4 เดือนแรกยอดค้าชายแดน-ผ่านแดน โต 26.4% เร่งเปิดด่านเพิ่มอีก 9 ด่าน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขการค้าชายแดนและผ่านแดน ในช่วง 4 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-เม.ย.) สามารถทำเงินเข้าประเทศได้มูลค่า 526,220 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.24% แยกเป็นการค้าชายแดน มูลค่า 295,381 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.78% โดยมาเลเซีย เพิ่ม 52.87% สปป.ลาว เพิ่ม 13.49% เมียนมา เพิ่ม 0.002% และกัมพูชา ลด 4.5% และการค้าผ่านแดน มูลค่า 230,839 ล้านบาท เพิ่ม 41.93% โดยจีน เพิ่ม 54.25% สิงค์โปร์ เพิ่ม 34.57% และเวียดนาม เพิ่ม 22.47% ทั้งนี้ การค้าชายแดนและผ่านแดนที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น เป็นผลของการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดและทำงานอย่างหนักระหว่างกระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชน ในรูปของ กรอ.พาณิชย์ ทั้งการแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่ติดขัด การแก้ไขปัญหาด้านการขนส่ง การเร่งรัดเปิดด่าน ทำให้เราสามารถผลักดันการค้าชายแดน การค้าผ่านแดน จนทำตัวเลขการส่งออกในภาพรวมเป็นบวกในช่วงวิกฤตโควิด-19 เพราะการค้าชายแดน การค้าผ่านแดน ก็เป็นส่วนหนึ่งในตัวเลขส่งออกรวมของประเทศ

ที่มา : https://www.prachachat.net/economy/news-681498

ท่าเรือแห้งธนาเล้ง เวียงจันทน์ โลจิสติกส์ พาร์ค สนับสนุนการเชื่อมโยงด้านโลจิสติกส์

ท่าเรือแห้งทนาเล็ง (TDP) และเวียงจันทน์โลจิสติกส์พาร์ค (VLP) โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่สองโครงการได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลสปป.ลาวในการเปลี่ยนสปป.ลาวให้กลายเป็นจุดเชื่อมโยงด้านโลจิสติกส์และประเทศที่เชื่อมโยงทางบกภายในภูมิภาคเอเชี่ยตะวันออกเฉี่ยงใต้ ท่าเรือแห้งทนาเล็งเป็นเป้าหมายที่สำคัญในการขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ลอจิสติกส์แห่งชาติของสปป.ลาวตั้งแต่ปี 2559 ถึง 2568 โครงการนี้มีแผนที่จะเชื่อมโยงกับเส้นทางการค้าทางทะเล สนามบิน และทางรถไฟ ดังนั้นโครงการนี้จะช่วยสนับสนุนและเพิ่มศักยภาพทางการค้าและการลงทุนสูงสุดของสปป.ลาว ในอนาคตอันใกล้ โครงการนี้มีแผนที่จะเชื่อมโยงกับท่าเรือหวุงอังในจังหวัดห่าติ๋งตอนกลางของเวียดนาม ซึ่งรัฐบาลสปป.ลาวและเวียดนามได้ตกลงที่จะร่วมกันพัฒนาเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของทั้งสองประเทศ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Thanaleng_105.php

เวียดนามเผยจำนวนธุรกิจ 60,000 แห่ง ปิดกิจการชั่วคราว ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้

สำนักงานสถิติแห่งชาติประจำเวียดนาม (GSO) เผยว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2564 จำนวนสถานประกอบการ 59,800 แห่ง หยุดกิจการชั่วคราว เพื่อรอขั้นตอนการยุบและเลิกกิจการ เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบเป้นรายปี ในขณะเดียวกัน สถานประกอบการจัดตั้งใหม่ราว 55,800 แห่ง ด้วยเงินทุนจดทะเบียน 778.3 ล้านล้านดอง (33.8 ล้านเหรียญสหรัฐ) และจำนวนแรงงานทั้งสิ้น 412,400 คน เพิ่มขึ้น 15.4% ในแง่ของสถานประกอบการ และ 39.5% ในแง้ของเม็ดเงินทุน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ สถานประกอบการเกือบ 22,600 แห่ง กลับมาดำเนินกิจการ เพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่งผลให้สถานประกอบการจดทะเบียนใหม่และสถานประกอบการที่กลับมาดำเนินกิจการ รวมกันทั้งสิ้น 78,300 แห่ง ในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค.

