เวิลด์แบงก์ คาด GDP ไทยปี 65 ฟื้นโต 3.9% จาก 1% ในปี 64 ก่อนโตเพิ่ม 4.3% ปี 66

ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ประจำประเทศไทย ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 65 เป็น 3.9% จากเดิมที่คาดไว้ 3.6% ซึ่งเป็นการฟื้นตัวจากปี 64 ที่คาดว่าจะเติบโตได้ราว 1% ก่อนที่ปี 66 จะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 4.3% ขณะที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยในปี 65 และ 66 ได้แรงขับเคลื่อนจากการฟื้นตัวของกิจกรรมภาคบริการ การบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยวที่กลับมาเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 7 ล้านคนในปี 65 โดยจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงครึ่งหลังของปีและเพิ่มขึ้นอีกในปี 66 เป็นประมาณ 20 ล้านคนหรือประมาณครึ่งหนึ่งของระดับนักท่องเที่ยวในปี 62 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด

ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2021/154784

‘ธนาคารโลก’ ชี้เวียดนามควรเร่งฉีดวัคซีนและดำเนินนโยบายการคลัง เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ตามรายงาน “Vietnam Macro Monitoring” ของธนาคารโลก เปิดเผยว่าการใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยควบคู่กับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างรวดเร็ว พร้อมกับการดำเนินนโยบายการคลัง คาดว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจในประเทศกลับมาฟื้นตัวได้ สำหรับผลกระทบเชิงลบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นในเดือน พ.ย. หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.5% แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการกลับมาฟื้นตัว และยังสะท้อนให้เห็นถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจในจังหวัดภาคใต้

ทั้งนี้ ยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในเดือน พ.ย. ก็เพิ่มขึ้น 45% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสองเดือนติดต่อกัน นับจากเดือน พ.ค. นอกจากนี้ ประเด็นการส่งออก พบว่ายอดส่งออกเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 31.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้เกินดุลการค้า 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐในเดือน พ.ย. เป็นผลมาจากการส่งออกที่ขยายตัวเร่งขึ้นจาก 6.1% ในเดือน ต.ค. มาอยู่ที่ 26.5% ในเดือน พ.ย.

อย่างไรก็ตาม ธนาคารโลกได้ให้ความสำคัญอย่างมากต่อแผนการฉีดวัคซีนแบบเร่งด่วน การใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและการกักกันโรค เพื่อลดความเสี่ยงของการระบาดระลอกใหม่

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/wb-push-for-rapid-vaccination-and-fiscal-policy-support-to-help-reboot-economy-911545.vov

‘ADB’ หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจมาเลเซียและเวียดนาม

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) ปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจเวียดนามและมาเลเซียในปีนี้ หลังจากเศรษฐกิจหดตัวในไตรมาสที่ 3 ขณะเดียวกันปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาของเอเชียลงมาสู่ระดับ 7.0% ในปีนี้ และ 5.3% ในปี 2565 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 7.1% และ 5.4% ตามลำดับ

ทั้งนี้ ตามรายงาน “Asian Development Outlook” ระบุว่าในกลุ่มประเทศเอเชีย จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มลดลง และระดับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ดี ไวรัสตัวใหม่ที่มีชื่อว่า “โอมิครอน” เสี่ยงคุกคามเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง นอกจากนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนาม คาดว่าจะปรับตัวลดลงอยู่ที่ 2.0% ในปีนี้ จากที่คาดการณ์เดิมที่ระดับ 3.8% ก่อนที่จะขยายตัว 6.5% ในปีหน้า ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจของมาเลเซีย คาดว่าจะขยายตัว 3.8% ในปีนี้ และ 5.9% ในปีหน้า

ที่มา : https://asia.nikkei.com/Economy/ADB-slashes-Malaysia-and-Vietnam-annual-growth-forecasts

เมียนมาส่งออกปูนิ่มไปมากกว่า 600 ตัน ในทุกๆ ปี

ปูนิ่มจากรัฐยะไข่ของเมียนมาส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศกว่า 600 ตันต่อปี โดยตลาดสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง และประเทศต่างๆ ของยุโรป ในรัฐยะไข่ บริษัทแปรรูปปูสามารถผลิตได้ 15 ตันต่อเดือน และประมาณ 200 ตันต่อปี โดยจะถูกส่งไปยังห้องเย็นในนิคมอุตสาหกรรมไลง์ตายาเพื่อทำการบรรจุ โดยราคาปูนิ่มมีมูลค่าประมาณ 7 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อกิโลกรัม ทั้งนี้การส่งออกปูนิ่มของบริษัทต่างๆ ของเมืองตาน-ดแว เมืองท่าสำคัญในรัฐยะไข่ พบว่า ในปีงบประมาณ 2561-2562  มีรายได้ 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปีงบประมาณ 2562-2563  มีรายได้กว่า 3.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และในปีงบประมาณ 2563-2564 มีรายได้กว่า 4.66 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-yearly-ships-over-600-tonnes-of-soft-shell-crab-to-external-market/

