กัมพูชาอนุมัติโครงการลงทุนใหม่ 9 โครงการ ด้วยเงินทุนกว่า 43 ล้านดอลลาร์

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ได้ประกาศโครงการลงทุนใหม่ 9 โครงการ ที่ได้รับอนุมัติแล้ว ด้วยเงินทุนมากกว่า 43 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นได้มากกว่า 10,000 คน ตามการรายงานของ CDC โดยทาง CDC ได้ออกใบรับรองให้กับโครงการลงทุนของบริษัทดังต่อไปนี้ 1.COMO APPAREL CO., LTD. ด้วยเงินลงทุนประมาณ 14.7 ล้านดอลลาร์ สร้างการจ้างงาน 2,947 ตำแหน่ง 2.LEONA (CAMBODIA) CO., LTD. ด้วยเงินลงทุน 5.8 ล้านดอลลาร์ สร้างการจ้างงาน 1,530 ตำแหน่ง 3.SINCERE SEASON (CAMBODIA) GARMENT CO., LTD. ด้วยเงินลงทุน 5.6 ล้านดอลลาร์ สร้างการจ้างงาน 720 ตำแหน่ง 4.POWERFUL RICHES GARMENT (CAMBODIA) CO., LTD. ด้วยเงินลงทุนประมาณ 5 ล้านดอลลาร์ สร้างการจ้างงาน 743 ตำแหน่ง 5.GREEN BAG (CAMBODIA) CO., LTD. ด้วยเงินลงทุน มูลค่า 5 ล้านดอลลาร์ สร้างการจ้างงาน 1,544 ตำแหน่ง 6.GLOBAL SUPPLY REDWOOD CO., LTD. ด้วยเงินลงทุนประมาณ 3 ล้านดอลลาร์ สร้างการจ่งงาน 758 ตำแหน่ง 7.INKYUNG WONDANG APPAREL CO., LTD. ด้วยเงินลงทุนประมาณ 3 ล้านดอลลาร์ สร้างการจ้างงาน 617 ตำแหน่ง และตามคำร้องขอลงทุนของบริษัทอีก 2 แห่ง ซึ่งทำการขอจัดตั้งในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) กัมพูชา ด้วยเงินลงทุนรวม 1.18 ล้านดอลลาร์ สร้างการจ้างงานราว 190 ตำแหน่ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501006166/cambodia-approves-nine-new-investment-projects-with-a-capital-of-more-than-43-million/

ธนาคารโลกคาดการณ์ปีนี้เศรษฐกิจกัมพูชาโต 4.5%

ธนาคารโลกคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในปีนี้จะโตถึงร้อยละ 4.5 และคาดว่าจะเติบโตถึงร้อยละ 5.5 ในปี 2023 ซึ่งในปัจจุบันยังคงต้องคอยติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ Omicron ที่จะส่งผลต่อการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ รวมถึงผลกระทบต่อภาคการเงิน โดยเฉพาะในด้านของการชำระหนี้สินที่มีความเปราะบางอยู่ในปัจจุบัน สอดคล้องกับรายงานของธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ที่ได้รายงานถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 5.5 ในปี 2022 เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของคู่ค้า รวมถึงกิจกรรมหลักที่ช่วยกระตุ้นความต้องการส่งออกของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501006196/world-bank-forecasts-cambodias-economic-growth-to-reach-4-5-percent-in-2022-and-5-5-percent-in-2023/

เวียดนามส่งออก ‘ยาง’ อันดับ 3 ของโลก

กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) ระบุว่าในปี 64 เวียดนามส่งออกยาง 3.24 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 36.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก และส่งออกไปยังตลาดกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ สมาคมยางเวียดนาม (VRA) รายงานว่าภาคอุตสาหกรรมนี้ มีส่วนสำคัญในการผลักดันการส่งออกผลผลิตทางการเกษตรของประเทศ โดยสินค้าสำคัญ เช่น ธุงมือและปะเก็นยาง ถือเป็นแรงขับเคลื่อนให้กับอุตสาหกรรม นอกจากนี้ สมาคมประเทศผู้ผลิตยางธรรมชาติ คาดการ์ว่าอุปสงค์ทั่วโลกจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากการคลายล็อกข้อจำกัดการเดินทางและการกลับมาเปิดพรมแดนระหว่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ กลับมาฟื้น

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-ranks-third-worldwide-in-terms-of-rubber-export-value-post917823.vov

‘สนง.สถิติแห่งชาติเวียดนาม’ เผยข้อมูลสำมะโน ชี้จำนวนสถานประกอบการ 683,600 แห่ง

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยผลเบื้องต้นของการสำรวจสำมะโน พบว่าข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค.64 เวียดนามมีสถานประกอบการจำนวน 683,600 แห่ง เพิ่มขึ้น 35.3% เมื่อเทียบกับปี 59 โดยในปี 64 การจ้างงานของสถานประกอบการ มีจำนวนมากกว่า 14.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.7% เมื่อเทียบกับปี 59 ทั้งนี้ ในช่วงปี 59-63 จำนวนสถานประกอบการเพิ่มขึ้น 7.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี และยังอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 8.7% ตั้งแต่ปี 54-59 นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 11 ม.ค. กระทรวงวางแผนและการลงทุน เปิดเผยผลการสำรวจสำมะโน ปี 64 พบว่าข้อมูล ณ ปี 63 หน่วยงานราชการมีจำนวน 32,300 แห่ง ลดลง 7.25% เมื่อเทียบกับปี 59

