ไวรัสโคโรน่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจคาสิโนในท้องถิ่นของกัมพูชา

          ผู้ประกอบการคาสิโน Donaco International Ltd. กล่าวว่ายังไม่ได้สังเกตเห็นผลกระทบใดๆ ต่อธุรกิจจากเชื้อไวรัส Coronavirus ที่ Star Vegas ของกัมพูชา ซึ่งเป็นคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดใน ปอยเปต โดยการระบาดของไวรัสซึ่งประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพระดับโลกโดยองค์การอนามัยโลกได้รับการตั้งชื่อว่า CoVid-19 มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 1,600 คนและมีผู้ติดเชื้ออีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งบริษัทกล่าวว่าการข้ามพรมแดนจากประเทศไทยไปยังปอยเปตยังคงเปิดตามปกติ อย่างไรก็ตามมีความกังวลว่าความกลัวของการแพร่ระบาดจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในกัมพูชาหากการระบาดยังคงมีอยู่ โดยในระยะยาวหากความพยายามในการควบคุมเชื้อไวรัสไม่ประสบความสำเร็จย่อมมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม สำหรับช่วง 11 วันแรกของเดือนกุมภาพันธ์คาสิโนได้ทำการต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งหมดจำนวน 1,374 คน โดยเฉลี่ยประมาณ 125 ต่อวัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50691641/donaco-says-local-casino-business-has-not-been-hit-by-coronavirus

กัมพูชาลดการพึ่งพาการนำเข้าปูนซีเมนต์จากต่างประเทศ

รายงานจากกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานระบุว่าโรงงาน 4 แห่งในกัมพูชาผลิตซีเมนต์ได้ 7.89 ล้านตันในปี 2562 ทำให้ประเทศสามารถลดปริมาณการนำเข้าที่ป้อนให้แก่ภาคการก่อสร้างที่กำลังเฟื่องฟู โดยธนาคารแห่งชาติกัมพูชารายงานภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคและการธนาคารประจำปี 2562 และ 2563 ระบุว่าในปี 2562 มีการนำเข้าปูนซีเมนต์มูลค่ามากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้นจาก 90 ล้านสหรัฐในปี 2561 ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานกล่าวว่าในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วการเติบโตของภาคการก่อสร้างส่งผลให้ความต้องการวัสดุก่อสร้างรวมถึงปูนซีเมนต์ซึ่งกัมพูชาต้องนำเข้ามารองรับความต้องการใน อย่างไรก็ตามเนื่องจากภาคการก่อสร้างที่เติบโตอย่างรวดเร็วทำให้ปูนซีเมนต์ที่ผลิตในประเทศไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างเต็มที่จึงจำเป็นต้องทำการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยจำนวนโครงการก่อสร้างทั้งหมดมีจำนวน 4,446 แห่งในปี 2562 เพิ่มขึ้น 55% จากปี 2561 จากการลงทุนมูลค่า 9.3 พันล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 78% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งนายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวกับซีเมนต์ที่ผลิตในประเทศกว่า 8 ล้านตันกัมพูชาจะช่วยประหยัดต้นทุนการนำเข้าได้ประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50690282/cambodia-reduces-reliance-on-imported-cement

เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในกัมพูชาต้องรับกับสภาวะราคายางตกต่ำ

เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราภายในประเทศกัมพูชาได้แสดงความกังวลเป็นอย่างมากต่อภาคการเพาะปลูกยางพาราในปัจจุบันในขณะที่บริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดพยายามดิ้นรนเพื่อให้อยู่รอดหลังจากราคายางตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี โดยรองประธานของ An Mady Group บริษัทผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ยางอธิบายถึงปัญหาในด้านราคายางของกัมพูชาที่ราคาตกต่ำ รวมถึงยังส่งผลกระทบต่อตลาดยางในมาเลเซียและไทยซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตยางรายใหญ่ของโลก โดยเน้นย้ำว่าสงครามการค้าเสรีระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งในปัจจุบันบริษัทต้องจ่ายภาษีส่งออก 50 เหรียญสหรัฐต่อตัน โดยเมื่อเร็วๆนี้ได้ออกข้อเสนอให้รัฐบาลพิจารณาลดอัตราภาษีปัจจุบัน ในปี 2562 กัมพูชาส่งออกยางเกือบ 300,000 ตันเพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สร้างรายได้เกือบ 400 ล้านเหรียญสหรัฐด้วยราคาเฉลี่ยที่ 1,336 เหรียญต่อตัน ซึ่งหากผู้ประกอบการต้องการกำไรจากการเพาะปลูกจำเป็นต้องขายที่ประมาณ 1,500 เหรียญสหรัฐต่อตัน ถึงจะเกินต้นทุนด้านการผลิต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50690273/local-rubber-farmers-suffer-from-a-decade-of-low-prices

