มิตซูบิชิลงทุนโครงการกังหันลมในสปป.ลาว

Mitsubishi Corp ของญี่ปุ่นจะลงทุนในโครงการฟาร์มกังหันลมขนาด 600 เมกะวัตต์ในสปป.ลาว ภายหลังได้บรรลุข้อตกลงในการลงทุนในผู้พัฒนาโครงการ Impact Energy Asia Development Ltd ร่วมกับกลุ่มบริษัท Impact Electrons Siam Co Ltd จากประเทศไทย ฟาร์มกังหันลมจะตั้งอยู่ในจังหวัดเซกองและอัตตะปือทางตอนใต้ของประเทศลาวซึ่งจะเป็นฟาร์มกังหันลมแห่งแรกในสปป.ลาวและใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีการวางแผนที่จะขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าเวียดนามในระยะเวลา 25 ปี เวียดนามต้องการแหล่งพลังงานเพิ่มเติมเพื่อรองรับเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูแล้งที่การผลิตไฟฟ้าพลังน้ำของประเทศมีอย่างจำกัด ดังนั้น โครงการนี้จึงคาดว่าจะช่วยให้ระบบไฟฟ้าของเวียดนามมีเสถียรภาพในขณะเดียวกันการลงทุนดังกล่าวจะนำมาซึ่งการจ้างงาน รายได้ในการส่งออกไฟฟ้ารวมถึงเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในการนำสปป.ลาวไปสู่ “แบตเตอรี่แห่งเอเชี่ย” ในอนาคต

ที่มา : https://renewablesnow.com/news/mitsubishi-to-invest-in-600-mw-laos-wind-project-744583/

ภาคอสังหาริมทรัพย์กัมพูชากำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ภายในกัมพูชากำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นนักลงทุนต่างชาติลดลงอย่างมาก โดย www.Realestate.com.kh กล่าวว่าตลาดได้เปลี่ยนจากผู้ซื้อชาวต่างประเทศและชาวกัมพูชากลุ่มชนชั้นกลางไปจนถึงระดับสูงไปสู่กลุ่มผู้มีรายได้ต่ำมากขึ้น จากการสำรวจความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่างกว่า 2,000 ราย ซึ่งเกือบครึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจ (ร้อยละ 47) กล่าวว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลงในช่วงวิกฤตโควิด-19 เกือบร้อยละ 60 โดยราคากลับมาอยู่ในช่วงที่สามารถจับต้องได้ ไม่แพงจนเกินไป ในส่วนของตลาดการเช่าอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จนนำไปสู่ราคาค่าเช่าลดลงมาเหลือ 2 ใน 3 ของราคาค่าเช่า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50875164/real-estate-sector-turning-away-from-foreign-buyers-survey-finds/

กัมพูชาเตรียมจัดตั้งสหพันธ์อุตสาหกรรมการเกษตร

กลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตรภายในกัมพูชาเตรียมจัดตั้งสหพันธ์ขึ้น เพื่อส่งเสริมการเติบโตภายในอุตสาหกรรม ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของรัฐบาลในการเพิ่มการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรในอนาคต โดยคาดว่าสมาพันธ์จะมีบทบาทในการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรในกัมพูชาอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ครอบคลุมพืชผลและภูมิศาสตร์ทุกประเภททั่วประเทศในอนาคตอันใกล้ ซึ่งกัมพูชาส่งออกพืชเศรษฐกิจสำคัญ 6 อย่างรวม 8.55 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.32 พันล้านดอลลาร์ ในปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50875165/cambodia-agro-industry-federation-to-be-established/

ตลาดไอพีโออาเซียนร้อนแรง ‘ไทยโดดเด่นสุด’

นักวิเคราะห์ต่างแดนมอง ปีนี้ตลาดหุ้นไทยน่าจะทำไอพีโอทุบสถิติ ข้อมูลชี้การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดดเด่นมากในบรรดาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเว็บไซต์ซีเอ็นบีซี รายงานอ้างคำพูดของ เคน ฟง หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดทุนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัทวิเคราะห์ดีลลอจิก ระบุ “ไทยกำลังทำได้ดีมาก สานต่อเทรนด์ดีๆ ต่อเนื่องจากปีก่อน” ซึ่งข้อมูลจากดีลลอจิกชี้ว่าขณะนี้ไทยมีการนำหุ้นออกขายต่อสาธารณะครั้งแรก (ไอพีโอ) รวมแล้ว 2.92 พันล้านดอลลาร์ โดยประมาณร้อยละ 70-80 ของการทำไอพีโอเกิดขึ้นจากไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 ของทุกปี

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/943792

โครงการฉีดวัคซีนรอบที่ 2 กำลังจะเริ่มขึ้น

หน่วยงานสาธารณสุขกำลังออกโครงการฉีดวัคซีนรอบที่ 2 โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ให้กับผู้คนหลายแสนคน โครงการฉีดวัคซีนรอบที่ 2 จะได้วัคซีนไฟเซอร์ 100,620 โดส และวัคซีนซิโนแฟม 500,000 โดส โดยตั้งเป้าจะเริ่มในวันอังคารที่ 15 มิถุนายน 2564 ข้อมูล ณ วันที่ 12 มิถุนายน ประชาชนประมาณ 712,793 คนได้รับวัคซีนเข็มแรก ขณะที่ 385,921 คนได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 การส่งมอบวัคซีน Sinopharm และ Pfizer ครั้งล่าสุดจะทำให้กับความพยายามของรัฐบาลในการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม 50% ของประชากร (มากกว่า 3 ล้านคน) ภายในสิ้นปีนี้มีประสิทธิภาพและเป็นไปได้ตามเป้าหมาย ถึงอย่างไรเพื่อป้องกันความเสี่ยงในการไม่มีวัคซีนหรือมีไม่เพียงพอนั้น รัฐบาลสปป.ลาวอนุญาตให้ทางบริษัทเอกชน สามารถนำเข้าวัคซีนเองได้เพื่อนำมาฉีดให้กับพนักงงานของตน ซึ่งถือเป็นอีกทางสำหรับการฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างครอบคลุม เพื่อนำพาประเทศกลับสู่ภาวะปกติและขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Round_115.php

อาเซียนเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ เดินหน้าเศรษฐกิจหมุนเวียน

นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน หรือ SEOM ครั้งที่ 2/52 เมื่อวันที่ 8-10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผ่านระบบประชุมทางไกล เพื่อเร่งรัดการทำงานตามพิมพ์เขียวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Blueprint) รวมทั้งเตรียมการประชุมหาแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจร่วมกับประเทศนอกภูมิภาค ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐอเมริกา แคนาดา และอินเดีย ทั้งนี้ ไฮไลท์ของการประชุมในครั้งนี้คือการหารือประเด็นใหม่ ๆ ที่จะช่วยสนับสนุนเพิ่มเติมให้เศรษฐกิจอาเซียนฟื้นตัว เช่น 1. การปรับปรุงแนวทางเพื่อส่งเสริมให้สินค้าและบริการของอาเซียน 2. การเตรียมความพร้อมเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) 3. การจัดทำแผนงานระยะสั้นและกลางเพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาค

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/943593