กัมพูชานำเข้าวัตถุดิบในการผลิตเสื้อผ้าแตะ 3.5 พันล้านดอลลาร์

ภาคการผลิตเครื่องนุ่งห่มในกัมพูชา ถือว่ามีผลการดำเนินงานที่ดีทั้งในด้านการผลิต การส่งออก และการเติบโตของคำสั่งซื้อ ในขณะที่การนำเข้าวัตถุดิบสำหรับการผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 25 หรือคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ จากข้อมูลล่าสุดของธนาคารโลกด้านเศรษฐกิจสำหรับกัมพูชา โดย Kaing Monica รองเลขาธิการสมาคมผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปแห่งกัมพูชา อ้างจากสื่อท้องถิ่นว่าการนำเข้าวัตถุดิบสำหรับการผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ สอดคล้องกับการเติบโตของการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์เพื่อการเดินทาง ซึ่งกล่าวว่าการเติบโตในแต่ละภาคส่วนแตกต่างกันเล็กน้อย โดยเสื้อผ้าเห็นการเติบโตต่ำสุดประมาณร้อยละ 5 ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ แต่สินค้าประเภทรองเท้าปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 15 และสำหรับผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยว มีการเติบโตมากที่สุดถึงกว่าร้อยละ 30% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเสื้อผ้าถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการเติบโตค่อนข้างต่ำ โดยการเติบโตได้แรงหนุ่นจากการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 31.9 ที่มูลค่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ ณ เดือน ก.ย. ปีนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50988017/fabric-imports-for-garment-industry-rises-to-3-5-billion-in-first-nine-months-of-the-year/

ท่าเรือพนมเปญสร้างรายได้แตะ 30 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 11 เดือนแรกของปี

ท่าเรือนานาชาติพนมเปญ บริษัทซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (CSX) รายงานถึงผลประกอบการในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ แตะ 30 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน โดยรายได้ส่วนใหญ่จำนวน 24.37 ล้านดอลลาร์ มาจากการดำเนินงานท่าเรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 จากการท่าเรือรายได้รวม 3.23 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 3 และ จากการให้บริการในท่าเรือจำนวน 300,000 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 89 และ จากช่องทางอื่นๆ อีก ราว 2.47 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ซึ่งในเดือนพฤศจิกายนเพียงเดือนเดียว รายได้รวมของท่าเรือพนมเปญอยู่ที่ 2.76 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นรายได้จากการดำเนินงานท่าเรือ 2.29 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 24

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50987953/phnom-penh-autonomous-port-earns-30-million-in-11-months/

‘สมาคมผู้ส่งออกอาหารทะเลเวียดนาม’ ร้องกฎหมายนำเข้าอาหารทะเลไม่เพียงพอ

สมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลของเวียดนาม (VASEP) ได้ยื่นคำร้องต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อทำการเสนอให้แก้ไขข้อบังคับที่เกี่ยวกับมาตรการกักกันผลิตภัณฑ์อาหารทะเล ซึ่งคำร้องดังกล่าวนั้น ชี้ว่าธุรกิจอาหารทะเลของชุมชนประสบปัญหาอย่างมากต่อมาตรการกักกัน ทั้งนี้ สมาคมฯ กล่าวว่าการตรวจสอบของรัฐบาลสำหรับผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำที่นำเข้ามาในประเทศที่เป็นไปตามกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการกักกันของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท ไม่ใช่หลักการที่ถูกต้องของการตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปที่ใช้เป็นอาหารและมีรายการข้อกำหนดที่มากจนเกินไปและไม่จำเป็น นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังเสนอให้ยกเลิกกฎระเบียบกักกันสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปที่นำเข้าเพื่อการบริโภคภายในประเทศที่ประเมินแล้วว่าไม่มีความเสี่ยงในการแพร่กระจายโรคผ่านทางน้ำในเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1106015/vasep-claims-imported-seafood-regulations-inadequate.html

 

