‘เวียดนาม’ เผย Q3 ธุรกิจผลิตน้ำมันและก๊าซ กำไรลดวูบ

แม้ว่าราคาน้ำมันจะกลับมาฟื้นตัว แต่ผลกำไรของธุรกิจน้ำมันและก๊าซลดลงในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เป็นผลมาจากได้รับผลลกระทบของโควิด-19 บริษัทน้ำมันรายใหญ่อย่าง “PV Gas” โชว์กำไรในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ก่อนหักภาษีและหลังหักภาษี ลดลง 11.5% และ 7% คิดเป็นมูลค่า 2.29 ล้านล้านดอง และ 1.86 ล้านล้านดอง ตามลำดับ ตัวแทนจากบริษัท กล่าวว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ความต้องการใช้ก๊าซของลูกค้าลดลง ในขณะเดียวกัน สถานการณ์การผลิตที่ซบเซา ทำให้อุปสงค์ในประเทศลดลง 35-40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในอนาตเร็วๆนี้ ลูกค้าจะลดการบริโภคก๊าซเพิ่มมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อยอดขายก๊าซลดลง 40-50% ในขณะที่ปัญหาทางด้านการขนส่งและแรงงาน ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/oil-and-gas-firms-suffer-drop-in-q3-profit-due-to-covid19-impacts/209912.vnp

 

11 เดือนแรกของปีงบฯ 63-64 เมียนมา – สิงคโปร์ ดันยอดการค้ากว่า 2.67 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสิงคโปร์นำเข้ากว่า 2,470 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากตัวเลขของกระทรวงพาณิชย์ สิงคโปร์นำเข้ามากกว่า 2.770 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 63-64 โดยในปีงบประมาณ 60-61 การส่งออกของเมียนมาอยู่ที่ 753.495 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้ามูลค่า 3,084.631 ล้านดอลลาร์ โดยมีปริมาณการค้า 3,838.126 ล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2561-2562 มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 344.740 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้ามูลค่า 3,162.511 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีปริมาณการค้า 3507.50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนในปีงบประมาณ 62-63 มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 753.114 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้ามีมูลค่า 3,052.194 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และปริมาณการค้า 3,805.307 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยุทธศาสตร์การส่งออกแห่งชาติ (NES) ปี 63-68 เป็นโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนทำงานร่วมกันเพื่อสร้างงานและโอกาสใหม่ๆ ให้กับชาวเมียนมา ซึ่งยุทธศาสตร์การส่งออกแห่งชาติ (NES) ปี 2020-2025 จะสร้างโอกาสใหม่สำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและผู้ส่งออกที่มีอยู่ในตลาดในประเทศและทั่วโลก

ที่มา: https://news-eleven.com/article/218047

ชู 11 มาตรฐานขานรับเปิดประเทศ ตั้งแต่เหยียบประเทศจนถึงกำจัดขยะ

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพมหานครตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี  โดยใช้แนวทางกรุงเทพแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งภาคเอกชนจะมีส่วนร่วมในการส่งเสริมมาตรฐาน SHA+ พร้อมรณรงค์มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting) ซึ่งที่ผ่านมา ชาวกรุงเทพฯ ฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว 100% และเข็มที่ 2 อีก 69.77% โดยน่าจะครบ 70% ภาย 1-2 วันนี้ตามเป้าหมาย จึงมีความพร้อมที่จะเปิดเมือง และกลับมามีชีวิตอีกครั้ง และได้จัดทำมาตรฐานขั้นตอนการปฎิบัติงาน แบ่งเป็นมาตรฐาน 11 ด้าน ซึ่งหอการค้าไทยจะสื่อสารไปยังหอการค้าจังหวัดให้เตรียมความพร้อมต่อไป

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/news/387958/

 

