‘ถอดบทเรียนเวียดนาม’ การเมืองนิ่ง เศรษฐกิจรุ่ง

ถ้าจะพูดถึงเพื่อนบ้านอาเซียนในฝั่งอินโดจีนเวียดนามถือว่ามีพัฒนาการมากที่สุด การเขียนถึงเวียดนามในวันนี้นับเป็นเวลาอันเหมาะสม ใกล้ถึงวันครบรอบ “ไซ่ง่อนแตก” 30 เม.ย.2518 ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์เวียดนามยุคใหม่  เมื่อแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติเวียดนามใต้หรือเวียดกงเข้ายึดกรุงไซ่ง่อนของเวียดนามใต้ สหรัฐผู้สนับสนุนแตกกระเจิงกลับประเทศ นำไปสู่การรวมชาติในนาม “สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม” ในวันที่ 2 ก.ค.2519

ช่วงรวมชาติได้ใหม่ๆ เวียดนามยังเป็นประเทศยากจนเพราะเพิ่งผ่านศึกสงคราม จากการที่เวียดนามมีสหภาพโซเวียตเป็นลูกพี่ใหญ่ แน่นอนว่าต้องเป็นศัตรูกับสหรัฐ (ก็เพิ่งไล่เขากลับประเทศไปหมาดๆ) ส่วนจีนที่เป็นเพื่อนบ้านก็ไม่ได้ญาติดีกัน กับเพื่อนบ้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังมองหน้ากันได้ไม่สนิทนัก ตอนตั้งสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ก็เคยถูกเวียดนามวิจารณ์

แต่สถานการณ์เปลี่ยนเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามตัดสินใจปฏิรูปประเทศใช้ระบบเศรษฐกิจทุนนิยมแบบตลาดทีละน้อยๆ ปี 2530 เวียดนามออกกฎหมายว่าด้วยกฎหมายการลงทุนของต่างชาติ ความเปลี่ยนแปลงในทางบวกค่อยๆ เกิดขึ้นอย่างที่เราเห็นในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติแห่เข้าไปลงทุนในเวียดนาม ที่น่าสนใจคือธุรกิจค้าปลีกเพราะเป็นตัวชี้วัดว่าไลฟ์สไตล์คนเวียดนามเปลี่ยนไป ชนชั้นกลางเติบโตขึ้น รายได้มากขึ้น พร้อมจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการเพื่อความสะดวกสบายในชีวิตไปจนถึงเพิ่มความหรูหรา นอกจากนี้เวียดนามยังเป็นประเทศที่ประชากรหนุ่มสาวมาก พวกเขาสนใจในเทคโนโลยี ยังไม่เข้าสู่สังคมสูงวัยเหมือนไทย โอกาสที่เศรษฐกิจเติบโตจึงมีอีกมาก เรียกได้ว่า เข้าไปลงทุนทำอะไรในเวียดนามตอนนี้มีแต่ได้กับได้

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/politics/1064510

“แบงก์ชาติเวียดนาม” เตรียมปรับโครงสร้างหนี้ของธุรกิจที่ประสบปัญหา

ธนาคารกลางเวียดนาม (State Bank of Vietnam: SBV) เตรียมที่จะปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของธุรกิจที่ประสบปัญหา รวมถึงความสามารถในการชำระเงินกู้และอื่นๆ เป็นต้น นายฟาม มินห์ ชินห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้ขอให้ธนาคารกลางทำการร่างข้อมติเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของธุรกิจและขยายกรอบระยะเวลา โดยบริษัทเวียดนามหลายแห่งในปัจจุบันที่เป็นศูนย์กลางการผลิตระดับภูมิภาคกำลังเผชิญกับอุปสรรค ท่ามกลางอุปสงค์ทั่วโลกที่อ่อนแอและภาวะการส่งออกที่หดตัว 11.9% ตลอดจนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง 3.32% ในไตรมาสแรกของปีนี้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ร้องขอให้ธนาคารพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน

ที่มา : https://www.investing.com/news/economy/vietnam-central-bank-plans-loan-restructuring-for-struggling-businesses-3062243

“บ.ต่างชาติ 3 แห่ง” รุกเวียดนามทุ่มเงิน 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

กระทรวงวางแผนและการลงทุน (MPI) เปิดเผยว่าบริษัทต่างชาติจำนวน 3 แห่ง ทุ่มเงินลงทุนไปยังเวียดนาม มูลค่ากว่า 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เงินทุนดังกล่าวส่วนหนึ่งมาจากเกาหลีใต้ 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ไหลเข้าไปยังอุตสาหกรรมหนักและโลจิสติกส์การผลิต ตามมาด้วยนักลงทุนเยอรมนีเล็งมองหาโอกาสที่จะลงทุนในอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยเงินทุนประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และนักลงทุนญี่ปุ่นที่วางแผนจะเข้าไปลงทุนในอุปกรณ์การแพทย์ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ นาย Nguyen Chí Dung รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุน กล่าวว่าเวียดนามจำเป็นต้องเตรียมสิทธิประโยชน์และเงื่อนไขต่างๆ ที่จะสนับสนุนการลงทุนใหม่ที่เป็นไปตามอัตราภาษีขั้นต่ำทั่วโลกตั้งแต่ปี 2567 เพื่อปรับปรุงขีดความสามารถทางการแข่งขัน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1524531/three-foreign-groups-plan-to-pour-3-7-billion-into-viet-nam.html

