สปป.ลาว พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะรัฐมนตรีท่องเที่ยวและ Tourism Forum 2024

ขณะนี้ สปป.ลาว กำลังเร่งเตรียมการเพื่อเป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐมนตรีการท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ 27 และการประชุมการท่องเที่ยวอาเซียน (ATF) ครั้งที่ 42 ณ นครเวียงจันทน์ ระหว่างวันที่ 22-27 มกราคม ปีนี้ นำโดย Khom Douangchantha อธิบดีกรมการตลาดการท่องเที่ยว ซึ่งได้เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว (MICT) ได้จัดตั้งคณะกรรมการเตรียมการจำนวน 13 คณะ ซึ่งจะรับผิดชอบในการคัดเลือกสถานที่ และจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย รวมถึงจัดทำการ์ดเชิญสำหรับผู้นำประเทศต่างๆ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมการประชุมมากกว่า 800-1,000 คน ขณะที่ทางการ สปป.ลาว คาดหวังเป็นอย่างมากว่าจะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 2.7 ล้านคน เพื่อหวังกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจหลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ที่มา : https://laotiantimes.com/2023/08/28/laos-gears-up-to-host-asean-tourism-ministers-meeting-tourism-forum-2024/

โรงผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 1.9 MWp ณ โรงบำบัดน้ำบาเค็งเสร็จสมบูรณ์แล้ว

Green Yellow Cambodia (GYC) บริษัทผู้รับรับผิดชอบในการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ณ โรงบำบัดน้ำบาเค็งในประเทศกัมพูชา โดยโครงการดังกล่าวมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 1.9 MWp ในระยะที่ 1 ซึ่งโครงการดังกล่าวประกอบด้วยแผงโซลาร์เซลล์ 3,500 แผง ที่จะให้พลังงานสะอาดแก่โรงงานช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้เป็นอย่างมาก โดยโครงการดังกล่าวได้รับความร่วมมือจาก VINCI Construction Grand Projects (VCGP) ซึ่งเป็นผู้ก่อสร้างโครงการบำบัดน้ำในระดับชาติอย่างโครงการ PPWSA ด้านโรงบำบัดน้ำบาเค็งถือเป็นศูนย์บำบัดน้ำที่สำคัญของกัมพูชาสามารถผลิตน้ำได้มากถึง 390,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน และส่งไปยังพื้นที่เขตเมืองครอบคลุมเมืองพนมเปญและถนนตักเมาในบริเวณชายแดน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501350868/1-9mwp-solar-power-project-at-bakheng-water-treatment-plant-in-cambodia-completed/

นายกฯ สปป.ลาว โทรยินดี ‘เศรษฐา’ ชมประสบการณ์สูง นายกฯใหม่รับปากเยือนประเทศแรก

พรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โทรศัพท์แสดงความยินดีกับ นายเศรษฐา ทวีสิน ในโอกาสได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี และชื่นชมนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์อย่างมาก โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ และเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์และความร่วมมือทวิภาคีระหว่างสองประเทศจะพัฒนายิ่งขึ้นต่อไป พร้อมเชิญนายกรัฐมนตรีเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในโอกาสแรก

ที่มา : https://www.matichon.co.th/politics/news_4151875

มูลค่าการค้าระหว่าง กัมพูชา-สหรัฐฯ ในช่วงครึ่งแรกของปีแตะ 5.3 พันล้านดอลลาร์

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหรัฐฯ ในช่วงครึ่งแรกของปีมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 5.3 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 14 จากมูลค่า 6.2 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามรายงานของสํานักการสํารวจสํามะโนประชากรสหรัฐฯ โดยคิดเป็นการส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ ที่มูลค่า 5.1 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 10.6 จากมูลค่า 5.9 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่คิดเป็นการนำเข้าของกัมพูชาที่มูลค่า 164 ล้านดอลลาร์ ลดลงกว่าร้อยละ 37 จากมูลค่า 260 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ซึ่งสินค้าส่งออกหลักของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ ได้แก่ เครื่องแต่งกาย อุปกรณ์เสื้อผ้า เครื่องหนัง สินค้าสำหรับการเดินทาง เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า ด้านการนำเข้าของกัมพูชา ได้แก่ ยานพาหนะ เครื่องจักรและเครื่องใช้ทางกล เครื่องมือทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์ยาจากสหรัฐฯ เป็นสำคัญ ภายใต้ความต้องการสินค้าเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าการเดินทางจากสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง โดยสหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดที่มีศักยภาพของกัมพูชา เนื่องจากประมาณร้อยละ 40 ของการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชาถูกส่งออกไปยังสหรัฐฯ ซึ่งล่าสุดกระทรวงพาณิชย์กัมพูชาขอให้สหรัฐฯ ต่ออายุโครงการ GSP เพื่อช่วยกระชับความร่วมมือทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกันมากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501350472/cambodia-united-states-trade-reaches-5-3-billion-in-h1/

ผู้ผลิตรองเท้าไนกี้-อาดิดาสในเวียดนาม ปลดพนักงาน 1,200 ตำแหน่ง

สำนักข่าว VnExpress รายงานว่าบริษัท PouYuen Vietnam กิจการในเครือของกลุ่มบริษัท Pou Chen Group ในไต้หวัน จะเลิกจ้างพนักงานที่มีสัญญาการจ้างงานถาวรราว 1,200 คน ในช่วงสิ้นเดือน ส.ค. สาเหตุที่ปลดพนักงานมาจากยอดคำสั่งซื้อชะลอตัวลง และมีลูกค้าเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่มีคำสั่งซื้อ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ที่มีการประกาศปลดพนักงาน บริษัทปลดพนักงานที่มีสัญญาจ้างถาวรในเดือน พ.ค. ประมาณ 6,000 คน หลังจากปลดพนักงานประจำเกือบ 3,000 คนในเดือน ก.พ. นอกจากนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) ระบุว่าในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 มีคนงานตกงานมากกว่า 217,000 คน โดยส่วนใหญ่ทำงานในภาคการผลิตสิ่งทอ รองเท้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ที่มา : https://jordantimes.com/news/business/vietnams-manufacturer-nike-adidas-cuts-1200-jobs

‘แบงก์ชาติเมียนมา’ เล็งปรับดอกเบี้ย หวังพยุงเศรษฐกิจ

ดร.ติน ลิน ออง รองผู้ว่าการธนาคารกลางเมียนมา (CBM) กล่าวที่ในประชุมสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) ครั้งที่ 22 ว่าธนาคารกลางจะปรับอัตราดอกเบี้ย เพื่อจัดการภาวะเศรษฐกิจมหภาค ขณะที่ประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนา เตรียมการรับมืออัตราดอกเบี้ย เพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ตั้งแต่เดือน พ.ค. 2565 โดยดัชนีราคาผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นผลมาจากค่าเงินจั๊ตที่อ่อนค่าลงในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ รวมไปถึงการนำเข้าที่สูงขึ้น ส่งผลให้เกิดการขาดดุลการค้าขยายไปวงกว้างขึ้น ด้วยเหตุนี้ แนวโน้มของการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลในเชิงลบต่อเศรษฐกิจของประเทศ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/cbm-to-adjust-interest-rate-on-macroeconomics/#article-title

สปป.ลาว-ไทย ทุ่มงบสร้างทางด่วนเชื่อมเวียดนาม

เจ้าหน้าที่ สปป.ลาว และไทย ได้หารือร่วมกันเกี่ยวกับแผนความเป็นไปได้ในการสร้างทางด่วนระยะทาง 160 กม. จากสะหวันนะเขตตอนกลางของ สปป.ลาว ไปยังด่านชายแดนลาวบาวของเวียดนาม ด้านรองผู้ว่าการสะหวันนะเขต นาย Senesak Soulysak ได้เสนอแผนการก่อสร้างทางพิเศษต่ออดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ และเจ้าหน้าที่ไทยฝ่ายอื่นๆ รวมถึงรายงานเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างโรงแรมระดับ 5 ดาว สนามกอล์ฟ ตลอดจนบริการขนส่งระหว่างประเทศ เพื่อจะส่งเสริมการพัฒนาในจังหวัด ซึ่งปัจจุบันการลงทุนจากต่างประเทศใน สปป.ลาว เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในภาคพลังงานหมุนเวียน สำหรับทางด่วนคาดว่าจะส่งเสริมปริมาณการค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากจังหวัดตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยถือเป็นกลุ่มนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่อันดับสอง ในจังหวัดสะหวันนะเขต รองจากจีน

