คาดอุตสาหกรรมปศุสัตว์ในกัมพูชากำลังจะเติบโต

ภาคปศุสัตว์ในกัมพูชาคาดว่าจะเติบโตขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 1.1 ในปีนี้ โดยอัตราการเติบโตจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 1.6 ในปี 2564 ตามรายงานล่าสุดจากรัฐบาล ซึ่งเป็นไปตามความคาดหวังของการเลี้ยงสัตว์เชิงพาณิชย์ขนาดเล็กและขนาดใหญ่โดยเฉพาะสุกรและไก่สด รวมถึงส่งผลให้คนในท้องถิ่นได้บริโภคเนื้อสัตว์ในราคาที่เหมาะสม โดยรัฐบาลมีการสนับสนุนและจะช่วยสร้างงานและสร้างรายได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแรงงานกลุ่มที่อพยพกลับมายังประเทศรวมถึงแรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าที่ได้รับผลกระทบในช่วงวิกฤตการณ์ COVID-19 ซึ่งประธานสมาคมผู้เลี้ยงปศุสัตว์กัมพูชากล่าวว่าสัตว์ปีกถือเป็นกลุ่มที่มีการศักยภาพมากที่สุด โดยสังเกตเห็นว่าไก่และเป็ดประมาณ 10,000-12,000 ตัว ถูกส่งไปยังตลาดในประเทศทุกวัน รวมถึงภายในประเทศมีปัญหาการขาดแคลนเนื้อหมูอยู่ประมาณ 300 ตันต่อวัน หรือคิดเป็นหมูสดประมาณ 3,000 ตัว ทำให้มองเห็นถึงโอกาสในด้านการพัฒนาอุตสาหกรรม เพื่อตอบสนองต่ออุปสงค์ภายในประเทศ และเพื่อการส่งออกในอนาคต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50737483/animal-husbandry-to-rise/

ภาคการก่อสร้างในกัมพูชาประสบปัญหากับการเติบโตที่ต่ำลง

หนึ่งในเสาหลักทางเศรษฐกิจที่สำคัญของกัมพูชาคือภาคการก่อสร้างถูกกำหนดให้มีอัตราการเติบโตติดลบในปีนี้ ซึ่งไม่เคยเห็นมาตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินระหว่างปี 2550 ถึง 2552 โดยภาคนี้มีช่วงการเติบโตที่น่าประทับใจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากตัวเลขอย่างเป็นทางการจากกระทรวงการจัดการที่ดินการวางผังเมืองและการพิจารณาคดีการลงทุน มีมูลค่าถึง 11 พันล้านดอลลาร์ในปี 2562 เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 90 เมื่อเทียบกับปี 2561 จำนวน 5.5 พันล้านดอลลาร์ ในแง่ของผลกระทบจาก COVID-19 ภาคนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ติดลบร้อยละ 5.3 ในปี 2563 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 3.3 ในปีหน้าตามรายงานฉบับล่าสุดของกระทรวงเศรษฐกิจ และการเงิน ซึ่งภาคการก่อสร้างที่ลดลงอย่างมากนี้ส่งผลให้คาดการณ์ว่าการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ลดลงตามไปด้วย โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปีมีการอนุมัติ 1,547 โครงการ เพิ่มขึ้น 322 โครงการในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว มีมูลค่าประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 หรือคิดเป็น 6.8 ล้านตารางเมตร

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50736882/construction-suffers-from-low-growth/

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวถึงงบประมาณภายในประเทศกัมพูชา

