เจ้าหน้าที่ของนครหลวงเวียงจันทน์คุมเข้มราคาสินค้าในช่วงวิกฤตการณ์ COVID-19

การแพ่ระบาดของไวรัส covid-19 ในสปป.ลาวทำให้รัฐบาลต้องมีมาตราการต่างๆออกมาเพื่อควบคุมอย่างล่าสุดได้ออกมาตราการ lockdown ในจังหวัดต่างๆ และให้ประชาชนกักตัวตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน -19 เมษายน ทำให้ประชาชนบ้างส่วนมีการกักตุนสินค้าซึ่งทำให้มีผู้ประกอบการบางรายมีการขึ้นราคาสินค้าเกินความเหมาะสม โดยเฉพาะสินค้าที่นิยมอย่างเนื้อหมูที่ประชาชนสปป.ลาวนิยมบริโภคกัน ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดราคาขายปลีกที่ 40,000 kip / kg สำหรับ type 1 (filet และ ribs) และ 38,000 kip / kg สำหรับ type 2 (เบคอนและชิ้นส่วนไขมัน) หากมีร้านค้าใดฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีทั้งปรับและจำคุก ซึ่งมีการตรวจตราจากเจ้าหน้าที่ของภาครัฐอย่างเข้มงวด และประชาชนสามารถแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบถึงการละเมิดราคาได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย

ที่มา : https://laotiantimes.com/2020/04/08/vientiane-economic-officials-patrol-wet-markets-enforces-price-controls/

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวถึงกัมพูชาต้องเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนเรียกร้องให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดที่เกี่ยวข้องในภาคเกษตรในประเทศ ส่งเสริมภาคเกษตรที่สำคัญ ให้มีอาหารเพียงพอต่อคนในประเทศเพื่อการบริโภครวมถึงการส่งออก โดยนายกฮุนเซนได้สั่งให้กระทรวงเกษตรป่าไม้และการประมง รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ให้ความสนใจมากขึ้นในด้านการเกษตร ปศุสัตว์ การประมงและผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อส่งเสริมการเติบโตของประเทศ ในขณะที่เสาหลักเศรษฐกิจแบบดั้งเดิมอื่นๆ อยู่ในความซบเซาเนื่องจากการระบาดของโรคโคโรนาไวรัสในปัจจุบันที่ส่งผลกระทบต่อภาคส่วนอื่นๆ รวมถึงด้านบริการการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมและการก่อสร้าง แต่ถือเป็นโอกาสสำหรับภาคการเกษตรในการมองหามาตรการ เพื่อกระตุ้นการผลิตทำให้กัมพูชาพึ่งพาตนเองแทนการนำเข้าอาหารจากต่างประเทศ ซึ่งการบริการการท่องเที่ยวและภาคอุตสาหกรรมมีการเติบโตที่สูงเป็นเวลาหลายปี ในขณะที่ภาคเกษตรมีการเติบโตเพียงเล็กน้อย แต่ในปีนี้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคนต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อส่งเสริมการเกษตร

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/710823/cambodia-must-boost-agricultural-output-says-prime-minister-hun-sen/

แรงงานกัมพูชากว่า 5 แสนคนคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการยกเลิกคำสั่งซื้อ

สมาคมผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปในกัมพูชา (GMAC) ระบุว่าประมาณ 60% ของโรงงานได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากคำสั่งซื้อที่ถูกยกเลิก เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 โดยเลขาธิการ GMAC กล่าวว่าผู้ซื้อส่วนใหญ่ได้ยกเลิกคำสั่งซื้อจากโรงงานในกัมพูชาไปบ้างแล้ว ซึ่งคำสั่งยกเลิกส่วนใหญ่มาจากทั้งตลาดสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปคิดเป็น 28% และ 46% ของตลาดส่งออกของกัมพูชาตามลำดับ หากทำคำนวณตัวเลขดังข้อมูลข้างต้นจะได้ 74% จากจำนวนพนักงานประมาณ 750,000 คนในภาคการ์เม้นท์ซึ่งเท่ากับพนักงานประมาณ 500,000 คนที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้าเหล่านี้ ในปี 2019 การส่งออกเสื้อผ้ารองเท้าและสินค้าการท่องเที่ยวของกัมพูชามีมูลค่าถึง 9.35 พันล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบเป็นรายปีจากรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและหัตถกรรม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50710646/half-a-million-workers-already-affected-by-cancelled-orders/

