คาดอัตราการว่างงานกัมพูชาลดลงเหลือร้อยละ 0.3 ภายในปี 2023

คาดอัตราการว่างงานของกัมพูชาจะลดลงเหลือร้อยละ 0.3 ภายในปี 2023 จากร้อยละ 0.4 ในปีที่แล้ว ตามตัวเลขล่าสุดที่เผยแพร่โดยกระทรวงแรงงาน ซึ่งอ้างอิงจากข้อมูลขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ของหน่วยงานสหประชาชาติ (UN) โดยตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าอัตราการว่างงานของกัมพูชาต่ำที่สุดในบรรดาประเทศที่มีระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจใกล้เคียงกันและต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค อย่างเช่น ไทย เวียดนาม และ สปป.ลาว ในขณะที่อัตราการว่างงานโดยเฉลี่ยของกลุ่มประเทศอาเซียนคาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.4 ในปี 2023 จากร้อยละ 2.6 ในปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501354673/unemployment-rate-to-fall-to-0-3-percent-in-2023/

7 เดือนแรกของปี กัมพูชาส่งออกยางขยายตัว 3% มูลค่าแตะ 228.5 ล้านดอลลาร์

กัมพูชาส่งออกยางแห้งในช่วง 7 เดือนแรกของปีจำนวนรวมกว่า 170,968 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามรายงานของ General Directorate of Rubber สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 228.5 ล้านดอลลาร์ โดยราคายางแห้งหนึ่งตันมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,337 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าราคาในช่วงช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 244 ดอลลาร์ ต่อตัน สำหรับผู้นำเข้ารายสำคัญยังคงเป็นกลุ่มประเทศในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และจีนเป็นหลัก ขณะที่ปัจจุบันในประเทศกัมพูชาได้มีการเพาะปลูกต้นยางในพื้นที่ทั้งหมด 404,578 เฮกตาร์ โดยมีต้นยางที่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ประมาณ 315,332 เฮกตาร์ หรือคิดเป็นร้อยละ 78 ของพื้นที่เพาะปลูก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501352255/cambodias-rubber-exports-up-3-pct-in-first-7-months-to-earn-2285-million/

รัฐบาลกัมพูชาจ่อปรับค่าแรงขั้นต่ำกลุ่มอุตสาหกรรม GFT ในประเทศ

รัฐบาลกัมพูชายืนยันปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอย่างต่อเนื่องสำหรับแรงงานในภาคอุตสาหกรรมตัดเย็บเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าการเดินทาง (GFT) โดยยึดมั่นในความยั่งยืนของภาคดังกล่าวและเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาด ซึ่งเป็นนโยบายที่ได้รับการสนับสนุนมาจากรัฐบาลชุดใหม่ของกัมพูชา ขณะที่ปัจจุบันค่าแรงขั้นต่ำรายเดือนสำหรับภาคส่วนนี้อยู่ที่ 200 ดอลลาร์ ต่อเดือน เพิ่มขึ้นจาก 194 ดอลลาร์ ต่อเดือน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับอุตสาหกรรมเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าการเดินทาง (GFT) ถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญของกัมพูชา โดยมีสถานประกอบประมาณ 1,332 แห่ง สร้างการจ้างงานประมาณกว่า 830,000 คน ซึ่งคิดเป็นการส่งออกสินค้ากลุ่มดังกล่าวมูลค่ารวมกว่า 6.27 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี ถึงแม้จะลดลงอย่างมากจากการมูลค่า 7.89 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลการค้าจากกรมศุลกากรและสรรพสามิต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501352116/gft-minimum-wage-hike-focuses-on-sustainability/

เกาหลีใต้จ่อส่งออกเนื้อวัวเกรดพรีเมี่ยมมายังกัมพูชา

กระทรวงเกษตรกัมพูชา กล่าวรายงานว่าเกาหลีใต้ประกาศส่งออก “ฮันวู” ซึ่งเป็นเนื้อวัวเกรดพรีเมียมของเกาหลีมายังกัมพูชา ผ่านการลงนามในสัญญาฉบับแรกร่วมกัน เพื่อกระตุ้นการส่งออกเนื้อวัวของเกาหลีใต้ที่จะส่งออกมายังกัมพูชา โดยเกาหลีใต้กำลังมองหาการส่งออกเนื้อวัวพรีเมียมจำนวนกว่า 2,000 ตัน มูลค่ารวมถึง 100 ล้านดอลลาร์ ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเนื้อประเภทดังกล่าวได้รับการรับรองฮาลาลที่เป็นมาตรฐานระดับสากล รวมถึงนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเน็ต ได้จัดการประชุมกับคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของเกาหลีใต้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (28 ส.ค.) เพื่อหารือถึงแนวทางที่จะขยายความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคี โดยทั้งสองประเทศยังเห็นพ้องที่จะพยายามร่วมกันขยายการค้าในภาคเกษตรกรรมและการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องร่วมกันในระยะถัดไป ขณะที่การส่งออกของกัมพูชาไปยังเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.6 เป็น 164.7 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ จาก 135.5 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิตของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501351239/south-korea-to-export-premium-beef-to-cambodia/