“เมียนมา” เผยราคาเมล็ดมัสตาร์ดสูงขึ้นในตลาดมัณฑะเลย์

คุณ U Soe Win Myint เจ้าของศูนย์ค้าส่งในเมืองมัณฑะเลย์ เปิดเผยว่าราคาเมล็ดมัสตาร์ด (Mustard Seeds) ในปีที่แล้ว อยู่ที่ 3,200 จั๊ตต่อ Viss แต่ในปัจจุบันราคาขยับเพิ่มสูงขึ้นที่ 5,100 จั๊ตต่อ Viss และการค้าขายเป็นไปได้ด้วยดี ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความต้องการจากประเทศอินเดียเพิ่มสูงขึ้น ด้วยเหตุนี้เกษตรกรชาวเมียนมาจึงควรขยายพื้นที่เพาะปลูก โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ที่เป็นเนินเขา นอกจากนี้ การเพาะปลูกเมล็ดมัสตาร์ดส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณภาคเหนือและภาคใต้ของรัฐฉาน รัฐกะฉิ่น รัฐกะยาและภาคซะไกง์ตอนบน จากนั้นจะถูกขายไปยังตลาดมัณฑะเลย์

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/mustard-seed-fetching-higher-prices-marketable-in-mandalay/#article-title

สปป.ลาว-กัมพูชา ตกลงเพิ่มเสาหลักเขตแดนเพิ่มอีก 387 แห่ง

สปป.ลาวและกัมพูชา ตกลงที่จะร่วมกันรักษาหลักเขตแดนและติดตั้งเสาหลักเขตแดนเพิ่มอีก 387 แห่งเพื่อกำหนดเส้นเขตแดนร่วมกันให้ชัดเจนยิ่งขึ้น กล่าวโดยคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมระหว่าง สปป.ลาว-กัมพูชา เมื่อวันที่ 21 เมษายน ณ จังหวัดสีหนุวิลล์ กัมพูชา โดยเสาหลัก 387 ต้น จะถูกติดตั้งในพื้นที่ที่จำเป็น รวมถึงบริเวณแนวโค้งและชุมชนที่มีประชากรหนาแน่น ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มอบหมายให้ทีมเทคนิคของทั้งสองฝ่ายร่วมกันทำงานในพื้นที่ชายแดนโดยเริ่มตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. และดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี ข้างหน้า ภายใต้ความตรงไปตรงมาของข้อมูล หวังสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันในอนาคต

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Laoscambodia77.php

ศูนย์อาเซียน-จีน เตรียมจัดนิทรรศการใหญ่ กัมพูชาหวังดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ศูนย์อาเซียน-จีน (ACC) เตรียมการร่วมมือกับกัมพูชา ในการจัดนิทรรศการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว ทั้งในกัมพูชาและจีน กล่าวโดย Shi Zhongjun เลขาธิการ ACC ซึ่งคาดว่างานดังกล่าวจะเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในภูมิภาค รวมถึงกัมพูชาที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบในเชิงบวก โดยกัมพูชาตกลงร่วมมือกับ ACC เพื่อส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และการเปิดพรมแดนของจีน ขณะเดียวกันทางการกัมพูชาวิงวอนให้ทางการจีนผลักดันให้มีเที่ยวบินตรงระหว่างกัมพูชาเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนเดินทางมาเยือนกัมพูชามากขึ้น ซึ่งปัจจุบันกัมพูชาคาดว่าจะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 4 ล้านคน คิดเป็นนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 1 ล้านคนในปีนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501278044/asean-china-center-plans-cambodia-exhibitions-to-attract-tourists/

การค้าระหว่าง กัมพูชา-อินโดนีเซีย ขยายตัว 43% ในช่วง Q1

การค้าระหว่างกัมพูชาและอินโดนีเซียขยายตัวกว่าร้อยละ 43.2 หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 304 ล้านดอลลาร์ ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ตามรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิต ซึ่งปริมาณการค้าระหว่างทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้นตั้งแต่ในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคมปีนี้ คิดเป็นการส่งออกสินค้าของกัมพูชาไปยังอินโดนีเซียมูลค่า 12 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 74 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะเดียวกันการนำเข้าของกัมพูชาจากอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นร้อยละ 42 คิดเป็นมูลค่า 292 ล้านดอลลาร์ โดยในปัจจุบันกัมพูชาและอินโดนีเซียยังได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501277914/43-jump-in-trade-between-cambodia-indonesia-in-q1/