รัฐบาลสปป.ลาวให้คำมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจในอีก 5 ปีข้างหน้า

รัฐบาลมีแผนที่จะปฏิรูปเศรษฐกิจโดยกรอบของแผนจะเริ่มในปี 2564-2568 และแผนดังกล่าวรัฐบาลเชื่อมั่นว่าจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เติบโตอย่างยั่งยืน มีการกำหนดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ร้อยละ 4-5 ต่อปีเป็นเป้าหมายสำหรับปี 2564-2568 ขณะที่ระดับอัตราเงินเฟ้อไม่เกินร้อยละ 6 ต่อปี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุน Mr.Sonexay Siphandone กล่าวว่า “มีเป้าหมายหลายประการที่จะบรรลุในอีกห้าปีข้างหน้าและยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเพิ่มรายได้ของประเทศและการลดการรั่วไหลทางการเงิน” อีกด้านหนึ่งการปรับปรุงโครงสร้างของเศรษฐกิจโดยให้ความสำคัญกับ SMEs และการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวระเบียงเศรษฐกิจพิเศษต่างๆ จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตเศรษฐกิจที่สำคัญของสปป.ลาว อย่างไรก็ตามความท้าทายอย่างหนึ่งของสปป.ลาวคือภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นและอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่ผันผวนปัจจัยนี้เองจะเป็นอุปสรรคที่ท้าทายต่อเศรษฐกิจของสปป.ลาวในการเติบโตให้ได้ตามเป้าในอีก5 ปีข้างหน้า

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_239.php

สปป.ลาวและเวียดนามเห็นพ้องที่จะกระชับความร่วมมือแบบทวิภาคี

สปป.ลาวและเวียดนามได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ 17 ฉบับโดยตั้งใจที่จะกระชับความสัมพันธ์และความเป็นปึกแผ่นระหว่างสองประเทศทั้งสองฝ่ายกล่าวว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับความสำเร็จของความร่วมมือทวิภาคีในช่วงปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะในด้านการเมือง การต่างประเทศและด้านที่สำคัญอย่างความมั่นคงเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนเวียดนามเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่อันดับสามในสปป.ลาวรองจากจีนและไทย การลงทุนทั้งหมดของเวียดนามในสปป.ลาวเพิ่มขึ้นเป็น 4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2562 รวมถึงยังเป็นคู่ค้าที่สำคัญของสปป.ลาวโดยมีมูลค่าการค้าที่เกิดจากการร่วมมือทวิภาคีถึง 815 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ รัฐบาลทั้งสองยังตกลงที่จะขยายความร่วมมือในด้านการสื่อสารและการขนส่งรวมถึงการพัฒนาไฟฟ้าพลังน้ำ การส่งกระแสไฟฟ้า การซื้อพลังงาน ประเด็นหนึ่งที่สำคัญทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำถึงความสำคัญของความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยทางสังคมตามแนวพรมแดนร่วมกันโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างพรมแดนแห่งมิตรภาพความร่วมมือและการพัฒนาประเทศให้ยั่งยืน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Natural_238.php

สปป.ลาวขยายเวลาล็อกดาวน์เขตเศรษฐกิจพิเศษหลวงน้ำทา

ขณะนี้การขยายเวลาล็อกดาวน์มีผลบังคับใช้ใน 2 แห่งในสปป.ลาว ได้มีการสั่งปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็นในแขวงหลวงน้ำทาและแขวงบ่อแก้ว ปิดเมืองต้นผึ้งหลังจากทราบว่าชาวจีนที่ติดเชื้อโควิด -19 ทั้งสองคนได้เดินทางผ่าน โดยให้ปิดตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน ได้มีการติดตามเจ็ดคนที่มีการติดต่อโดยตรงกับชาวจีนทั้งสองคนและผู้ที่ได้ติดต่อโดยตรงกับทั้งเจ็ดคนเพื่อทดสอบไวรัส และได้รับคำสั่งให้เก็บตัวอย่างจากทุกคนที่มีอาการคล้ายโควิด -19 และทำการทดสอบ นอกจากนี้ยังขอให้ตรวจสอบทุกคนที่เข้ามาในบ่อแก้วหรือหลวงน้ำทาบังคับใช้มาตรการป้องกันและควบคุมโควิด -19 อย่างเคร่งครัด ในเมืองต้นผึ้ง การเดินทางภายในเขตถูกระงั ยกเว้นการเดินทางที่จำเป็น เช่นการไปโรงพยาบาล ไปโรงเรียนและการซื้อของกิน อย่างไรก็ตามการเดินทางดังกล่าวต้องได้รับการอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ จากสถานการณ์ดังกล่าวแขวงพงสาลีที่อยู่ใกล้เคียงได้ดำเนินการเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส ระงับบริการขนส่งสาธารณะไปยังหลวงน้ำทา ผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและจะต้องได้รับการกักตัว จนถึงขณะนี้สปป.ลาวมีผู้ติดเชื้อโควิด -19 แล้ว 39 ราย (ไม่รวมชาวจีนสองชาติดังกล่าวข้างต้น) ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Lockdown237.php

