สหรัฐฯ สนับสนุนการจัดหาอุปกรณ์ฟื้นฟูผู้ป่วยในภาคเหนือของสปป.ลาว

ผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวในเขตขาม จังหวัดเชียงขวาง ของสปป.ลาว และพื้นที่ใกล้เคียงจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นฟูสมรรถภาพและการบริการด้านสุขภาพ โดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา คือ หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐ (USAID) ได้บริจาคเงินกว่า 326 ล้านกีบ เพื่อจัดหาอุปกรณ์สำหรับการฟื้นฟูสมรรถภาพและการฝึกปฏิบัติหน้าที่ ณ โรงพยาบาลอำเภอขาม จังหวัดทางภาคเหนือ

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten142_USgives.php

กัมพูชาส่งออกผลไม้ไปยังจีนเพิ่มขึ้นหลัง FTA กัมพูชา-จีน มีผลบังคับใช้

การส่งออกสินค้าเกษตรของกัมพูชาโดยเฉพาะผลไม้สดได้กลายเป็นส่วนสำคัญของการปรับปรุงมาตรฐานความเป็นอยู่ของเกษตรกรและถือเป็นส่วนส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยปัจจุบันกัมพูชาส่งออกผลไม้ไปยังจีนเพิ่มขึ้นภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรี กัมพูชา-จีน แม้จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งผลไม้จากกัมพูชาหลายชนิดได้รับอนุญาตให้ทำการส่งออกไปยังประเทศจีนได้ตั้งแต่ในช่วงเดือนเมษายนของปีที่แล้ว โดยสินค้าชนิดแรกที่ได้รับการอนุญาตได้แก่มะม่วง ซึ่งกรมศุลกากรจีนได้อนุมัติการนำเข้ามะม่วงจากสวน 37 แห่ง และโรงงานแปรรูปอีก 5 แห่ง ในกัมพูชา ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-จีน ซึ่งในระยะอันสั้นจะมีการประเมินสำหรับการขออนุญาตในการส่งออกลำไยจากกัมพูชาไปยังจีนเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของกัมพูชาในอนาคต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501118917/growth-of-fruit-exports-to-china-highlights-effectiveness-of-cambodia-china-fta/

“เวียดนาม-สปป.ลาว” ยอดการค้าระหว่างประเทศในช่วงครึ่งแรกของปี 65 พุ่ง 20.6%

สำนักงานการค้าเวียดนามในประเทศสปป.ลาว เปิดเผยว่าการค้าระหว่างเวียดนามและสปป.ลาวในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 มีมูลค่า 824 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี จากตัวเลขการค้าดังกล่าว มูลค่าการส่งออกของเวียดนามไปยังสปป.ลาว อยู่ที่ 309.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว 6% ในขณะที่มูลค่าการนำเข้า 514.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 45.4% โดยสินค้าส่งออกหลักของเวียดนามไปยังตลาดสปป.ลาว ได้แก่ น้ำมันเบนซิน (30.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ผักและผลไม้ (22.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในขณะเดียวกัน เวียดนามนำเข้าแร่และแร่ธาตุอื่นๆ, ปุ๋ย, ไม้และผลิตภัณฑ์ทำมาจากไม้ และยางพารา ตามลำดับ นอกจากนี้ จากการคาดการณ์ทิศทางการส่งออกของเวียดนามไปยังสปป.ลาว ในเดือนก.ค. จะยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเศรษฐกิจสปป.ลาว มีเสถียรภาพชั่วคราว หลังจากรัฐบาลอนุมัติสินเชื่อซื้อน้ำมัน 200 ล้านลิตร

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-laos-trade-up-206-in-first-half/234336.vnp

