จังหวัดพระสีหนุของกัมพูชา จ่อขึ้นแท่นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมภายในประเทศ

จังหวัดพระสีหนุในกัมพูชาครองตำแหน่งจังหวัดยอดนิยมด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศที่นักท่องเที่ยวภายในประเทศให้การยอมรับ โดยจังหวัดพระสีหนุได้ทำการต้อนรับนักท่องเที่ยวภายในประเทศจำนวน 532,380 คน เดินทางมายังจังหวัดชายฝั่งในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 117.9 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็นเกือบร้อยละ 59 ของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนยังจังหวัดตามแนวชายฝั่ง ส่วนกรุงพนมเปญซึ่งเป็นเมืองหลวงได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวภายในประเทศลดลงมากที่สุดที่ร้อยละ 36.8 โดยมีนักท่องเที่ยวในท้องถิ่นจำนวน 374,196 คน รองลงมาคือเมืองเสียมราฐลดลงร้อยละ 30 ที่ได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวภายในประเทศเพียง 115,255 คน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50899216/preah-sihanouk-province-tops-domestic-tourism-destinations/

จำนวนผู้โดยสารทางอากาศของกัมพูชาลดลงร้อยละ 92 ในช่วงครึ่งปีแรก

จำนวนผู้โดยสารทางอากาศที่เดินทางผ่านสนามบินนานาชาติสามแห่งในกัมพูชาลดลงร้อยละ 92 คิดเป็นจำนวน 136,680 คน ในช่วง 6 เดือนแรกของปี รายงานโดยท่าอากาศยานกัมพูชาบริษัทผู้ดำเนินการท่าอากาศยานนานาชาติของกัมพูชา แสดงให้เห็นว่าท่าอากาศยานนานาชาติพนมเปญ (PNH) รองรับผู้โดยสารจำนวน 120,922 คน ลดลงร้อยละ 89.4 ในขณะที่ท่าอากาศยานนานาชาติเสียมเรียบ (REP) ลดลงถึงร้อยละ 99.9 โดยมีผู้โดยสารทั้งสิ้น 359 คน ส่วนสนามบินนานาชาติสีหนุวิลล์ (KOS) รองรับผู้โดยสารเพียง 15,399 คน ลดลงร้อยละ 91.8 ซึ่งท่าอากาศยานกัมพูชารายงานเพิ่มเติมระบุว่าเที่ยวบินภายในประเทศลดลงถึงร้อยละ 78.7 แต่อย่างไรก็ตาม การส่งออกกลับปรับตัวเติบโตในเชิงบวก โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ในช่วง 6 เดือนแรกของปี ซึ่งในปี 2020 จำนวนผู้โดยสารเดินทางผ่านสนามบินลดลงเป็นอย่างมากถึงร้อยละ 81.3 คิดเป็นจำนวน 2.13 ล้านคนในปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50898857/air-passengers-drop-by-92-percent-in-first-half/

เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสปป.ลาวคาดหวังให้สปป.ลาวได้วัคซีนโควิด-19 เพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯ

ดร.ปีเตอร์ เอ็ม เฮย์มอนด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสปป.ลาว กล่าวว่า วัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ จะมาถึงสปป.ลาวในอนาคต เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้คนในสปป.ลาวจากไวรัสโควิด-19 ผ่านโครงการ COVAX Facility มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นความร่วมมือระดับโลกที่มีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่ามีการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 อย่างเท่าเทียมกัน การสนับสนุนจากสหรัฐฯ จะทำให้ประสิทธิภาพการฉีดวัคซีนในสปป.ลาวเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ปัจจุบันสปปป.ลาวสามารถฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับประชาชนไปแล้วกว่าร้อยละ 50 ของประชาทั้งหมดและหากได้รับวัคซีนเพิ่มเติมที่มีกำหนดรับในเดือนนี้ สปป.ลาวจะสามารถฉีดเข็มสองให้กับประชาชนได้ครอบคลุมกว่าร้อยละ 50 ภายในปีนี้ การเร่งฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในตามหลักทางการแพทย์นั้น จะทำให้สปป.ลาวสามารถจบปัญหากับโควิดเร็วและจะเร่งกลับมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้เร็วกว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียน การสนับสนุนวัคซีนผ่านโครงการดังกล่าวจึงถือเป็นปัจจัยสำคัญในการที่จะทำให้สปป.ลาวรอดพ้นจากสถานการณ์ที่ยากลำบากในปัจจุบัน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_US141.php