กัมพูชาจัดสรรงบประมาณ 100 ล้านดอลลาร์ ส่งเสริมภาคการเกษตร

นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณกว่า 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อส่งเสริมภาคเกษตรกรรมภายในประเทศ โดยได้กล่าวไว้ในระหว่างการพบปะกับแรงงานโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าราว 18,000 คน ในกรุงพนมเปญ ซึ่งฮุนมาเนตกล่าวเสริมว่าราคาสินค้าเกษตรในปัจจุบันมีความผันผวนตามความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่างบประมาณส่วนดังกล่าวจะช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาสินค้าเกษตรในประเทศได้ในระยะหนึ่ง นอกจากนี้ งบประมาณดังกล่าวยังจะถูกนำมาใช้เพื่อปรับปรุงระบบชลประทานและการฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคเกษตรกรรมในประเทศ ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องวางแผนที่จะส่งเจ้าหน้าที่ด้านการเกษตรไปยังทุกชุมชนทั่วประเทศเพื่อทำงานร่วมกับเกษตรกรโดยตรง เพื่อหวังแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน สำหรับในช่วง 7 เดือนแรกของปี กัมพูชาส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรไปยัง 68 ประเทศทั่วโลก คิดเป็นมูลค่ารวมเกือบ 2.63 พันล้านดอลลาร์ หรือนับเป็นปริมาณรวมกว่า 4.51 ล้านตัน ตามรายงานของกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญของกัมพูชา ได้แก่ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง มะม่วง กล้วยสด พริกไทย และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501351567/cambodia-reserves-100-mln-for-boosting-agriculture-pm/

มูลค่าการค้าระหว่าง กัมพูชา-สหรัฐฯ ในช่วงครึ่งแรกของปีแตะ 5.3 พันล้านดอลลาร์

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหรัฐฯ ในช่วงครึ่งแรกของปีมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 5.3 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 14 จากมูลค่า 6.2 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามรายงานของสํานักการสํารวจสํามะโนประชากรสหรัฐฯ โดยคิดเป็นการส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ ที่มูลค่า 5.1 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 10.6 จากมูลค่า 5.9 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่คิดเป็นการนำเข้าของกัมพูชาที่มูลค่า 164 ล้านดอลลาร์ ลดลงกว่าร้อยละ 37 จากมูลค่า 260 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ซึ่งสินค้าส่งออกหลักของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ ได้แก่ เครื่องแต่งกาย อุปกรณ์เสื้อผ้า เครื่องหนัง สินค้าสำหรับการเดินทาง เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า ด้านการนำเข้าของกัมพูชา ได้แก่ ยานพาหนะ เครื่องจักรและเครื่องใช้ทางกล เครื่องมือทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์ยาจากสหรัฐฯ เป็นสำคัญ ภายใต้ความต้องการสินค้าเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าการเดินทางจากสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง โดยสหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดที่มีศักยภาพของกัมพูชา เนื่องจากประมาณร้อยละ 40 ของการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชาถูกส่งออกไปยังสหรัฐฯ ซึ่งล่าสุดกระทรวงพาณิชย์กัมพูชาขอให้สหรัฐฯ ต่ออายุโครงการ GSP เพื่อช่วยกระชับความร่วมมือทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกันมากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501350472/cambodia-united-states-trade-reaches-5-3-billion-in-h1/