UN special session : นายกรัฐมนตรีสปป.ลาวเรียกร้องการเข้าถึงวัคซีนโควิด -19

ในการประชุมพิเศษของที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติในการตอบสนองต่อการระบาดของ Covid-19 ที่จัดขึ้นทางออนไลน์นายกรัฐมนตรีสปป.ลาว เรียกร้องให้ประชาคมนานาชาติสนับสนุน COVAX ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มที่ดำเนินการเพื่อการเข้าถึงวัคซีนโควิด -19 ทั่วโลกอย่างเท่าเทียมกัน นี่คือการทำให้วัคซีนโควิด -19 เป็นสินค้าสาธารณะระดับโลก ทั้งนี้ได้แสดงความคิดเห็นเนื่องจากบริษัทและหน่วยงานวิจัยหลายแห่งประกาศความสำเร็จครั้งแรกในการพัฒนาวัคซีน Covid-19 ซึ่งคาดว่าจะพร้อมใช้งานในอนาคตอันใกล้นี้ ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 54 ล้านคนและมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1.3 ล้านคน และไม่เพียงแต่เป็นการแพร่ระบาด แต่เป็นวิกฤตสุขภาพโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งองค์การสหประชาชาติเมื่อ 75 ปีก่อน แต่ยังเป็นวิกฤตด้านมนุษยธรรมเศรษฐกิจสังคมความมั่นคงและสิทธิมนุษยชนอีกด้วย มันอาจส่งผลให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ นายกรัฐมนตรีสปป.ลาว กล่าวว่ารัฐบาลได้กำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมอย่างเข้มงวดซึ่งทำให้สปป.ลาวมีผู้ติดเชื้อไวรัสเพียง 39 รายและไม่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งรัฐบาลได้ยกเลิกข้อจำกัดบางประการเพื่อลดผลกระทบจากการระบาดใหญ่ต่อเศรษฐกิจ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_UN236.php

การเปิดใช้ทางด่วนเวียงจันทน์ – วังเวียงอาจล่าช้าออกไป

เจ้าหน้าที่ได้เลื่อนการเปิดใช้ทางด่วนเวียงจันทน์-วังเวียงที่มีระยะทางรวม 113.50 กิโลเมตรที่ สาเหตุของความล่าช้ามาจากงานในโครงการบางส่วนยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ผิดแผนไปจากเดิมที่จะมีการเปิดจราจรในวันชาติสปป.ลาว นายขัตติยศักดิ์ ไชยวงศ์หัวหน้าคณะกรรมการบริหารทางพิเศษกล่าวกับเวียงจันทน์ไทม์สเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า “งานเสร็จสมบูรณ์ไปแล้วร้อยละ 99.9 และมีแผนจะเปิดในเดือนนี้ แต่ตอนนี้กำหนดการเปิดตัวคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงสิ้นปีนี้” ถนนทางพิเศษดังกล่าวซึ่งมีอุโมงค์คู่ผ่านภูเขาจะทำให้เส้นทางสั้นลงจากเดิมถึง 43 กม. โครงการทางพิเศษนี้ได้รับการลงทุนจากนักลงทุนจีนซึ่งจะดำเนินการภายใต้สัญญาสัมปทาน 50 ปีโดยมีค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รัฐบาลสปป.ลาวถือหุ้นร้อยละ 5 ในโครงการ  โครงการทางด่วนพิเศษเป็นการตอกย่ำถึงความประสงค์ของสปป.ลาวที่จะนำพาตัวเองไปสู่ประเทศที่เชื่อมต่อกับนานาประเทศ “Land lock Land link” ซึ่จะนำพาสปป.ลาวสู่ประเทศที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมในอนาคตจากปัจจัยโครงสร้างพื้นฐานที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Opening235.php

เยอรมนีสนับสนุนทุน 114 พันล้านกีบในการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานทางใต้ของสปป.ลาว

