IMF รายงานการเติบโตทางเศรษฐกิจกัมพูชาโต 5.3% ในปี 2023

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) รายงานการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในช่วงปี 2023 เติบโตกว่าร้อยละ 5.3 ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและการส่งออกที่ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่ม อย่างไรก็ตามความเสี่ยงก็ยังคงมีอยู่มาก โดยเฉพาะการเติบโตที่อ่อนแอของสหรัฐฯ ซึ่งครองสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 40 ของการส่งออกของกัมพูชาอีกทั้งเศรษฐกิจจีนยังคงมีความเสี่ยงในหลายด้าน นอกจากนี้ ภาวะการเงินที่ตึงตัวของสหรัฐฯ และระดับหนี้ภาคเอกชนในกัมพูชาที่สูงอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของประเทศ ภายใต้ภาวะขาดดุลทางด้านการคลัง โดยคาดว่านับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปการขาดดุลของกัมพูชาจะขาดดุลลดลง ตามความมุ่งมั่นของทางการกัมพูชาที่ได้กำหนดไว้ ภายใต้มาตรการที่กำหนดไว้อย่างอย่างครอบคลุม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501434518/cambodias-economy-projected-to-have-grown-by-5-3-in-2023-imf/

‘กระทรวงฯ’ ชี้ค่าไฟปี 67 ราคาพุ่ง

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) เตรียมยื่นข้อเสนอปรับขึ้นค่าไฟฟ้าในปี 2564 เพื่อช่วยเหลือทางการเงินของการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) และส่งเสริมให้การไฟฟ้ามีแหล่งรายได้ที่ยั่งยืนในการดำเนินงานโรงไฟฟ้า ซึ่งจากการประชุมคณะกรรมการกำกับการควบคุมราคาสินค้า นายฟาน ถิ ทัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า กล่าวในที่ประชุมว่าจำเป็นที่จะต้องทบทวนราคาและต้นทุนอย่างครอบคลุม เพื่อให้สอดคล้องกับค่าพารามิเตอร์แบบไดนามิกและการจัดหาแหล่งเงินทุน

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/electricity-prices-expected-to-surge-in-2024-ministry-2247284.html

‘เวียดนาม’ คู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของเกาหลีใต้ ปี 66

สมาคมการค้าระหว่างประเทศเกาหลีใต้ (KITA) เปิดเผยว่าการค้าระหว่างเกาหลีใต้และเวียดนาม มีมูลค่าสูงถึง 79.43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว ยอดการส่งออกหดตัว 12.3% มาอยู่ที่ 53.49 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การนำเข้าลดลง 2.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี มูลค่าอยู่ที่ 25.94 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้เวียดนามเกินดุลการค้ากับเกาหลีใต้ 27.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเวียดนามยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของเกาหลีใต้ แซงญี่ปุ่นเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน รองจากจีนและสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ สมาคมฯ ของเกาหลีใต้ ชี้ว่าทั้งการค้าและการส่งออกไปยังตลาดเวียดนามปรับตัวลดลงจากปีที่แล้ว เนื่องมาจากการส่งออกชิปลดลง และยอดการจัดส่งเซมิคอนดักเตอร์ของเกาหลีใต้ไปยังเวียดนามลดลง 21.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี อยู่ที่ 12.73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-remains-roks-third-trade-partner-in-2023/279236.vnp

