ผลผู้ชนะการประมูลโครงการทางหลวงย่างกุ้งจะรู้ผลเร็วๆ นี้

กระทรวงการก่อสร้างจะประกาศผลผู้ชนะการประมูลในช่วงแรกของโครงการทางด่วนยกระดับย่างกุ้ง (YEX) ในเดือนพฤษภาคมนี้ กระทรวงได้กำหนดให้ข้อเสนอ (RFP) ขั้นที่ 1 ของ YEX ในฐานะหุ้นส่วนภาครัฐ (PPP) ถึง 10 ราย โดยกำหนดเวลาส่งการเสนอราคาภายในวันที่ 31 มีนาคม 63 ระยะที่หนึ่งของโครงการ YEX ซึ่งเป็นโครงการขนส่งแรกที่ได้รับการพัฒนาภายใต้โครงการ PPP ซึ่งมีความสำคัญสำหรับรัฐบาล การก่อสร้างคาดว่าจะใช้เวลาประมาณสามปีครึ่ง โดยจะสร้างถนนยกระดับสี่เลนระยะทาง 47.5 กิโลเมตรซึ่งเชื่อมโยงตอนใต้ของย่างกุ้งรวมถึงท่าเรือย่างกุ้งและเขตเศรษฐกิจพิเศษติวาล่า ทางทิศเหนือเป็นสนามบินนานาชาติย่างกุ้ง นิคมอุตสาหกรรมมิงกะลาดอน สวนสาธารณะและทางด่วนย่างกุ้ง – มันดาเลย์ การประมูลระยะที่สองคาดจะเริ่มปลายปีนี้ โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรในกรุงย่างกุ้งและปรับปรุงการเชื่อมต่อสำหรับธุรกิจและชุมชนในศูนย์กลางการค้าของประเทศ

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/winning-bidder-yangon-highway-project-be-announced-soon-ministry.html

มาตรการขึ้นทะเบียนหมูเพื่อกระตุ้นอุปทานเนื้อหมูในประเทศ

กรมวิชาการเกษตรและป่าไม้เวียงจันทน์จะสนับสนุนให้เกษตรกรหมูลงทะเบียนขอใบอนุญาตฟาร์มเพื่อวางแผนจัดการกับปัญหาการขาดแคลนหมูในปัจจุบันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปีนี้คาดหวังว่าจะมีการเลี้ยงลูกสุกร 190,000-200,000 ตัว เพื่อตอบสนองความต้องการของคนในประเทศให้เพียงพอ นอกจาจะมีข้อมูลที่สามารถนำมาหาแนวทางแก้ปัญหาแล้ว การขึ้นทะเบียนจะทำให้การเลี้ยงหมูมีประสิทธิภาพมากขึ้นรวมถึงปริมาณหมูที่จะเพิ่มขึ้นด้วย เมื่อผลผลิตเพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาหมูลดลงมาช่วยควบคุมราคาหมูไม่ให้สูง ซึ่งการที่ราคาหมูสูงก็เป็นผลทำให้เงินเฟ้อในประเทศปรับตัวขึ้นและเป็นปัญหาที่สปป.ลาวเผชิญในปัจจุบันดังนั้นมาตราการดังกล่าวจะสามารถช่วยแก้ปัญหาทั้ง2ของสปป.ลาวได้

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/vientiane-eyes-measures-boost-pork-supply-amid-chronic-shortage-113324

เขตเศรษฐกิจพิเศษดึงดูดเงินมากถึง 5.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ

เขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZs) ที่จัดตั้งขึ้นทั่วประเทศดึงดูดการลงทุนเกือบ 5.7 พันล้านเหรียญสหรัฐโดยมีบริษัท 806 แห่งได้ลงทุนในโซนซึ่งประกอบด้วย 26.34% ในภาคอุตสาหกรรม 25.26%ในการค้าและ 48.4% ในภาคบริการนอกจากนี้การเข้ามาลงทุนในเขตพิเศษยังทำให้เกิดการจ้างงานซึ่งได้สร้างงานถึง 12,596 ตำแหน่งสำหรับแรงงานลาว ปัจจุบันสปป.ลาวกำลังศึกษาถึงโอกาสในการจะจัดตั้งโซนเศรษฐกิจใหม่เพิ่มเติมอีกแห่งหนึ่งซึ่งเรียกว่า “สมาร์ทแอนด์อีโคซิตี้” ระหว่างเขตหลวงน้ำทาและจังหวัดอุดมไชยและมีการคาดการณ์จะสร้างเม็ดเงินและสร้างงานให้กับสปป.ลาวได้อีกมากและจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/special-economic-zones-attract-us57-b-113321

สนามบินมณฑลคีรีร่วมวางแผนสำหรับภูมิภาคท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ใหญ่ที่สุดในกัมพูชา

กระทรวงเศรษฐกิจและการเงินระบุว่าจังหวัดมณฑลคีรีได้รับการยอมรับให้เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงเกษตรและนิเวศน์ที่ใหญ่ที่สุดในกัมพูชา โดยการศึกษาความเป็นไปได้รวมถึงการยกระดับสนามบินสำหรับเมืองหลวงเซน โมโนรม ซึ่งมณฑลคีรีเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุดในกัมพูชามีพื้นที่มากกว่า 14,000 ตารางเมตรโดย เซน โมโนรม ห่างจากกรุงพนมเปญประมาณ 390 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของแม่น้ำสามสายและน้ำตก Bou Sra ที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ยังมีป่าเขตร้อนบริสุทธิ์ตามฤดูกาลและพื้นที่คุ้มครองสัตว์ป่า ซึ่งโฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวได้กล่าวเสริมถึงมณฑลคีรีว่าสามารถเป็นศูนย์กลางหลักของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และการผจญภัยได้ รวมถึงประธานสมาคมตัวแทนการท่องเที่ยวกัมพูชายังกล่าวว่าภาคการท่องเที่ยวมีการชะลอตัวลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและส่งผลกระทบต่อภาคเอกชนเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงนี้ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและผู้ประกอบการท่องเที่ยวกำลังได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัวโคโรนาที่กำลังระบาดอยู่ในปัจจุบัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50687605/airport-will-aid-plans-for-biggest-eco-tourism-region-in-cambodia

สนามบินกัมพูชาร่วมมือในการพัฒนาศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศแห่งใหม่

สนามบินกัมพูชาและบริษัทการลงทุนต่างประเทศ (OCIC) ได้แสดงความคืบหน้าในการหารือเกี่ยวกับการพัฒนาสนามบินนานาชาติพนมเปญซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า โดยความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายผ่านร่างในการบันทึกความเข้าใจ (MoU) ซึ่งโฆษกของสำนักเลขาธิการการบินพลเรือนของรัฐ (SSCA) กล่าวว่าท่าอากาศยานกัมพูชาจะเข้าร่วมกับ OCIC เพื่อพัฒนาสนามบินแห่งใหม่ในจังหวัดกันแลนด์ โดยสนามบินกัมพูชาได้แสดงความมุ่งมั่นในการปฏิบัติภารกิจให้แก่หน่วยงานภายในกัมพูชาอย่างต่อเนื่องตามข้อตกลงสัมปทานที่ลงนามไปเมื่อปี 2538 ซึ่งรวมถึงการขยายไปยังโครงการสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ตามที่รัฐบาลกำหนด (RGC) ซึ่งโครงการดังกล่าวได้มีการประกาศในต้นปี 2561 และคาดว่าจะมีมูลค่าของโครงการประมาณ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐภายใต้ชื่อ Cambodia Airport Investment

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50687604/new-international-travel-hub-seeks-development-cooperation

ตลท.ผนึกตลาดหุ้นอาเซียน ปรับเว็บไซต์ Asean Exchanges ชูรีเสิร์ชกว่า 3,600 บจ.

