จีนเปิดประเทศ! ดันท่องเที่ยว ส่งออกและลงทุนของเวียดนาม

ตามรายงาน “2023 outlook: Three ripples from China’s re-opening” ของธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ระบุว่ากลุ่มประเทศในอาเซียนได้รับผลประโยชน์อย่างมากจากการกลับมาเปิดประเทศของจีน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับปัจจัยบวกจากเหตุการณ์ครั้งนี้ แม้ว่าจะมีความหวังในการสนับสนุนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และการค้า ทั้งนี้ เวียดนามและไทยจะเป็นประเทศที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุด เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวจีนมีสัดส่วนราว 30% ของจำนวนนักท่องเที่ยวที่อยู่ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาด อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของเวียดนามไม่ได้พึ่งพาภาคการท่องเที่ยวมากเท่าไรนักหากเทียบกับประเทศไทย

ที่มา : https://vir.com.vn/chinas-re-opening-to-impact-vietnam-99304.html

“เวียดนาม” กลายเป็นแหล่งลงทุน 5 ชั้นนำของโลก สำหรับธุรกิจยุโรป

สภาหอการค้าสหภาพยุโรปในเวียดนาม (EuroCham) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีบรรยากาศทางธุรกิจ (Business Climate Index: BCI) ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 อยู่ที่ระดับ 48.0 ต่ำกว่าฐานดัชนี และปรับตัวลดลง 14.2 จุด เมื่อเทียบกับ 3 เดือนที่แล้ว อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจเวียดนามขยายตัวมากกว่า 8% ในปี 2565 แต่ว่าจะยังคงเผชิญกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก การปรับขึ้นดอกเบี้ย ภาวะเงินเฟ้อสูงขึ้นและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแอ ทั้งนี้ นาย Alain Cany ประธานสภาหอฯ กล่าวว่าสิ่งต่างๆ จะเป็นไปในทิศทางที่เป็นบวกลดลงในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี อย่างไรก็ตาม เวียดนามมีโอกาสที่ดีมากกว่าประเทศคู่แข่งในภูมิภาค เห็นได้ชัดจากสมาชิกของสภาหอฯ ส่วนใหญ่มองว่าเวียดนามเป็นศูนย์กลางของกลยุทธ์การลงทุนระดับโลก

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-remains-top-5-global-investment-sites-for-eu-firms/247155.vnp

“ตลาดหุ้นเวียดนาม” ยังคงมีความน่าสนใจของนักลงทุน

ธนาคารเวียดนาม VIETCOMBANK SECURITIES (VCBS) รายงานว่าจากการที่ค่าเงินดองอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ และยังอยู่ในระดับอ่อนค่าหากเทียบกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาค แสดงให้เห็นว่าตลาดหุ้นเวียดนามยังคงเป็นจุดหลายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับการลงทุน ทั้งนี้ การที่ดัชนีดอลลาร์สหัรฐยังคงปรับตัวลดลงเล็กน้อยและการเพิ่มเงินทุนสำรองเงินต่างประเทศของเวียดนามในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ส่งสัญญาเป็นบวกแก่ตลาดในประเทศ ซึ่งในระยะสั้นนั้น สภาพคล่องของเงินดองเวียดนามจะยังปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยลดลงในตลาดระหว่างธนาคาร

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-stock-market-still-attractive-to-investors-report/247078.vnp

“ตลาดค้าปลีกเวียดนาม” กลับมาสู่ระดับปกติก่อนวิกฤตเชื้อโรคระบาด

ตามรายงานของ Vietnam Report เปิดเผยผลการสำรวจ ระบุว่าผู้ประกอบการค้าปลีกส่วนใหญ่ 53.8% มองว่าตลาดค้าปลีกกลับมาฟื้นตัวอยู่ในระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และหลังจากควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว ตลาดค้าปลีกของเวียดนามเร่งดำเนินการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหารธุรกิจ การดำเนินกิจการ โลจิสติกส์และการกระจายสินค้า ในขณะเดียวกัน ตามรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เปิดเผยว่าตลาดค้าปลีกของเวียดนามในปัจจุบัน มีมูลค่า 142 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงถึง 350 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 คิดเป็น 59% ของ GDP ปี 2565