เมียนมาวางแผนส่งออกข้าวนึ่งและข้าวหักเพิ่มขึ้นในปีงบประมาณ 2567-2568

ตามที่ U Ye Min Aung ประธานสมาพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) ระบุว่า MRF ตั้งใจที่จะส่งออกผลิตภัณฑ์ข้าวที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น เช่น ผงข้าวและเส้นก๋วยเตี๋ยว รวมถึงข้าวนึ่งและข้าวหักในปีงบประมาณ 2567-2568 ซึ่งการบริโภคข้าวในประเทศของเมียนมาปัจจุบันอยู่ที่ 10 ล้านตันต่อปี ในขณะที่ประเทศผลิตได้ 12-14 ล้านตันต่อปี ซึ่งจำกัดความสามารถในการส่งออกเพียง 3 ล้านตันต่อปี ดังนั้นบุคลากรที่เกี่ยวข้องจึงมุ่งเน้นการส่งออกผลิตภัณฑ์ข้าวที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเพื่อสร้างรายได้มากขึ้นแทนที่จะส่งออกข้าวที่เพิ่มขึ้นเป็นตัน อย่างไรก็ตาม ประธานสมาพันธ์ฯ ยังกล่าวอีกว่า MRF จะเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งออกข้าวนึ่งและข้าวหักเพิ่มในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมของปีงบประมาณนี้ ในขณะที่ข้าวขาวมีกำหนดส่งออกโดยมีข้อจำกัดเพื่อให้แน่ใจว่าสต๊อกข้าวเพียงพอสำหรับการบริโภคภายในประเทศ นอกจากนี้ ในปีงบประมาณ 2566-2567 รายได้จากการส่งออกข้าวไม่ได้ลดลง ถึงแม้ว่าการส่งออกข้าวจะลดลง 500,000 ตันก็ตาม เนื่องจากราคาข้าวทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ประเทศจึงมีรายได้สูงถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในบางเดือน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-plans-to-export-more-parboiled-rice-broken-rice-in-2024-25fy/#article-title

เมียนมามีรายได้จากการส่งออกสินค้าเกษตรมากกว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐใน 10 เดือน

สถิติของกระทรวงพาณิชย์เมียนมา ณ วันที่ 26 มกราคม 2567 รายงานว่า การส่งออกสินค้าเกษตรสร้างรายได้มากกว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2566-2567 อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวลดลง 321 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากรายได้การส่งออกช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสินค้าส่งออกทางการเกษตรขั้นต้น ได้แก่ ข้าว ข้าวหัก ถั่วและถั่ว และข้าวโพด นอกจากนี้ ยังมีการส่งออกผลไม้ ผัก งา ใบชาแห้ง น้ำตาล และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่นๆ ซึ่งผู้ซื้อผลผลิตทางการเกษตรรายใหญ่ของเมียนมาร์ ได้แก่ จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ บังคลาเทศ อินเดีย อินโดนีเซีย และศรีลังกา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/agricultural-exports-earn-over-us2-6-bln-in-10-months/#article-title

บรรยากาศเทศกาลตรุษจีนใน สปป.ลาว เริ่มคึกคัก

ขณะที่เทศกาลตรุษจีนใกล้เข้ามา บรรยากาศรื่นเริงในเวียงจันทน์ เมืองหลวงของ สปป.ลาว เริ่มคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากร้านค้าหลายแห่งตกแต่งด้วยโคมไฟสีแดงและการจัดวางรูปมังกรเทศกาลฤดูใบไม้ผลิตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ปีนี้ เพื่อเริ่มต้นปีแห่งมังกร ตามที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้กำหนดให้วันตรุษจีนหรือเทศกาลฤดูใบไม้ผลิเป็นวันหยุดของสหประชาชาติอย่างเป็นทางการในปฏิทินการประชุมและการประชุมที่เริ่มในปี 2567

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_24_Laowearns_y24.php

สปป.ลาว พยายามหาทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเชื้อเพลิงในประเทศ

รัฐบาล สปป.ลาว กำลังทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเชื้อเพลิงที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ และกำลังร่างกฤษฎีกากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง นอกเหนือจากความพยายามอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าประเทศจะมีเชื้อเพลิงไว้ใช้สม่ำเสมอ ในการแถลงข่าวที่จัดขึ้นไม่นานหลังจากการประชุมประจำเดือนของรัฐบาล โฆษกรัฐบาล กล่าวว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดกำลังพยายามแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเชื้อเพลิง โดยต้องใช้แนวทางและมาตรการหลายประการเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลน และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างเชื้อเพลิงสำรองเพื่อจัดการกับปัญหาในระยะยาว น้ำมันดีเซลขาดตลาดทั่วประเทศลาวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ และสมาคมเชื้อเพลิงและก๊าซของลาว แนะนำให้ประชาชนใช้เชื้อเพลิงอย่างประหยัด และหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น เพื่อให้มีน้ำมันสำรองเพียงพอสำหรับการเกษตรและกิจกรรมที่จำเป็นอื่นๆ ทั้งนี้ ที่ประชุมยังเห็นพ้องด้วยว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลดความเสี่ยงของเศรษฐกิจมหภาคด้วยการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราและราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และลดอัตราเงินเฟ้อ