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ผนึกกลุ่มตลาดหลักทรัพย์อาเซียน ปรับโฉมเว็บไซต์ Asean Exchanges ศูนย์รวมข้อมูลกว่า 3,600 หลักทรัพย์อาเซียน เพิ่มบทวิเคราะห์ชูความน่าสนใจ โดยกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่ากลุ่มตลาดหลักทรัพย์อาเซียน 6 แห่ง ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และไทย ร่วมเผยแพร่ข้อมูลไฮไลท์ตลาดหุ้นอาเซียน ผ่านเว็บไซต์ www.aseanexchanges.org ปรับโฉมใหม่โดยรวบรวมข้อมูลหลักทรัพย์ทั้ง 6 แห่ง ครบถ้วนในแหล่งเดียว ครอบคลุมกว่า 3,600 หลักทรัพย์ พร้อมรวมบทวิเคราะห์ เครื่องมือคัดเลือกหลักทรัพย์ ข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างหลักทรัพย์แต่ละประเทศ ข่าวสารทางการเงิน หวังดึงดูดการลงทุนจากผู้ลงทุนรายย่อย และสถาบัน จากทั้งในภูมิภาคและจากทั่วโลก ทั้งนี้ปัจจุบันบริบททางเศรษฐกิจเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีทำให้การเงินการลงทุนทั้งโลกเกิดความเชื่อมโยงกัน โดยมีเครื่องมือคัดเลือกหลักทรัพย์ โดยสามารถเลือกเปรียบเทียบหลักทรัพย์อาเซียนตามเกณฑ์ต่างๆ เช่น มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม อัตราเงินปันผลตอบแทน อัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น ข้อมูล กลุ่มอุตสาหกรรม ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ความเคลื่อนไหวของดัชนีที่เกี่ยวข้อง อาทิ MSCI ASEAN และ FTSE ASEAN ข่าวสารทางการเงิน เป็นต้น

ที่มา : นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 6 ก.พ. 2563

e-Form D ลดหย่อนภาษีศุลกากรเอื้อการค้านอาเซียนมี

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯ ได้ให้บริการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Form D ภายใต้ ASEAN Single Window (ASW) อย่างเต็มรูปแบบ โดยสามารถเชื่อมโยง e-Form D กับประเทศสมาชิกอาเซียนครบ 10 ประเทศแล้ว โดยตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. ประเทศเมียนมา และ สปป.ลาว ได้เริ่มบริการแล้วส่งผลให้ผู้ประกอบการในประเทศสมาชิกอาเซียนทุกประเทศ สามารถใช้ e-Form D ประกอบการดำเนินพิธีการทางศุลกากรเพื่อขอใช้สิทธิพิเศษทางภาษีลดหย่อน/ยกเว้นภาษีนำเข้า ณ ประเทศอาเซียนปลายทาง ช่วยเอื้อให้การค้าขายภายในอาเซียนมีความคล่องตัว และเพิ่มมูลค่าการค้าขายในอาเซียนและนับเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่จะช่วยสนับสนุนการเจรจากับประเทศคู่ค้าภายใต้กรอบ FTA อื่นๆ โดยเฉพาะกรอบความตกลงอาเซียนและประเทศคู่เจรจา (ASEAN Plus)

