ธนาคารแห่งชาติกัมพูชาขยายโครงการปรับโครงสร้างหนี้ถึงสิ้นปี

ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ออกมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบทางด้านการเงินให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยมาตรการดังกล่าวรวมถึงการคงปริมาณเงินทุนสำรองของสถาบันการเงินภายใรประเทศไว้ที่ร้อยละ 7 เพื่อเป็นการรองรับกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตและทำการขยายการปรับโครงสร้างหนี้ไปจนถึงสิ้นปี ซึ่งลูกค้าที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ล็อกดาวน์สามารถทำการขอรีไฟแนนซ์ได้ถึง 3 ครั้งในช่วงระยะเวลาผ่อนผันนี้ตามประกาศของ NBC ทั้งยังสนับสนุนให้สถาบันการเงินพิจารณาลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมเป็นรายกรณีตามความเหมาะสม โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสมาคมไมโครไฟแนนซ์กัมพูชา (CMA) รายงานว่าภายในเดือนเมษายนมียอดเงินกู้รวมสูงถึงประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์ ที่ขอทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในสถาบันทางการเงินที่เป็นสมาชิก CMA

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50861450/nbc-extends-loan-restructures-to-end-of-year/

ความพยายามร่วมกันของเอเชียในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19

ประธานาธิบดีสปป.ลาว Mr.Thongloun Sisoulith กล่าวกับที่ประชุมนานาชาติซึ่งจัดโดย Nikkei ผ่านการประชุมทางไกล ในหัวข้อการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังยุคโควิด : บทบาทของเอเชียในการฟื้นตัวของโลก โดยประธานาธิบดีกล่าวว่า “ความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในยุคหลังโควิดต้องอาศัยความพยายามร่วมกันดังนั้นจะต้องหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจนำไปสู่สงครามหรือความรุนแรงต่อกันในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ” ยุคหลังโควิดจะเป็นยุคที่ใช้ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของอุตสาหกรรม 4.0 โลกจะได้สัมผัสกับเศรษฐกิจดิจิทัลและ AI (ปัญญาประดิษฐ์) อีคอมเมิร์ซและการใช้สื่อออนไลน์เพื่อเข้าถึงข้อมูล เอเชียซึ่งมีประชากรมากที่สุดจึงทำให้เป็นภูมิภาคฐานข้อมูลที่สำคัญ เอเชียจะมีส่วนสำคัญในการฟื้นตัวของโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการมีส่วนร่วมจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ประธานาธิบดีสปป.ลาว กล่าวเสริมว่า “อาเซียนซึ่งเป็นกลุ่มภูมิภาค 10 ประเทศที่ลาวเป็นสมาชิกจะส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างจริงจังมากขึ้นและเศรษฐกิจดิจิทัลและสีเขียวหรือเศรษฐกิจอัจฉริยะ”

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Collective_98.php

เศรษฐกิจไทยยังหดตัวต่อเนื่องไตรมาสที่ 5

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/64 หดตัวที่ -2.6% น้อยกว่าที่คาด -3.3% ผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก โดยการส่งออกเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่การที่ไม่สามารถควบคุมการระบาดระลอกใหม่ได้ยังคงส่งผลกระทบต่อการบริโภคและภาคการท่องเที่ยวอย่างมาก ทั้งนี้ได้ประมาณการเศรษฐกิจปี 64 ที่ 1.8% จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ท่ามกลางอัตราการฉีดวัคซีนที่ยังอยู่ในระดับต่ำซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นและพฤติกรรมของผู้บริโภค ทั้งนี้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกส่งผลให้ราคาสินค้าพุ่งสูง ทำให้เงินเฟ้อไทยเพิ่มงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะทำให้ค่าครองชีพของครัวเรือนเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ที่มา: https://www.posttoday.com/finance-stock/news/653682

ถนนเอ่งดุ-กอกาเร็ก พร้อมเปิดใช้ เพื่อร่วมผลักดันระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก

นาย U Saw Myint Oo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการก่อสร้างของสหภาพแรงงาน ร่วมด้วย นาย U Shwe Lay ประธานสภาบริหารแห่งรัฐกะเหรี่ยง หน่วยงาน และองค์กรที่เกี่ยวข้อง ได้ทำพิธีเปิดถนนเอ่งดุ-กอกาเร็ก ซึ่งเชื่อมระหว่างอำเภอพะอานและก่อกะเระของรัฐกะเหรียง เป็นส่วนหนึ่งของระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก – ตะวันตกของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและยังสามารถเชื่อมต่อระหว่างอินเดีย – เมียนมา – ไทย โดยเส้นทางนี้จะเชื่อมต่อกับประเทศไทย จะช่วยในการไหลเวียนของสินค้าและลดต้นทุนการขนส่งในภูมิภาคและระหว่างประเทศ ส่วนหนึ่งจะยกระดับถนนวงแหวนท่าเรือ Kyondoe ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากการขนส่งสินค้าจากสปป.ลาวและเวียดนามไปยังมะละแหม่งในระยะเวลาอันสั้นด้วยต้นทุนที่ต่ำลง

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/eindu-kawkareik-road-part-of-greater-mekong-sub-region-east-west-economic-corridor-completed/#article-title

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาเริ่มมองหาการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวทองคอนกล่าวว่ากระทรวงการท่องเที่ยวกำลังวางแผนสำหรับการฟื้นฟูการท่องเที่ยวระหว่างประเทศภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยจะเริ่มประเมินสถานภาพของภาคบริการด้านการท่องเที่ยวในทุกจุดหมายปลายทาง ร่วมกับการสร้างมาตรฐานการให้บริการการท่องเที่ยวภายในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างรวดเร็ว เพื่อรับรองความปลอดภัยและคุณภาพของแต่ละจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งกระทรวงจะทำการศึกษาถึงความเป็นไปได้ที่จะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ได้รับการฉีดวัคซีนตามกำหนดให้สามารถเดินทางมายังกัมพูชาได้ในฐานะนักท่องเที่ยว ร่วมถึงต้องเร่งทำการฉีดวัคซีนให้กับพนักงานภาคบริการและประชาชนภายในประเทศให้ได้ครอบคลุมที่สุดเพื่อเป็นการจำกัดการแพร่ระบาดและถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่จะเดินทางมายังประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50860035/tourism-ministry-eyes-return-of-intl-tourists/

รัฐบาลกัมพูชาวางแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19

รัฐบาลกัมพูชาวางแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสิ้นสุดวิกฤตโควิด-19 ที่คาดว่าจะทุเลาลงในช่วงปี 2021-2023 ในการประชุมนานาชาติครั้งที่ 26 ว่าด้วยอนาคตของเอเชียภายใต้หัวข้อ “การจัดการยุคใหม่หลังวิกฤตโควิด: บทบาทของเอเชียภายใต้การเปลี่ยนแปลงโลก” ซึ่งนายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวว่ารัฐบาลกัมพูชามุ่งมั่นที่จะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสในการปฏิรูปเชิงลึกที่มุ่งสร้างระบบเศรษฐกิจและสังคมที่เข้มแข็งและยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต โดยรัฐบาลได้เตรียมและวางแผนที่จะเปิดตัวแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด-19 สำหรับปี 2021-2023 เพื่อให้การเติบโตทางเศรษฐกิจกลับมาใกล้เคียงกับศักยภาพการเติบโตที่ยั่งยืนมากขึ้นนอกจากนี้รัฐบาลยังว่างแผนพัฒนาโดยนำมาตรการปฏิรูปที่สำคัญในด้านโครงสร้างการลงทุนและธุรกิจ ไปจนถึงการส่งเสริมและพัฒนาดิจิทัลในภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างความยืดหยุ่นโดยการเสริมสร้างความพร้อมและการตอบสนองในอนาคต โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาระบบการคุ้มครองสุขภาพและสังคมที่เข้มแข็ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50859901/reform-at-heart-of-govt-plans-for-economic-recovery/

