ปริมาณการค้าระหว่าง กัมพูชา-ไทย โต 29%

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและไทยเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 8,589 ล้านดอลลาร์ในช่วง 10 เดือนของปี เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 29 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นการส่งออกของกัมพูชามูลค่า 959 ล้านดอลลาร์ไปยังไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 28 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะเดียวกันการนำเข้าสินค้าของกัมพูชาจากไทยคิดเป็นมูลค่า 7,630 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 29 ตามรายงานของกระทรวงพาณิชย์ไทย ซึ่งสินค้าส่งออกหลักของกัมพูชาไปยังไทย ได้แก่ สิ่งทอ สินค้าเกษตร อัญมณี และผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป เป็นสำคัญ ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญจากไทย ได้แก่ ปลา เนื้อสัตว์ ผัก รถยนต์ ปุ๋ยอินทรีย์ อาหาร และวัสดุก่อสร้าง โดยในปีที่แล้วการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและไทยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 7.97 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.26 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501196940/cambodia-thailand-trade-surges-29/

สถานะธนาคารรัฐทั้งหมดยังแข็งแกร่ง

สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศหลายแห่ง ทั้งทริสเรทติ้ง, มูดีส์ อินเวสเตอร์ส และฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงิน ของรัฐหลายแห่ง ทั้งธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิม แบงก์) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยพบว่าแม้ต้องเผชิญวิกฤติโควิด-19 และเป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชน แต่สถานะธนาคารรัฐทั้งหมดยังแข็งแกร่ง และคงอันดับความน่าเชื่อถือไว้ที่ระดับสูง

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/finance/2570805

จุรินทร์ สั่งลุย! หลังจีนไฟเขียวไทย ส่งออกผลไม้ทางรถไฟลาว-จีน ด่านโม่ฮาน เริ่ม 3 ธ.ค.

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ถึงความคืบหน้าการก่อสร้างลานตรวจจำเพาะสินค้าผลไม้ ณ ด่านรถไฟโม่ฮาน ที่ปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จและผ่านการตรวจรับจากหน่วยศุลกากรแห่งชาติจีน (GACC) แล้ว และล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พ.ย.65 ทาง GACC ได้มีการประกาศในบัญชีรายชื่อสถานที่ควบคุมตรวจสอบผลไม้นำเข้าในเว็บไซต์ของ GACC แล้ว ส่งผลให้ด่านรถไฟโม่ฮานมีความพร้อมในการตรวจสอบกักกันผลไม้นำเข้าได้ตามระเบียบที่กำหนดของ GACC ทุกประการ ถือเป็นสัญญาณที่ดี และเป็นอีกหนึ่งโอกาสของผู้ส่งออกและนำเข้าสินค้าของจีนและไทย เพราะเป็นการเพิ่มตัวเลือกในการขนส่งทางรางที่จะช่วยให้ต้นทุนลดต่ำลง และมีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เส้นทางรถไฟลาว-จีน เปิดใช้บริการตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.65 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 1 ปีของการเปิดใช้บริการของรถไฟลาว-จีน

ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_3703370

คณะผู้แทนสภาธุรกิจไทย-กัมพูชา เยือนกัมพูชาหาโอกาสการค้าและการลงทุน

คณะผู้แทนสภาธุรกิจไทย-กัมพูชา (TCBC) นำโดยนายวรทัศน์ ตันติมงคลสุข ประธานกรรมการ TCBC ซึ่งได้รับการแต่งตั้งใหม่ ได้เดินทางไปเยือนกัมพูชาเพื่อหาโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนเพิ่มเติมในกัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยคณะผู้แทนได้เข้าหารือกับ Pan Sorasak รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา หารือเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกทางการค้าทวิภาคี และการใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าในระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค ซึ่งรัฐมนตรีได้กล่าวเสริมเกี่ยวกับการปฏิรูปการบริการสาธารณะของกระทรวงพาณิชย์ และการนำระบบอัตโนมัติมาใช้สำหรับใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า การจดทะเบียนบริษัท และการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่ง่าย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อเอื้อต่อกิจกรรมทางด้านการค้าและการลงทุน นอกจากนี้ยังพร้อมที่จะให้การสนับสนุนแก่ TCBC ได้ใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีระดับภูมิภาคและความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่กัมพูชาเป็นสมาชิก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501193425/tcbc-delegation-seeks-additional-business-and-investment-opportunity-in-cambodia/

ห่วง ส่งออกไทยเริ่มติดลบ! ซ้ำเติม เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำเมื่อเทียบอาเซียน

นางสาวจุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร สส. กทม. เขตบางรัก สาทร และ ปทุมวัน และ โฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การส่งออกของไทยในเดือนตุลาคมเริ่มติดลบที่ -4.4% เป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 9 เดือน ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่าห่วงว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะเริ่มแผ่ว มีแนวโน้มอาจจะไม่สู้ดีนักในปลายปีนี้ และจะต่อเนื่องไปถึงปีหน้า ทั้งนี้ขอตอกย้ำว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ที่ขยายได้ 4.5% นั้น แม้จะดูเหมือนดี แต่เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียนจะเห็นว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำมากเพราะ ในไตรมาส 3 มาเลเซียขยายได้ 14.2% เวียดนาม 13.7% ฟิลิปปินส์ 7.6% อินโดนีเซีย 5.7% แม้ประเทศที่พัฒนาแล้วเช่นสิงคโปร์ยังขยายได้ 4.4% และถ้านับ 9 เดือนตั้งแต่ต้นปีไทยขยายได้เพียง 3.1% เท่านั้นซึ่งต่ำกว่าประเทศอาเซียนอื่นเช่นกันตามที่เสนอไว้แล้ว และต้องไม่ลืมว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นคืนที่เดิมจากการติดลบ 6.2% ในปี 2563 เพราะปี 2564 ขยายได้เพียง 1.5% ปีนี้ก็น่าจะได้เพียง 3% กว่า ซึ่งยังห่างจากที่เศรษฐกิจไทยที่ตกลงมาพอสมควร ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศอื่นในอาเซียนได้ขยายตัวเกินกว่าที่ตกลงมาไปมากแล้ว

ที่มา : https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_629987

ส่งออกเดือนต.ค.ร่วง 4.4 % เจอปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนตุลาคม 2565 มีมูลค่า 21,772.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 4.4% คิดเป็นเงินบาท มีมูลค่า 801,273 ล้านบาท รวม 10 เดือนของปี 2565 (มกราคม-ตุลาคม) มีมูลค่า 243,138.5 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 9.1% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 8,325,091 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม คาดว่า การส่งออกทั้งปี 2565 ยังเป็นบวก จากการประมาณการร่วมกับภาคเอกชนล่าสุดยังมั่นใจว่าเกินเป้าที่กำหนดไว้ 4% จะเพิ่มเกือบหนึ่งเท่าตัว ส่วนมูลค่าตั้งเป้าไม่น้อยกว่า 9 ล้านล้านบาท มีแนวโน้มจะเกินกว่า 9 ล้านล้านบาท และจะเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในปี 2565 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การส่งออกติดลบ มาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่น่าเป็นห่วง โดยเศรษฐกิจโลกปี 2564 เพิ่ม 6% ปี 2565 เพิ่ม 3.2% และปี 2566 เพิ่ม 2.7% ตลาดจีนยังมีมาตรการซีโร่โควิด-19 ดัชนีการผลิต หรือ PMI ของคู่ค้าสำคัญ เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีน และสหภาพยุโรป ลดลง แต่ก็มีปัจจัยบวกจากเงินบาทที่ยังอ่อนค่า ทั้งนี้การส่งออกในเดือนตุลาคม 2565 ที่กลับมาติดลบ 4.4% ถือเป็นการกลับมาติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 20 เดือน นับจากเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ส่วนการนำเข้าตุลาคม 2565 มีมูลค่า 22,368.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 2.1% ขาดดุลการค้า 596.4 ล้านเหรียญสหรัฐ รวม 10 เดือน นำเข้ามลค่า 258,719.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 18.3% ขาดดุลการค้า 15,581.3 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา: https://www.naewna.com/business/694962

กรมท่าอากาศยาน (ทย.) ทุ่ม 4 พันล้านพัฒนาสนามบิน ท่องเที่ยวฟื้น! รับผู้โดยสารทะลัก

นายปริญญา แสงสุวรรณ อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เปิดเผยแผนพัฒนาสนามบินภูมิภาคทั้ง 29 แห่ง ปี 66 ว่า หลังสายการบินเริ่มเพิ่มเที่ยวบิน ทำให้ ทย.มีเป้าหมายดำเนินการดังนี้ 1.เร่งขยายขีดความสามารถสนามบินภูมิภาคให้มีศักยภาพรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้น ซึ่งมีแผนลงทุนรวมกว่า 4,568 ล้านบาท รองรับปริมาณผู้โดยสาร รวม 41 ล้านคนในปี 66 และ 2.เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้โดยสาร และสายการบินที่มาใช้บริการ ด้วยการเปิดให้บริการเคาน์เตอร์เช็กอินร่วมสายการบิน ส่วนการขยายขีดความสามารถของสนามบินภูมิภาค มีดังนี้ สนามบินกระบี่เปิดให้บริการอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 1-3 รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 คนต่อ ชม. หรือ 8 ล้านคนต่อปี สนามบินขอนแก่นเปิดอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ รองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 2,000 คนต่อ ชม. หรือ 5 ล้านคนต่อปี สนามบินนครศรีธรรมราชเปิดอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ รองรับผู้โดยสารเป็น 1,600 คนต่อ ชม. หรือ 4 ล้านคนต่อปี ส่วนการเปิดให้บริการเคาน์เตอร์เช็กอินร่วมสายการบินนั้น ขณะนี้ ทย.ได้พัฒนาระบบให้เป็นเคาน์เตอร์เช็กอินร่วมแล้ว 6 สนามบิน.

