของเมียนมา กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลมาเลเซียประกาศว่าแรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุมัติให้เรียกวีซ่าจะถูกคัดเลือกในมาเลเซียภายในวันที่ 31 พฤษภาคม แรงงานเมียนมาจำนวนมากก็กระตือรือร้นที่จะไปที่นั่น ดังนั้นคนหนุ่มสาวจึงต้องระมัดระวังเกี่ยวกับการฉ้อโกง ทั้งนี้ ธุรกิจในมาเลเซียจะต้องดำเนินการยื่นวีซ่าเรียกให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ 31 มีนาคม สำหรับแรงงานต่างชาติที่ได้รับการอนุมัติจาก KSM แล้ว ซึ่งยังมีเงื่อนไขอยู่ ธุรกิจของมาเลเซียจะรับสมัครแรงงานต่างชาติที่ได้รับวีซ่าเรียกจากกรมตรวจคนเข้าเมืองภายในวันที่ 31 พฤษภาคม เข้าสู่มาเลเซีย ตามประกาศดังกล่าว อย่างไรก็ดี เมื่อแผนการสรรหาบุคลากรของมาเลเซียหยุดชะงัก จึงมีความเป็นไปได้ที่จะหันไปให้ความสนใจมากขึ้นสำหรับการไปทำงานในเกาหลีใต้และไทย นอกจากนี้ ในเดือนมีนาคม รัฐบาลมาเลเซียหยุดการอนุมัติ KSM สำหรับการหาแรงงานต่างชาติตามโรงงาน และบริษัทต่างๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ หน่วยงานที่ส่งคนงานเมียนมาไปมาเลเซียโดยเฉพาะอาจหยุดการดำเนินงาน ตามที่เจ้าของตัวแทนจัดหางานในต่างประเทศระบุ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/many-myanmar-workers-prepare-to-go-to-malaysia-after-announcement-on-deadline-for-submission-of-calling-visa/