การระบาดของโรค coronavirus ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกสปป.ลาว

การส่งออกของสปป.ลาวไปยังประเทศจีนยังคงดำเนินต่อไปตามปกติแม้ว่าจีนจะอยู่ในท่ามกลางการแพร่ระบาดของ coronavirus ปัจจุบัน โดยในเดือนธันวาคมที่ผ่านมามูลค่าการส่งออกจากสปป.ลาวไปยังประเทศจีนมีมูลค่าสูงถึง 175 ล้านดอลลาร์สรอ.ทำให้ตลาดส่งออกที่อยู่ติดกับประเทศลาวทางตอนเหนือเป็นที่คาดหมายว่ามูลค่าการส่งออกในเดือนมกราคมจะไม่ลดลงโดยสินค้าที่สำคัญในการส่งออกได้แก่ ทรายแร่ยางและผลิตภัณฑ์ยางทองแดงและทองแดงผลิตภัณฑ์กล้วยข้าวโพดและปุ๋ยประเทศจีนถือเป็นคู่ค้าที่สำคัญทั้งในด้านนักลงทุนต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดในสปป.ลาวและเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองของประเทศ ปัจจัยที่สนับสนุนให้การค้ามีการเติบโตมีหลายปัจจัยทั้งในการลงนามร่วมมือทางค้าหรือในอนาคตอันใกล้ที่โครงการรถไฟจีน – ลาวที่จะเสร็จในปลายปี 63 และจะทำให้การเชื่อมต่อระหว่างจีนและสปป.ลาวสะดวกมากขึ้นและเอื้อต่อการท่องเที่ยวและการค้า  ดังนั้นการคาดการณ์ของรัฐบาลสปป.ลาวจึงมองว่าการแพร่ระบาดของcoronavirusไม่มีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสปป.ลาว

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/china-coronavirus-outbreak-yet-impact-lao-exporters-113161

‘กรมวิชาการเกษตร’ เคลียร์เส้นทางส่งออกผลไม้ไทย มะพร้าวอ่อนเนื้อหอมสุดเตรียมรุกตลาดเวียดนาม

นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 3 -7 กุมภาพันธ์ 2563 นี้ ได้นำคณะเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรและสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เดินทางไปสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยได้เข้าพบนายธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย เพื่อหารือและเตรียมการสำหรับการส่งออกผลไม้ไทยไปจีนในฤดูกาลผลิตและส่งออกผลไม้ในปี 2563 ผ่านประเทศเวียดนาม ซึ่งทางเวียดนามมีความต้องการนำเข้ามะพร้าวอ่อนจากไทย จากข้อมูลการส่งออกผลไม้ไทยทั้งสดและอบแห้งไปยังเวียดนามในปี 2562 พบว่ามีมูลค่ากว่า 26,000 ล้านบาท ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ในการหารือดังกล่าวเพื่อแก้ไขปัญหาที่พบระหว่างการขนส่งสินค้าผลไม้สดไปจีนโดยผ่านประเทศที่สาม และเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการที่ส่งออกผลไม้สดไปจีน เนื่องจากในการส่งออกผลไม้สดจากไทยไปจีนนิยมขนส่งไปทางบก ขณะนี้ กรมวิชาการเกษตรและมกอช.อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อขอให้จีนอนุญาตการขนส่งผลไม้สดผ่านเส้นทางที่มีศักยภาพนอกเพิ่มเติมจากเส้นทางเดิมที่ไทยและจีนมีพิธีสารร่วมกันในปัจจุบัน ได้แก่ เส้นทาง R3A และ R9 เป็นต้น โดยในระหว่างนี้ กรมวิชาการเกษตรจะตรวจสอบและควบคุมให้สินค้าผลไม้สดจากไทยที่ส่งออกไปจีนเป็นไปตามเงื่อนไขในพิธีสารดังกล่าวและสอดคล้องกับเงื่อนไขการนำเข้าของจีนอย่างเคร่งครัด

ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_1943719

จังหวัดบ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่า ดึงดูดเงินลงทุน 174 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากข้อมูลของคณะกรรมการประชาชนประจำจังหวัดบ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่า (Bà Rịa-Vũng Tàu) เปิดเผยว่าในวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการได้รับใบอนุญาต 5 โครงการใหม่และโครงการที่ปรับเพิ่มเงินทุนด้วยมูลค่ารวมกันอยู่ที่ 174 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงการประชุมจากตัวแทนสมาคมองค์กรเศรษฐกิจและนักลงทุนกว่า 300 คน ทั้งนี้ ในปีที่แล้ว จังหวัดดังกล่าวได้ดึงดูดโครงการลงทุนใหม่ 108 โครงการ และโครงจากต่างประเทศ 49 โครงการ ด้วยมูลค่า 623 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมไปถึงโครงการที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินในประเทศด้วยมูลค่า 566 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในปัจจุบัน มีโครงการในประเทศ 960 โครงการ และอีก 390 โครงการที่มาการลงทุนต่างประเทศ ด้วยมูลค่ารวมอยู่ที่ 40.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับประเภทธุรกิจที่นักลงทุนสนใจมากที่สุด ได้แก่ เมืองท่า การท่องเที่ยวและปิโตรเลียม เป็นต้น และคาดว่าภายในจังหวัดจะเน้นการดึงดูดโครงการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและทันสมัย รวมไปถึงแรงงานที่มีทีกษะขั้นสูงรวมไปถึงการพัฒนาสภาพแวดล้อมการลงทุน โครงการสร้างพื้นฐานให้ดีมากยิ่งขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/591796/ba-ria-vung-tau-lures-174m-investment.html

อุตสาหกรรมรองเท้าเวียดนามมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายปีนี้

จากข้อมูลของรองประธานกรรมการและเลขาธิการสมาคมหนังและรองเท้าเวียดนาม (Lefaso) เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมหนังและรองเท้าในประเทศยังคงอยู่ในระดับเกณฑ์ที่ดีที่จะสามารถบรรลุเป้าหมายภายในปีนี้ ซึ่งดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในปี 2563 คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 11 และอัตราผลผลิตในท้องถิ่น (Localisation Rate) ร้อยละ 60 สำหรับยอดการส่งออกรองเท้าและกระเป๋าคาดว่าอยู่ในระดับ 24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยความขัดแย้งของสหรัฐฯกับประเทศคู่ค้านั้นมีแนวโน้มผ่อนคลายลง ขณะที่ เศรษฐกิจโลกน่าจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น คำสั่งซื้อรองเท้าและกระเป๋าได้เปลี่ยนคำสั่งซื้อจากจีนมายังเวียดนาม เพื่อใช้ประโยชน์การให้สิทธิพิเศษทางภาษีสุลกากรจากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ดังนั้น ทางสมาคมคาดว่าความต้องการของผลิตภัณฑ์รองเท้าในตลาดส่งออกหลักจะเพิ่มสูงขึ้นในปีนี้ ประกอบกับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ FDI ส่งผลให้เกิดการขยายตัวด้านผลผลิตและส่งเสริมให้อุตสาหกรรมรองเท้าขยายตัวได้ดีมากขึ้น แต่ว่าอุตสาหกรรมรองเท้ายังคงเผชิญกับอุปสรรคสำคัญ คือ ทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ ซึ่งทางธุรกิจจะต้องพัฒนาหรืออบรมพนักงานที่ไม่ได้มาจากอาชีวศึกษา

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/591790/footwear-industry-likely-to-hit-goals-this-year.html