กัมพูชาส่งออกมะม่วงมากกว่า 5.8 หมื่นตันในปี 2562

กัมพูชาส่งออกมะม่วงมากกว่า 58,000 ตัน ไปยังตลาดต่างประเทศในปี 2562 ซึ่งรายงานโดยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและโฆษกของกระทรวงพาณิชย์เมื่อเร็วๆนี้ โดยตลาดสำหรับการส่งออกมะม่วงในปี 2562 ยังคงดำเนินต่อไป ในกลุ่มคู่ค้าสำคัญ เช่นสหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก เบลเยียม ออสเตรเลียเป็นต้น ที่เป็นตลาดศักยภาพในสินค้ามะม่วงของกัมพูชา ซึ่งถูกส่งออกทั้งโดยตรงและผ่านประเทศเพื่อนบ้านทั้งในรูปแบบมะม่วงสดและแยมมะม่วง โดยกระทรวงพาณิชย์กำลังพิจารณาที่จะขยายตลาดต่างประเทศสำหรับมะม่วงของกัมพูชาเพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เพื่อการส่งออก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50690166/over-58000-tonnes-of-cambodian-mangoes-exported-in-2019

กัมพูชาจ่ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากความต้องการภายในประเทศ

เนื่องจากความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นและกิจกรรมด้านการพัฒนาเพิ่มขึ้นจนทำให้แหล่งจ่ายหรือสถานีจ่ายไฟในกัมพูชาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามรายงานของกระทรวงเหมืองแร่และพลังงาน โดยรายงานระบุว่าสถานีจ่ายไฟสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าจาก 2,635 เมกะวัตต์ ในปี 2018 เป็น 3,382 เมกะวัตต์ ในปี 2562 เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งพลังงานถูกสร้างขึ้นจากแหล่งต่างๆ ที่รวมอยู่ทั้งเขื่อน โรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงไฟฟ้าดีเซลและแผงเซลล์แสงอาทิตย์ โดยในปี 2562 แหล่งพลังงานหลักของกัมพูชาคือเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ 7 แห่ง ซึ่งผลิตพลังงานได้รวม 1,328 เมกะวัตต์ คิดเป็น 33.5% ของแหล่งพลังงานทั้งหมดภายในประเทศ ส่วนแหล่งพลังงานจากอื่นๆรวม 675 เมกะวัตต์ มาจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน 627 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าดีเซลและจากพลังงานทดแทนอีก 123 เมกะวัตต์ โดยกัมพูชานำเข้าพลัง 626 เมกะวัตต์ จากเพื่อนบ้าน เช่นประเทศไทย เวียดนามและสปป.ลาวในปี 2562 เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50690046/cambodias-power-supply-up-nearly-30-percent-as-demand-increases

รถไฟเชื่อมระหว่างกัมพูชาและไทยใกล้ที่จะเปิดทำการในเร็วๆนี้

เจ้าหน้าที่การรถไฟของกัมพูชาและไทยจะประชุมเพื่อหารือเรื่องการขนส่งทางรถไฟข้ามพรมแดนระหว่างประเทศ โดยปลัดกระทรวงโยธาธิการและการขนส่งกล่าวว่าข้อตกลงด้านการขนส่งทางรถไฟข้ามพรมแดนได้ลงนามไว้ตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว แต่ยังไม่ได้ดำเนินการหรือเปิดทำการ ซึ่งการเชื่อมต่อใหม่จะช่วยให้การขนส่งสินค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดต้นทุน ปรับปรุงความปลอดภัย ลดปัญหาการจราจรติดขัดและมีส่วนช่วยในการพัฒนาของทั้งสองประเทศรวมทั้งเพิ่มการเชื่อมโยงเพิ่มเติมกับสมาชิกอาเซียนและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งรัฐบาลของทั้งสองประเทศคาดหวังว่าจะปรับปรุงการขนส่งและส่งเสริมการค้า นอกจากนี้ยังเปิดตัวสะพานมิตรภาพ Stung Bot – Ban Nong Ian เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าระหว่างสองประเทศอีกด้วย  โดยเส้นทางรถไฟสายเหนือจะเชื่อมต่อกัมพูชาและไทยเริ่มต้นที่กรุงพนมเปญและเดินทางไปยังปอยเปตที่ชายแดนไทยระยะทาง 386 กิโลเมตร ซึ่งจากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์พบว่าการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและไทยอยู่ที่ 9.41 พันล้านเหรียญสหรัฐ ณ ปี 2562 เพิ่มขึ้นจาก 8.39 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2561

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50689585/cambodia-thailand-railway-a-stop-nearer-being-ready

ภาคการส่งออกของกัมพูชาไปยังไทยเพิ่มขึ้นกว่า 195% ในปี 2562

ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงพาณิชย์แสดงให้เห็นว่าตั้งแต่เดือนมกราคมถึงธันวาคมปีที่แล้วกัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่า 2.27 พันล้านเหรียญสหรัฐไปยังประเทศไทยคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 195% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งสำหรับการนำเข้าของกัมพูชาอยู่ที่ประมาณ 7.1 พันล้านเหรียญสหรัฐสำหรับผลิตภัณฑ์จากประเทศไทยลดลง 6% เมื่อเทียบกับปี 2561 โดยโฆษกของกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่ารัฐบาลกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อลดการขาดดุลการค้ากับไทย จนถึงตอนนี้รัฐบาลได้ผลักดันการส่งออกในปริมาณที่สูงขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ ซึ่งในปี 2561 การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชากับไทยมีมูลค่าอยู่ที่ 8.38 พันล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้นจาก 6.18 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50689838/cambodias-exports-to-thailand-increase-by-195-in-2019

