เวียดนามเผยยอดค้าปลีกดิ่งลง ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้

จากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่ายอดค้าปลีกและบริการของเวียดนามโดยรวมลดลงร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แตะระดับ 82.36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ในขณะเดียวกัน ในเดือนพ.ค. ยอดค้าปลีกและบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องมาจากการผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้กำลังซื้อเริ่มกลับมาฟื้นตัวในท้องถิ่น ทั้งนี้ หากจำแนกแหล่งที่มาของยอดค้าปลีก พบว่าการซื้ออาหารขยายตัวร้อยละ 6.1 เมื่อเทียบกับปีก่อน รองลงมาเครื่องใช้ในบ้าน (2%) ขณะที่ผลิตภัณฑ์ด้านการศึกษาและวัฒนธรรม ปรับตัวลดลงร้อยละ 8.2 และเครื่องนุ่งห่ม (3%) ด้านเมืองที่มีการเติบโตของการค้าปลีก ได้แก่ เมืองไฮฟอง รองลงมากรุงฮานอยและโฮจิมินห์ นอกจากนี้ ธุรกิจที่พักและการท่องเที่ยวลดลงอย่างมาก ถึงแม้ว่าธุรกิจกลับมาดำเนินงานต่อและผู้คนในท้องถิ่นกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าวน้อยลงกว่าแต่ก่อน แต่ในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ รายได้จากการท่องเที่ยวลดลงร้อยละ 54 แตะระดับ 8.3 ล้านล้านด่ง จากการที่เวียดนามหยุดการออกวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศยังไม่ฟื้นตัว

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/8729302-vietnam%E2%80%99s-retail-sales-down-in-five-months.html

เวียดนามตั้งเป้าส่งออกข้าว 7 ล้านตันในปีนี้

เวียดนามเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ตั้งเป้าส่งออกข้าวไว้ที่ 7 ล้านตันในปี 2563 ปริมาณส่งออกมากกว่าปีที่แล้ว ตามแถลงการณ์ของรัฐบาลในวันอังคารที่ผ่านมา โดยกลับมาส่งออกข้าวในเดือนพ.ค. หลังระงับการส่งออกในเดือนมี.ค. และจำกัดการส่งออกข้าวในเดือนเม.ย. ไว้ที่ 500,000 ตัน ซึ่งมาตรการดังกล่าว เพื่อรับรองว่าอาหารจะมีเพียงพอในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในขณะที่ ปริมาณส่งออกข้าวปีนี้ 400,000-500,000 ตัน มากกว่าปีที่แล้ว ทั้งนี้ จากข้อมูลของศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ปริมาณส่งออกข้าวอยู่ที่ 2.86 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 เมื่อเทียบกับปีก่อน

ที่มา : https://tuoitrenews.vn/news/business/20200603/vietnam-aims-to-export-7-million-tonnes-of-rice-this-year-govt/54897.html

ยอดเกินดุลการค้าในเดือนม.ค.-พ.ค. ของเวียดนาม ลดลงสู่ระดับ 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) รายงานว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการค้าของเวียดนามอยู่ที่ 196.84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ ในเดือนพฤษภาคม มีแนวโน้มขาดดุลการค้าถึง 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากตั้งแต่เดือนม.ค.-พ.ค. ยอดเกินดุลการค้าลดลงแตะ 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าส่งออกสำคัญของเวียดนาม พบว่าโทรศัพท์และชิ้นส่วนคาดว่าสร้างรายได้มากที่สุดในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค. อยู่ที่ 18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 8.8 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 18.11 ของมูลค่าการส่งออกรวม ส่วนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ มีรายได้ประมาณ 15.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.1 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว, เสื้อผ้า (10.4 พันล้านดอลลาร์ สรอ.), อุปกรณ์และชิ้นส่วน, รองเท้า, ไม้และผลิตภัณฑ์ทำมาจากไม้, ยานพาหนะขนส่ง, สินค้าการประมงและอื่นๆ เป็นต้น ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น สหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม รองลงมาจีนและสหภาพยุโรป ในขณะเดียวกัน จีนยังคงเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ของเวียดนาม รองลงมาเกาหลีใต้และอาเซียน

ที่มา : https://vnexplorer.net/vietnam-trade-surplus-narrows-to-us1-9-billion-in-jan-may-a202045252.html