ตลาดโฮจิมินห์ดิ่ง เผชิญลูกค้าน้อยราย เหตุกลัวโควิดระบาด

จากการสำรวจของสำนักข่าว VnExpress เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พบว่าตลาดส่วนใหญ่มีผู้ซื้อหรือผู้บริโภคเพียงไม่กี่รายที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอย และตลาดดั้งเดิมอีก 40 แห่ง ได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการได้บางส่วน โดยจำหน่ายเฉพาะอาหาร ทั้งนี้ ผู้บริหารตลาดรายหนึ่ง กล่าวว่าพ่อค้า/แม่ค้าหันมาขายของออนไลน์มากขึ้น ขณะที่ผู้บริโภคกลัวที่จะเข้ามาตลาด เนื่องจากอยู่ในบริเวณที่ใกล้เคียงกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างไรก็ดี ร้านค้าหลายแห่งได้ปรับลดราคาผักผลไม้หลายชนิด นอกจากนี้ ผู้คนในเมืองโฮจิมินห์กว่า 13 ล้านคน เผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุด มากกว่า 39,500 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 27 เม.ย. 2564)

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/economy/hcmc-traditional-markets-lack-patrons-on-covid-fears-4328158.html

“ไนกี้” หวั่นโควิด-19 ระบาด ปิดโรงงานผลิตรองเท้าในเวียดนาม

บริษัทวิจัยตลาด ส่งสัญญาเตือนการปิดโรงงานผลิตรองเท้า 2 รายในเวียดนาม เนื่องจากเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการผลิตรองเท้าไนกี้ (Nike) โดยเวียดนามมีสัดส่วน 49% ของปริมาณการนำเข้าผ่านการขนส่งทางทะเล และเชื่อมโยงกับสินค้าของไนกี้และอื่นๆ ของบริษัทในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ อีกทั้ง งบประมาณของบริษัท ไนกี้ ปี 2563 ได้ทำสัญญาจ้างในเวียดนาม เพื่อผลิตรองเท้าแบรนด์ราว 50% นอกจากนี้ ผู้ให้บริการ ‘S&P Global Market Intelligence’ ชี้ให้เห็นว่า ‘Changshin Vietnam’ โรงงานผลิตรองเท้าจากเกาหลี และ ‘Pou Chen Corp’ ของไต้หวัน ประกาศหยุดการดำเนินกิจการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อาจทำให้ซัพพลายเชนเกิดหยุดชะงักลงที่บริษัททำธุรกิจด้วย

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/companies/nike-could-run-out-of-vietnamese-sneakers-4328007.html

เกษตรกรปลื้ม พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไก่ออกไข่ได้ราคาดี

ผู้เลี้ยงไก่จังหวัดหมื่นบู้ เขตมะกเว เปิดเผยว่ายอดขายไข่ไก่เพิ่มขึ้นเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ที่เริ่มควบคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้น โดยราคาเพิ่มขึ้นตามคาดของไข่ เล็ก กลาง และใหญ่ เป็น 180, 200 และ 220 จัตต่อฟองจากเดิม 80, 100 และ 120 จัตต่อหนึ่งฟอง ในส่วนการเลี้ยงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มีกาไรน้อยลงเนื่องจากต้นทุนสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังต้องเจอกับปัญหาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไก่ล้มตาย จากสภาพอากาศแปรปรวน อีกทั้งราคาอาหารไก่ก็สูงขึ้นเช่นกัน ทั้งนี้ในแต่ละหมู่บ้านมีฟาร์มไก่ 3-4 แห่ง เป็นฟาร์มที่เลี้ยงในครัวเรือนในขณะที่บางรายเลี้ยงแบบเกษตรพันธสัญญาร่วมกับบริษัทต่างชาติ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/poultry-breeders-get-good-price-of-eggs/

กัมพูชาจัดเก็บภาษีในช่วงครึ่งปีแรกรวม 1.5 พันล้านดอลลาร์

กรมจัดเก็บภาษีกัมพูชา (GDT) รวบรวมรายได้จากการจัดเก็บภาษีมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2021 ลดลงร้อยละ 10.60 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 67.58 ของแผนการจัดเก็บภาษีประจำปี โดยกรมจัดเก็บภาษี (GDT) ได้เร่งดำเนินการตามนโยบายการปฏิรูปเชิงลึกของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด เพื่อให้งานการจัดเก็บภาษีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านมาตรการสำคัญต่างๆ รวมถึงการเสริมสร้างความเข้มแข็งและการจัดการการปฏิรูประบบภาษี การปรับปรุงระบบ e-filling การเสริมการจัดเก็บภาษี และอื่นๆ ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาตั้งเป้าที่จะจัดเก็บภาษีอยู่ที่ประมาณ 2.243 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50898476/over-1-5-billion-collected-in-tax-revenue-in-first-semester/