ที่มา : https://vir.com.vn/laos-thailand-mull-over-building-expressway-linking-to-vietnam-104642.html

กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังอินเดียโตกว่าร้อยละ 43

ในช่วง 7 เดือนแรกของปี กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังอินเดียมูลค่ารวมกว่า 140.93 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 42.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายงานโดยกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) ขณะที่การส่งออกไปยังจีนของกัมพูชาปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.2 ไปยังเวียดนามขยายตัวร้อยละ 20.6 และไปยังสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 9.1 ในช่วงเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ยังคงมีส่วนแบ่งการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดที่ร้อยละ 38.3 ของการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชา รองลงมาคือเวียดนามและจีน ที่ร้อยละ 11.8 และร้อยละ 6 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม การนำเข้าของกัมพูชาจากอินเดียลดลงร้อยละ 18.1 ที่มูลค่า 127.56 ล้านดอลลาร์ ทำให้กัมพูชาเกินดุลการค้ากับอินเดียที่มูลค่า 13.36 ล้านดอลลาร์ ด้าน Pan Sorasak อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตั้งข้อสังเกตว่าการส่งออกไปยังอินเดียที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นผลมาจากโครงการปลอดภาษี (Duty-Free Tariff Preference: DFTP) ที่ได้เปิดตัวเมื่อปี 2018

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501348223/cambodias-exports-to-india-rise-by-43/

กัมพูชาดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 3 ล้านคน ภายในช่วง 7 เดือนแรกของปี

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชารายงานสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยว ในช่วง 7 เดือนแรกของปี โดยกัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณกว่า 3.03 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 308 จากจำนวน 743,459 คน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยถือเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญของกัมพูชา สำหรับในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ค. ปีนี้ ตามมาด้วยเวียดนาม จีน สปป.ลาว และสหรัฐฯ เป็นสำคัญ ด้านกระทรวงกล่าวเสริมว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะมาเยือนกัมพูชาคาดว่าจะสูงถึง 7 ล้านคน ภายในปี 2025 ซึ่งสูงกว่าในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ 6.6 ล้านคน ในปี 2019 โดยภาคการท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในสี่เสาหลักสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา นอกเหนือจากภาคการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูป ภาคเกษตรกรรม การก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501348457/cambodia-attracts-three-million-international-tourists-in-seven-months/

ปลัดพาณิชย์ เผยส่งออกไทยทรุด ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 เหตุเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนกรกฎาคม 2566 มีมูลค่า 22,143.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 764,444 ล้านบาท หดตัว 6.2% ซึ่งติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ส่งผลให้การส่งออกไทย 7 เดือนแรกของปี 2566 หดตัว 5.5% เป็นผลจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ของโลกลดต่ำลงมากจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งในยูเครน ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องชะลอลงอย่างมาก ประกอบกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในหลายภูมิภาค และความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ส่งผลให้การบริโภคชะลอตัว อีกทั้งจีนซึ่งเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลกฟื้นตัวช้าลง จากกำลังซื้อในประเทศที่หดตัว เพราะขาดความเชื่อมั่นทางธุรกิจ โดยมูลค่าส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัว 9.6% หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ ยางพารา, อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป, น้ำตาลทราย, ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และไก่แปรรูป เป็นต้น มูลค่าส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม หดตัว 3.4% หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน อาทิ สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน, เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ, ผลิตภัณฑ์ยาง, ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม
ที่มา : https://ch3plus.com/news/economy/morning/363399