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-has-683600-operational-firms-economic-census/220572.vnp

เกษตรกร ปลื้ม ปีนี้ ขายกะหล่ำปลีได้กำไรงาม

เกษตรกรจากหมู่บ้านในเขตอำเภอวู่นโต และกอลี่น เขตซะไกง์ กำลังปลูกะหล่ำปลีโดยใช้น้ำชลประทานจากลำห้วย Daungmyu กำลังปลื้มกับราคากะหล่ำปลีในปีนี้ โดยทปีที่แล้วขายกะหล่ำปลีหนึ่งหัวได้ในราคา 600 แต่ปีนี้ราคาพุ่งไปถึง 1,500 ต่อหัว แม้ปีนี้ต้นทุนการปลูกจะสูงกว่าปีที่แล้วเล็กน้อยเนื่องจากราคาปุ๋ยและยาฆ่าแมลงที่เพิ่มสูงขึ้น โดยต้นทุนการเพาะปลูกอยู่ที่ประมาณ 70,000 จัตต่อ 2,000 ต้น หากราคากะหล่ำปลีไม่ตกต่ำ เชื่อว่าเกษตรกรจะสามารถทำกำไรได้มากขึ้นอย่างแน่นอน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/cabbage-growers-making-handsome-profits-this-year/#article-title

ธนาคารโลกคาดการณ์เศรษฐกิจ สปป.ลาวเติบโต

ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสปป.ลาวจะเติบโตร้อยละ 4.5 ​​ในปี 2565 และร้อยละ 4.8 ในปี 2566 แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโตช้าลงก็ตาม เศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ภาวะชะลอตัวอย่างเด่นชัดท่ามกลางภัยคุกคามจากรูปแบบต่างๆ ของ Covid-19 และการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ หนี้ และความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ ซึ่งอาจคุกคามการฟื้นตัวในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา การเติบโตทั่วโลกคาดว่าจะชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดจากร้อยละ 5.5 ในปี 2564 เป็นร้อยละ 4.1 ในปี 2565 และร้อยละ 3.2 ในปี 2566 ตามรายงาน Global Economic Prospects ล่าสุดของธนาคารโลก ด้านสปป.ลาว จากการที่รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการหลายอย่างและเร่งโครงการฉีดวัคซีนเพื่อให้ภาคเอกชนกลับมาดำเนินธุรกิจ โรงงาน และโครงการลงทุนเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไ อีกทั้งรัฐบาลได้เปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนนี้ เพื่อฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวและบริการที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ตั้งแต่ปี 2020 ปัจจัยดังกล่าวทำให้ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสปป.ลาวจะเติบโตร้อยละ 4.5 ​​ในปี และนักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่า การแล้วเสร็จของโครงการรถไฟลาว-จีน จะกลายเป็นเส้นทางสำคัญสำหรับการแลกเปลี่ยนการค้าและการท่องเที่ยวระหว่างจีนและประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการขยายตัวในปีต่อๆไป

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_World08.php

ราคาข้าวเปลือกกัมพูชาจ่อปรับตัวลดลง สวนทางกับต้นทุนการเพาะปลูกที่เพิ่มขึ้น

กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงกล่าวว่าราคาข้าวเปลือกอาจจะปรับตัวลดลง สวนทางกันกับต้นทุนการผลิตและปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า อาทิเช่น เชื้อเพลิง ปุ๋ย และยาฆ่าแมลง ตามการประชาสัมพันธ์ที่ออกโดยกระทรวงเกษตรเมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา โดยกรมวิชาการเกษตรทุกจังหวัดวางแผนเดินหน้าแนะนำเกษตรกรตลอดจนชุมชนเกษตรกรเกี่ยวกับเทคนิคในการผลิตข้าวเพื่อให้ได้ผลผลิตสูง ภายใต้วิธีการที่เหมาะสม ลดต้นทุนการผลิต และรับประกันคุณภาพข้าวตามมาตรฐานการส่งออก ซึ่งทางการยังเน้นย้ำให้หน่วยงานระดับจังหวัดอำนวยความสะดวกและคอยควบคุมราคาการรับซื้อข้าวแก่เจ้าของโรงสีภาคเอกชนในท้อง ในการรับซื้อข้าวจากเกษตรกรในราคาที่เหมาะสม รวมถึงอำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรได้มีทางเลือกในการขายข้าวมากกว่าขายให้กับพ่อค้าเท่านั้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501005720/dry-season-rice-prices-to-fall-as-farming-expenditures-double/

กัมพูชาส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2021

ปริมาณการส่งออกของกัมพูชา (ยกเว้นทองคำ) เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 22.6 คิดเป็นมูลค่ารวม 15.61 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2021 ตามการรายงานของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา โดยการส่งออกที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่มกราคมจนถึงพฤศจิกายน 2021 ส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากการส่งออกสิ่งทอ จักรยาน และสินค้าอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสินค้าส่งออกหลักอื่นๆ ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ หนังขนสัตว์ ยาง สายไฟและส่วนประกอบ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผักและผลไม้ เป็นสำคัญ ในขณะเดียวกันกัมพูชานำเข้าสินค้ารวมมูลค่า 20.4 พันล้านดอลลาร์ (ยกเว้นทองคำ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกัมพูชานำเข้าวัสดุก่อสร้าง ปิโตรเลียม และอื่นๆ เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501005771/cambodias-exports-up-22-percent-in-first-eleven-months-of-2021/