สนามบินมณฑลคีรีร่วมวางแผนสำหรับภูมิภาคท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ใหญ่ที่สุดในกัมพูชา

กระทรวงเศรษฐกิจและการเงินระบุว่าจังหวัดมณฑลคีรีได้รับการยอมรับให้เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงเกษตรและนิเวศน์ที่ใหญ่ที่สุดในกัมพูชา โดยการศึกษาความเป็นไปได้รวมถึงการยกระดับสนามบินสำหรับเมืองหลวงเซน โมโนรม ซึ่งมณฑลคีรีเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุดในกัมพูชามีพื้นที่มากกว่า 14,000 ตารางเมตรโดย เซน โมโนรม ห่างจากกรุงพนมเปญประมาณ 390 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของแม่น้ำสามสายและน้ำตก Bou Sra ที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ยังมีป่าเขตร้อนบริสุทธิ์ตามฤดูกาลและพื้นที่คุ้มครองสัตว์ป่า ซึ่งโฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวได้กล่าวเสริมถึงมณฑลคีรีว่าสามารถเป็นศูนย์กลางหลักของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และการผจญภัยได้ รวมถึงประธานสมาคมตัวแทนการท่องเที่ยวกัมพูชายังกล่าวว่าภาคการท่องเที่ยวมีการชะลอตัวลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและส่งผลกระทบต่อภาคเอกชนเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงนี้ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและผู้ประกอบการท่องเที่ยวกำลังได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัวโคโรนาที่กำลังระบาดอยู่ในปัจจุบัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50687605/airport-will-aid-plans-for-biggest-eco-tourism-region-in-cambodia

สนามบินกัมพูชาร่วมมือในการพัฒนาศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศแห่งใหม่

สนามบินกัมพูชาและบริษัทการลงทุนต่างประเทศ (OCIC) ได้แสดงความคืบหน้าในการหารือเกี่ยวกับการพัฒนาสนามบินนานาชาติพนมเปญซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า โดยความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายผ่านร่างในการบันทึกความเข้าใจ (MoU) ซึ่งโฆษกของสำนักเลขาธิการการบินพลเรือนของรัฐ (SSCA) กล่าวว่าท่าอากาศยานกัมพูชาจะเข้าร่วมกับ OCIC เพื่อพัฒนาสนามบินแห่งใหม่ในจังหวัดกันแลนด์ โดยสนามบินกัมพูชาได้แสดงความมุ่งมั่นในการปฏิบัติภารกิจให้แก่หน่วยงานภายในกัมพูชาอย่างต่อเนื่องตามข้อตกลงสัมปทานที่ลงนามไปเมื่อปี 2538 ซึ่งรวมถึงการขยายไปยังโครงการสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ตามที่รัฐบาลกำหนด (RGC) ซึ่งโครงการดังกล่าวได้มีการประกาศในต้นปี 2561 และคาดว่าจะมีมูลค่าของโครงการประมาณ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐภายใต้ชื่อ Cambodia Airport Investment

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50687604/new-international-travel-hub-seeks-development-cooperation

การค้าระหว่างกัมพูชาและเกาหลีใต้มีมูลค่ารวมแตะ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ

เมื่อปีที่ผ่านมาปริมาณการค้าระหว่างกัมพูชาและเกาหลีใต้สูงกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยนายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวว่าผลที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ ซึ่งนายกกล่าวในช่วงการประชุมสหพันธ์สันติภาพสากล (UPF) World Summit 2020 โดยปริมาณการค้าของระหว่างสองประเทศมีมูลค่ารวม 1,032 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2562 ซึ่งการส่งออกของกัมพูชาไปยังเกาหลีใต้มีมูลค่าอยู่ที่ 335 ล้านเหรียญสหรัฐและกัมพูชานำเข้าสินค้าจากเกาหลีใต้มูลค่า 696 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยความต้องการสินค้าจากเกาหลีใต้ของคนกัมพูชาส่วนใหญ่คือรถยนต์และโทรทัศน์ ส่วนการส่งออกของกัมพูชาไปยังเกาหลีใต้ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า รองเท้า เครื่องดื่มกระเป๋า ยาง ยาเวชภัณฑ์ กระดาษแข็งและสินค้าเกษตร ซึ่งรัฐบาลของทั้งสองประเทศได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกเพื่อส่งเสริมการลงทุน ด้านการค้าและการท่องเที่ยว รวมถึงเที่ยวบินตรงระหว่างสองประเทศตามที่นายกรัฐมนตรีฮุนเซนระบุว่าการที่มีเที่ยวบินตรงจะนำมาซึ่งการลงทุนที่มากขึ้นและเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50687228/cambodias-trade-volume-with-south-korea-exceeds-1-billion-dollars