กลุ่มนักธุรกิจไทยเรียกร้องให้มีการดำเนินการต่อต้านสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์มากขึ้น

กลุ่มนักธุรกิจไทยในกัมพูชาเรียกร้องให้รัฐบาลปราบปรามการขายสินค้าปลอมที่ผลิตในประเทศไทยในกัมพูชา จากการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องการปลอมแปลงผลิตภัณฑ์ที่จัดขึ้นโดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญและสภาธุรกิจไทยในกัมพูชา (TBCC) ร่วมกับคณะกรรมการต่อต้านการปลอมแปลง (CCCC) ของกระทรวงมหาดไทย โดยจากรายงานของ CCCC แสดงให้เห็นการปราบปรามในปีที่ผ่านมาได้เปิดโปงสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์กว่า 20 รายการที่จำหน่ายในกัมพูชา ซึ่งสินค้าปลอมส่วนใหญ่จัดอยู่ในสินค้าประเภทอุปโภคบริโภคที่มีสารเคมีเป็นพิษและละเมิดเครื่องหมายการค้า โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาคณะกรรมการได้ทำลายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ไปกว่า 70 ตัน รวมถึงกัมพูชาและไทยได้ตั้งเป้าที่จะเพิ่มการค้าทวิภาคีเป็น 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2563 คิดเป็นการเติบโตที่ 7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนกัมพูชาส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านมูลค่า 685 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 52% แต่ในทางตรงกันข้ามการนำเข้าจากประเทศไทยเพิ่มขึ้นเพียง 1% อยู่ที่ 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50645404/thai-business-community-urges-more-action-against-fake-goods/

อีกครั้งกับการค้นหาข้าวคุณภาพดีที่สุดของกัมพูชา

สหพันธ์ข้าวกัมพูชาได้เรียกร้องให้ผู้ผลิตและผู้ส่งออกข้าวเข้าร่วมการแข่งขันประกวดข้าวแห่งชาติปี 2019 โดยทำการส่งตัวอย่างข้าวเข้าประกวด ซึ่งการแข่งขันข้าวระดับชาติครั้งที่ 4 นี้จะจัดขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน และผู้ผลิตหรือผู้ส่งออกข้าวจะต้องส่งตัวอย่างข้าวไปยัง CRF ภายในกันที่ 25 ตุลาคม หากต้องการเข้าแข่งขัน โดยกำหนดข้าวไว้ 3 ประเภทที่สามารถเข้าแข่งขันได้คือ ข้าวหอมพรีเมี่ยม ,ข้าวหอม และข้าวขาวเมล็ดยาว ซึ่งการแข่งขันจะเน้นไปที่คุณภาพของข้าวหลักทำการปรุงสุกแล้ว และนับตั้งแต่มีการเข้าร่วมการประกวด World Best Rice ประจำปี ข้าวของกัมพูชาได้รับรางวัลชนะเลิศมาแล้วในปี 2555 ,2556 ,2557 และในปีที่ผ่านมา โดยเมื่อปีที่แล้วข้าวหอมพรีเมี่ยมของกัมพูชาได้รับรางวัลข้าวที่ดีที่สุดในการแข่งขันระดับโลกซึ่งจัดขึ้นที่กรุงฮานอยประเทศเวียดนามในระหว่างการประชุม TRT World Rice Conference ครั้งที่ 10 ซึ่งในปัจจุบันกัมพูชาส่งออกข้าวสารไปแล้ว 281,538 ตัน ในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50645419/search-on-again-for-kingdoms-best-quality-rice/