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/retail-market-returns-to-prepandemic-level/247072.vnp

เวียดนามลงทุนใน สปป.ลาวพุ่ง 52.5%

จากรายงานของ VietnamPlus เผย หลังจากการประชุมความร่วมมือด้านการลงทุนของสปป.ลาว และ เวียดนาม ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเวียงจันทน์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า ในปี 2565 บริษัทจากเวียดนามลงทุนในสปป.ลาว มีมูลค่าการพุ่งสูงถึง 180 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 52.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน (2564) ในขณะเดียวกัน บริษัทจากสปป.ลาว ก็เข้าไปลงทุนในเวียดนามจำนวน 10 โครงการ มีมูลค่าการลงทุนกว่า 71 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยในระหว่างการประชุม รัฐบาลสปป.ลาวให้คำมั่นว่าจะสร้างบรรยากาศการค้า การลงทุน และเตรียมเงื่อนไขที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนในประเทศ ซึ่งเวียดนามเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่อันดับ 3 รองจากจีนและไทย ทั้งนี้ ในปี 2564 มีบริษัทจากเวียดนามเข้ามาลงจำนวน 238 โครงการ โดยมีทุนจดทะเบียนรวม 5.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Vietnamese10.php

‘เวียดนาม’ ชี้สัญญาบวกส่งออกข้าว

นายเล มิน ฮวาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท กล่าวว่ายอดการส่งออกข้าวคุณภาพสูงของเวียดนามมีทิศทางที่เป็นบวก ตั้งแต่มีการคัดเลือกสายพันธุ์ข้าวเพื่อการเพาะปลูกและการกำหนดมาตรฐานข้าวให้เป็นไปตามความต้องการของแต่ละตลาด เนื่องจากเวียดนามตระหนักถึงความจำเป็นที่จะสร้างกลยุทธ์ในระยะยาว ทั้งนี้ นาย โด ห่า นาม รองประธานสมาคมอาหารแห่งเวียดนาม (VFA) ได้แสดงความยินดีจากการที่เวียดนามสามารถแข่งขันตลาดต่างประเทศได้หลายแห่งและยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง สาเหตุสำคัญมาจากข้าวหอมมะลิและข้าวคุณภาพสูง ทำให้ภาคธุรกิจได้รับคำสั่งซื้อจนถึงเดือนเมษายน หรือจนถึงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ โดยคาดการณ์ว่าผู้ส่งออกข้าวมีข้อได้เปรียบอย่างชัดเจนในปีนี้ เนื่องจากราคาข้าวอยู่ในระดับสูง และความต้องการข้าวจำนวนมากจากจีน ฟิลิปปินส์และแอฟริกา

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/positive-signals-for-rice-exports-in-2023/246674.vnp

บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก ย้ายการผลิตไปเวียดนาม

เมื่อเร็วๆนี้ บริษัทแอปเปิล (Apple) เปิดเผยว่าทางบริษัทจะย้ายฐานการผลิตของ MacBook ไปยังเวียดนามในปี 2566 และดำเนินการให้บริษัท ‘Foxconn’ ซัพพลายเออร์รายใหญ่ของแอปเปิล ทำการเปิดการผลิต MacBook ในเวียดนามตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีนี้ โดยในปี 2568 ประมาณ 20% ของจำนวน iPads และ Apple Watch ทั้งหมดจะผลิตในเวียดนาม ในขณะเดียวกัน ประมาณ 5% ของจำนวน MacBook และ 65% ของจำนวน Airpods นอกจากนี้ ซัมซุง (Samsung) บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของเกาหลีใต้ หลังจากทุ่มเงินกว่า 18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในเวียดนามที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงวางแผนที่จะขยายการลงทุนในเวียดนาม 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันเร็วๆนี้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่ากิจกรรมทางธุรกิจดังกล่าวมาจากข้อได้เปรียบของเวียดนาม ได้แก่ ต้นทุนแรงงานต่ำและข้อตกลงการค้าเสรีที่เวียดนามเข้าร่วม 15 ฉบับ ตลอดจนเสถียรภาพทางการเมืองของเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/electronic-firms-continue-to-shift-investment-to-vietnam/247004.vnp

