ตลาดยาเมียนมาเข้าสู่ภาวะขาดแคลน

ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ยาให้ข้อมูลว่ายาบางชนิดที่นำเข้าจากอินเดียอาจขาดสต็อกในเมียนมาในไม่ช้า จากข้อมูลอุตสาหกรรมยาพบว่า 75% ของยาที่ขายในเมียนมานำเข้ามาจากอินเดียและปัจจุบันบริษัทยาอินเดียกำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบสำหรับการผลิต การระบาดของโรค coronavirus ในประเทศจีนได้ทำลายห่วงโซ่อุปทานของส่วนผสมและสารเคมีที่ใช้ในการทำยา ทั้งนี้รัฐบาลอินเดียยังจำกัดการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์บางประเภทไปยังประเทศอื่น ๆ เนื่องจากความต้องการใช้ในประเทศ อย่างไรก็ตามการแข็งค่าของเงินจัตเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐนั้นก็ค่อนข้างที่จะส่งผลต่อการขาดแคลนและราคายาให้คงที่ได้เช่นกัน เมียนมานำเข้ายา 80% จากอินเดีย และประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ปากีสถาน บังกลาเทศ จีน เวียดนามฟิลิปปินส์ และยุโรป

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/market-conditions-tighten-indian-pharmaceuticals.html

เยอรมนีอนุมัติเงิน 7.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐสนับสนุนกองทุนเงินทุนเพื่อธุรกิจ

เยอรมนีอนุมัติเงินเพิ่ม 7.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับกองทุนการเข้าถึงการเงินสปป.ลาว (LAFF) เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงการเงินระยะยาวสำหรับครัวเรือนและองค์กรขนาดเล็กขนาดกลางและขนาดย่อม (MSMEs) ในพื้นที่ชนบท โดยกองทุนนี้จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพของธนาคารสปป. ลาว และยังสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจลาวอย่างยั่งยืนโดยการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจสำหรับ MSME โดยธนาคารและสถาบันการเงินรายย่อยสามารถให้สินเชื่อแก่ธุรกิจได้มากถึง 500 ล้านกีบต่อธุรกิจ  ตรงตามวัตถุประสงค์หลักของโครงการคือการสนับสนุนภาคการเงินเชิงพาณิชย์ของลาวในการให้บริการทางการเงินที่ยั่งยืนและตามความต้องการของ MSMEs ในพื้นที่ชนบท สิ่งนี้จะช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชนและสนับสนุนการสร้างงานและลดความยากจน

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/germany-backs-access-finance-msmes-115374

ADB เตือนภาคการท่องเที่ยวกัมพูชาอาจจะเสียหายเป็นอย่างมากจากการแพร่ของไวรัส

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) กล่าวถึงการระบาดอย่างต่อเนื่องของไวรัส COVID-19 จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังพัฒนาในเอเชีย โดยในการวิเคราะห์ล่าสุดของ ADB กล่าวว่าจะมีการลดลงอย่างมากของอุปสงค์ในประเทศ เช่นการท่องเที่ยวและการค้ารวมถึงการหยุดชะงักอย่างรุนแรงในการเชื่อมโยงการผลิตและซัพพลายเชน ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับกัมพูชา ADB ประมาณการว่ารายรับจากการท่องเที่ยวของกัมพูชาอาจลดลงเหลือ 856.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วกัมพูชาได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว 6.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน ภาคดังกล่าวสร้างรายได้ประมาณ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคิดเป็น 12% ของจีดีพี อย่างไรก็ตามในปีนี้กระทรวงการท่องเที่ยวได้คาดการณ์ไว้แล้วว่ากัมพูชาจะประสบปัญหานักท่องเที่ยวลดลงประมาณ 1 ล้านคนส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวลดลง 10% โดยการท่องเที่ยวถือเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญสำหรับประเทศที่กำลังพัฒนาหลายแห่งในเอเชีย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50699917/tourism-sector-to-lose-over-850-million-warns-the-adb

นายกฮุนเซนประกาศเปิดตัวโครงการใหม่ National Road 10

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนได้เปิดเผยแผนการสำหรับการก่อสร้างทางหลวงเส้นใหม่จากพระตะบองไปยังเกาะกง โดยนายกฮุนเซนได้กล่าวในพิธีเปิด National Road 55 ทางหลวงที่เพิ่งสร้างเสร็จในจังหวัดโพธิสัตว์ ซึ่งเชื่อมต่อกับทางชายแดนของไทย หากเมื่อรวมเข้าด้วยกันแล้วเส้นทางยุทธศาสตร์จะสร้างเส้นทางเศรษฐกิจที่สำคัญระหว่างกัมพูชาและไทย โดยหนึ่งในจุดประสงค์คือการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคและโลก จะช่วยอำนวยความสะดวกในบรรยากาศการลงทุนและปรับปรุงการค้าการท่องเที่ยว รวมถึงความร่วมมือข้ามพรมแดนในขณะเดียวกันก็จะสร้างงานและส่งเสริมสวัสดิการทางสังคมให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์จะพบว่าการค้าระหว่างกัมพูชาและไทยเพิ่มขึ้น 12% ในปี 2562 เป็น 9.4 พันล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้นจาก 5 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2558 โดยเมื่อปีที่แล้วการส่งออกของกัมพูชามายังประเทศไทยมีมูลค่า 2.27 พันล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 195% เมื่อเทียบเป็นรายปีในขณะที่มูลค่าการนำเข้าจากไทยอยู่ที่ 7.14 พันล้านเหรียญสหรัฐลดลง 6%