สะพาน Thanatpin -Kyaungsu เปิดให้ใช้แล้วในเขตพะโค

โครงการสะพานชนบทมูลค่า 400 ล้านจัต เพื่อเชื่อมระหว่างเมือง Thanatpin กับหมู่บ้าน Minywar Kyaungsu ได้เปิดใช้อย่างเป็นทางการเพื่อความสะดวกในการคมนาคม เพื่อลดความยากลำบากในการขนส่งและกระตุ้นเศรษฐกิจในชนบทโดยครอบคลุม 10 หมู่บ้านที่มี 1,411 ครัวเรือนและชาวบ้านกว่า 6,800 คน กรมพัฒนาทางหลวงชนบท (Thanatpin) ได้ดำเนินการสร้างถนนและสะพานให้ครอบคลุม 70% ของประชากรในเขตพะโค

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/k400-mln-thanatpin-kyaungsu-bridge-opened-to-rural-community-in-bago-region/

‘ผู้เชี่ยวชาญ’ ชี้ ความตกลงการค้าเสรีของเวียดนาม ผลักดันการส่งออกและนำเข้า

ผู้เชี่ยวชาญ เผยไตรมาสแรก ยอดการส่งออกและนำเข้าของเวียดนาม เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบเป็นรายปี ได้รับแรงหนุนมาจากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) หากแบ่งออกเป็นการส่งออก เพิ่มขึ้น 22% และการนำเข้า 26.3% ทำให้เวียดนามเกินดุลการค้าราว 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตัวเลขดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่าประเทศกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งทั้งด้านการผลิตและการค้าในประเทศ ถึงแม้จะเผชิญโควิด-19 ระบาด ทั้งนี้ รองศาสตราจารย์ ดร. Pham Tat Thang อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า กล่าวว่าหลังจากข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรป (EVFTA) ที่มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ยอดการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ เพิ่มขึ้น 18% ในเดือนมกราคมจนถึงมีนาคม ปีนี้ ในขณะที่การส่งออกไปยังประเทศสมาชิกในข้อตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก (CPTPP) เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาเดียวกัน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/expert-vietnams-ftas-driving-up-exportsimports/201562.vnp

เอสแอนด์พี ปรับขึ้นอันดับความน่าเชื่อถือของเวียดนามเป็น ‘บวก’

บริษัท S&P Global Ratings (S&P) ได้ปรับคงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศเวียดนามเป็น “บวก” กระทรวงการคลัง เผยว่าเวียดนามเป็นประเทศเดียวกันในโลกที่มีแนวโน้มดีขึ้น จากทั้งบริษัท Moody, S&P และ Fitch ทั้งนี้ S&P ยืนยันว่าเวียดนามประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจและการปฏิรูปทางด้านนโยบายอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 เวียดนามคงจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ประมาณ 1-2 ปีข้างหน้า เนื่องจากมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ตลอดจนการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ การส่งออกที่มั่งคง ความต้องการในประเทศที่แข็งแกร่งและผลกระทบภายนอกเชิงบวก

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/sp-global-ratings-raises-vietnams-outlook-to-positive/201858.vnp

สรุป ‘เศรษฐกิจไทย’ ไตรมาส1/64 GDP ขยับเป็น -2.6 จากเดิม -6.1

ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ปี 64 และแนวโน้มปี 2564 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.5-2.5 โดยได้แรงสนับสนุนสำคัญจากการกลับมาขยายตัวของการส่งออกและการลงทุนภาคเอกชน รวมทั้งการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ ทั้งนี้เมื่อดูค่า GDP ประเทศภายในภูมิภาคอาเซียนพบว่า GDP เติบโตที่สุดในอาเซียนคือ เวียดนามขยายตัวร้อยละ 4..5 โดยปัจจัยสำคัญคือนโยบายของการป้องกัน และควบคุมโรคระบาดภายในประเทศทำให้เศรษฐกิจกลับมาอยู่ในสภาวะปกติได้เร็วจึงทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นได้อีกครั้งภายหลังต้องหยุดชะงักไปจากการระบาดโควิด-19

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/939207