‘ส่งออกข้าวเวียดนาม’ ส่งสัญญาณเชิงบวก

เหงียนอันเซิน ผู้อำนวยการฝ่ายนำเข้าและส่งออก กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) ประเมินว่าอุตสาหกรรมข้าวของเวียดนามมีการเติบโตที่โดดเด่นผ่านการปฎิรูปทั้งด้านการผลิตและการส่งออก รวมถึงปรับปรุงคุณภาพสินค้าและกระบวนการผลิตให้ดีขึ้น เพื่อขยายตลาดและยกระดับอันดับข้าวเวียดนามในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะสหภาพยุโรป สหรัฐฯ เกาหลีใต้และตะวันออกกลาง ซึ่งประเทศเหล่านี้มีแนวโน้มต้องการข้าวเวียดนามที่มีคุณภาพสูง

ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ตลาดข้าวในปีนี้ เห็นได้ว่าตลาดข้าวมีความต้องการนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้น ปริมาณอาจมากกว่า 9 แสนตันในปีที่แล้ว

อย่างไรก็ดี กระทรวงฯ ร้องขอให้หน่วยงานท้องถิ่นและสมาคมธุรกิจข้าวให้แบ่งปันข้อมูลและเสนอแนวทางแก้ไขในการพัฒนาตลาด เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมข้าว ใช้ประโยชน์จากการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศและยกระดับแบรนด์ข้าวเวียดนาม

ที่มา : https://borneobulletin.com.bn/positive-outlook-for-vietnams-rice-exports/

‘เวียดนาม’ เผชิญกับดักรายได้ปานกลาง งานไม่ดี ค่าจ้างต่ำ

หลังจากมีการปฏิรูปนโยบายเศรษฐกิจ “โด่ยเหมย” เวียดนามก็ขึ้นแท่นประเทศดาวรุ่งและมีการพัฒนาทุกภาคส่วนด้วยการใช้โมเดลแรงงานจำนวนมากหรือแรงงานเข้มข้น ซึ่งแรงงานเหล่านี้ไม่ได้รับการฝึกอบรมและผลักดันให้เวียดนามเข้าสู่ประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับต่ำ อย่างไรก็ดี เวียดนามใช้โมเดลนี้จนนานเกินไปและไม่ได้เตรียมบุคลากรและเทคโนโลยีให้มีความพร้อมที่ไปสู่ประเทศพัฒนาแล้วที่มีรายได้สูง จึงจำเป็นที่จะต้องฝึกอบรมแรงงานและยกระดับขีดความสามารถทางด้านเทคโนโลยี

ทั้งนี้ Pham Manh Hung อาจารย์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติเวียดนามฮานอย กล่าวว่าเวียดนามยังไม่ได้ลงทุนกับการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม รวมถึงการสนับสนุนงบประมาณที่ยังไม่เพียงพอ

ในขณะที่จากรายงานพบว่าแรงงานส่วนใหญ่ไม่ได้รับการฝึกอบรมและมีเพียงระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเท่านั้น ทำให้ไม่ตอบสนองกับความต้องการของตลาดแรงงานได้ และส่งผลให้แรงงานมีทักษะต่ำและค่าจ้างไม่ดี

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/bad-jobs-low-pay-and-the-risk-of-a-middle-income-trap-2256840.html

สปป.ลาว จัดงาน Job Fest เปิดประตูสู่การจ้างงานสำหรับคนรุ่นใหม่

Job Fest จัดขึ้นที่ศูนย์ความร่วมมือและการฝึกอบรมระหว่างประเทศระหว่างวันที่ 22-24 มีนาคม 2567 และได้รับการสนับสนุนจาก UNDP งานดังกล่าวประกอบด้วยการเปิดตัวเครื่องมือบริการที่ช่วยให้ผู้หางานได้เรียนรู้เกี่ยวกับตำแหน่งงานว่างผ่านโครงการข้อมูลตลาดแรงงานที่ดำเนินการโดยกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม โครงการดังกล่าวให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ระบบต่างๆ ในการระบุตำแหน่งงาน และเป็นเวทีสำหรับผู้หางานเพื่อพบปะกับผู้ที่อาจเป็นนายจ้างและเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับงาน โดยจะได้รับรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดงานในปัจจุบัน และทักษะใดที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดของนายจ้างในปัจจุบัน เพื่อที่พวกเขาจะได้เตรียมตัวเป็นผู้สมัครที่แข็งแกร่งเมื่อสมัครงาน งาน Job Fest มีบูธ 56 บูธที่จัดตั้งโดยบริษัทและองค์กรต่างประเทศและลาวและต่างประเทศเพื่อโฆษณาตำแหน่งว่าง 560 ตำแหน่ง ซึ่งต้องการพนักงานอย่างน้อย 1,740 คน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_60_Jobfest_y24.php

การขาดแคลนเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้าง ส่งผลให้ราคาสูงขึ้น