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50699905/pm-announces-new-national-road-10

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชากล่าวถึงผลกระทบจากไวรัสต่ออุตสาหกรรม

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวได้ทำการเปรียบเทียบระหว่างการระบาดของ COVID-19 ในปัจจุบันกับการระบาดของโรคที่ติดต่อกับทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARs) ที่เกิดขึ้นในปี 2546 ที่ได้ทำลายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย โดยกัมพูชาประสบกับปัญหาจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงอย่างมากในช่วงการระบาดของโรคซาร์สในปี 2546 และเห็นปฏิกิริยาคล้ายๆกับไวรัส COVID-19 ในปัจจุบัน ซึ่งกระทรวงคาดการณ์ว่ากัมพูชาจะประสบกับการลดลงของนักท่องเที่ยว 1 ล้านคน ในปีนี้ส่งผลให้สูญเสียรายได้ประมาณ 10% สำหรับภาคธุรกิจการท่องเที่ยว โดยกัมพูชาได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว 6.6 ล้านคน ในปี 2562 เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน สร้างรายได้ประมาณ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐและคิดเป็น 12% ของจีดีพีของประเทศ กระทรวงยังกล่าวอีกว่ากัมพูชายังต้องเผชิญกับแรงกดดันจากภายนอกเนื่องจากสงครามการค้าของจีนและสหรัฐฯและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีรายงานหนึ่งสรุปประมาณการณ์ความเสียหายจากไวรัสคิดเป็น 0.1% ถึง 0.4% ของ GDP โลก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50699503/minister-of-tourism-says-virus-will-be-as-bad-if-not-worse-than-sars-was-for-industry

MOT กัมพูชาเปิดเผยแผนการสนันสนุนการเดินทางภายในประเทศ

กระทรวงการท่องเที่ยว (MOT) กำลังวางแผนที่จะจัดทำแพคเกจทัวร์ราคาประหยัดใหม่เพื่อสอดรับกับการชะลอตัวลงของภาคการท่องเที่ยวในประเทศท่ามกลางสถานการณ์การระบาด COVID-19 ที่กำลังดำเนินอยู่ ณ ปัจจุบันเพื่อให้การเดินทางภายในประเทศเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยแพ็คเกจทัวร์นี้จะช่วยให้ประหยัดได้ในระหว่าง 20% ถึง 30% สำหรับค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งโฆษกเปิดเผยว่ากระทรวงกำลังทำงานกับชุดบริการในภาคเอกชนรวมถึงโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร ผู้ประกอบการท่องเที่ยว และบริษัทขนส่ง เพื่อการพัฒนาแพคเกจทัวร์ราคาประหยัดที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเติบโตของนักท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันการระบาดของ COVID-19 ส่วนใหญ่เกิดในประเทศจีนและไม่มีข้อบ่งชี้ว่าไวรัสจะหยุดแพร่กระจายในเร็วๆนี้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเมื่อปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.6 ล้านคน (ซึ่งสร้างรายได้ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีนักท่องเที่ยวภายในประเทศ 11.5 ล้านคน อาจจะลดลงเป็นอย่างมากในระยะไม่กี่เดือนข้างหน้า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50699506/mot-unveils-their-plan-to-encourage-domestic-travel

เม็ดเงินลงทุน 564 ล้านดอลลาร์สหรัฐในนิคมอุตสาหกรรม Da Nang Hi-Tech Park

นิคมอุตสาหกรรม Da Nang Hi-Tech Park (DHTP) ได้เปิดตัวในปี 2556 ฐานะศูนย์กลางสีเขียวและการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง จนสามารถดึงดูดโครงการลงทุน 18 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) 9 โครงการ ด้วยเงินทุนรวม 564 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ ผู้อำนวยการของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ระบุว่านิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวถูกออกแบบให้เป็น 1 ใน 3 ของนิคมอุตสาหกรรมหลักที่สามารถใช้งานได้หลายประเภท ตามมาด้วยกรุงโฮจิมินห์และฮานอย รวมถึงมีจำนวนธุรกิจ FDI 4 แห่ง ประกอบไปด้วยบริษัทญี่ปุ่น 2 ราย, บริษัทเกาหลีใต้ 1 ราย และบริษัทสหรัฐฯ 1 ราย ที่ได้ตัดสินใจทุ่มเงินลงทุน 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกและตลาดในประเทศ รวมถึงมีนักลงทุนในประเทศอีก 2 ราย ได้แก่ Long Hau company และ Bien Dong electric automation technology company ทั้งนี้ จากรายงานของคณะกรรมการ ระบุว่า UAC ได้ลงทุนก่อสร้างโรงงาน 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ ซึ่งได้เสร็จสิ้นการก่อสร้างแล้วและเริ่มต้นการผลิตในสิ้นปี 2562 นอกจากนี้ เมืองแห่งนี้ได้เรียกร้องให้มีการลงทุนจาก Silicon Valley และธุรกิจจากสหรัฐฯที่เกี่ยวข้องกับบริการสุขภาพ รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค การศึกา อสังหาริมทรัพย์และยานยนต์ในนิคมอุตสาหกรรม DHTP และ IZs