ภาคการผลิตของเวียดนาม ส่งสัญญาฟื้นตัวในเดือนพฤษภาคม

Nikkei และ HIS Markit รายงานว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เพิ่มขึ้นจาก 32.7 ในเดือนเมษายน (ต่ำที่สุด) มาอยู่ที่ 42.7 ในเดือนพ.ค. (+10) ซึ่งส่งสัญญาว่าสภาวะของภาคธุรกิจเริ่มจะฟื้นตัวกว่าเดือนก่อนหน้า ผู้ผลิตยังคงปรับลดการผลิตลง จากการจัดซื้อ และคลังสินค้าทั้งที่มาจากการจัดซื้อและสินค้าสำเร็จรูป ทั้งนี้ การระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้เกิดห่วงโซ่ปุทานเกิดภาวะชะงักงัน ถือเป็นลักษณะสำคัญจากการสำรวจในเดือนพ.ค. นอกจากนี้ การขาดแคลนของวัตถุดิบบางอย่าง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ในขณะที่ ต้นทุนปัจจัยการผลิตลดลงในเดือนที่สอง สะท้อนได้จากราคาน้ำมันลดลง ด้วยเหตุนี้ ผู้ผลิตจึงปรับลดราคาสินค้าในแต่ละเดือน เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนก.พ. ถึงแม้ว่าจะเริ่มผ่อนคลายลงในเดือนเม.ย. นอกจากนี้ การควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในเวียดนาม ส่งผลให้ผู้ผลิตส่วนใหญ่มองว่ากิจกรรมการผลิตจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า ตามแนวโน้มเชิงลบในเดือนก่อน

ที่มา : https://vnexplorer.net/vietnams-manufacturing-activity-signals-improvement-in-may-a202045256.html

เมืองโฮจิมินห์เผยดัชนี CPI ปรับตัวลดลง 0.33% ในเดือนพ.ค.

สำนักงานสถิติประจำเมือง เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเมืองโฮจิมินห์ของเวียดนาม ในเดือนพ.ค. ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.33 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนและร้อยละ 1.38 เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค. 2562 อย่างไรก็ตาม ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน พ.ต. เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้ มีสินค้าและบริการ 11 รายการที่ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน กลุ่มขนส่งดิ่งลงอย่างหนักร้อยละ 2.29 รองลงมาอาหารและบริการจัดเลี้ยง (0.41) และกลุ่มที่อยู่อาศัย ไฟฟ้า พลังงานและวัสดุก่อสร้าง (0.97) แต่สำหรับกลุ่มเครื่องนุ่งห่ม รองเท้าและการศึกษายังไม่แสดงเห็นความผันผวนมากนัก ขณะที่กลุ่มอื่นๆปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ดัชนี CPI เฉลี่ยของเทศบาล เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.76 เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/petrol-prices-continue-to-rise-in-latest-adjustment/174029.vnp

เทศกาลผักผลไม้เวียดนามในฮานอย

งานเทศกาลผักผลไม้เวียดนาม – ภายในงานมีผลไม้และสินค้าเกษตรอื่นๆหลากหลายด้วยกันที่มาจากฟาร์มชนบท เพื่อดึงดูดผู้บริโภค ณ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีทังลอง กรุงฮานอย งานนี้เปิดตัววันที่ 30 พฤษภาคม ถือเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในเมืองหลวงปีนี้ โดยวัตถุประสงค์ของงานเทศกาล เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคและเพื่อสร้างโอกาสให้ตัวแทนจังหวัดและเมืองกว่า 17 แห่ง ร่วมเป็นพันธมิตรกับบิ๊กซีและเครือขายค้าปลีกอื่นๆ  ซึ่งภายในงานเน้นผลผลิตจำหน่าย ได้แก่ ลิ้นจี่ มะม่วง พลัม องุ่นและสัตว์น้ำ พร้อด้วยผักต่างๆที่ปลูกในชนบท ทั้งนี้ รองผู้อำนวยการกรมอุสาหกรรมและการค้าฮานอย กล่าวว่าในปัจจุยันผลผลิตสินค้าเกษตรอยู่ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ดังนั้น สัปดาห์นี้จะเป็นผลดีต่อชาวเกษตรกรท้องถิ่น ในการโฆษณาและกระตุ้นยอดขายหลังจากสิ้นสุดโควิด-19 และเป็นโอกาสที่ดีต่อธุรกิจท้องถิ่น ที่จะเรียนรู้ภถึงวิธีการจัดจำหน่ายผ่านระบบซูเปอร์มาร์เก็ต

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/fruit-farm-produce-week-underway-in-hanoi/174141.vnp

