นักท่องเที่ยว ไทย-เวียดนาม ยังคงเป็นกลุ่มสำคัญสำหรับภาคการท่องเที่ยวกัมพูชา

หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชาเปิดเผยว่านักท่องเที่ยวชาวไทยยังคงนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญของกัมพูชา โดยในช่วงไตรมาสแรกมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางมายังกัมพูชากว่า 570,000 คน นักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม 285,000 คน และนักท่องเที่ยวชาวจีน 184,000 คน ซึ่งหากนับรวมกับนักท่องเที่ยวสัญชาติอื่นๆ จะมีปริมาณนักท่องเที่ยวรวมอยู่ที่ 1.72 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 600 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้าน Thong Khon รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวของกัมพูชา กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันคาดว่าจะมีเที่ยวบินตรงจากจีนมายังกัมพูชาเพิ่มขึ้น อีกทั้งทางการกัมพูชากำลังเร่งพัฒนาสนามบินใหม่สองแห่งที่มีระยะทางห่างจากเสียมราฐประมาณ 50 กม. ซึ่งมีกำหนดเปิดให้ใช้บริการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 และแห่งที่สองห่างจากกรุงพนมเปญประมาณ 20 กม. คาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนสิ้นปี 2024 ด้วยเหตุผลข้างต้นคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมายังกัมพูชาอย่างน้อย 4 ล้านคนในปี 2023

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501309801/asean-neighbours-thailand-and-vietnam-the-largest-groups-of-tourists-entering-cambodia/

5 เดือนแรกของปี ทางการกัมพูชาจัดเก็บภาษีแตะ 1.8 พันล้านดอลลาร์

กรมภาษีอากร (GDT) หน่วยงานของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา รายงานการจัดเก็บภาษีมูลค่ากว่า 1.8 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 51 ของเป้าหมายการจัดเก็บภาษีประจำปี รายงานโดย Kong Vibol ผู้อำนวยการกรมภาษีอากร ในระหว่างการประชุมสรุปเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (15 มิ.ย.) โดยทางการได้เร่งพัฒนาระบบการจัดเก็บภาษีใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับปี 2023 รัฐบาลกัมพูชาตั้งเป้าหมายในการจัดเก็บภาษีไว้ที่ประมาณ 5.5 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501309834/cambodia-collects-1-8-billion-in-tax-income-for-first-5-months-of-this-year/

พาณิชย์แนะค้าปลีกไทยเจาะตลาดเวียดนามทั้งออฟไลน์-ออนไลน์

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ และให้รายงานผลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสุภาพร สุขมาก ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ถึงโอกาสในการขยายตลาดการค้าปลีกของไทยเข้าสู่ตลาดเวียดนาม และการใช้ประโยชน์จากช่องทางออนไลน์ในการขยายโอกาสทางการขายเจาะเข้าสู่กลุ่มผู้บริโภคของเวียดนามที่มีแนวโน้มเติบโต

ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เวียดนามเป็นตลาดค้าปลีกที่มีศักยภาพสูงและคาดว่าจะเติบโตมากกว่า 350,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2568 และจะมีสัดส่วน 59% ของยอดขายผลิตภัณฑ์ในประเทศทั้งหมดทำให้บริษัทต่างชาติที่ลงทุนในเวียดนาม ผู้ประกอบการค้าปลีกในประเทศต่างปรับเครือข่ายการจัดจำหน่ายสินค้าในประเทศและปรับปรุงเพื่อการส่งออก รวมทั้งมีการลงทุนในอีคอมเมิร์ซเพื่อรองรับการขยายตัวของกลุ่มผู้บริโภควัยหนุ่มสาวที่มีกว่า 50% ของประชากรประมาณ 100 ล้านคน

ที่มา : https://www.thaipost.net/economy-news/397177/

“เวียดนาม” เผยราคาเหล็กขาลง

บริษัท ฮว่า ฟ้าด กรุ๊ป (Hoa Phat Group) ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของเวียดนาม มีส่วนแบ่งทางการตลาด 40% ในอุตสาหกรรมเหล็กก่อสร้างของประเทศ ขณะทึ่ราคาเหล็กเส้น D10 CB300 อยู่ที่ 14.69 ล้านดองต่อตัน และราคาเหล็กรีด CB240 อยู่ที่ 14.49 ล้านดองต่อตัน ลดลง 200,000 ดอง และ 210,000 ดอง ตามลำดับ ทั้งนี้ จากข้อมูลของสมาคมเหล็กเวียดนาม ประจำเดือน เม.ย. ระบุว่าราคาเหล็กก่อสร้างลดลง 1.5 ล้านดองต่อตัน เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอลง ทำให้ผู้ผลิตต้องปรับลดราคา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ซึ่งการลดลงของราคาเหล็ก ช่วยให้การผลิตและการบริโภคของเชื้อเพลิงดีขึ้น อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จากบริษัท VNDirect คาดว่ายอดขายเหล็กมีแนวโน้มที่ทรงตัวตลอดทั้งปี และมองว่ายอดขายเหล็กก่อสร้างจะลดลง 9.2%, เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีจะลดลง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/steel-prices-in-downward-spiral/

“ตลาดหุ้นเวียดนาม” ขึ้นแท่นจุดหมายที่มีความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ

การประชุมประจำปีขององค์กรคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ (IOSCO) ในปี 2566 นับเป็นการประชุมประจำปีครั้งที่ 48 ณ กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 13-15 มิ.ย. นาง Vu Thi Chan Phuong ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เวียดนาม กล่าวว่าตลาดหุ้นเวียดนามมีการพัฒนาที่น่าประทับใจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมไปถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพและการรักษาสภาพคล่องในตลาดที่ดี อีกทั้งยังเป็นช่องทางการลงทุนที่น่าสนใจของประชาชน และดึงดูดนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศได้จำนวนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่ช่วยอำนวยความสะดวกในการระดมเงินทุนเท่านั้น แต่ธุรกิจเวียดนามยังมีความก้าวหน้าในด้านธรรมาภิบาล ความโปร่งใสและการพัฒนาที่ยั่งยืน