สปป.ลาวจะหยุดการทดสอบคุณภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์

รัฐบาลได้กำหนดให้ยกเลิกการทดสอบคุณภาพสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งนำเข้าผ่านสะพานมิตรภาพสปป.ลาว – ไทย 1 นับตั้งแต่เริ่มดำเนินการการดำเนินการนี้ดูเหมือนจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของขั้นตอนการนำเข้าและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตามการปรับปรุงในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของกระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งการยกเลิกจะช่วยประหยัดเวลาและลดค่าบริการ การประหยัดเวลาและเงินเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพิจารณาแนวทางการอำนวยความสะดวกทางการค้าที่มีประสิทธิภาพ เพื่อปรับปรุงความสะดวกในการจัดอันดับธุรกิจ กระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์กล่าวว่าได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ทำให้การค้าชายแดนสะดวกและรวดเร็วขึ้นมาก

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/laos-stop-quality-testing-electronic-electric-appliances-104729

สปป.ลาว จัดการฝึกอบรมที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวในท้องถิ่นเพื่อนำมาใช้เป็นมาตรฐานการบัญชี

สปป.ลาวมีความกระตือรือร้นที่จะนำมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับการบริหารการเงินภาครัฐผ่านการเสริมสร้างศักยภาพให้กับเจ้าหน้าที่การเงินทั่วประเทศ จัดอบรมร่วมกันระหว่างInstitute of Singapore Chartered Accountants และกระทรวงการเงินสปป.ลาว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Temasek Foundation International เชื่อว่าบทเรียนบางส่วนที่เรียนรู้จากสิงคโปร์และประสบการณ์จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาการบริหารการเงินภาครัฐและทำให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น เจ้าหน้าที่สปป.ลาวที่ผ่านโครงการจะแบ่งปันความรู้กับเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ เพื่อสร้างทีมแกนหลักของเจ้าหน้าที่บัญชีที่มีทักษะ อีกทั้งสอดคล้องกับเป้าหมายของกระทรวงการเงินที่จะสร้างรากฐานเพื่อนำมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศมาใช้ เมื่อเร็ว ๆ นี้กฎหมายด้านภาษีหลายฉบับได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา ดังนั้นเจ้าหน้าที่การเงินจะต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการบัญชี การบังคับใช้กฎหมายเหล่านี้จะมีผลบังคับใช้ในปี 63 ดังนั้นการประชุมการเผยแพร่กฎหมายใหม่ที่จะเกิดขึ้นจะถูกจัดขึ้นพร้อมกับการใช้บทเรียนที่เรียนรู้จากสิงคโปร์ในด้านการบริหารการเงินสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/training-supporting-local-moves-adopt-int%E2%80%99l-accounting-standards-104810

เมียนมาขาดดุลการค้า 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ยอดขาดดุลการค้าคาดว่าจะอยู่ที่ 500 ล้านเหรียญสหรัฐในปีงบประมาณนี้ แต่เมื่อสองสัปดาห์ก่อนสิ้นปีงบประมาณมียอด 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ จากรายงานของกระทรวงพาณิชย์ ปัจจุบันปี 61-62 มูลค่าการส่งออกมีมูลค่า 15.976 พันล้านเหรียญสหรัฐ การนำเข้า 17.218 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ให้ขาดดุลการค้า 1,241 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปีงบประมาณ 60-61 มีมูลค่าการค้ามากกว่า 33 พันล้านเหรียญสหรัฐและขาดดุล 3,365 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อลดการขาดดุลการค้าและส่งเสริมการค้ากระทรวงพาณิชย์กำลังดำเนินมาตรการต่าง ๆ เช่น การใช้แผนพัฒนากลยุทธ์การส่งออกแห่งชาติเพื่อการผ่อนคลาย กระตุ้นเศรษฐกิจภาคเอกชนเพิ่มการผลิตสินค้าที่ได้จากโอกาสของ GSP และการขยายตลาดส่งออก

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/trade-deficit-reaches-over-12-bn