สปป.ลาว-ไทย ทุ่มงบสร้างทางด่วนเชื่อมเวียดนาม

เจ้าหน้าที่ สปป.ลาว และไทย ได้หารือร่วมกันเกี่ยวกับแผนความเป็นไปได้ในการสร้างทางด่วนระยะทาง 160 กม. จากสะหวันนะเขตตอนกลางของ สปป.ลาว ไปยังด่านชายแดนลาวบาวของเวียดนาม ด้านรองผู้ว่าการสะหวันนะเขต นาย Senesak Soulysak ได้เสนอแผนการก่อสร้างทางพิเศษต่ออดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ และเจ้าหน้าที่ไทยฝ่ายอื่นๆ รวมถึงรายงานเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างโรงแรมระดับ 5 ดาว สนามกอล์ฟ ตลอดจนบริการขนส่งระหว่างประเทศ เพื่อจะส่งเสริมการพัฒนาในจังหวัด ซึ่งปัจจุบันการลงทุนจากต่างประเทศใน สปป.ลาว เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในภาคพลังงานหมุนเวียน สำหรับทางด่วนคาดว่าจะส่งเสริมปริมาณการค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากจังหวัดตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยถือเป็นกลุ่มนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่อันดับสอง ในจังหวัดสะหวันนะเขต รองจากจีน

ที่มา : https://vir.com.vn/laos-thailand-mull-over-building-expressway-linking-to-vietnam-104642.html

กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังอินเดียโตกว่าร้อยละ 43

ในช่วง 7 เดือนแรกของปี กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังอินเดียมูลค่ารวมกว่า 140.93 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 42.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายงานโดยกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) ขณะที่การส่งออกไปยังจีนของกัมพูชาปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.2 ไปยังเวียดนามขยายตัวร้อยละ 20.6 และไปยังสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 9.1 ในช่วงเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ยังคงมีส่วนแบ่งการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดที่ร้อยละ 38.3 ของการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชา รองลงมาคือเวียดนามและจีน ที่ร้อยละ 11.8 และร้อยละ 6 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม การนำเข้าของกัมพูชาจากอินเดียลดลงร้อยละ 18.1 ที่มูลค่า 127.56 ล้านดอลลาร์ ทำให้กัมพูชาเกินดุลการค้ากับอินเดียที่มูลค่า 13.36 ล้านดอลลาร์ ด้าน Pan Sorasak อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตั้งข้อสังเกตว่าการส่งออกไปยังอินเดียที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นผลมาจากโครงการปลอดภาษี (Duty-Free Tariff Preference: DFTP) ที่ได้เปิดตัวเมื่อปี 2018

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501348223/cambodias-exports-to-india-rise-by-43/

กัมพูชาดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 3 ล้านคน ภายในช่วง 7 เดือนแรกของปี

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชารายงานสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยว ในช่วง 7 เดือนแรกของปี โดยกัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณกว่า 3.03 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 308 จากจำนวน 743,459 คน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยถือเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญของกัมพูชา สำหรับในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ค. ปีนี้ ตามมาด้วยเวียดนาม จีน สปป.ลาว และสหรัฐฯ เป็นสำคัญ ด้านกระทรวงกล่าวเสริมว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะมาเยือนกัมพูชาคาดว่าจะสูงถึง 7 ล้านคน ภายในปี 2025 ซึ่งสูงกว่าในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ 6.6 ล้านคน ในปี 2019 โดยภาคการท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในสี่เสาหลักสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา นอกเหนือจากภาคการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูป ภาคเกษตรกรรม การก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501348457/cambodia-attracts-three-million-international-tourists-in-seven-months/

Acleda Bank ตั้งเป้าขยาย “KHQR” สู่ประเทศนอกกลุ่มอาเซียน

ธนาคาร Acleda จำกัด (มหาชน) วางแผนที่จะขยายระบบการชำระเงิน QR code ภายใต้ชื่อระบบ KHQR ไปยังกลุ่มประเทศนอกภูมิภาคอาเซียน โดยแผนดังกล่าวจะถูกนำไปขยายผล หลังจากมีการเชื่อมต่อการชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างกัมพูชากับไทย เวียดนาม และ สปป.ลาว ซึ่งการชำระเงินข้ามระหว่างประเทศดังกล่าวไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ยกเว้นธุรกรรม กัมพูชา- สปป.ลาว กล่าวโดย Mar Amara รองประธานบริหารอาวุโสและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของกลุ่ม Acleda Bank ซึ่งปัจจุบันมีความพยายามเป็นอย่างมากที่จะพัฒนารูปแบบการทำธุรกรรมการชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างอินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นกลุ่มถัดไป โดยการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่านระบบดังกล่าวจะช่วยให้เกิดการทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินท้องถิ่นของแต่ละประเทศ และสร้างความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นในกรณีที่มีการเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีระบบชำระเงินดังกล่าว ซึ่งมีความปลอดภัยสูงกว่าการพกเงินสด

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501347404/acleda-bank-to-expand-khqr-beyond-asean/