‘เวียดนาม’ เผยยอดจดทะเบียนธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัลตั้งใหม่ ปี 64 เกือบ 5,600 ราย

ในปี 2564 เวียดนามมีการจดทะเบียนธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัลที่จัดตั้งใหม่ จำนวน 5,600 ราย เนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้มีความจำเป็นในการทำงาน การขายและการสื่อสารออนไลน์ คุณ Nguyen Thanh Tuyen รองผู้อำนวยการเทคโนโลยีสารสนเทศ กระทรวงสารสนเทศและการสื่อสาร (MIC) กล่าวว่าปัจจุบัน บริษัทเทคโนโลยีดิจิทัล มีจำนวนราว 64,000 ราย และมีพนักงานมากกว่า 1 ล้านคน ทั้งนี้ กระทรวงฯ ระบุว่าในปี 2563 มีจำนวนแพลตฟอร์มมากกว่า 34 แพลตฟอร์มที่ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงสารสนเทศ ซึ่งเป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลของเวียดนาม ประสบความสำเร็จจากการเติบโตอย่างมาก โดยในปี 2563 เวียดนามได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกหดตัวลงและ แต่เวียดนามยังคงมีตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 2.91% และถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีตัวเลขการเติบโตที่เป็นบวก ตลอดจนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลมีอัตราการเติบโตมากกว่า 9% ถือว่าสูงกว่าการเติบโตของ GDP กว่า 3 เท่า

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-has-5600-new-digital-technology-firms-in-2021/217968.vnp

 

ลุ้น คนละครึ่งเฟส 4 เข้าครม.21ธ.ค.นี้เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยระหว่างเป็นประธานเปิดงาน ThailandSmart Money กรุงเทพฯ ครั้งที่ 12 ว่า จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. พิจารณา ในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ มาตรการหลัก คือ จะช่วยเรื่องการบริโภค และกระตุ้นการบริโภคในกลุ่มผู้มีกำลังซื้อ เน้นการลดหย่อนภาษี ซึ่งจะนำมาแทนโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก นอกจากนี้ อาจจะมีการขยายโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 แต่จะออกมา หลังจากสิ้นสุดเฟส 3 ในสิ้นปีนี้ หรือไม่นั้น ต้องขอดูอัตราการใช้จ่ายของประชาชนก่อน ว่าปรับดีขึ้นมากน้อยเพียงใด สำหรับทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2565 นั้น คาดจะขยายตัวได้ 4% และในปี 2566 จะมีแรงขับเคลื่อนจากภาคท่องเที่ยวเข้ามาเสริม ทำให้มีแรงฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่มากขึ้น

ที่มา: https://www.thansettakij.com/money_market/506468?fbclid=IwAR32tcJc4-Sg-mWUvOWbCOg7bXLkJnRKjitgNwGEwN11hU4JlR1X4l8SWcg

‘สตาร์ทอัพเวียดนาม’ ประสบความสำเร็จในการดึงดูดเงินทุนจำนวนมาก

แม้ว่าจะเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างรุนแรง แต่ด้วยระบบนิเวศของ Startup เวียดนามที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยในเดือน มิ.ย.64 บริษัทการลงทุนชั้นนำที่จัดการหลายสินทรัพย์ทางเลือกหลายประเภทอย่าง “KKR” ได้ออกมาประกาศว่าจะลงทุน 100 ล้านเหรียญสหรัฐใน “EQuest” สตาร์ทอัพด้านการศึกษาของเวียดนาม ในขณะเดียวกัน เดือนก.ย.64 บริษัทสตาร์ทอัพด้านการขนส่งสินค้า “Ninja Van” ก็ประสบความสำเร็จในการดึงดูดเงินลงทุนกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการระดมทุนรอบ Series E ที่นำโดยนักลงทุนอย่าง Geopost/DPDgroup, BCapital Group, Monk’s Hill Ventures และ Zamrud

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnamese-startups-succeed-in-attracting-large-investment-amounts-910165.vov

‘เวียดนาม’ นำเข้าอาหารสัตว์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เวียดนามกลายมาเป็นผู้นำเข้าข้าวโพดรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และคาดว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่อันดับที่ 5 ของตลาดโลก กรมศุลกากรของเวียดนาม (GDC) เปิดเผยว่าในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา มูลค่าการนำเข้าอาหารสัตว์และวัตถุดิบ อยู่ที่ 4.14 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 63 ซึ่งมูลค่าดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ายังคงมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง ทำให้เปิดโอกาสอันดีแก่ผู้ส่งออกข้าวโพดและผลิตภัณฑ์ที่เหลือจากขบวนการผลิตเอทานอลด้วยข้าวโพด (DDGS) ทั้งนี้ แนวโน้มความต้องการนำเข้าข้าวโพดและผลิตภัณฑ์ DDGS ของเวียดนาม จะดันพุ่ง 3 เท่าในอีก 10 ปีข้างหน้า สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1094879/vietnamese-animal-feed-imports-continue-to-rise.html

ก.พาณิชย์ เผย รายได้การส่งออกช่วงเดือนครึ่งของปีงบประมาณย่อย 64-65

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย ในช่วงเดือนครึ่งปีของปีงบประมาณย่อย 2564-2565 มีรายได้จากการส่งออกทางทะเลและการค้าผ่านแดนมากกว่า 77 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมากกว่า 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มาจากการค้าทางทะเล ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ถึง 19 พ.ย. มีการส่งออกถั่วพัลส์มากกว่า 169,827 ตัน โดยมีรายได้ 144.04 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รัฐบาลอินเดียได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อนำเข้าถัวพัลส์ 250,000 ตันและอีก 100,000 ตัน ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2564-2565 ถึงปีงบประมาณ 2568-2569 เมียนมามีผลผลิตถั่วพัลส์มากกว่า 11 ล้านเอเคอร์ต่อปี คิดเป็นมากกว่า 35% ของผลผลิตถั่วทั้งหมด