“เวียดนาม” เผยการค้าระหว่างประเทศ ปี 65 โต 9.1%

กรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นว่ามูลค่าการค้าระหว่างประเทศ 730 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 9.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่งผลให้เกินดุลการค้า 12.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยแบ่งมาจากการมูลค่าการนำเข้า 358.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.8% เมื่อเทียบปีต่อปี ในขณะที่มูลค่าการส่งออก 371.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 10.5% เมื่อเทียบปีต่อปี ทั้งนี้ เดือนธันวาคม 2565 สินค้าส่งออกสำคัญที่ขยายตัวอย่างมาก ได้แก่ เครื่องจักรและอุปกรณ์ (26.3%), คอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ (16.3%) และสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม (12.1%) ในขณะที่สินค้านำเข้าสำคัญที่หดตัวอย่างมาก ได้แก่ น้ำมันดิบ (66.6%), ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (39.3%) และเครื่องจักร อุปกรณ์ (11.7%)

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnams-2022-foreign-trade-expands-9-1-y-o-y/

“ตลาดรถยนต์เวียดนาม” โตพุ่ง 33% ปี 65

สมาคมผู้ผลิตรถยนต์เวียดนาม (VAMA) ระบุว่าในปี 2565 มียอดจำหน่ายรถยนต์อยู่ที่ 404,635 คัน เพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยแบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 316,941 คัน เพิ่มขึ้น 48% เมื่อเทียบปีต่อปี รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 82,714 คัน ลดลง 1.5% และรถยนต์รุ่นพิเศษ 4,980 คัน ลดลง 14% นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์ที่ประกอบในประเทศ 226,487 คัน และรถยนต์นำเข้า 178,148 คัน เพิ่มขึ้น 30% และ 37% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามลำดับ ทั้งนี้ หากพิจารณาในเดือนธันวาคม พบว่ายอดจำหน่ายรถยนต์อยู่ที่ 35,301 คัน ลดลง 3% เมื่อเทียบเดือนก่อนหน้า และลดลง 0.5% เดือนพฤศจิกายน สาเหตุมาจากความยากลำบากในการเข้าถึงสินเชื่อของธนาคาร และอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคต้องชะลอการซื้อ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/automobile-sales-increase-33-in-2022/246911.vnp

ตลาดค้าปลีกเวียดนาม ทะยาน 163.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อีก 5 ปีข้างหน้า

ตลาดค้าปลีกของเวียดนามมีแนวโน้มเติบโต 11.4% ในช่วงปี 2565-2570 คิดเป็นมูลค่า 163.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางภาวะการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงสูงขึ้นในอุตสาหกรรมค้าปลีกที่อยู่กระจัดกระจาย การควบรวมและซื้อกิจการจำนวนมาก โดยผู้มีเล่นรายใหญ่เข้ามาควบรวมกิจการกับผู้ค้าปลีกรายย่อย อย่างไรก็ตาม ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมีทิศทางที่เติบโต เป็นผลมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้มีการแข่งขันที่รุนแรงและมีโอกาสที่จะเข้าไปแย่งส่วนแบ่งตลาดค้าปลีกของเวียดนาม ซึ่งใช้เครื่องมือที่หลากหลาย อาทิเช่น ศูนย์การค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายของชำและร้านสะดวกซื้อ

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-s-retail-market-to-rise-by-163-5-billion-over-next-five-years-2100000.html