องค์การแรงงานระหว่างประเทศ คาดชั่วโมงทำงานทั่วโลกลดลง 6.7% เหตุ COVID-19

องค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ไอแอลโอ (ILO) คาดการณ์ว่า การระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 จะทำให้ชั่วโมงการทำงานของแรงงานทั่วโลก ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ลดลง 6.7% หรือเทียบเท่ากับเวลาการทำงานของลูกจ้างที่ทำงานเต็มเวลา 195 ล้านคน โดยในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่เป็นแรงงานในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น อาเซียน และ ออสเตรเลีย หรือคิดเป็นเวลาการทำงานของแรงงานในภูมิภาคนี้ประมาณ 125 ล้านคน แม้ว่าแรงงานในประเทศจีนจะเริ่มกลับไปทำงานแล้ว โดยในรายงานฉบับนี้ ยังระบุด้วยว่า ขณะนี้ แรงงานมากกว่า 4 ใน 5 ของแรงงานทั่วโลกอาศัยอยู่ในเมืองที่รัฐบาลออกคำสั่งให้ปิดสถานที่ทำงานเต็มเวลาหรือปิดบางเวลา โดยภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ธุรกิจการบริการ ห้องพัก ร้านอาหาร โรงงาน และ ร้านค้าปลีก นอกจากนี้ ไอแอลโอ (ILO) ยังร้องขอให้รัฐบาลแต่ละประเทศออกมาตรการเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนตกงาน พร้อมทั้งแนะนำมาตรการเพื่อแก้ปัญหา เช่น การลดเวลาการทำงาน และมาตรการว่างงานเชิงเทคนิค เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ไอแอลโอ (ILO) ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ไม่ได้ประเมินจำนวนของผู้ที่คาดว่าจะตกงานจากวิกฤตครั้งนี้ แต่คาดว่า น่าจะมากกว่า 25 ล้านคน ตามที่ประเมินไว้เมื่อเดือนที่แล้ว

ที่มา : https://businesstoday.co/cover-story/08/04/2020/ilo-%e0%b8%84%e0%b8%b2%e0%b8%94%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%93%e0%b9%8c%e0%b9%84%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%aa%e0%b9%82%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%94-19-%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%87/

การเติบโตที่แข็งแกร่งของสถาบันทางการเงินรายย่อยที่จดทะเบียนใน CSX

Hattha Kaksekar Ltd และ บริษัท LOLC กัมพูชา จำกัด (มหาชน) ทั้งสองบริษัทได้รายงานการเติบโตของผลประกอบการที่แข็งแกร่งในปีที่แล้วตามรายงานประจำปีที่เกี่ยวข้องกับตลาดหลักทรัพย์ท้องถิ่น โดย LOLC กัมพูชารายงานการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ 61% และยอดเงินฝากเพิ่มขึ้น 95% ซึ่งรวมถึงผู้กู้ที่เพิ่มขึ้น 25% และผู้ฝากเงินเพิ่มขึ้น 86% นอกจากนี้บริษัทกล่าวว่าได้รับส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 10.6% โดย LOLC กำลังมองหาวิธีที่จะเติบโตผ่านกลยุทธ์ของการขยายจำนวนผู้กู้และปรับปรุงคุณภาพสินเชื่อโดยมุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าเป็นหลัก ส่วนประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Hattha Kaksekar Ltd (HKL) กล่าวว่าบริษัทของเขาวางแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้พร้อมประกาศแผนการเปลี่ยนบริษัทจากสถาบันรับฝากเงินรายย่อยสู่การเป็นธนาคารพาณิชย์ โดยในเดือนตุลาคมปีที่แล้วธนาคารแห่งชาติกัมพูชาอนุมัติคำขอของบริษัทในการเพิ่มทุนจาก 75 ล้านเหรียญสหรัฐเป็น 115 ล้านเหรียญสหรัฐ จากรายงานประจำปีพอร์ตสินเชื่อของ HKL สูงกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐและยอดเงินฝากมีมูลค่า 599 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีสาขา 177 สาขาและตู้เอทีเอ็ม 137 แห่งทั่วประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50710321/csx-listed-microfinance-institutions-record-a-very-strong-yearly-growth/

ผู้อำนวยการ NBC กล่าวถึงสกุลเงินเรียลและดอลลาร์ในช่วง Covid-19

ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ได้เรียกร้องให้สาธารณชนเพิ่มการใช้สกุลเงิน riels เพื่อช่วยให้ธนาคารกลางใช้สกุลเงินท้องถิ่นของประเทศเป็นเครื่องมือในการกำหนดมูลค่าและอัตราดอกเบี้ยให้มีเสถียรภาพในตลาดในช่วงวิกฤตการณ์ COVID-19 โดยทั่วไปเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อกระตุ้นให้สถาบันสินเชื่อดำเนินการปล่อยสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยให้การปล่อยสินเชื่อภาครัฐในอัตราดอกเบี้ยต่ำอย่างต่อเนื่อง นี่คือสาเหตุที่ธนาคารกลางเสนอสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อสนับสนุนให้ชาวกัมพูชานำเงินออกไปใช้ในระบบให้เป็นสกุลเงินท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามแม้จะมีนโยบายเหล่านี้สินเชื่อบนสกุลเงิน riels ได้ลดลงจาก 25% ในปี 2559 เหลือ 10% ในปี 2563

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50710320/nbc-director-general-explains-economics-of-riels-and-dollars-during-the-covid-19-crisis/