การลงทุนด้านการเกษตร การท่องเที่ยวสามารถสร้างงานได้มากขึ้น

ภาคการเกษตรและการท่องเที่ยวมีศักยภาพมหาศาลในการส่งเสริมการเติบโตอย่างครอบคลุมในสปป.ลาวทั้งในระยะกลางและระยะยาว ตามรายงานล่าสุดของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียรายงาน “การพัฒนาเกษตรกรรมและการท่องเที่ยวเพื่อการเติบโตอย่างครอบคลุมในลาวจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างสองภาคส่วนนี้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศหลังเกิดโรคระบาด ความเชื่อมโยงระหว่างการเกษตรกับการท่องเที่ยวสามารถส่งผลดีต่อทั้งการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและการพัฒนาที่ยั่งยืน ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปรับปรุงการเกษตรให้ทันสมัยเพื่อการเติบโตและการลดความยากจน โดยกล่าวว่าการลงทุนในการวิจัย การพัฒนา และการขยายผลทางการเกษตร ด้านการท่องเที่ยวนักเศรษฐศาสตร์ แนะว่าการท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นเมื่อการระบาดใหญ่สงบลง เนื่องจากมีผู้คนรอเดินทางมากขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีการใช้จ่ายมากขึ้น สปป.ลาวควรขยายการยกเว้นวีซ่านโยบายต่อประเทศที่มีรายจ่ายด้านการท่องเที่ยวขาออกสูง

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Investment_203_21.php

ชาวสวนมะเขือเทศอำเภอปหวิ่น-พยู ปลื้ม ได้ราคางาม

ชาวสวนมะเขือเทศอำเภอปหวิ่น-พยู เขตมะกเว ล้วนปลื้มราคามะเชื่อเทศที่เพิ่มขึ้น ในปัจจุบันราคาจำหน่ายที่ 1,500 จัตต่อ viss (1 viss เท่ากับ 1.6 กิโลกรัม) ปีนี้เกษตรกรล้วนมีพอใจเพราะได้ผลผลิตที่ดีหลังมีฝนตกและน้ำบาดาลที่เพียงพอ โดยเกษตรกรในท้องถิ่นส่วนใหญ่จะปลูกมะเขือเทศ พริก หัวหอม มะระ ฟักทอง แตงโม มะเขือยาว ถั่วฝักยาว ผักโขม หัวไช้เท้า (Daikon) และผักเคว (Kayl)  ซึ่งเป็นรายได้หลักของครอบครัวเกษตรกร ขณะที่เดือนที่แล้ว ราคามะเขือเทศขายได้เพียง 400-500 จัตต่อ viss ซึ่งก่อนหน้านี้ เกษตรกรทำการเพาะปลูกด้วยวิธีดั้งเดิม แต่ตอนนี้หันไปเพาะปลูกด้วยวิธีและเทคโนโลยีที่ทันสมัยแล้ว

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/pwintbyu-tomato-growers-enjoy-fairer-prices/

‘เวียดนาม’ คาดบรรลุเป้าส่งออกข้าวปีนี้

เวียดนามคาดว่าในปีนี้จะบรรลุเป้าหมายการส่งออกข้าว 6.3 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นผลมาจากอุปสงค์ทั่วโลกขยับตัวสูงขึ้นและราคาส่งออกที่เพิ่มขึ้น ตามรายงานของสถิติกรมศุลกากร เปิดเผยว่าในเดือน ก.ย. เวียดนามส่งออกข้าว 593,600 ตัน เป็นมูลค่า 293.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 19% ในแง่ของปริมาณ และ 20.5% ในแง่ของมูลค่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ นาย Nguyen Quoc Toan อธิบดีกรมการแปรรูปและพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรของกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท ชี้ว่าการส่งออกข้าวเริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้งตั้งแต่เดือน ก.ย. ถึงแม้ว่าจะคงมีการใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในหลายๆ จังหวัดในภาคใต้ นอกจากนี้ สมาคมอาหารเวียดนาม เปิดเผยว่าราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของเวียดนามพุ่งสูงสุดในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยปัจจุบันราคาข้าวหัก 5% อยู่ที่ประมาณ 433-437 เหรียญสหรัฐต่อตัน แซงหน้าคู่แข่งรายอื่นๆ เช่น ไทย อินเดียและปากีสถาน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1059961/viet-nam-likely-to-achieve-rice-export-target-this-year.html