เวียดนามเผยภาคอุตสาหกรรมแปรรูปและบรรจุภัณฑ์มีการเจริญเติบโตสูง

จากข้อมูลของสมาคมผู้ค้าปลีกเวียดนาม (AVR) เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารและบรรจุหีบห่อเวียดนาม มีอัตราการขยายร้อยละ 15-20 ต่อปี และยังสามารถเติบโตได้อีกในหลายๆ ปีข้างหน้า หากแบ่งประเภทอุตสาหกรรมดังกล่าว พบว่ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม มีสัดส่วนการบริโภคต่อเดือนมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 35 ของการบริโภครวม และสามารถประเมินได้ว่าการใช้จ่ายในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มต่อปี จะมีสัดส่วนร้อยละ 15 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในขณะที่องค์กร IMS Health ระบุว่าเวียดนามติดอยู่ อันดับที่ 17 ของตลาดยาทั่วโลก และเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่มีการเติบโตสูงที่สุดร้อยละ 10 ต่อปี ในอุตสาหกรรมยา นอกจากนี้ คาดว่ากลุ่มอาหารเสริมและเครื่องสำอางจะมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และทำให้อุตสาหกรรมบรรจุหีบห่อมีแนวโน้มที่ดีมากขึ้น

ที่มา :   https://english.vov.vn/economy/vietnams-food-processing-packaging-sector-thriving-403575.vov

เวียดนามเผยมูลค่าการส่งออกสินค้าไปยังอิตาลีพุ่งสูงขึ้น

จากข้อมูลของสำนักงานศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 การส่งออกสินค้าชองเวียดนามไปยังประเทศอิตาลี เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.1 เมื่อเทียบกับสัดส่วนการขยายตัวของการส่งออกโดยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.1 ซึ่งในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ขนาดของมูลค่าการส่งออกของเวียดนามไปยังอีตาลี คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.3 ของมูลค่าการส่งออกโดยรวม แสดงให้เห็นว่ากลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ติดอันดับที่ 18 ของโลกที่มีการส่งออกสินค้าไปยังอิตาลี ด้วยข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรป (EVFTA) และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้เร็วๆนี้ ทำให้ปริมาณการส่งออกสินค้าเวียดนามไปยังตลาดสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องมาจากภาษีนำเข้าที่ลดลง ในขณะที่ เวียดนามส่งออกสินค้ากว่า 18 รายการ ไปยังอีตาลี คิดเป็นรายได้มากกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมี 7 รายการสินค้าที่ประกอบด้วย โทรศัพท์และชิ้นส่วน เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า กาแฟ เครื่องจักร และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น โดยโทรศัพท์และชิ้นส่วนประกอบมีสัดส่วนส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างมาก รองลงมาเครื่องนุ่มห่ม และรองเท้า ตามลำดับ

ที่มา: https://english.vov.vn/economy/vietnamese-exports-to-italian-market-enjoy-vast-increase-403562.vov

ทยควง 4 ชาติร่วม’China-Asean Forum’ หวังผนึกกำลังร่วมกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว

ระหว่างวันที่ 19-21 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา ณ มณฑล กวางสี  เมืองหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้จัดการประชุมด้านวัฒนธรรมจีน-อาเซียน ครั้งที่ 14 “The 14 th  China-Asean Cultural Forum” เพื่อสร้างแพลตฟอร์มสำหรับ การสื่อสารเชิงลึกและการคิดเชิงปะทะสำหรับการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและความร่วมมือ ด้านการท่องเที่ยวระหว่างจีน – อาเซียน โดยมีตัวแทนภาครัฐบาล ทั้งจีน อีก 5 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย ลาว กัมพูชา เมียนมา ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และภาคเอกชน ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมหลักของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจีน-อาเซียน เพื่อแบ่งปันแนวปฏิบัติในการพัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ด้านรองผู้ว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและศิลปะของกัมพูชาเชื่อว่า “One Belt One Road” ไม่เพียง แต่จะส่งเสริม การบูรณาการและการพัฒนาของจีนและอาเซียน แต่ยังส่งเสริมวัฒนธรรมเอเชียไปทั่วโลก “One Belt One Road” ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศในเอเชีย

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/nnd/3045081