ตลาดประกันภัยรถยนต์ในกัมพูชาเติบโตอย่างแข็งแกร่

ตลาดประกันภัยรถยนต์ในกัมพูชาเติบโตอย่างมากนับตั้งแต่สถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงถึงร้อยละ 23 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้านสำนักงานกำกับดูแลการประกันภัยของกัมพูชา (IRC) ระบุว่า เบี้ยประกันภัยรถยนต์มีมูลค่ารวม 24 ล้านดอลลาร์ ในปี 2023 เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับปี 2020 ที่มีมูลค่า 19.5 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ Suy Channtharong ซีอีโอ บริษัท ฟอร์เต ประกันภัย (กัมพูชา) จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ผู้คนในปัจจุบันตระหนักถึงความจำเป็นของประกันภัยรถยนต์มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ตลาดเติบโต ด้านสำนักงานกำกับดูแลการประกันภัยของกัมพูชา (IRC) ยังได้เสริมว่ากรอบนโยบายสำหรับ 5 ปีข้างหน้า จะมุ่งเน้นไปที่ภาคส่วนสำคัญ เช่น ประกันภัยรถยนต์, เกษตรกรรม, ผลิตภัณฑ์ประกันภัยขนาดย่อมสำหรับผู้หญิง เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันทางสังคมให้แก่ชาวกัมพูชาเป็นวาระสำคัญของกรอบนโยบายของ IRC

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501464285/motor-insurance-sees-23-growth-post-covid/

กระทรวงแรงงานกัมพูชา หารือกับตัวแทนญี่ปุ่น ขยายตลาดแรงงานระหว่างประเทศ

สำนักข่าว Dap-news รายงานเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ระบุว่า Ith Sam Heng รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและการฝึกอบรมวิชาชีพ ได้หารือร่วมกับ Shoji Sakaki นายกสมาคมส่งเสริมมิตรภาพกัมพูชา-ญี่ปุ่น ณ จังหวัดนากาโน่ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งการหารือครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การขยายโอกาสในตลาดแรงงาน และการเสริมสร้างทักษะของคนกัมพูชา ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือในด้านต่างๆ รวมถึงการขยายตลาดแรงงานระหว่างกัมพูชากับญี่ปุ่น ด้านนาย Shoji Sakaki  กล่าวว่า ขณะนี้ญี่ปุ่นกำลังเปิดกว้างในด้านความร่วมมือด้านแรงงาน ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนของกัมพูชาได้รับการฝึกอบรมวิชาชีพอย่างมืออาชีพ ภายใต้เทคนิคสมัยใหม่ของญี่ปุ่น สำหรับรัฐมนตรีฯ เห็นด้วยกับการเสริมสร้างทักษะให้กับภาคแรงงาน ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการร่วมมือที่กัมพูชาต้องการ เพื่อเสริมสร้างผลผลิตทางด้านแรงงาน และเป็นการเสริมสร้างโอกาสให้กับตลาดแรงงานกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501465134/cambodia-japan-seeks-opportunities-to-expand-markets-and-strengthen-skills/

‘เวียดนาม’ เผยไตรมาสแรกปี 67 ยอดจัดตั้งธุรกิจทะลุ 36,200 ราย

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.) ยอดการจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศ จำนวนมากกว่า 36,200 ราย ทุนจดทะเบียน 332.2 ล้านล้านดอง เพิ่มขึ้น 6.9% และ 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ตามลำดับ และธุรกิจที่กลับมาดำเนินกิจการ จำนวน 23,600 ราย เพิ่มขึ้น 2.4%YoY ในขณะที่ธุรกิจที่ปิดกิจการ จำนวนทั้งสิ้น 53,400 ราย เพิ่มขึ้น 24.5%YoY แสดงให้เห็นว่าภาคธุรกิจยังคงเผชิญกับความยากลำบากทั้งในการดำเนินธุรกิจและการผลิต

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/over-36200-new-firms-established-in-q1-post1086036.vov

‘เวียดนาม’ เผยผลผลิตอุตสาหกรรม ไตรมาสแรกปี 66 ขยายตัว 6%

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) รายงานว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในไตรมาสแรกของปี 2567 ขยายตัว 6.18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยการเติบโตของผลผลิตอุตสาหกรรมดังกล่าว ส่งผลให้มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจขยายตัว 2.02% ทั้งนี้สาขาการผลิตและแปรรูปของอุตสาหกรรมเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในขณะที่รายได้จากการค้าปลีกและบริการในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ มีมูลค่าที่ 61.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 8.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน

นอกจากนี้ นาย เหงียน ซิน นัท ตัน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า กล่าวว่าผลลัพธ์ดังกล่าว สาเหตุมาจากมาตรการสนับสนุนของรัฐบาล การส่งเสริมการเบิกจ่ายการลงทุนภาครัฐและโครงการอุตสาหกรรม รวมถึงการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มีส่วนช่วยปรับปรุงกำลังการผลิตในประเทศอีกด้วย

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/industrial-production-expands-over-6-year-on-year-in-q1-moit-post1085962.vov

เหมืองแร่ภูเบี้ยบรรลุเป้าหมายผลิตแร่ทองแดง 1 ล้านตัน

Phu Bia Mining (PBM) บริษัทเหมืองแร่ชั้นนำในประเทศลาว เผยข้อมูลผลผลิตทองแดงที่ผลิตได้ในเหมืองแร่ของตน โดยสามารถผลิตทองแดงเข้มข้นได้ 1 ล้านตัน บุคลากรซึ่งประกอบด้วยพนักงานสัญชาติลาวกว่า 93% และเกือบ 50% ของรายได้ประชาชนในท้องถิ่นได้รับจากการทำงานในเหมืองแร่แห่งนี้ สามารถสร้างรายได้ให้กับประชากรในท้องถิ่นได้มากกว่า 4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การจ่ายเงินโดยตรงของบริษัทจำนวน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านค่าสัมปทาน ภาษีกำไร ภาษีเงินเดือน ภาษีถนน ค่าบริการนำเข้า การสนับสนุนและเงินปันผลได้ช่วยในการพัฒนาแขวงไชยสมบูรณ์และเศรษฐกิจของ สปป.ลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_64_PhuBia_y24.php

รัฐบาล สปป.ลาว เห็นชอบร่างกฎหมายท่าเรือบก กระตุ้นการลงทุนของประเทศ

คณะรัฐมนตรี สปป.ลาว รับรองข้อเสนอทางกฎหมายที่สำคัญหลายข้อ รวมถึงร่างการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาเกี่ยวกับท่าเรือบก โดยตระหนักถึงความจำเป็นที่จะมีแนวทางที่ชัดเจนและสอดคล้องกัน เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดการการลงทุนเหล่านี้อย่างมีประสิทธิผล นอกจากนี้ ยังได้ผ่านการร่างแผนแม่บทด้านการผลิตแห่งชาติจนถึงปี 2573 และร่างการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยถิ่นที่อยู่ถาวรสำหรับคนเชื้อสายลาวที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ พร้อมด้วยกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการข้ามชายแดนและสนามบินนานาชาติ การพิจารณายังรวมถึงพิมพ์เขียวเชิงกลยุทธ์สำหรับการพัฒนาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับชาติจนถึงปี 2573

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_64_Govtendorses_y24.php

เวียดนามเรียกร้องให้สถานะ ‘เศรษฐกิจแบบตลาด’

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่าเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. นายบุ่ย แทงห์ เซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนาม และนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา

โดยทางรัฐมนตรีต่างประเทศของเวียดนาม กล่าวในที่ประชุมว่าเวียดนามเรียกร้องให้สหรัฐฯ กำหนดสถานะเวียดนามว่าเป็น ‘เศรษฐกิจแบบตลาด’ ในขณะที่ว่าหุ้นส่วนชาวอเมริกัรพูดถึงเวียดนามว่ามีความเข้มแข็ง อิสระ ยืดหยุ่นและเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ และหวังว่าทั้งสองประเทศจะมีความสัมพันธ์ดำเนินไปได้ด้วยดีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเวียดนามเสนอศักยภาพของอุตสาหสาหกรรมที่ได้รับความสนใจจากสหรัฐฯ ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์ แร่ธาตุที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก และปัญญาประดิษฐ์ โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยยกระดับของเวียดนามในตำแหน่งห่วงโซ่คุณค่าระดับโลกและเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ อีกด้วย

นอกจากนี้ การลาออกของนายโว วัน เทืองที่ละเมิดและข้อบกพร่องของพรรค ไม่มีผลกระทบต่อนโยบายต่างประเทศและการพัฒนาเศรษฐกิจ

