‘เวียดนาม’ เล็งนำเข้าถ่านหินปีละ 20 ตัน จากสปป.ลาว

เวียดนามลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ว่าด้วยการนำเข้าถ่านหิน 20 ตันต่อปีจากสปป.ลาว เมื่อวันที่ 20 ก.ค. และภายใต้บันทึกความเข้าใจดังกล่าว ทั้งสองประเทศจะส่งเสริมความร่วมมือและการลงทุนทางด้านการทำเหมืองแร่ อุตสาหกรรมและการส่งออก รวมถึงการถ่ายทอดความรู้หรือประสบการณ์และยกระดับขีดความสามารถในการทำเหมืองและแปรรูปถ่านหิน นอกจากนี้ การบันทึกความเข้าใจฉบับนี้จะช่วยส่งเสริมกิจกรรมการค้าถ่านหินระหว่างธุรกิจของทั้งสองประเทศ

ที่มา : https://en.baochinhphu.vn/viet-nam-plans-to-import-20-tons-of-coal-from-laos-annually-111230722092801128.htm

รัฐบาล สปป.ลาว เล็งขึ้นเงินเดือนให้แก่ ข้าราชการ-ลูกจ้างภาคเอกชน ผู้มีรายได้น้อย

รัฐบาล สปป.ลาว กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการให้เงินสนับสนุนสำหรับข้าราชการที่มีค่าแรงต่ำ และเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับพนักงานภาคเอกชน เพื่อให้สามารถรับมือกับค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นได้ กล่าวโดยนายกรัฐมนตรี Sonexay Siphandone ด้านกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการคลังได้รับความไว้วางใจให้ดำเนินการศึกษาเพื่อพิจารณาว่างกรอบงบประมาณสำหรับโครงการนี้ ร่วมกับกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม รวมถึงสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติ สปป.ลาว โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ต้นทุนสินค้าและบริการพุ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 38.06 ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและการใช้ชีวิตของภาคประชาชนที่มีรายได้ไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพ สำหรับสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ (NA) ได้เรียกร้องให้เพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำรายเดือนจาก 1.3 ล้านกีบ เป็น 2 ล้านกีบ หวังช่วยแรงงานรับมือกับความยากลำบากในสภาวะเงินเฟ้อที่กำลังเผชิญอยู่

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt140.php

สปป.ลาว นำเสนอแผนพัฒนาที่ยั่งยืน ณ เวที UN

รัฐบาล สปป.ลาว ได้ยืนยันความมุ่งมั่นในการสนับสนุนความร่วมมือในระดับพหุภาคี และยกระดับความเป็นหุ้นส่วนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ภายในปี 2030 กล่าวโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ Mr.Phoxay Khaykhamphithoune ซึ่งย้ำถึงจุดยืนของรัฐบาลในการดำเนินการ ร่วมกับความพยายามในการฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยรัฐบาล สปป.ลาว ได้นำมาตรการที่สำคัญมาปรับใช้ รวมถึงได้กำหนดวาระแห่งชาติว่าด้วยการจัดการปัญหาทางเศรษฐกิจและการเงินสำหรับปี 2021-2023 ไปจนถึงการกำหนดแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 9 สำหรับปี 2023-2025 เพื่อปรับตัวต่อสถานการณ์หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos139.php

ทางการ สปป.ลาว ปรับปรุงถนนหมายเลข 13 ในเขตบอลิคำไซ

ทางการ สปป.ลาว ยกระดับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 13 ทางตอนใต้ในจังหวัดบอลิคำไซ โดยงานพัฒนาในระยะแรกผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งมีกำหนดการแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ ด้านหัวหน้าโครงการปรับปรุงและซ่อมแซมถนนหมายเลข 13 Mr.Sisomphanh Phimsipasom ยืนยันว่าโครงการดำเนินไปตามแผนที่ร้อยละ 97 ของงานในส่วนแรก ด้วยการดำเนินการภายใต้สัญญาสองฉบับ โดยสัญญาฉบับแรกเกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมถนนระยะทาง 40 กิโลเมตร (จากหลักกิโลเมตรที่ 71 ถึงกิโลเมตรที่ 111) ด้วยมูลค่าโครงการจำนวน 17.5 ล้านดอลลาร์ ที่ได้รับการสนับสนุนเงินกู้จากธนาคารโลก รวมถึงทำการขยายความกว้างของถนนจาก 9 เมตร เป็น 12 เมตร สำหรับระยะที่สองของการพัฒนาครอบคลุมระยะทางกว่า 79 กิโลเมตร (จากหลักกิโลเมตรที่ 111 ถึง กิโลเมตรที่ 190) ภายใต้การสนับสนุนทางด้านเงินกู้จำนวน 28 ล้านดอลลาร์จาก European Investment Bank