เจ้าหน้าที่จากร้านขายส่งเหล็กกลวงในเมืองดากองเมียวทิต (ใต้) กล่าวว่า ในปัจจุบัน ราคาเหล็กกลวงได้พุ่งสูงขึ้นเนื่องจาก อุปทานในตลาดมีน้อย แม้แต่บริษัทผู้ผลิตก็ยังขายในราคาที่สูงขึ้น โดยในเดือนเมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน มียอดขายที่ดีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก มีการซ่อมแซมอาคาร เช่น การซ่อมแซมหลังคา มักจะดำเนินการก่อนฤดูมรสุม และในช่วงมรสุมจะมีการปูพื้นหินอ่อนและขัดหินอ่อนภายใน เหล็กมักขายดีในช่วงนี้ อย่างไรก็ดี เนื่องจากอุปทานเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างมีน้อย ราคาจึงดี และคาดว่าการขายจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนหน้า ตามข้อมูลของร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ก่อนฤดูมรสุมนี้คาดว่าการขายเหล็กกลวงที่ใช้ในการก่อสร้างจะเพิ่มมากขึ้น และในปัจจุบันราคาได้สูงขึ้นเนื่องจากการขาดแคลนอุปทาน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/construction-iron-shortage-leads-to-higher-price/

เมียนมาเป็นประธานการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจริเริ่มเพื่อบูรณาการอาเซียน (IAI) ครั้งที่ 72

ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (MoFA) ระบุว่า U Aung Myo Myint ผู้แทนของเมียนมาประจำอาเซียน เป็นประธานการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจริเริ่มเพื่อการบูรณาการอาเซียน (IAI) ครั้งที่ 72 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ภายในการเสวนาได้มีการหารือถึงสัญญาณของความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนงาน IAI 4 (พ.ศ. 2564-2568) และมีการหารือถึงโครงการที่กำลังดำเนินอยู่ของการดำเนินการตามแผนงาน III สมาชิกของ IAI Task Force อนุมัติโครงการใหม่ 16 โครงการที่เกี่ยวข้องกับโครงการ Work Plan IV ที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งจะได้รับความช่วยเหลือจากสิงคโปร์ เยอรมนี ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น และอินเดีย นอกจากนี้ ยังหารือประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมของผู้ประสานงานระดับชาติจากกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ในการทำงานติดตามผลผลิตสำหรับแผนงาน IAI IV และความช่วยเหลือจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจสำหรับอาเซียนและเอเชียตะวันออก (ERIA) เพื่อพัฒนากรอบยุทธศาสตร์ Priority Economic Deliverable (PED) ของลาวในปีนี้

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-chairs-72nd-initiative-for-asean-integration-iai-task-force-meeting/

GDT พัฒนาแพลตฟอร์ม e-Administration อำนวยความสะดวกด้านภาษี

Kong Vibol ผู้อำนวยการกรมสรรพากรกัมพูชา (GDT) ประกาศเปิดตัวแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน “GDT e-Administration” สำหรับผู้เสียภาษี เพื่อเอื้อต่อทำธุรกรรม การตรวจสอบและติดตามเอกสารการชำระภาษี นอกเหนือจากระบบข้างต้น ยังมีฟังก์ชั่นต่างๆ เช่น การยื่นคำขอปรับปรุงข้อมูลนิติบุคคล การยื่นคำขอติดอากรแสตมป์ การโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ การยื่นคำขอชำระภาษีแบบผ่อนชำระ การยื่นคำขอหนังสือรับรองหรือใบอนุญาต และการยื่นคำขอเอกสารราชการอื่นๆ เพื่อเป็นการปรับปรุงระบบการยื่นเอกสารราชการจากรูปแบบเดิม และลดโอกาสที่เอกสารจะสูญหาย สำหรับ GDT มุ่งมั่นที่จะดำเนินนโยบายอย่างมีประสิทธิผล เช่นเดียวกับการปรับปรุงการบริหารภาษีให้ทันสมัย การปรับปรุงบริการต่อผู้เสียภาษี และการขยายสิ่งอำนวยความสะดวกในการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งการปรับระบบต่างๆ ส่งผลทำให้ GDT จัดเก็บภาษีได้มูลค่ารวมกว่า 3.6 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2023 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.49 จากปีก่อนหน้า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501460312/gdts-e-administration-platform-to-facilitate-tax-monitoring/

กัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 18% ในช่วง 2 เดือนแรกของปี

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา เปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนแรกของปี กัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 988,574 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยมากที่สุดที่จำนวน 247,530 คน รองลงมาคือ เวียดนาม 185,385 คน และ จีน 109,990 คน สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่าร้อยละ 42 เดินทางเข้าประเทศทางเครื่องบินขยายตัวกว่าร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาที่เดินทางออกนอกประเทศลดลงปรับตัวลดลงเล็กน้อยร้อยละ 3.9 ที่จำนวน 262,580 คน สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกัมพูชาในปัจจุบัน ถือเป็นหนึ่งในสี่เสาหลักที่สำคัญทางเศรษฐกิจของกัมพูชา นอกเหนือจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมการเกษตรกรรม และอุตสาหกรรมการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวมีความพยายามเป็นอย่างมากที่จะเชื่อมโยงตลาดเป้าหมายสำคัญ โดยการจัดหาเที่ยวบินตรงมายังกัมพูชาและปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมายังกัมพูชามากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501460336/foreign-tourist-arrivals-go-up-18-in-jan-feb/