“เวียดนาม” ขึ้นแท่นผู้ส่งออกเส้นใยและเส้นด้ายรายใหญ่อันดับ 6 ของโลก

ตามรายงานของสมาคม Vietnam Cotton and Spinning Association (VCOSA) พบว่าเวียดนามขยับอันดับผู้ส่งออกเส้นใยและเส้นด้ายรายใหญ่อันดับ 6 ของโลก มีมูลค่า 2.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2565 แซงหน้าเกาหลีใต้ โดยสมาคมมีรายได้เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้ การส่งออกกลุ่มสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เส้นใย เส้นด้ายและผ้าผืน มีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้น 18.73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.81% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยสมาคมได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่าตลาดจีนมีสัดส่วนราว 60% ของยอดการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของเวียดนาม ในขณะเดียวกัน สหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ลดการนำเข้าจากประเทศจีน ทำให้เวียดนามมีโอกาสขยายส่วนแบ่งการตลาดได้

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-becomes-world-s-sixth-largest-fibre-yarn-exporter-2042957.html

ส.อ.ท.ประกาศลดเป้าผลิตรถ โยนผ้าขาวปี 65 เหลือ 1.7 ล้านคัน

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ได้ติดตามปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) และชิ้นส่วนรถยนต์ หลังส่งผลกระทบต่อการผลิตและการส่งออกรถยนต์ ทำให้เป้าหมายการผลิตรถยนต์ปีนี้ลดลงจากที่ตั้งไว้ 1,800,000 คัน แบ่งเป็นจำหน่ายในประเทศ 800,000 คัน และส่งออก 1,000,000 คัน ซึ่ง คาดว่าตัวเลขการผลิตปีนี้อาจลดมาอยู่ที่ 1,700,000 คัน ซึ่งเป้าหมายที่วางไว้ 1,800,000 คัน ก่อนหน้านี้ยังไม่มีปัจจัยสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่กระทบต่อการขาดแคลนชิป เพราะยูเครนเป็นผู้ส่งออกก๊าซนีออน (Neon) บริสุทธิ์เกือบ 70% ให้กับทั่วโลก เพื่อใช้ผลิตชิป และจีนล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้ ทำให้การผลิตชิปหยุดลงอีกรอบหนึ่ง

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/economics/2455173

 

สถาบันการเงินระหว่างประเทศ มองภาวะเงินเฟ้อของเวียดนาม 4% ปีนี้

องค์กรการเงินระหว่างประเทศรายใหญ่ อาทิ สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 (AMRO), ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์สภาวะเงินเฟ้อของเวียดนามในปีนี้แตกต่างกันออกไป แต่คาดว่าตัวเลขเงินเฟ่อจะอยู่ที่ประมาณ 4% ทั้งนี้ ธนาคารพัฒนาเอเชียได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียแปซิฟิกเหลือ 4.6% ในปีนี้ ลดลง 0.6% เมื่อเทียบกับตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย. สำหรับกรณีเวียดนามนั้น ธนาคารคาดว่าเศรษฐกิจขยายตัว 6.5% ปีนี้และ 6.7% ในปีหน้า ในขณะที่ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามจะขยายตัว 6% และเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.9% ปีนี้ เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มสูงขึ้นและการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ สานักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจของเวียดนามในปีนี้ 6.3% จากเดิมคาดการณ์ไว้ที่ 6.5% ในส่วนของตัวเลขเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ที่ 3.5% ปีนี้

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/foreign-financiers-believe-vietnam-likely-to-control-inflation-at-4-this-year-2042469.html

“เวียดนาม” กระทรวงคมนาคมอนุมัติก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายเหนือ-ใต้

กระทรวงคมนาคมเวียดนาม (MoT) ได้อนุมัติโครงการย่อยจำนวน 12 โครงการที่อยู่ในโครงการขนาดใหญ่ที่จะก่อสร้างทางด่วนพิเศษเหนือ-ใต้ ปี 2564-2568 โดยโครงการย่อยดังกล่าวจะครอบคลุมระยะทาง 723.7 กม. ด้วยเม็ดเงินทุนรวมทั้งสิ้นราว 147 ล้านล้านดอง (6.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทั้งนี้ ก่อนหน้าเมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา รัฐสภาอนุมัติแผนการลงทุนโครงการทางพิเศษสายเหนือ-ใต้ ในปี 2564-2568 เพื่อให้รัฐบาลเริ่มกระบวนการดำเนินงาน ในขณะที่ส่วนท้องถิ่นเร่งทำงาน โดยมุ่งจัดการเรื่องพื้นที่กว่า 70% ให้กับผู้รับเหมาช่วงก่อนวันที่ 20 พ.ย. เพื่อให้การก่อสร้างเริ่มดำเนินการได้ก่อนสิ้นปี