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten138_Upgrade_y23.php

คาด สปป.ลาว ได้ประโยชน์จากโครงการความร่วมมือ แม่โขง-คงคา

โครงการความร่วมมือ แม่โขง-คงคา (MGC) มอบเงินอุดหนุนให้แก่ สปป.ลาว มูลค่า 500,000 ดอลลาร์ ผ่านแผนการพัฒนาที่เชื่อมโยงกับความพยายามในการลดความยากจนภายใต้โครงการปฏิบัติการ MGC ประจำปี 2019-2022 จำนวน 11 โครงการ ตามการรายงานของกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว ซึ่งความร่วมมือ MGC ถือเป็นความร่วมมือระหว่างอินเดียและประเทศต่างๆ ในบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ได้แก่ ไทย เมียนมา กัมพูชา สปป.ลาว และเวียดนาม โดยครอบคลุมด้านการท่องเที่ยว วัฒนธรรม การศึกษา และการคมนาคมขนส่ง อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ไปจนถึงการสนับสนุนการดำเนินโครงการทางหลวงไตรภาคี อินเดีย-เมียนมา-ไทย ขณะที่อีกโครงการหนึ่งคือการจัดตั้งสภาธุรกิจความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อจะส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจด้วยการพัฒนาการแลกเปลี่ยนด้านการเกษตร วิทยาศาสตร์ และการจัดการทรัพยากรน้ำ เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten137_Laos_benefits_y23.php

รมว.ท่องเที่ยว สปป.ลาว วางแผนรับนักท่องเที่ยวจีน

รัฐบาล สปป.ลาว เร่งจัดกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยว รวมถึงเร่งปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการมาเยือนของนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมากระหว่างปี 2023-2025 โดยนักท่องเที่ยวจีนถือเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้มาเยือน สปป.ลาว กลุ่มสำคัญ นับตั้งแต่รัฐบาลจีนอนุญาตการเดินทางออกนอกประเทศในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา อีกทั้งปัจจุบันรัฐบาล จีน-สปป.ลาว ได้เปิดให้บริการเส้นทางรถไฟสายใหม่ เพื่อเอื่อต่อการเดินทางและการขนส่ง ร่วมกับการปรับปรุงการเชื่อมต่อถนนระหว่างสถานีรถไฟ สถานที่ท่องเที่ยว และถนนสายหลัก ขณะที่รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับสายการบินที่ต้องการกำหนดเที่ยวบินระหว่าง สปป.ลาวและจีน เป็นสำคัญ ตามรายงานของกระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว โดยในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ชาวจีนมากกว่าหนึ่งล้านคนเดินทางมาเยือน สปป.ลาว คิดเป็นประมาณร้อยละ 20 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Tourism136.php

นายกฯ สปป.ลาว ให้คำมั่นปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้ดีขึ้น

นายกรัฐมนตรี Sonexay Siphandone ให้คำมั่นว่าจะแก้ไขกฎหมายหวังปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ท่ามกลางการแข่งขันระหว่างประเทศที่รุนแรง เพื่อให้การดำเนินธุรกิจและการลงทุนเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งนายกฯ ได้กล่าวกับฝ่ายนิติบัญญัติในการประชุมสมัยสามัญครั้งที่ 5 ของสมัชชาแห่งชาติ (NA) โดยได้มอบหมายให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งจัดประเภทที่ดินเพื่อให้สามารถออกสัมปทานที่ดินได้อย่างรวดเร็ว และถูกต้องตามวัตถุประสงค์ ซึ่งแต่ละจังหวัดต้องมีข้อมูลที่ชัดเจนและถูกต้องในการจัดประเภทที่ดิน เช่น ด้านการเกษตร อุตสาหกรรม การพัฒนาบริการ และการพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยการให้ความสำคัญกับการจัดประเภทที่ดินมีขึ้นหลังจากทราบว่ามีโครงการที่ศึกษาความเป็นไปได้แล้ว แต่การพัฒนาไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากที่ดินไม่เพียงพอสำหรับโครงการที่เสนอ นอกจากการให้สัมปทานที่ดินของรัฐแบบเดิมแล้ว รัฐบาลจะสำรวจรูปแบบความร่วมมือในการให้สัมปทานที่ดินแก่ภาคเอกชนสำหรับโครงการลงทุนใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งนายกฯ ยังให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงขั้นตอนต่างๆ เพื่อเร่งการลงนามในบันทึกความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับโครงการลงทุน เพื่อส่งเสริมการลงทุนและดึงดูดนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_PMvows135.php