กัมพูชาอาจได้รับผลกระทบเชิงบวก หลังเวียดนามโครงสร้างพื้นฐานดีขึ้น

แผนการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในจังหวัดลองอันของเวียดนาม อาจมีส่วนช่วยทำให้การค้าข้ามพรมแดนของกัมพูชาปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดลองอันกำลังจัดตั้งศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง 6 แห่ง เพื่อช่วยส่งเสริมการนำเข้าและส่งออก และปรับปรุงความสามารถในการแข่งขันของชุมชนท้องถิ่น โดยศูนย์ทั้งหมดเชื่อมต่อกับถนน แม่น้ำ และทะเล ที่ถือเป็นข้อได้เปรียบสำหรับการจัดส่งและการกระจายสินค้า ซึ่งจังหวัดลองอันตั้งอยู่ติดกับตะวันออกเฉียงใต้ของกัมพูชาระหว่างนครโฮจิมินห์ทางตอนเหนือและสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง โดยทั้งกัมพูชาและเวียดนามได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะเพิ่มปริมาณการค้าทวิภาคีระหว่างกัน ซึ่งในปัจจุบันการค้าระหว่างเวียดนามและกัมพูชามีมูลค่าสูงถึง 5.3 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว โดยการส่งออกของกัมพูชาไปยังเวียดนามเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 443 ในไตรมาสแรกของปี 2021 สู่มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ยางพารา และพืชผลทางการเกษตร ส่วนการส่งออกของเวียดนามมายังกัมพูชาเติบโตเกือบร้อยละ 16 คิดเป็นมูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สินค้าสำคัญ ได้แก่ เหล็ก น้ำมันและก๊าซ รวมถึงเสื้อผ้าและรองเท้า เป็นต้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50898290/cambodia-may-gain-from-vietnam-investing-in-better-infrastructure/

กลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์มาแรง ไทยขึ้นแท่นผู้ส่งออกรายใหญ่ในอาเซียน

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยผลการศึกษาตลาดบรรจุภัณฑ์ในยุคโควิด-19 ของ สนค.ตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เพื่อสร้างโอกาสในการส่งออกสินค้าของไทย พบว่าบรรจุภัณฑ์เป็นที่ต้องการในตลาดโลกเพิ่มขึ้นเพราะกระแสความนิยมซื้อขายผ่านอี-คอมเมิร์ซ และความต้องการสินค้าอุปโภค-บริโภคและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเพิ่มสูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในหลายประเทศ การค้าบรรจุภัณฑ์โลกในไตรมาสแรกของปี 2564 มีมูลค่า 110,985.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 13% แยกเป็นการส่งออกมูลค่า 57,813.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 14% และการนำเข้ามูลค่า 53,172.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12% ผู้ส่งออกและนำเข้าสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี และจีน โดยไทยเป็นผู้ส่งออกบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดในอาเซียนมีมูลค่าส่งออกในไตรมาสแรกของปี 2564 รวม 844.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.2% รองลงมา ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ตามลำดับ โดยไทยส่งออกไปสหรัฐฯ 123.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.8% สัดส่วน 14.6% ญี่ปุ่น 122.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.6% สัดส่วน 14.5% เวียดนาม 78.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 21.6% เป็นต้น

ที่มา : https://www.naewna.com/business/589094

ยอดติดเชื้อโควิดรายวันสปป.ลาวสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มระบาดในสปป.ลาว

ยอดผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 170 รายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ถือเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มระบาดในสปป.ลาว โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่งผลให้ยอดรวมทั่วประเทศอยู่ที่ 3,710 ราย ขณะที่ปัจจุบันมีผู้ป่วย 1,222 รายรับการรักษาอยู่ ด้วยสถานการณ์ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นรัฐบาลสปป.ลาว ได้ขยายเวลาล็อกดาวน์ในพื้นที่เสี่ยงบางส่วนถึงวันที่ 3 สิงหาคม เพื่อลดจำนวนการติดเชื้อและควบคุมการระบาดของไวรัส ในขณะเดียวกันโปรแกรมการฉีดวัคซีนก็กำลังได้รับการเร่งเพื่อให้ครอบคลุม 50 เปอร์เซ็นต์ของประชากรภายในสิ้นปีนี้ โดยรัฐบาลหวังว่าการฉีดวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพจะทำให้สปป.ลาวรอดพ้นจะวิกฤตครั้งนี้ในขนาดเดียวกันก็มีมาตรการด้านการบรรเทาภาวะเศรษฐกิจควบคู่ไปเพื่อดูแลประชาและธุรกิจให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปให้ได้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Covid_140.php