‘เวียดนาม’ เผยตลาดโฮจิมินห์กลับมาเปิดอีกครั้ง

ตลาดพื้นเมืองประมาณ 47 แห่ง จากทั้งหมด 234 แห่งในใองโฮจิมินห์กลับมาเปิดกิจการ ประกอบไปด้วยผู้ค้าอาหารสด-แห้งและสินค้าจำเป็น ตามข้อมูลของสำนักงานอุตสาหกรรมและการค้าประจำเมืองโฮจิมินห์ เปิดเผยว่าเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ตลาดพื้นเมืองคงปิดพื้นที่ในเขต 3, 4, 6, 7, 8, โกวอป, ฟูยวนและบิ่ญจั๊ญ เป็นต้น ขณะที่ ตลาด 22 แห่งกำลังวางแผนที่จะกลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม กิจกรรมการชุมนุมและการค้ายังประกาศอย่างไม่เป็นทางการ ทั้งนี้ คณะกรรมการประชาชนจังหวัด ประกาศว่าพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง จำเป็นต้องมีเงื่อนไขเฉพาะอย่าง เพื่อให้ดำเนินการได้อย่างปลอดภัย

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1060902/traditional-markets-in-hcm-city-reopen.html

 

ไทยชูแผนคุมโควิด-เปิดประเทศ สร้างความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนสหรัฐ

นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังประชุมทางไกล กับคณะนักธุรกิจ จากสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน (U.S.-ASEAN Business Council : USABC) ทั้งนี้ ได้ใช้โอกาสนี้สร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนสหรัฐฯ ในการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 และความพร้อมการเปิดประเทศ และยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันในระยะยาวบนฐานเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Model และการดึงดูดการลงทุนเข้าสู่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ปัจจุบัน สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าอันดับ 3 รองจากจีนและญี่ปุ่น โดยช่วง 8 เดือนของปี 64 (ม.ค.-ส.ค.) มีมูลค่า 36,460 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 9.56% โดยส่งออกไปสหรัฐฯ มูลค่า 26,884 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 20.56% และนำเข้ามูลค่า 9,576 ล้านเหรียญสหรัฐลด 12.79%

ที่มา: https://www.naewna.com/business/609480

สหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกสำคัญของสินค้ากัมพูชา

สหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดสำหรับสินค้าส่งออกของกัมพูชาในปี 2021 แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยการส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าผลิตภัณฑ์บางอย่างจะผลิตโดยไม่ได้อยู่ภายใต้ระบบการให้สิทธิพิเศษทางภาษี (GSP) ซึ่งรายงานจากกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังระบุว่าการส่งออกรวมของกัมพูชามีมูลค่า 14.6 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 42 ของการส่งออกทั้งหมด มูลค่า 6,219 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 40.2 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งปีที่แล้ว การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหรัฐฯ มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 6,921 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 จากปีก่อนหน้า ในจำนวนนี้คิดเป็นการส่งออกของกัมพูชามูลค่า 6.577 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50952218/us-remains-the-biggest-market-for-exporters/

ไทย-เวียดนาม ตลาดสำคัญส่งออกสินค้าเกษตรกัมพูชา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรกัมพูชา กล่าวถึงการรายงานของกรมวิชาการเกษตรเกี่ยวกับปริมาณการส่งออกสินค้าเกษตรไปยัง 90 ประเทศทั่วโลก ในช่วง 9 เดือนแรกของปี ด้วยปริมาณรวม 5.93 ล้านตัน โดยในบรรดา 90 ประเทศ เวียดนามและไทย ถือเป็นตลาดหลักสำคัญของสินค้าเกษตรกัมพูชา ซึ่งเวียดนามทำการนำเข้าสินค้าเกษตรจากกัมพูชาคิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 64.11 ไทยร้อยละ 21.49 จีนร้อยละ 9.69 และ อีก 87 ประเทศ ราวร้อยละ 4.71 โดยคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสินค้าส่งออกทางการเกษตรของกัมพูชาที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ข้าวโพด ถั่วเหลือง กล้วยสด ส้มโอ มะม่วงสด น้ำเชื่อมมะม่วง น้ำมันมะพร้าว พริกไทย ยาสูบ เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50953268/thailand-and-vietnam-remain-key-markets-for-cambodian-agricultural-products-out-of-90-markets/