เวียดนามปรับขึ้นราคาน้ำมันสูงอย่างต่อเนื่อง

จากคำแถลงของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้ากับกระทรวงการคลัง ประกาศปรับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ราคาเบนซินอ็อกเทน 92 จำหน่ายใหม่ที่ 12,402 ด่ง (0.53 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อลิตร, เบนซินอ็อกเทน 95 ปรับขึ้นอยู่ที่ 13,125 ด่ง (0.56 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อลิตร, ดีเซล (0.05%S) และน้ำมันก๊าดอยู่ที่ 10,749 ด่งและ 8,757 ด่งต่อลิตร ปรับตัวขึ้น 892 ด่ง และ 875 ด่งต่อลิตร ตามลำดับ ทั้งนี้ สองกระทรวงข้างต้นทำการตรวจสอบราคาน้ำมันทุกๆ 15 วัน และจะปรับราคาเชื้อเพลิงตามความผันผวนในตลาดโลก เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แสดงให้เห็นว่ามีการผ่อนคลายมาหลายประเทศ และเริ่มดำเนินการผลิตต่อ รวมถึงกิจกรรมทางธุรกิจ ส่งผลให้มีความต้องการเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นและการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันและเชื้อเพลิง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/petrol-prices-continue-to-rise-in-latest-adjustment/174029.vnp

เวียดนามเผยส่งออกทูน่ามีความไม่แน่นอน

การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ฉุดเศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง สมาคมผู้ส่งออกและอาหารทะเลเวียดนาม (VASEP) แนะนำผู้ประกอบการแปรรูปและส่งออกทูน่าให้ขยายตลาดในประเทศ ทว่าหากมองดูสถานการณ์เวียดนามปัจจุบันที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว แต่ยังมีเชื้อไวรัสอยู่ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา อีกทั้งตลาดส่งออกทูน่ายังคงมีความยากลำบากและไม่แน่นอนสูง นอกจากนี้แล้ว ปลาทูน่ามักเป็นเมนูอาหารราคาแพง เหมาะกับผู้ที่มีรายได้สูง แต่ด้วยการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าว ส่งผลให้ภัตตาคารส่วนใหญ่สูญเสียรายได้และการบริโภคลดลงถึงแม้ว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ ทั้งนี้ ประธานคณะกรรมการสมาคมอาหารทะเล เผยว่าเวียดนามไม่ได้เป็นเพียงผู้ส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่เท่านั้น แต่ยังเป็นตลาดบริโภคที่มีศักยภาพของอีกหลายๆประเทศ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/tuna-export-market-still-unstable/173962.vnp

ฮานอยดึงดูดเม็ดเงินลงทุน 38.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในครึ่งปีแรก 2563

ฮานอยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนทั้งหมดอยู่ที่ 38.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 64 ของตัวเลขช่วงเดียวกันปีที่แล้ว โดยเงินทุนมาจากการลงทุนในโครงการใหม่ มูลค่ารวม 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอีก 10 โครงการที่เป็นการเพิ่มทุนไปในโครงการเดิมทั้งหมด ด้วยมูลค่า 23.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ รองคณะกรรมการเขตอุตสาหกรรมและส่งออกแปรรูปแห่งกรุงฮานอย กล่าวว่าในปัจจุบันธุรกิจท้องถิ่นเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดอย่างยากลำบาก ซึ่งธุรกิจพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อจัดหาแหล่งวัตถุดิบที่หลากหลายในการผลิตสินค้าและแสวงหาตลาดใหม่ นอกจากนี้ เมืองหลวงดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้อยู่ที่ 4.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30.6 ของเงินลงทุนทั้งหมดที่ไหลเข้าสู่เศรษฐกิจเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/hanoi-aims-to-lure-383-mln-usd-of-investment-in-first-half/173969.vnp

เวียดนามเผยราคาเมล็ดกาแฟในท้องถิ่นพุ่งสูงขึ้น จากอุปทานมีจำกัด

จากรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ระบุว่าราคาเมล็ดกาแฟปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม เนื่องจากผลผลิตมีไม่เพียงพอต่อความต้องการตลาดในประเทศ นอกจากนั้น ผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อผลผลิตกาแฟในบริเวณที่สูงตอนกลาง ซึ่งนับว่าเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ ทั้งนี้ กรมศุลกากรเผยว่าในเดือนเม.ย. ปริมาณส่งออกกาแฟของเวียดนามอยู่ที่ 165,800 ตัน คิดเป็นมูลค่า 279.83 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 2.5 และ 5.1 ตามลำดับ ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ราคาส่งออกกาแฟโดยเฉลี่ยลดลงร้อยละ 2.7 อยู่ในระดับ 1,688 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่งผลให้ราคาส่งออกกาแฟเฉลี่ยในช่วง 4 เดือนแรก ลดลงร้อยละ 2.6 ยิ่งไปกว่านั้น ยอดส่งออกไปยังตลาดส่งออกสำคัญในเดือนเม.ย. ได้แก่ เยอรมัน สหรัฐฯ สเปน เบลเยียม รัสเซีย ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ล้วนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ การส่งออกไปยังอิตาลี ฟิลลิปปินส์และอัลจีเรีย ปรับตัวลดลงทั้งหมด

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/local-coffee-prices-skyrocket-on-limited-supply-414161.vov