“ผู้เชี่ยวชาญ” ชี้เวียดนามมียอดการชำระเงินผ่านธนาคารสูงถึง 40 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน

คุณฝั่ม แอง ต๋วน (Pham Anh Tuan,) ผู้อำนวยการฝ่ายระบบการชำระเงินของธนาคารแห่งชาติเวียดนาม เปิดเผยว่าการชำระเงินแบบไร้เงินสดในเวียดนามเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 สังเกตได้จากมูลค่าการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านธนาคารเฉลี่ย 40 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ทั้งนี้ ธนาคารกลางเวียดนามได้ตั้งเป้าว่าบัญชีทั้งประเทศกว่าครึ่งหนึ่งของระบบการเงินจะหันมาใช้วิธีการชำระเงินแบบไร้เงินสดทั้งหมดภายในปี 2568 โดยจัดความสำคัญมาที่การส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานของระบบการชำระเงินให้ครอบคลุม เข้าถึงได้และมีความปลอดภัย เพื่อให้การชำระเงินแบบดิจิทัลเป็นรูปแบบการทำธุรกรรมที่ต้องการสำหรับทุกคน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/average-payments-via-banks-reach-40-billion-usd-a-day-insider/254892.vnp

Agoda แนะไทยเร่งสร้างจุดดึงดูดใหม่ให้นักท่องเที่ยว หลังเวียดนามมาแรงและจะกลายเป็นคู่แข่งสำคัญ

Agoda แพลตฟอร์มออนไลน์ด้านการท่องเที่ยวและจองที่พักชื่อดัง ได้ออกมาเปิดเผยสถิติข้อมูลนักท่องเที่ยวบนแพลตฟอร์มในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ พบว่าการท่องเที่ยวไทยโดยรวมฟื้นตัวในทิศทางที่รวดเร็วกว่าประเทศอื่น โดยไทยถือเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกเป็นอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น

ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวได้ดี ได้แก่ การเปิดประเทศของจีนและการที่ไทยมีเที่ยวบินรองรับนักท่องเที่ยวเพียงพอ โดยข้อมูลล่าสุดระบุว่า นับจากต้นปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทยแล้วไม่ต่ำกว่า 11 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีของปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ Morgenshtern เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่สุดที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยในปีนี้คือชาวเกาหลีใต้ ตามมาด้วยมาเลเซียและจีน

อย่างไรก็ดี เขาก็เห็นเทรนด์การเดินทางไปท่องเที่ยวในเวียดนามของชาวเกาหลีใต้ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ชาวเกาหลีใต้เลือกเวียดนามเป็นจุดหมายในการท่องเที่ยวมากขึ้นมีความเชื่อมโยงกับการที่บริษัทจากเกาหลีใต้จำนวนมากเลือกเข้ามาลงทุนและตั้งโรงงานในเวียดนามในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ยิ่งคุณดึงดูดการลงทุนและนักธุรกิจเข้ามาได้มากเท่าไร มันก็จะส่งผลบวกต่อการท่องเที่ยวตามไปด้วย ขณะที่ซีอีโอ Agoda เชื่อว่าเวียดนามกำลังก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวในด้านการท่องเที่ยวสำหรับประเทศไทย

ที่มา : https://thestandard.co/agoda-advice-thailand-build-new-attraction/

“เวียดนาม” เปิดอาคารผู้โดยสาร 2 ท่าอากาศยานนานาชาติฟูไบ

องค์กรท่าอากาศยานเวียดนาม (ACV) และคณะกรรมการประชาชนของจังหวัดเถื่อเทียนเว้ ได้เปิดอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ของท่าอากาศยานนานาชาติฟูไบ เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. คุณ Nguyen Hoang Anh ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัด กล่าวว่าการดำเนินงานของอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 จะมีส่วนช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจังหวัดจังหวัดเถื่อเทียนเว้ พร้อมกับส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่สำคัญ สำหรับการเชื่อมต่อในภูมิภาค โดยเม็ดเงินในการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งนี้ ใช้เงินทุนประมาณ 2.3 ล้านล้านดอง หรือราว 97.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ยังเป็นอาคารผู้โดยสารแห่งแรกขององค์กรท่าอากาศยานเวียดนามที่ใช้ดิจิทัลในการดำเนินโครงการ ตลอดจนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/terminal-2-at-phu-bai-international-airport-inaugurated/254859.vnp