บ.เกาหลีใต้ เล็งลงทุนระยะยาวในเวียดนาม

นายเวือง ดิ่งห์ เหวะ (Vuong Dinh Hue) ประธานรัฐสภาเวียดนาม และผู้นำธุรกิจ Samsung Electronics, SK, and Lotte Shopping & Lotte Mart กล่าวว่าทางบริษัทมีความสนใจที่จะร่วมมือกับเวียดนามในการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน การผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมไฮเทค ตลอดจนช่วยเหลือผู้ประกอบการชาวเวียดนามถึงการมีส่วนร่วมในห่วงโซ่อุปทานโลก ในขณะเดียวกัน มุมมองต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ เวียดนามยังคงเป็นจุดหมายที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงนักลงทุนชาวเกาหลีใต้อีกด้วย ทั้งนี้ นายเวือง ได้แสดงความยินดีถึงการเปิดตัวโครงการศูนย์วิจัยนวัตกรรมของบริษัทซัมซุงในเวียดนาม และหวังว่ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จะนำไปวิจัยและผลิตเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อทำให้สายการผลิตเทคโนโลยีชั้นสูงสมบูรณ์ในเวียดนาม นอกจากนี้ นายเวือง แสดงความขอบคุณกับบริษัทกลุ่ม SK ที่ทำการสนับสนุนกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติ และจะส่งเสริมกลุ่มบริษัทในการพัฒนาแหล่งพลังงานสะอาด ผลิตเซมิคอนดักเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคมอื่นๆ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/rok-firms-desire-to-invest-in-vietnam-in-long-run-911294.vov

 

เขตอิรวดีเปิดตัวโครงการมินิกริดพลังงานแสงอาทิตย์ในเมืองเมียนออง

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2564 ที่ผ่านมา คณะทำงานโครงการมินิกริดนำโดยนายอู ทิน หม่อง วิน มุขมนตรีเขตอิรวดี พร้อมคณะทำงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธีเปิดโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการมินิกริดในเมียนออง เขตอิรวดี ที่ดำเนินการโดย Mega Global Green Automation Company. โดยโครงการนี้ได้ปล่อยกระแสไฟฟ้าให้กับ 294 ครัวเรือน วัด 2 แห่ง โรงเรียน 2 แห่ง และคลินิก 1 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นมา นอกจากนี้ ในเมียนอองยังมีอีกหนึ่งโครงการเป็นของ บริษัท สมาร์ทเมสเซชั่น แอนด์ คอนโทรล จำกัด ที่ให้ให้บริการไฟฟ้าแก่ 134 ครัวเรือน วัด 1 แห่ง และโรงเรียน 1 แห่ง ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 7 ก.ค. มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/solar-power-mini-grid-project-launched-in-myanaung-tsp/#article-title

ทางด่วนพนมเปญ-สีหนุวิลล์ ในกัมพูชา แล้วเสร็จแล้วร้อยละ 70

กระทรวงโยธาธิการและคมนาคมกัมพูชา รายงานถึงภาพรวมของโครงการการก่อสร้างทางด่วนพนมเปญ-สีหนุวิลล์ แล้วเสร็จแล้วประมาณร้อยละ 70.93 ณ เดือนพฤศจิกายน หลังจากการตรวจเยี่ยมเพื่อติดตามและประเมินการดำเนินงานก่อสร้างให้เป็นไปตามมาตรฐานทางเทคนิค โดยเฉพาะการตรวจสอบตำแหน่งจุดเปลี่ยนทางจราจรและสถานที่ก่อสร้างตามแนวเนินเขาที่อาจเกิดดินถล่มทำให้เกิดอันตราย ซึ่งก่อนหน้าโครงการดังกล่าวได้เกิดการเสียหายบางส่วนในเดือนกรกฎาคม 2019 โดยมูลค่าของโครงการก่อสร้างประมาณไว้ที่ 2.019 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 48 เดือน จึงจะก่อนสร้างแล้วเสร็จ ระยะทาง 190 กม. 4 เลน กว้าง 24.5 ม. มีสถานีจอดพัก 3 แห่ง ตัดผ่านจังหวัดกำปงสปือ 80.8 กม., เกาะกง 1.92 กม. และจังหวัดพระสีหนุ 89.89 กม. สร้างโดยบริษัท PPSHV Expressway Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ China Road and Bridge Corporate และการประเมินทางเทคนิคโดย Minconsult SDN ในมาเลเซีย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50987282/phnom-penh-sihanoukville-expressway-70-percent-completed/