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวว่ากัมพูชาเริ่มดำเนินงบประมาณเข้าสู่จุดสมดุล โดยรัฐบาลได้เตรียมกองทุนสำรองฉุกเฉินมูลค่า 800 ล้านถึง 2 พันล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของกัมพูชาหลังจากการระบาดของ COVID-19 โดยระบุว่ากองทุนจะถูกใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและความเหมาะสม ตามแผนงบประมาณยุทธศาสตร์ระดับชาติของรัฐบาล (2564-2566) นายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในปี 2563 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ -1.9 ซึ่งรัฐบาลวางแผนที่จะลดงบประมาณของรัฐในปี 2564 ประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วนลดลงร้อยละ 50 จากงบประมาณของรัฐในปีนี้รวมถึงการลดลงร้อยละ 11.3 สำหรับกิจการสังคมและร้อยละ 6.4 สำหรับการบริหารทั่วไป ตามที่รัฐบาลคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีนี้จะสามารถควบคุมได้ที่อัตราร้อยละ 2.8 อย่างไรก็ตามในปีหน้าอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะเพิ่มเป็นร้อยละ 3.1 เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับอาหารและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในตลาด

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50736883/pm-hun-sen-says-budget-balanced/

กัมพูชาวางแผนจัดการหลังการแพร่ระบาดของ Covid-19

นักวิชาการและเจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐกล่าวว่าการฟื้นฟูเศรษฐกิจของกัมพูชาในยุคหลัง COVID-19 กัมพูชาควรมุ่งเน้นไปที่ฐานการผลิต พัฒนาทรัพยากรมนุษย์และเทคโนโลยี โดยกระจายสาขาหลักเพื่อสนับสนุนภาคอื่นๆ จากการวิจัยพื้นฐานรวมถึงการปรับเปลี่ยนภาคการเกษตรให้ทันสมัยต่อโลก ณ ปัจจุบัน ซึ่งการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในปัจจุบันขึ้นอยู่กับการส่งออกเสื้อผ้าและรองเท้า การท่องเที่ยว การก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการเกษตร โดยในปัจจุบันการส่งออกเสื้อผ้า รองเท้าและการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของ Covid-19 ผ่านการพูดคุยอภิปรายหัวข้อช่วงหลังโคโรนาไวรัส ซึ่งจัดทำโดยราชบัณฑิตยสถานแห่งกัมพูชา (RAC) เพื่อตอบสนองต่อวิสัยทัศน์ของรัฐบาลและเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลัง COVID-19 ระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องเตรียมการศึกษาวิจัยและจะต้องให้ความสนใจกับฐานการผลิตภายในประเทศ โดยเศรษฐกิจกัมพูชาอาจหดตัวมาอยู่ที่ร้อยละ 1.9 ในปีนี้เนื่องจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ตามที่นายกรัฐมนตรีฮุนเซนได้กล่าวถึงในการวางแผนงบประมาณสำหรับปี 2564-2566 ขณะที่กัมพูชาได้กล่าวถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากคู่ค้า โดยเศรษฐกิจของกัมพูชาอาจจะกลับมาอยู่ที่เติบโตร้อยละ 3.5 ในปี 2564 เนื่องจากการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์จากต่างประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50736572/how-to-survive-post-covid-19/

SSCA ส่งมอบแผนแม่บทสำหรับการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ในเสียมเรียบ

สำนักเลขาธิการการบินพลเรือนกัมพูชา (SSCA) ได้เสนอแผนแม่บทสำหรับสนามบินนานาชาติเสียมราฐอังกอร์แห่งใหม่ โดยแผนการดังกล่าวถูกส่งมอบให้กับประธานคณะกรรมการสนามบินนานาชาติเสียมราฐอังกอร์ (AIAI) ซึ่งกล่าวว่าองค์กรได้เริ่มก่อสร้างสนามบินนานาชาติเสียมเรียบแห่งใหม่แล้วตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมปีนี้และจะมีกำหนดจะสร้างสนามบินให้เสร็จภายในวันที่ 14 มีนาคม 2566 ในส่วนของกระบวนการก่อสร้างนั้น บริษัท ได้ให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับทีมเทคนิคของสำนักเลขาธิการการบินพลเรือนโดยเน้นไปที่อุปกรณ์ทางเทคนิคและการออกแบบสนามบิน โดยโฆษกของ SSCA กล่าวว่าแผนแม่บทต้องได้รับการยอมรับจากหน่วยงานการบินก่อน จากนั้นคณะรัฐมนตรีจะตรวจสอบและอนุมัติให้เสร็จสิ้น ในปัจจุบันขณะนี้การพัฒนาสนามบินนานาชาติเสียมราฐใหม่นั้นเสร็จสมบูรณ์ประมาณร้อยละ 25 ซึ่งรวมถึงการเตรียมที่ดินสำหรับอาคารผู้โดยสารและฐานรากของรันเวย์ โดยแผนแม่บทจะช่วยให้บริษัทและรัฐบาลทราบถึงกระบวนการสร้างทั้งในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ซึ่งสนามบินแห่งใหม่จะมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศกัมพูชาตั้งอยู่ห่าง 51 กม. ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเสียมเรียบและ 40 กม. จากอุทยานโบราณคดีอังกอร์ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 700 เฮกตาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50736589/ssca-hands-over-masterplan-for-new-siem-reap-airport/