“เวียดนาม-รัสเซีย” ลงนาม MOU ที่ประชุม SPIEF 2023

บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย ‘Rosseti’ ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงกับบริษัท National Power Transmission Corporation (EVNNPT) ซึ่งเป็นบริษัทรองของกลุ่มการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) เพื่อกลับมาดำเนินกลยุทธ์ระยะยาว หลังจากหยุดการดำเนินงานชั่วคราวในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยทั้งสองบริษัทตกลงที่จะพัฒนาโครงการร่วมกันตามศักยภาพของแต่ละฝ่าย ตลอดจนแลกเปลี่ยนทางเทคโนโลยีและดิจิทัล การฝึกอบรมบุคลากรและความปลอดภัยในการทำงาน นอกจากนี้ บริษัทพลังงานรัสเซีย จะช่วยเหลือบริษัทพลังงานเวียดนามในการปรับปรุงสายส่งไฟฟ้าและการเชื่อมต่อไฟฟ้าแรงสูงข้ามชาติจากการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnamese-russian-power-companies-sign-mou-at-spief-2023/254854.vnp

นักท่องเที่ยว ไทย-เวียดนาม ยังคงเป็นกลุ่มสำคัญสำหรับภาคการท่องเที่ยวกัมพูชา

หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชาเปิดเผยว่านักท่องเที่ยวชาวไทยยังคงนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญของกัมพูชา โดยในช่วงไตรมาสแรกมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางมายังกัมพูชากว่า 570,000 คน นักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม 285,000 คน และนักท่องเที่ยวชาวจีน 184,000 คน ซึ่งหากนับรวมกับนักท่องเที่ยวสัญชาติอื่นๆ จะมีปริมาณนักท่องเที่ยวรวมอยู่ที่ 1.72 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 600 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้าน Thong Khon รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวของกัมพูชา กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันคาดว่าจะมีเที่ยวบินตรงจากจีนมายังกัมพูชาเพิ่มขึ้น อีกทั้งทางการกัมพูชากำลังเร่งพัฒนาสนามบินใหม่สองแห่งที่มีระยะทางห่างจากเสียมราฐประมาณ 50 กม. ซึ่งมีกำหนดเปิดให้ใช้บริการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 และแห่งที่สองห่างจากกรุงพนมเปญประมาณ 20 กม. คาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนสิ้นปี 2024 ด้วยเหตุผลข้างต้นคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมายังกัมพูชาอย่างน้อย 4 ล้านคนในปี 2023

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501309801/asean-neighbours-thailand-and-vietnam-the-largest-groups-of-tourists-entering-cambodia/

พาณิชย์แนะค้าปลีกไทยเจาะตลาดเวียดนามทั้งออฟไลน์-ออนไลน์

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ และให้รายงานผลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสุภาพร สุขมาก ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ถึงโอกาสในการขยายตลาดการค้าปลีกของไทยเข้าสู่ตลาดเวียดนาม และการใช้ประโยชน์จากช่องทางออนไลน์ในการขยายโอกาสทางการขายเจาะเข้าสู่กลุ่มผู้บริโภคของเวียดนามที่มีแนวโน้มเติบโต

ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เวียดนามเป็นตลาดค้าปลีกที่มีศักยภาพสูงและคาดว่าจะเติบโตมากกว่า 350,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2568 และจะมีสัดส่วน 59% ของยอดขายผลิตภัณฑ์ในประเทศทั้งหมดทำให้บริษัทต่างชาติที่ลงทุนในเวียดนาม ผู้ประกอบการค้าปลีกในประเทศต่างปรับเครือข่ายการจัดจำหน่ายสินค้าในประเทศและปรับปรุงเพื่อการส่งออก รวมทั้งมีการลงทุนในอีคอมเมิร์ซเพื่อรองรับการขยายตัวของกลุ่มผู้บริโภควัยหนุ่มสาวที่มีกว่า 50% ของประชากรประมาณ 100 ล้านคน