CSG พร้อมสร้างสมดุลในการจัดหาพลังงานให้แก่ สปป.ลาว

China Southern Power Grid (CSG) กำลังมองหาโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น ภายในเขตลุ่มแม่น้ำล้านช้าง-ลุ่มแม่น้ำโขง (LMC) โดยเฉพาะในประเทศ สปป.ลาว หลังจากที่ได้รุกลงทุนด้านพลังงานและการค้าภายในภูมิภาคแล้วในปัจจุบัน ด้าน Li Xinhao ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายความร่วมมือระหว่างประเทศของ CSG กล่าวว่า บริษัท พร้อมให้การช่วยเหลือและร่วมมือกับกลุ่มประเทศในเขตลุ่มแม่น้ำล้านช้าง-ลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อสร้างสมดุลในด้านการจัดหาไฟฟ้าในภูมิภาค ซึ่งในช่วงฤดูแล้งของ สปป.ลาว ทางการจำเป็นต้องนำเข้าพลังงานไฟฟ้าเพื่อตอบสนองต่อความต้องการภายในประเทศ โดยในอนาคต CSG จะสร้างสายส่งไฟฟ้าเพิ่มขึ้นใน สปป.ลาว เพื่อเป็นการสร้างความแข็งแกร่งด้านพลังงาน ภายในสิ้นปี 2022 บริษัท ได้นำส่งไฟฟ้ากว่า 40,212 GWh ไปยังเวียดนาม 1,228 GWh ไปยัง สปป.ลาว และ 4,969 GWh ไปยังเมียนมา รวมถึงทำการซื้อไฟคืนจากเมียนมา 23,279 GWh

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_132_China_CSG_y23.php

พาณิชย์หนุนโมเดล “คาเฟ่อเมซอน” ปักหมุด สปป.ลาว

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้นำคณะเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ระหว่างวันที่ 7-8 ก.ค. 2566 และได้พบหารือกับผู้บริหารบริษัท ปตท. และ Cafe Amazon สาขาเมืองหลวงพระบาง เพื่อหารือเรื่องโอกาสการขยายการค้า และการลงทุนใน สปป.ลาว พร้อมเยี่ยมชมกิจกรรมฟาร์มควายนมแห่งแรกของหลวงพระบาง เพิ่มทางเลือกทางโภชนาการสำหรับผู้แพ้นมวัว โดยพบว่า สปป.ลาว เป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับการลงทุนร้านคาเฟ่ แม้จะเป็นประเทศขนาดเล็กที่มีประชากรเพียง 7.5 ล้านคน แต่เป็นแหล่งปลูกกาแฟที่มีชื่อเสียงของโลก

ทั้งนี้ มูลค่าการค้าระหว่างประเทศไทย-สปป.ลาว ในช่วง 5 เดือนแรก 111,816.37 ล้านบาท ไทยส่งออก 67,564.83 ล้านบาท นำเข้า 44,251.54 ล้านบาท ได้ดุลการค้า 23,313.29 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปี 2565 ที่มีมูลค่าการค้า 112,940.02 ล้านบาท ไทยส่งออก 64,289.16 ล้านบาท นำเข้า 48,650.86 ล้านบาท ได้ดุลการค้า 15,638.3 ล้านบาท

ที่มา : https://www.prachachat.net/economy/news-1343466

2024 สปป.ลาว ตั้งเป้ารับนักท่องเที่ยว 4.6 ล้านคน

รัฐบาล สปป.ลาว หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างน้อย 4.6 ล้านคน ภายในช่วงปี 2024 ผ่านแคมเปญ Visit​ Laos Year​ 2024 โดยคาดว่าจะสร้างรายได้เข้าประเทศประมาณกว่า 712 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดการณ์ว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนนักท่องเที่ยวดังกล่าวจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ข้อมูลข้างต้นกล่าวโดย Suanesavanh Vignaket​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว สปป.ลาว ซึ่งคาดว่าเทศกาลธาตุหลวงในเวียงจันทน์ การเฉลิมฉลองปีใหม่ สปป.ลาว และการเฉลิมฉลองในแขวงหลวงพระบางเพื่อเฉลิมฉลองวันออกพรรษา จะเป็นช่วงที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ออกมาเที่ยวมากที่สุด เช่นเดียวกับเทศกาลอื่นๆ ที่นอกเหนือจากที่กล่าว ด้านกระทรวงฯ กำลังเร่ง​ส่ง​แผนการกระตุ้นการท่องเที่ยว​ให้กับ​รัฐบาล ในการ​อนุมัติเพื่อทำการจัดแคมเปญต่อไป โดยในปี 2018 ช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 สปป.ลาว ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวมากถึง 4.1 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 เมื่อเทียบกับปี 2017

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laostargeting130.php