ที่มา : https://english.news.cn/20240201/b01174ec9f99468198dfc0013846af09/c.html

ไทยจับตาข้อตกลง 4 ชาติเพื่อนบ้าน หวังผลักดันยกเว้นวีซ่าเชงเก้น

ประเทศไทยกำลังวางแผนที่จะร่วมมือกับเวียดนาม กัมพูชา ลาว และมาเลเซีย จัดการเจรจากับสหภาพยุโรป (EU) เพื่อเปิดตัวรายการวีซ่าต่างตอบแทน นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยจะขอการสนับสนุนจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสร้างข้อตกลงให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางอย่างเสรีระหว่าง 5 ชาติอาเซียน หลังจากได้รับวีซ่าเข้าประเทศแล้ว เขากล่าวว่าเวียดนามขอความช่วยเหลือจากไทย โดยเฉพาะเพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว ประเทศไทยจะนำการเจรจาให้นักท่องเที่ยวต้องมีวีซ่าเข้าประเทศเพื่อเดินทางร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ หากรัฐบาลประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 4 ประเทศ เห็นพ้องกันอย่างเป็นทางการ รัฐบาลไทยก็มุ่งหวังที่จะใช้ประโยชน์จากข้อตกลงนี้ในการเจรจากับสหภาพยุโรป เพื่อขอยกเว้นวีซ่าเชงเก้นตามที่ตั้งเป้าหมายไว้

ที่มา : https://www.nationthailand.com/thailand/tourism/40035307?fbclid=IwAR3NaDaOsc_k-GirkTZkYPnJXoAboLJZTt8NlE7eTe1zghWuU5UZ4n3S–g

รัฐบาลกัมพูชาตั้งคณะทำงานศึกษาการจัดทำนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า

รัฐบาลกัมพูชาได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาสิ่งอำนวยความสะดวก และพัฒนากรอบนโยบาย เพื่อการส่งเสริมภาคยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ภายในประเทศ ภายใต้การดำเนินงานของกระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน (MEF) กล่าวโดย Aun Pornmoniroth รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี MEF รวมถึงเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจและการเงิน (EFPC) ซึ่งได้ประกาศอย่างเป็นทางการในการจัดตั้งทีมนโยบาย EV ประกอบด้วยสมาชิก 27 ท่าน นำโดย Ros Seilava รัฐมนตรีต่างประเทศ MEF โดยเน้นไปที่การพัฒนากลยุทธ์เพื่อส่งเสริมภาค EV ของประเทศ การลดต้นทุนการผลิต EV ซึ่งจะส่งผลทำให้ประชาชนมีต้นทุนในการเข้าถึง EV ที่ต่ำลง รวมถึงการเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานของชิ้นส่วนอะไหล่ ส่วนประกอบ และวัตถุดิบ ตลอดจนการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงโรงไฟฟ้าและการเชื่อมต่อโครงข่าย เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501433183/govt-forms-policy-working-group-to-promote-evs/

ม.ค. 2024 กัมพูชาดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศกว่า 187 ล้านดอลลาร์

กัมพูชาดึงดูดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรจากต่างประเทศมากกว่า 187 ล้านดอลลาร์ สำหรับในเดือนมกราคม 2024 รายงานโดยสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ซึ่งผ่านการอนุมัติโครงการลงทุนทั้งสิ้น 32 โครงการ คาดว่าจะเกิดการจ้างงานภายในประเทศเกือบ 29,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ โครงการที่โดดเด่นยังรวมถึงโรงงานผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โรงงานประกอบจักรยานไฟฟ้าและรถจักรยานยนต์ โรงงานเหล็ก โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าและสิ่งทอ และอื่นๆ ซึ่งเงินลงทุนมากกว่าร้อยละ 78 ในเดือนมกราคมมาจากประเทศจีน, ร้อยละ 9.65 มาจากสิงคโปร์, ร้อยละ 5.34 มาจากสหรัฐฯ, ร้อยละ 3.55 มาจากเกาหลีใต้ และร้อยละ 2.73 จากแหล่งที่มาในประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501433460/cambodia-attracts-over-187-mln-investment-in-january/