ที่มา : https://www.thaipost.net/economy-news/397177/

“เวียดนาม” เผยราคาเหล็กขาลง

บริษัท ฮว่า ฟ้าด กรุ๊ป (Hoa Phat Group) ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของเวียดนาม มีส่วนแบ่งทางการตลาด 40% ในอุตสาหกรรมเหล็กก่อสร้างของประเทศ ขณะทึ่ราคาเหล็กเส้น D10 CB300 อยู่ที่ 14.69 ล้านดองต่อตัน และราคาเหล็กรีด CB240 อยู่ที่ 14.49 ล้านดองต่อตัน ลดลง 200,000 ดอง และ 210,000 ดอง ตามลำดับ ทั้งนี้ จากข้อมูลของสมาคมเหล็กเวียดนาม ประจำเดือน เม.ย. ระบุว่าราคาเหล็กก่อสร้างลดลง 1.5 ล้านดองต่อตัน เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอลง ทำให้ผู้ผลิตต้องปรับลดราคา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ซึ่งการลดลงของราคาเหล็ก ช่วยให้การผลิตและการบริโภคของเชื้อเพลิงดีขึ้น อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จากบริษัท VNDirect คาดว่ายอดขายเหล็กมีแนวโน้มที่ทรงตัวตลอดทั้งปี และมองว่ายอดขายเหล็กก่อสร้างจะลดลง 9.2%, เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีจะลดลง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/steel-prices-in-downward-spiral/

“ตลาดหุ้นเวียดนาม” ขึ้นแท่นจุดหมายที่มีความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ

การประชุมประจำปีขององค์กรคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ (IOSCO) ในปี 2566 นับเป็นการประชุมประจำปีครั้งที่ 48 ณ กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 13-15 มิ.ย. นาง Vu Thi Chan Phuong ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เวียดนาม กล่าวว่าตลาดหุ้นเวียดนามมีการพัฒนาที่น่าประทับใจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมไปถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพและการรักษาสภาพคล่องในตลาดที่ดี อีกทั้งยังเป็นช่องทางการลงทุนที่น่าสนใจของประชาชน และดึงดูดนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศได้จำนวนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่ช่วยอำนวยความสะดวกในการระดมเงินทุนเท่านั้น แต่ธุรกิจเวียดนามยังมีความก้าวหน้าในด้านธรรมาภิบาล ความโปร่งใสและการพัฒนาที่ยั่งยืน

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnamese-stock-market-becomes-reliable-destination-for-investors-worldwide-post1026603.vov

“กฟผ.” ระงับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากข้อมูลของกรมจัดการบริหารเขตเศรษฐกิจกว๋างหงาย เมื่อวันที่ 29 พ.ค. เปิดเผยว่าบริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (EGATi) ได้ยื่นเอกสารต่อกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม (MoIT) เกี่ยวกับการระงับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนที่อยู่ในรูปแบบ Build-Operate-Transfer (BOT) ตั้งอยู่ในจังหวัดกว๋างหงาย ซึ่งการตัดสินใจของ กฟผ. ในครั้งนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของแหล่งพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยั่งยืน ตลอดจนสอดคล้องกับบริบทของโลกที่จะลดการพึ่งพาถ่านหินและเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานที่สะอาด

ที่มา : https://vir.com.vn/thai-investor-suspends-23-billion-thermal-power-plant-project-in-quang-tri-102618.html

“องค์กรระดับโลก” มองแนวโน้มเศรษฐกิจเวียดนามไปในทิศทางที่เป็นบวก

ธนาคารโลก (WB) คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามที่ 6% ในปี 2566 ชะลอตัวลง 0.3% เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ในเดือน ม.ค. อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเศรษฐกิจของเวียดนามยังอยู่ในระดับสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถึงแม้ว่าเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำ ขณะที่ธนาคารโลกรายงานว่าสถานการณ์การค้าทั่วโลกในปีนี้ อยู่ในทิศทางที่เป็นลบ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อบางประเทศที่พึ่งพาภาคการค้าเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะมาเลเซียและเวียดนาม ทั้งนี้ องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD), ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด และธนาคารพัฒนาเอเชีย คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนามในปีนี้ จะขยายตัว 6.5% อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญมองว่าเศรษฐกิจเวียดนามยังคงเผชิญกับความเสี่ยงหลายประการ ได้แก่ เงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง การดำเนินนโยบายแบบเข้มงวดในหลายประเทศ เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าฟื้นตัวช้า การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานโลก ความมั่นคงด้านพลังงานและอาหาร ภัยพิบัติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/reputable-organisations-optimistic-about-vietnam-s-economic-outlook-2154134.html