กัมพูชาส่งออกสินค้าการเกษตร 2 ล้านตัน ในช่วง 5 เดือนแรกของปี

กัมพูชามีการส่งออกสินค้าเกษตรจำนวน 1.9 ล้านตัน ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากผลผลิตทางการเกษตรทั้งหมดที่ส่งออกข้าวสารมีสัดส่วนประมาณ 350,000 ตัน คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 42 โดยอธิบดีกรมวิชาการเกษตรกระทรวงเกษตรป่าไม้และประมงกล่าวว่าการส่งออกข้าวมีสัดส่วนมากที่สุดของการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด ซึ่งจีนถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการส่งออกข้าวข้าวของกัมพูชา จากแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นนี้กัมพูชาคาดว่าจะส่งออกข้าวสารได้ถึง 8 แสนตัน หรือ 1 ล้านตัน ภายในสิ้นปีนี้ ไปจนถึงการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมดอาจจะสูงถึง 5 ล้านตันภายในสิ้นปี โดยกัมพูชามีพื้นที่เพาะปลูกรวม 4.8 ล้านเฮกเตอร์ และมีพืชที่มีศักยภาพเพื่อการส่งออก ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ มะม่วง ข้าวโพด กล้วย ลำไย พริกไทย และแก้วมังกรตามที่กระทรวงระบุ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วกัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตร 4.8 ล้านตัน ไปยังตลาดต่างประเทศรวมถึงอาเซียน สหภาพยุโรปและจีน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50736330/cambodia-exports-two-million-tonnes-of-agricultural-products-in-first-five-months/

กัมพูชาเร่งพัฒนาภาคเกษตรกรรม การท่องเที่ยวภายในประเทศ และ SMEs

กัมพูชาจำเป็นต้องเร่งส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวภายในประเทศ การเกษตรและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 หลังจากการประชุมเรื่อง “สิ่งที่ประเทศกัมพูชาควรเตรียมที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจหลัง COVID-19” ซึ่งเศรษฐกิจของกัมพูชาจะไม่สามารถฟื้นตัวได้เลยจนกว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ สนับสนุนการท่องเที่ยวและสินค้าเกษตรอินทรีย์ รวมถึงลดต้นทุนการผลิตในภาคการขนส่งและการพัฒนาของ SMEs โดย ณ ปัจจุบัน SMEs ภายในประเทศได้เริ่มจ้างงานประมาณร้อยละ 70 ของภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด แต่ยังคงขาดแคลนเทคโนโลยีและแรงงานที่มีทักษะสูง เพื่อเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจของกัมพูชาอาจหดตัวมาอยู่ที่ร้อยละ 1.9 ในปีนี้เนื่องจากการระบาดของ COVID-19

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50736309/agriculture-domestic-tourism-and-smes-are-the-catalysts-to-restore-the-economy/