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/nearly-60000-firms-temporarily-suspend-stop-operations-in-five-months/202367.vnp

เวียดนามเผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม พ.ค. ขยายตัว 10%

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (IIP) ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัว 9.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หากจำแนกประเภท พบว่าภาคอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป ขยายตัว 12.6% ตามมาด้วยการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ขยายตัว 8.3% และการประปาและบำบัดน้ำเสีย 7.5% ในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมเหมืองแร่ หดตัว 7% ทั้งนี้ จำนวนพนักงานที่ทำงานในสถานประกอบการอุตสาหกรรม ณ วันที่ 1 พ.ค. ขยายตัว 1.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และ 11.6% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แม้ว่าจะเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย. ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเขตอุตสาหกรรมหลายแห่ง โดยเฉพาะจังหวัดบั๊กซาง และบั๊กนิญ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/963411/iip-grows-10-in-may.html

จำนวนนักท่องเที่ยวภายในประเทศกัมพูชาเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวรายงานถึงจำนวนนักท่องเที่ยวภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นโดยอยู่ที่จำนวน 194,025 คน ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างมากถึงร้อยละ 696.33 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า ถึงแม้ว่าในเดือนเมษายนที่ผ่านมารีสอร์ททุกแห่งในกัมพูชาได้รับคำสั่งให้ปิดกิจการชั่วคราวและมีการสั่งห้ามเดินทางในหลายจังหวัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงปีใหม่ของกัมพูชา ซึ่งมีการสั่งห้ามการเดินทางในช่วงวันที่ 6 และ 17 เมษายนตามลำดับ โดยเมื่อวันที่ 25 เมษายน รัฐบาลประกาศยุติการห้ามเดินทางระหว่างจังหวัดและการเปิดสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ทั่วประเทศอีกครั้งภายใต้มาตรการการป้องกันอย่างเข้มงวด ซึ่งหลังจากรัฐบาลได้ทำการยกเลิกการล็อกดาวน์ส่งผลทำให้ผู้คนจำนวนมากในประเทศออกท่องเที่ยว โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากที่สุดในเขตพื้นที่จังหวัดกำปอต รองลงมาคือจังหวัดพระตะบอง เสียมราฐ กำปงสปือ และจังหวัดสีหนุวิลล์ ตามลำดับ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50865863/domestic-tourism-numbers-leap-to-over-190000-during-month-of-may/

สถานการณ์การส่งออกกัมพูชาในช่วงไตรมาสแรกของปี 2021

ไตรมาสแรกของปี 2021 กัมพูชาส่งออกสินค้ารวมมูลค่า 4,428 ล้านดอลลาร์ ตามรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิต โดยเน้นถึงการส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าที่ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่มมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งการส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องนุ่งห่มในเดือน มกราคม-มีนาคม มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 2,527 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 5.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่การส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่มปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 52 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทะยานสู่ระดับ 887 ล้านดอลลาร์ โดยการเติบโตของมูลค่าการส่งออกสำหรับสินค้าที่ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่ม แสดงให้เห็นถึงความต้องการสินค้าที่ผลิตจากกัมพูชาอย่างมีนัยสำคัญในตลาดโลก เช่นสหรัฐอเมริกา ซึ่งเศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว ส่วนการส่งออกสินค้าเกษตรทำสถิติสูงสุดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 70 รวมมูลค่ากว่า 1,014 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50865678/4-4-billion-in-cambodias-export-of-garment-non-garment-and-agricultural-products/

ปีงบฯ 63-64 เมียนมาส่งออกสินค้าเกษตรพุ่ง 33%

7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2563-2564 การส่งออกสินค้าเกษตรของเมียนมาพุ่งแตะ 33.36% มูลค่า 3.46 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2563-2564 ในปัจจุบัน แม้จะมีข้อจำกัดของการเปิดทำการของธนาคารและมาตรการควบคุมโควิด-19 แถบชายแดน สะท้อนจากการเพิ่มขึ้น 866.066 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากปีงบประมาณ (2562-2563) ที่ 2.59 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อุตสาหกรรมการเกษตรคิดเป็น 22% ของการส่งออกโดยรวม สินค้าส่งออกอันดับต้น ๆ ได้แก่ ข้าวและปลายข้าว เมล็ดถั่ว ข้าวโพด ผักและผลไม้ งา ใบชา แห้งน้ำตาล และผลิตภัณฑ์เกษตรอื่น ๆ ตลาดส่งออกสำคัญ เช่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ บังกลาเทศ อินเดีย อินโดนีเซีย และศรีลังกา แต่บางครั้งตลาดสำคัญยังคงมีความไม่แน่นอนความต้องการของตลาดโลก ปัจจุบันภาครัฐได้เข้ามาช่วยเกษตรกรในการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น การจัดหาเมล็ดพันธุ์ และรับมือกับกับสภาพอากาศที่ยากจะคาดเดา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/agro-exports-up-33-per-cent-this-fy/