ราคาขายแตงโมเมียนมาในประเทศลดลงอย่างมาก

การปลูกแตงโมของเมียนมาส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับตลาดจีนเป็นหลักกำลังประสบกับการชะลอตัวครั้งใหญ่ ราคาแตงโมลดลง 50% ในตลาดชายแดนมูเซ และยอดขายลดลงมากถึง 99%  ปกติชายแดนมูเซในช่วงเวลานี้จะมีพ่อค้าจากจีนถึง 600-700 คนมาซื้อในทุกๆวัน แต่ในวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมามีพ่อค้าเพียง 55 รายที่มาซื้อผลผลิตและไม่ใช่ทั้งหมดที่สนใจซื้อแตงโม ปกติแล้วแตงโมประมาณ 12,000 ตันจะถูกส่งไปขายที่จีนในทุกวัน แต่ตอนนี้ยอดขายทั้งหมดยังไม่ถึง 120 ตัน ความต้องการแตงโมจากต่างประเทศมักจะสูงกว่าในดังนั้นเกษตรกรจึงประสบปัญหาจึงไม่มีรายได้เพียงพอที่จะใช้จ่ายในการขนส่ง กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกแตงโม ผู้ผลิต และผู้ส่งออกกำลังเรียกร้องให้ผู้ซื้อภายในประเทศช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการซื้อพืชผลให้มากขึ้น

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/prices-sales-watermelons-plunge-dramatically-myanmar.html

โครงการนำร่องเพื่อส่งเสริมธุรกิจอีคอมเมิร์ซสำหรับ SMEs ในกัมพูชา

กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดตัว “Go4eCam” ซึ่งเป็นโครงการนำร่องที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่ออีคอมเมิร์ซสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของประเทศซึ่งเป็นภาคที่กำลังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งโครงการมีมูลค่าประมาณ 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐระยะเวลาของโครงการประมาณสามเดือนและมีกำหนดที่จะเริ่มดำเนินการในกลางเดือนกุมภาพันธ์ โดยได้รับการสนับสนุนจากหุ้นส่วนการพัฒนาระหว่างประเทศและรัฐบาล ที่เรียกว่า Enhanced Integrated Framework (EIF) ซึ่งเป็นกองทุนที่ให้การสนับสนุนทางการเงินและทางเทคนิคเพื่อสร้างขีดความสามารถทางการค้าใน 48 ประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด ซึ่งรวมถึงประเทศกัมพูชา โดยได้มอบเงินช่วยเหลือประมาณ 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับโครงการ ซึ่งส่วนอื่นมาจากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติและรัฐบาลกัมพูชา โดยกัมพูชามีธุรกิจ SMEs กว่า 500,000 รายซึ่งแปรรูปวัตถุดิบทางการเกษตร 150,000 ราย สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารตามที่สมาคมสมาพันธ์วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งกัมพูชาคาดการณ์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50686950/pilot-project-to-boost-e-commerce-for-kingdoms-smes

ยอดขายตั๋วใน Angkor complex ลดลงจากความกังวลของเชื้อไวรัส Corona

อุทยานโบราณคดีอังกอร์มีรายรับเกือบ 10.5 ล้านเหรียญสหรัฐจากการขายตั๋วในเดือนมกราคมปีนี้ลดลงเกือบ 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยในรายงานล่าสุดของ Angkor Enterprises ซึ่งบริหารจัดการวัดแห่งนี้ ได้กล่าวว่าจำนวนตั๋วที่ขายในสวนสาธารณะนั้นลดลงเกือบ 18% จากเดือนมกราคม 2562 โดยคิดเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 222,560 คน ซื้อบัตรผ่านไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศในจังหวัดเสียมเรียบ ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้เปิดเผยเหตุผลหลักของการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยว แต่เชื่อว่าได้รับผลกระทบจากความกังวลของเชื้อไวรัส Corona โดยตอนนี้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 362 รายและติดเชื้อมากกว่า 17,300 คนทั่วโลก (ตัวเลข ณ 03/02/63) ซึ่งเที่ยวบินไปและกลับจากประเทศจีนลดลงเหลือประมาณ 40 ถึง 50% จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวระบุว่าในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 6.6 ล้านคนเพิ่มขึ้น 6.6% และนักท่องเที่ยวชาวจีนถือว่ามีจำนวนมากที่สุดโดยมีจำนวนมากกว่า 2.3 ล้านคน เพิ่มขึ้นเกือบ 17% จากปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50686837/ticket-sales-at-angkor-complex-are-down-as-coronavirus-frightens-off-large-numbers-of-overseas-tourists