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnamese-stock-market-becomes-reliable-destination-for-investors-worldwide-post1026603.vov

“เมียนมา” เผยราคายางพารา ดีดทะลุ 1,400 จ๊าตต่อปอนด์

ราคายางพาราในรัฐมอญ (Mon State) ทะลุ 1,400 จ๊าตต่อปอนด์ ได้แรงหนุนจากแนวโน้มราคายางระหว่างประเทศที่พุ่งสูงขึ้น โดยในปัจจุบันราคายางพาราแบบแห้ง (Local 3) อยู่ที่ราว 1,405 จ๊าตต่อปอนด์ ในขณะที่ยางพาราแผ่นรมควันราคาประมาณ 1,425 จ๊าตต่อปอนด์ ทั้งนี้ สถานการณ์ราคายางพาราในเมียนมา ได้รับอิทธิผลมาจากอุปสงค์โลก ผลผลิตยางพาราในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผลผลิตของตลาด ซึ่งปัจจัยข้างต้นมีส่วนสำคัญต่อรัฐมอญ เนื่องจากรัฐมอญเป็นศูนย์กลางการผลิตยางพาราที่สำคัญของเมียนมา นอกจากนี้ สมาคมผู้ปลูกและผลิตยางพาราของประเทศเมียนมา ได้ตั้งเป้ายอดการส่งออกยางพาราไว้ที่ 300,000 ตัน ในปีงบประมาณ 2566-2567

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/rubber-price-rebounds-surpasses-k1400-per-pound/#article-title

2022 มูลค่าการค้า สปป.ลาว-ญี่ปุ่น พุ่งแตะ 290.5 ล้านดอลลาร์

มูลค่าการค้าระหว่าง สปป.ลาว และญี่ปุ่นในช่วงปี 2022 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 290.5 ล้านดอลลาร์ โดยคิดเป็นการนำเข้าของ สปป.ลาว จากญี่ปุ่นมูลค่า 149.8 ล้านดอลลาร์ สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ ยานพาหนะ (ยกเว้นรถจักรยานยนต์และรถแทรกเตอร์) ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ แก้วและเครื่องแก้ว รถแทรกเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เส้นใยสังเคราะห์ เครื่องใช้พลาสติก ฝ้ายและผลิตภัณฑ์จากฝ้าย สำหรับการส่งออกของ สปป.ลาว ไปยังญี่ปุ่นมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 140.6 ล้านดอลลาร์ ได้แก่ รองเท้า ผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า น้ำหอม เครื่องสำอาง ขนไก่ เกลือโพแทสเซียม กาแฟ ผลิตภัณฑ์เคมี กล้วยและผลไม้อื่นๆ ไปจนถึงอุปกรณ์กีฬา เมล็ดพืช ฟางและหญ้า กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ กล่าวโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ Mr. Malaythong Kommasith ระหว่างเข้าพบหารือกับคณะผู้แทนญี่ปุ่น ณ กรุงเวียงจันทน์ ซึ่งกล่าวเสริมว่ารัฐบาลญี่ปุ่นได้เขามาช่วยเหลือ สปป.ลาว นับตั้งแต่ปี 2010 ในการศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นในการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมในนามสวนอุตสาหกรรมเวียงจันทน์ ผ่านความร่วมมือกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นตกลงที่จะให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ภายใต้การชำระคืนของรัฐบาล สปป.ลาว ให้กับผู้ถือสิทธิการใช้ที่ดินในปัจจุบัน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Laos114.php

4 เดือนแรกของปี กัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโตกว่า 613%

ในช่วง 4 เดือนแรกของปี กัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 1.72 ล้านคน ขยายตัววกว่าร้อยละ 613 จากจำนวนนักท่องเที่ยวเพียง 241,485 คน ในช่วงเดียวกันของปีก่อน รายงานโดยกระทรวงการท่องเที่ยวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (14 มิ.ย.) ซึ่งประเทศไทยติดอันดับหนึ่งในชาร์ตนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังกัมพูชาในช่วงเดือนมกราคม-เมษายนปีนี้ ตามมาด้วยเวียดนามและจีน โดยรายงานระบุเพิ่มเติมว่าในจำนวนดังกล่าวคิดเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 570,021 คน เวียดนาม 289,643 คน และชาวจีน 184,009 คน

ด้าน Thong Khon รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา กล่าวว่า กัมพูชาตั้งเป้าหวังว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้มากกว่า 4 ล้านคน ภายในปี 2023 สำหรับภาคการท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในสี่เสาหลักที่สนับสนุนเศรษฐกิจกัมพูชา โดยกัมพูชามีแหล่งมรดกโลก 3 แห่ง ได้แก่ อุทยานโบราณคดีอังกอร์ในจังหวัดเสียมราฐทางตะวันตกเฉียงเหนือ ปราสาทพระวิหารในจังหวัดพระวิหารทางตะวันตกเฉียงเหนือ และปราสาทสมโบร์ไพรกุกในจังหวัดกำปงธมทางตอนกลางของประเทศ นอกจากนี้ยังเมีเมืองชายฝั่งที่ทอดยาวกว่า 450 กม. ผ่าน 4 จังหวัดทางตะวันตกเฉียงใต้ ได้แก่ สีหนุวิลล์ กัมปอต แกบ และเกาะกง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501308550/cambodia-records-513-percent-increase-in-tourist-arrivals-in-1st-4-months/