กัมพูชาออกคำสั่งชะลอการเสียภาษีในการยื่นแบบแสดงรายการทางอิเล็กทรอนิกส์ 3 เดือน

กรมสรรพากรทั่วไป (GDT) ได้ให้เวลากับบริษัทในการยื่นภาษีเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทบางแห่งที่ไม่พร้อมสำหรับวิธีการยื่นแบบอิเล็กทรอนิกส์รูปแบบใหม่ โดยการประกาศดังกล่าวระบุว่าหลังจากได้รับข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน กระทรวงเศรษฐกิจและการเงินได้ตัดสินใจที่จะชะลอตัวในการยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ซึ่ง GDT ดำเนินการอย่างเป็นทางการในการจัดเก็บข้อมูลในระบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้เสียภาษีที่มีขนาดธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่โดยเริ่มต้นในเดือนนี้ ซึ่งผู้อำนวยการของ GDT กล่าวในระหว่างรายงานการพัฒนาบริการ e-tax ในรูปแบบออนไลน์ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาว่าในปัจจุบันแผนกภาษีได้มีการพัฒนาระบบอัตโนมัติอย่างจริงจังเพื่อให้บริการด้านภาษีที่รวดเร็วโปร่งใสและสะดวกแก่ผู้เสียภาษีทุกคน โดยจนถึงตอนนี้กรมได้เปิดตัวบริการใหม่ๆหลายบริการเช่น e-Payments, e-register, e-data, e-uploaders, e-VAT และ e-filing

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50735452/tax-dept-provides-3-more-months-for-e-filing-returns/

เทศกาล Sea Festival คาดช่วยขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวของกัมพูชา

การเฉลิมฉลองเทศกาลทางทะเลของกัมพูชาจะยังคงดำเนินต่อไปตามแผนที่วางไว้ในปลายเดือนธันวาคมปีนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นในเมืองสีหนุวิลล์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้กัมพูชาเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพระดับโลก โดยเทศกาลจะจัดขึ้นทุกปีในจังหวัดชายฝั่งทะเลที่แตกต่างกันไป เช่น กัมปอต, แกบ, พระสีหนุและเกาะกง สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ซึ่งในปีนี้นับเป็นครั้งที่สามที่จัดขึ้นที่สีหนุวิลล์ในช่วงที่ผ่านมาเก้าครั้ง ซึ่งจะมีการจัดแสดงความบันเทิง รวมถึงแสดงผลงานที่ทำขึ้นในท้องถิ่น สินค้าต่างๆ อาหารริมทางและการแข่งขันกีฬาและกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกล่าวว่างานเทศกาลทะเลที่กำลังจะมาถึงจะมีส่วนช่วยส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวของกัมพูชาในระดับสากล ซึ่งกระทรวงได้วางแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยสำหรับธุรกิจการขนส่งทางบกและทางน้ำเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสและส่งเสริมความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในประเทศพร้อมเตือนว่าทุกธุรกิจที่ไม่ปฏิบัติตามหรือใช้มาตรการ อย่างเหมาะสมอาจจะถูกระงับใบอนุญาตทันทีตามมาตรา 44 ของกฎหมายการท่องเที่ยว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50735633/sea-festival-to-go-ahead-hoping-to-promote-hard-hit-tourism-sector/

กัมพูชาคาดหวังสำหรับการเริ่มต้นใหม่ของภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศ

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในกัมพูชาอาจจะฟื้นตัวได้ในปี 2025 จากการระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ ภายในประเทศ โดยหากทุกประเทศทั่วโลกสามารถควบคุมการระบาดของ Covid-19 ได้ร้อยละ 70 ในปลายปีนี้การเติบโตของภาคการท่องเที่ยวในกัมพูชาคาดว่าจะฟื้นตัวประมาณร้อยละ 30 ในปี 2021 และ 2022 กล่าวโดยประธานสมาคมการท่องเที่ยวแห่งเอเชียแปซิฟิกประเทศกัมพูชาบทที่ (PATACC) ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน 2020 กัมพูชาได้ให้การต้อนรับชาวต่างชาติเพียงประมาณ 1.16 ล้านคน ตามตัวเลขจากกระทรวงการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือนกัมพูชา 4,841 คน ในเดือนเมษายน คิดเป็นการลดลงถึงร้อยละ 99.1 เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50734635/hopes-for-early-tourism-resumption-dashed/