ที่มา: https://news-eleven.com/article/221505

ลาวแอร์ไลน์ ไม่มีแผนปรับปรุงทำการแข่งกับรถไฟลาว-จีน

ลาวแอร์ไลน์และสถานีขนส่งสายเหนือในเวียงจันทน์ไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงบริการหรือราคาตั๋วเพื่อดึงดูดลูกค้าออกจากการเดินทางบนรถไฟลาว-จีน ปัจจุบันมีคนมาที่สถานีรถไฟมากกว่าที่สนามบินและสถานีขนส่ง โดยการเดินทางด้วยรถไฟถูกกว่าเที่ยวบินและเร็วกว่าการเดินทางโดยรถบัสมากินายนู๋แดง จันทผาสุก ผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์ของสายการบินลาว บอกกับเวียงจันทน์ไทมส์ว่า การเปิดรถไฟลาว-จีนจะไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อการดำเนินงานของสายการบิน โดยเสริมว่าผู้คนต้องการใช้รถไฟในตอนนี้เพราะเป็นสิ่งใหม่และรถไฟ รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม หากความต้องการลดลง สายการบินจะลดจำนวนเที่ยวบินตามกำหนดการ แต่ถ้าจำนวนผู้โดยสารกลับสู่ระดับก่อนหน้า จำนวนเที่ยวบินจะเพิ่มขึ้น การเปิดทางรถไฟระยะทาง 426 กม. เป็นก้าวสำคัญของสปป.ลาวและควรเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศ เนื่องจากประเทศมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาคและบูรณาการทางเศรษฐกิจกับส่วนอื่นๆ ของโลก

 

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_LaoAirlines241.php

FTAs ดันกัมพูชา ติดอันดับดัชนีการเชื่อมต่อระดับโลก (GCI)

กัมพูชาติดอันดับในดัชนีการเชื่อมต่อระดับโลก (GCI) ถือเป็นการศึกษาที่พิจารณาและวัดว่าแต่ละประเทศมีส่วนทำให้เกิดโลกาภิวัตน์อย่างไร ซึ่งการจัดอันดับนี้พิจารณาจากการค้าระหว่างประเทศ การเคลื่อนย้ายของผู้คน เงินทุน ข้อมูล และปัจจัยอื่นๆ ที่ดำเนินการศึกษาโดย DHL ที่เป็นหนึ่งในบริษัทขนส่งชั้นนำระดับโลก โดยรายงานผลที่เกี่ยวกับ 169 ประเทศทั่วโลก ทั้งจากเอเชีย อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ แอฟริกา ยุโรป และโอเชียเนีย ซึ่งกัมพูชาอยู่ในอันดับที่ 46 ของโลก ในปี 2021 โดยอยู่ในอันดับที่ 5 ในกลุ่มประเทศโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากสิงคโปร์ (อันดับที่ 2 ของโลก) มาเลเซีย (อันดับที่ 16) ไทย (อันดับที่ 30) และเวียดนาม (อันดับที่ 38) ซึ่งสิงคโปร์ เวียดนาม และกัมพูชา ทำได้เกินความคาดหมาย ตามข้อมูลของ DHL กัมพูชาอยู่ในอันดับที่ 49 ในการสำรวจเดียวกันเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดยคาดว่าพัฒนาการที่สำคัญของกัมพูชามาจากการเป็นสมาชิกในกลุ่มการค้าระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศอื่นๆ รวมถึงข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับเกาหลีใต้ จีน และประเทศอื่นๆ ที่ส่งผลทำให้ภาคการส่งออกปรับตัวดีขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50984476/major-trade-pacts-ftas-bolster-cambodias-gci-ranking/

กัมพูชา-ฟิลิปปินส์ ส่งเสริมความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจระหว่างกัน

หอการค้ากัมพูชาและหอการค้าฟิลิปปินส์เห็นชอบที่จะส่งเสริมและเสริมสร้างความร่วมมือทางธุรกิจและเศรษฐกิจระหว่างกัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกันโดย Kith Meng ประธานหอการค้ากัมพูชาและ AMB Benedicto V. Yujuico ประธานหอการค้าฟิลิปปินส์ร่วมเป็นผู้ลงนาม ในระหว่างการประชุมครั้งที่ 3 ของคณะกรรมาธิการร่วมกัมพูชา-ฟิลิปปินส์ เพื่อความร่วมมือทวิภาคี (JCBC) โดยบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและเสริมสร้างความร่วมมือทางธุรกิจและเศรษฐกิจระหว่างกัมพูชาและฟิลิปปินส์ในด้านต่างๆ เช่น ICT และนวัตกรรม เกษตรกรรม การผลิต แฟรนไชส์ ​​การท่องเที่ยว การบริการ และการพัฒนา SME ซึ่งสภาทั้งสองตกลงที่จะจัดตั้งสภาธุรกิจฟิลิปปินส์-กัมพูชา โดยจะตั้งอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์และกัมพูชา ซึ่งในระยะถัดไปจะร่วมหารือระหว่างกันในการกำหนดหน้าที่ เป้าหมาย ระหว่างกัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50984602/cambodia-philippines-boost-business-and-economic-cooperation/