ที่มา : https://borneobulletin.com.bn/vietnam-appeals-for-market-economy-status/

คณะผู้แทนเมียนมาเข้าร่วมการประชุม XIII International Forum ATOMEXPO 2024

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม คณะผู้แทนเมียนมา นำโดยดร.เมียว เต็ง จ่อ รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งสหภาพ พร้อมด้วยอู ธิต ลิน โอห์น เอกอัครราชทูตเมียนมาร์ประจำสหพันธรัฐรัสเซีย เข้าร่วมการประชุมนานาชาติครั้งที่ 13 ATOMEXPO 2024 ที่เมืองโซชี สหพันธรัฐรัสเซีย โดยรัฐมนตรีและพรรคสหภาพแรงงานเข้าร่วมการเสวนาโต๊ะกลมเรื่อง Advanced Training for Generation IV NPP Personnel: Driver for Sustainable Development ในเช้าวันเดียวกัน จากนั้น ได้เข้าเยี่ยมชมศูนย์การฝึกอบรมและการทดลองหุ่นยนต์ Sirius ของ Proryv และสังเกตหุ่นยนต์คุณภาพสูง หุ่นยนต์หลายบทบาทและหุ่นยนต์ขนส่ง และอุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับการผลิตแบบไร้คนขับ พร้อมโมดูลที่เปลี่ยนได้ซึ่งเครื่องจักรสามารถให้บริการได้ อย่างไรก็ดี ในช่วงบ่ายรัฐมนตรีสหภาพแรงงานร่วมเสวนาในหัวข้อโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์: ตัวขับเคลื่อนโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งได้เน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของพลังงานนิวเคลียร์ในฐานะทรัพยากรที่สำคัญสำหรับพลังงานที่มีแนวโน้ม สะอาด และยั่งยืนในการกำหนดอนาคต การใช้พลังงานนิวเคลียร์อย่างสันติซึ่งสามารถรับประกันการส่งเสริมชีวิตทางเศรษฐกิจและสังคมสำหรับสาธารณะในระยะยาว ข้อผูกพันระยะยาวสำหรับโครงการปรมาณูที่ปลอดภัยและยั่งยืน การสนับสนุนหน่วยงานในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์ในเมียนมา ความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรม และนิวเคลียร์ของรัฐบาลกลาง และการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของเมียนมาในอาเซียน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-delegation-attends-2nd-day-of-xiii-international-forum-atomexpo-2024/

ปัญหาเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ฉุดรั้งอันดับความสุขของ สปป.ลาว ปี 67

สหประชาชาติรายงานความสุขทั่วโลกประจำปี 2567 พบว่า อันดับความสุขของ สปป.ลาว ปรับลดลง 5 อันดับ มาอยู่อันดับที่ 94 จากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก การลดลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชน โดย สปป.ลาว ได้คะแนน 5.13 จากคะแนนเต็ม 10 ขณะที่ฟินแลนด์ซึ่งเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดได้คะแนน 7.74 และอัฟกานิสถานซึ่งเป็นประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุด 1.72 คะแนน ทั้งนี้ ปัจจัยทางเศรษฐกิจมีส่วนสำคัญที่ทำให้อันดับความสุขของ สปป.ลาว ในปีนี้ปรับลดลง โดยมีอัตราเงินเฟ้อเป็นปัญหาสำคัญ การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อมีสาเหตุมาจากค่าเงินกีบที่อ่อนค่าลง ผลผลิตในประเทศลดลง มูลค่าการนำเข้าสูง และความท้าทายในการควบคุมราคาสินค้าในตลาดท้องถิ่น

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/03/26/laos-drops-in-global-happiness-rankings-economic-factors-play-key-role/

สหภาพยุโรปมอบเงิน 1.5 ล้านยูโร ส่งเสริมการเกษตรอัจฉริยะใน สปป.ลาว

สหภาพยุโรป (EU) อนุมัติเงิน 1.5 ล้านยูโร ให้แก่ สปป.ลาว สำหรับดำเนินโครงการส่งเสริมการเกษตรอัจฉริยะเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มสตรีและเกษตรกรเยาวชนที่เปราะบาง สำหรับโครงการนี้จะดำเนินการใน 15 หมู่บ้านใน 7 เมือง ในแขวงสะหวันนะเขต และแขวงหลวงพระบาง คาดว่าจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อครอบครัวเกษตรกรรมจำนวน 300,000 ครอบครัว และอื่นๆ อีกกว่า 100,000 คน ผ่านการให้เทคนิค ความรู้ และทักษะที่เกี่ยวข้องกับ Climate Smart Agriculture (CSA) นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะช่วยเพิ่มผลผลิต ปรับปรึงความเป็นอยู่ โภชนาการ และความมั่นคงทางอาหารในท้องถิ่นของ สปป.ลาว อีกด้วย

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_63_EU_y24.php