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/653256/564-million-poured-in-da-nang-hi-tech-park.html

ธุรกิจภาคเกษตรร่วมมือภาครัฐหาแนวทางลดอุปสรรคการดำเนินธุรกิจ

วันที่ 6 มีนาคมได้มีการจัดงาน 2020 Business Forum (LBF) โดยภายในตัวแทนธุรกิจภาคเกษตรของสปป.ลาวได้จัดการเจรจากับหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติสปป.ลาว (LNCCI) เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจภาคเกษตร ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาผู้แทนอุตสาหกรรมกล่าวว่ายังมีปัญหาที่ยังไม่ได้แก้ไขอีกมากรวมถึงความยุ่งยากของเอกสารที่ต้องใช้ในการนำเข้าวัตถุดิบและส่งออกสินค้าสำเร็จรูปถือเป็นอุปสรรคที่ทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปได้อย่างยากลำบาก อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการเกษตรเพื่อบรรลุยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในปี 2568 ทั้งนี้คาดว่าผลของการประชุมในงานดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลทราบถึงปัญหาของการดำเนินธุรกิจภาคเกษตรมากขึ้นและจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้นเพื่อสร้างบรรยายกาศที่ดีในการดำเนินธุรกิจ  

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/lao-agribusiness-sector-raise-challenges-business-forum-115299

มาเลเซีย-สปป.ลาวจัดแคมเปญหวังกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงนี้

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ได้มีการจัดงานสัมนาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในชื่อแคมเปญ ” Golden Golden Holiday Holiday ” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวมาเลเซีย-สปป.ลาว โดยภายในงานได้มีคณะผู้แทนจากภาคส่วนต่างๆของทั้ง 2 ประเทศเข้าประชุมเพื่อหารือถึงแนวทางในการบรรเทาปัญหาการลดลงของนักท่องเที่ยวจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 และยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสปป.ลาวและมาเลเซียอีกด้วย ก่อนหน้านี้มาเลเซียและสปป.ลาวได้ร่วมมือกันในการเป็นพันธมิตรที่ดีในการสนับสนุนการท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศผ่านแคมเปญต่างๆ ทำให้ในเดือนมกราคม-กันยายน 2562 มาเลเซียมีนักท่องเที่ยว 20,959 คนเพิ่มขึ้น 13.8%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวดังกล่าวเดินทางมาจากสปป.ลาวสร้างรายได้มากถึง 1 แสนล้านานริงกิต ดังนั้นความร่วมมือกันในการจัดแคมเปญใหม่นี้ก็เพื่อหวังผลในการเพิ่มนักท่องเที่ยวให้สูงขึ้นโดยมีเป้าหมายเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวในอาเซียนเป้นหลัก

 ที่มา  :  http://annx.asianews.network/content/tourism-malaysia-strengthens-ties-laos-boost-arrivals-115300

อุตสาหกรรมยานยนต์เมียนมาเตรียมลดการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์

การร้องขอจากอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศสำหรับการลดผลิตชิ้นส่วนยานยนต์กึ่งสำเร็จรูป (Semi Knocked Down :SKD) ได้ถูกเสนอต่อหัวหน้าคณะรัฐมนตรีของย่างกุ้ง โดยได้เสนอว่าควรส่งเสริมการผลิตรถยนต์ในประเทศสามารถยกระดับห่วงโซ่คุณค่าสู่การผลิตรถยนต์ในประเทศได้เอง (Completely Knocked Down :CKD) :7j’การผลิตแบบ SKD อาจขัดขวางภาคการพัฒนา เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2562 กรุงย่างกุ้งจะอนุญาตให้มีการจดทะเบียนยานพาหนะมูลค่ารวม 10 ล้านจัตในเมียนมา ใบอนุญาตนำเข้ารถยนต์ที่จดทะเบียนในย่างกุ้งได้ถูกระงับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2559 ในอีกประเด็นหนึ่งที่ต้องเผชิญกับปัญหานี้คือจะอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตนำเข้ารถยนต์ที่จะหมดอายุในเดือนนี้ ตั้งแต่ปี 2561 อนุญาตให้นำเข้ารถยนต์พวงมาลัยซ้ายจากประเทศตะวันตกเท่านั้น

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/auto-industry-seeks-easing-duties-car-components.html