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/transport-ministry-approves-northsouth-expressway-subprojects-in-20212025/234201.vnp

รัฐบาล สปป.ลาว ให้คำมั่นว่าจะรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจของประเทศ

การประชุมของรัฐบาล สปป.ลาว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 ก.ค.2565)  รัฐบาลได้ให้คำมั่นที่จะรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคและอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศและยืนยันว่าจะไม่ยอมให้มีการผิดนัดชำระหนี้ โดยการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะเป็นหนึ่งใน 13 ภารกิจสำคัญที่รัฐบาลเห็นพ้องร่วมกันในการพัฒนาประเทศ ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าจำเป็นต้องควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ราคาของสินค้าอุปโภคบริโภคในตลาด และอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ที่ประชุมรับรองรายงาน 5 ฉบับ ประกอบด้วย ฉบับที่ 1 เป็นการประเมินความสำเร็จของรัฐบาล ฉบับที่ 2 กล่าวถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมและงบประมาณในช่วง 6 เดือนสุดท้ายของปีนี้  ฉบับที่ 3 เกี่ยวข้องกับกฎระเบียบของหน่วยแลกเปลี่ยนเงินตรา สถาบันการเงินรายย่อย (ไมโครไฟแนนซ์) โรงรับจำนำ และร้านขายเครื่องประดับ ฉบับที่ 4 การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเชื้อเพลิง การให้บริการเชื้อเพลิง และการปรับปรุงโครงสร้างราคาน้ำมัน และฉบับที่ 5 ครอบคลุมถึงการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และโรคไข้เลือดออก

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten141_Govtpledges.php

เมียนมา จับมือ รัสเซีย หารือความร่วมมือด้านการธนาคาร

ธนาคารกลางของรัสเซียและธนาคารกลางแห่งเมียนมา (CBM) ดำเนินการประชุมความร่วมมือด้านการให้บริการของธนาคารครั้งที่ 2 ผ่านลิงก์วิดีโอเมื่อวันที่ 22 ก.ค.2565 เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้บริการของประชาชน และหารือด้านนโยบายการเงิน การพัฒนาธนาคารให้มีเสถียรภาพ ทั้งนี้ยังขอความร่วมมือกับธนาคารทั่วประเทศปฏิบัติตามกฎระเบียบ คำสั่ง กฎและขั้นตอนที่ออกโดย CBM อย่างเคร่งครัด

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/myanmar-russia-discuss-banking-cooperation

H1 กัมพูชาส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ RCEP เพิ่มขึ้น 10%

กระทรวงพาณิชย์กัมพูชารายงานถึงการส่งออกของกัมพูชาในช่วง 6 เดือนแรกของปี ไปยังกลุ่มประเทศสมาชิก RCEP ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกรวมถึง 3.28 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเวียดนาม จีน และญี่ปุ่น ถือเป็นประเทศผู้นำเข้ารายสำคัญ ที่มูลค่า 1.17 พันล้านดอลลาร์ ไปยังเวียดนาม, 612 ล้านดอลลาร์ ไปยังจีน และ 542 ล้านดอลลาร์ ไปยังญี่ปุ่น ซึ่งความตกลงการค้าเสรี RCEP ปัจจุบันประกอบด้วย 15 ประเทศ โดยเป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) 10 ประเทศ ได้แก่ บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย สปป.ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม และคู่ค้าอีก 5 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า RCEP ถือเป็นตัวเร่งสำคัญสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501118292/cambodias-export-to-other-rcep-countries-up-10-pct-in-h1/