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/economics/2564078

ปีนี้ไทยเสียแชมป์ข้าวหอมโลกให้กับกัมพูชา

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุปีนี้ข้าวหอมมะลิไทยต้องเสียแชมป์ให้ “ข้าวผกาลำดวน” ของกัมพูชาในเวทีประกวดข้าวที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2022 ที่ภูเก็ต จากกลิ่นหอมข้าวไทยน้อยไป และแพ้เพียง 1 คะแนน ระบุน่าจะเกิดจากปัญหาน้ำท่วมอุบลนานทำให้กลิ่นไม่ค่อยหอม ชี้ปีหน้าส่งข้าวหอมมะลิไทยชิงใหม่พร้อมแนะภาครัฐไม่ควรนิ่งนอนใจประเทศเพื่อนบ้านผลิตข้าวหอมมะลิเทียบของหอมไทยแล้วควรเร่งพัฒนาสายพันธุ์ข้าวหอมมะลิไทยให้ดียิ่งขึ้น

ที่มา : https://tna.mcot.net/business-1062465

สศช.ชี้ศก.ปีหน้าโต3-4% ท่องเที่ยวฟื้นทำเงิน1.2ล้านล้าน

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 ขยายตัว 4.5% เร่งขึ้นจาก 2.3% และ 2.5% ในไตรมาสแรก และไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 ตามลำดับ ด้านการใช้จ่าย การอุปโภค-บริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน และการส่งออกบริการขยายตัวเร่งขึ้นการส่งออกสินค้าชะลอตัว ขณะที่การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐปรับตัวลดลง ด้านการผลิตสาขาการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมกลับมาขยายตัว สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหารสาขาการขายส่ง ขายปลีก และการซ่อมฯ สาขาขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า และสาขาการไฟฟ้าและก๊าซฯ ขยายตัวเร่งขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยแนวโน้มเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2565 คาดว่าจะขยายตัว 3.2% อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ที่6.3% และดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล 3.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2566 คาดว่าจะขยายตัว 3-4% โดยมีแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวการขยายตัวต่อเนื่องของอุปสงค์ในประเทศทั้งการบริโภคและการลงทุน

ที่มา: https://www.naewna.com/business/693480

ไทยถกเวียดนาม พัฒนาความร่วมมือ ด้านลงทุน-ส่งออก สินค้าเกษตร-อุตฯ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือกันในทางเศรษฐกิจ กับนายเหวียน ซวน ฟุก ประธานาธิบดีเวียดนาม ในโอกาสเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ โดยนายกรัฐมนตรีเสนอให้ทั้ง 2 ฝ่ายเร่งอนุญาตการนำเข้า-ส่งออกสินค้าโดยเฉพาะสินค้าเกษตรประเภทผัก ผลไม้ ข้าวสินค้าปศุสัตว์ พร้อมเร่งสานความสัมพันธ์โดยการทำความตกลงและกลไกเจรจาด้านการเกษตรระหว่างกัน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายยินดีที่จะอำนวยความสะดวกและลดอุปสรรคด้านการขนส่งสินค้าจากไทยผ่านเวียดนามไปประเทศที่ 3 และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาความร่วมมือ และแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกสินค้าอุตสาหกรรมที่สำคัญอื่นๆ อาทิ ชิ้นส่วนยานยนต์ ยาและเวชภัณฑ์ ขณะเดียวกันในด้านการลงทุน ทั้ง 2 ฝ่ายพร้อมสนับสนุนนักลงทุนให้เข้ามาทำธุรกิจ โดยที่ผ่านมาได้ให้ไทยจัดตั้งหอการค้าไทยในเวียดนาม(ThaiCham) เมื่อปี 2564 ซึ่งช่วยเพิ่มการค้าและการลงทุนระหว่างกันได้จำนวนมาก

ที่มา: https://www.naewna.com/business/693263