ที่มา : https://www.kaohoon.com/content/339885

บริษัทอุตสาหกรรมและการแปรรูปเวียดนาม คาดว่าผลผลิตจะเพิ่มสูงขึ้นและมีเสถียรภาพ

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการอุตฯและแปรรูปเวียดนาม 6,500 ราย ในช่วงไตรมาสที่ 4/2562 พบว่าผู้ประกอบการร้อยละ 46.9 คาดว่าผลผลิตจะเติบโตสูงขึ้นและร้อยละ 37.9 เชื่อว่าการดำเนินงานธุรกิจยังคงเหมือนเดิมกับไตรมาสที่ 1 – 4 ของปีที่แล้ว ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ผู้ประกอบการร้อยละ 55.3 และ 34.0 คาดว่าการดำเนินงานจะขยายตัวและมีเสถียรภาพ ตามลำดับ เมื่อเทียบช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน บริษัท FDI ส่วนใหญ่ร้อยละ 87.9 มองว่าในเดือนม.ค.-มี.ค. มีการเติบโตและเสถียรภาพได้ดีขึ้น รองลงมารัฐวิสาหกิจ (85.2%) และกิจการที่ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ (83.5%) ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 ผู้ประกอบการอุตฯและแปรรูปส่วนใหญ่ร้อยละ 84.8 มองว่าการผลิตจะขยายตัวและมีความมั่งคงเพิ่มสูงขึ้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/most-processing-manufacturing-companies-expect-production-growth-stability-409639.vov

เวียดนามเผยปี 62 ส่งออกข้าวไปฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น

จากรายงานของกรมศุลกากรเวียดนาม (GDC) เปิดเผยว่าในปี 2562 เวียดนามส่งออกข้าวไปยังฟิลิปปินส์ 884.94 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 92.58 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับมูลค่าการส่งออกทั้งหมดไปยังฟิลิปปินส์อยู่ที่ 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.63 เมื่อเทียบกับปี 2561หากจำแนกรายการสินค้าส่งออกที่มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (+1.88% คิดเป็นมูลค่า 189.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ), กาแฟ (+9.4%), อาหารทะเล (+1.94%) และเสื้อผ้า (+3.53%) เป็นต้น ทั้งนี้ ข้าวมีส่วนแบ่งการส่งออกในตลาดฟิลิปปินส์ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 23.73 ของมูลค่าส่งออกทั้งหมดไปยังต่างประเทศ ซึ่งจากตัวเลขสถิติ พบว่าในปีที่แล้ว มูลค่าส่งออกข้าวของเวียดนามลดลงอยู่ที่ 2.76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องมาจากราคาข้าวในตลาดโลกลดลง แต่ในส่วนของปริมาณส่งออกข้าวอยู่ที่ประมาณ 6.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/rice-exports-to-philippines-in-2019-surge/168177.vnp

ข้อเสนอการนำเข้าตาลของกรีกเป็นผลดีสำหรับเมียนมา

สมาคมอ้อยน้ำตาลของเมียนมาเผย กรีซเสนอซื้อน้ำตาลจากเมียนมาที่ราคา fob อยู่ที่ 400 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน/เดือน  ปัจจุบันราคาน้ำตาลปรับตัวลดลงเนื่องจากอุทานส่วนเกินล้นตลาด คลังสินค้าได้รับความเสียหายจากปีก่อนจึงทำให้คุณภาพลดลง นี่เป็นครั้งแรกที่กรีซนำเข้าน้ำตาลเนื่องจากอนุญาตให้นำเข้าและส่งออกและกลับมาเพิ่มปริมาณการค้าในปี 2558 ในอดีตส่วนใหญ่ส่งออกไปจีนเป็นหลัก อย่างไรก็ตามเพื่อควบคุมการส่งออกที่ผิดกฎหมาย จึงจำกัดการนำเข้าน้ำตาลจากเมียนมาและห้ามนำเข้าทั้งหมดในเดือนกันยายน 60 ปัจจุบันมีชาวไร่อ้อยเกือบ 500,000 คน ซึ่งป้อนให้กับโรงงานน้ำตาล 23 แห่งในประเทศ เกษตรกรยังขอให้รัฐบาลจำกัด การนำเข้าน้ำตาลที่ล้นตลาด ปกติแล้วอ้อยจะผลิตและแปรรูปในเดือนพฤศจิกายน แต่โรงงานน้ำตาลในพื้นที่ก็เริ่มหีบอ้อยในเดือนธันวาคมของปีนี้

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/greek-offer-myanmar-sugar-draws-interest.html