กรมโยธาธิการและขนส่งจังหวัดอัตตะปือมอบสัญญา 3 ฉบับสำหรับการซ่อมแซมถนนที่เสียหายจากน้ำท่วมภายใต้โครงการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานของสปป.ลาวใต้ โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีผ่าน KfW Development Bank โดยให้ทุนประมาณ 114 พันล้านกีบ (มากกว่า 12 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค วัตถุประสงค์ของโครงการคือ“ ให้ประชากรในชนบทที่ประสบอุทกภัยสามารถเข้าถึงตลาด โรงเรียน สถานีอนามัยและโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมอื่น ๆ ได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพนำมาซึ่งการมีส่วนร่วมในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและสังคมเชิงบวกอย่างยั่งยืนของประชากรในชนบท” ผลกระทบจากการพัฒนาระยะกลางถึงระยะยาวคาดว่าจะส่งผลให้การผลิตสินค้าเกษตรและร้านค้าปลีกที่มุ่งเน้นตลาดเพิ่มขึ้นพร้อมกับการเพิ่มขึ้นของความพร้อมของไฟฟ้าในพื้นที่เป้าหมายอีกด้วย โครงการคาดการณ์จะก่อสร้างแล้วเสร็จใน 18 เดือนสำหรับแต่ละสัญญา

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Germany_234.php

โรงกลั่นร่วมทุนจีน-สปป.ลาวเริ่มต้นการผลิตน้ำมันสำเร็จรูปเชิงพาณิชย์

Lao Petroleum & Chemical Co.Ltd (Laopec) บริษัทร่วมทุนจีน – สปป.ลาวได้เปิดตัวการโรงกลั่นน้ำมันในเฟสแรกของโครงการซึ่งคาดการณ์จะสามารถผลิตได้ถึง 3 ล้านตัน/ปี Laopec ซึ่งเป็นโรงกลั่นแห่งแรกของสปป.ลาวจะเติมเต็มช่องว่างในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในสปป.ลาวได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปจากต่างประเทศ โดยโครงการตั้งอยู่ในเขตพัฒนาครบวงจรในเวียงจันทน์ครอบคลุมพื้นที่ 425 mu (ประมาณ 28.3 เฮกตาร์) และมีแผนจะลงทุนประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐใน 3 ขั้นตอนเพื่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันที่ทันสมัย มีรายงานว่ากำลังการผลิตที่ครอบคลุมของเฟสแรกของ Laopec จะสูงถึงหนึ่งล้านตันต่อปีและจะช่วยให้สปป.ลาวมีอุปทานน้ำมันสำเร็จรูปที่ปลอดภัยและมีเสถียรภาพดังนั้นโรงงานที่เปิดใหม่ดังกล่าวจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมของสปป.ลาวได้อย่างก้าวกระโดด

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/2020-12/01/c_139554780.htm

รถไฟจีน – สปป.ลาวก่อสร้างอุโมงค์ความยาว 17.5 กม. เสร็จสิ้นแล้ว

ส่วนหนึ่งของทางรถไฟจีน -สปป.ลาวซึ่งเป็นอุโมงค์ยาว 17.5 กม. แล้วเสร็จเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาในมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนหลังจากใช้ความพยายามอย่างหนักมา 4 ปี รถไฟจีน – สปป.ลาวเป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่เชื่อมระหว่างสองประเทศ เมื่อเปิดการจราจรการเดินทางจะสั้นลงเหลือเพียงแปดชั่วโมงจากคุนหมิงของมณฑลยูนนานไปยังเวียงจันทน์เมืองหลวงของสปป.ลาว เป็นปรากฎการณ์ใหม่ที่จะนำสปป.ลาวไปสู่เมืองที่เชื่อมต่อยังประเทศมหาอำนาจอย่างจีนวึ่งเป็นตลาดที่สามที่นานาประเทสให้ความสนใจในปัจจุบัน

ที่มา : https://news.cgtn.com/news/2020-11-29/China-Laos-Railway-completes-construction-of-17-5-km-long-tunnel-VOm2zOLc4g/index.html

การอัปเดตมาตรการ Covid-19: การห้ามเข้าประเทศจากการระบาดของโรคโควิด -19 ในสปป.ลาว

รัฐบาลจะไม่ออกวีซ่าเข้าประเทศให้กับผู้ที่เดินทางเข้าสปป.ลาวจากประเทศที่มีการระบาด Covid -19 อีกต่อไป การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการใหม่ที่กำหนดจนถึงวันที่ 31 ธ.ค เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด เที่ยวบินเช่าเหมาลำระหว่างประเทศที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสก็ถูกระงับเช่นกัน มาตรการที่เข้มงวดขึ้นหลังจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 14 ราย  เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องขอให้ตรวจสอบเที่ยวบินเช่าเหมาลำที่ได้รับอนุญาตเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้บรรทุกใครก็ตามที่เปลี่ยนเครื่องจากประเทศที่มีการระบาด อีกทั้งรัฐบาลอนุญาตให้มีการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสพิเศษ แต่ต้องกำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมอย่างเหมาะสมและทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน Covid-19  รวมทั้งการจัดงานเทศกาลตามประเพณีรวมถึงกิจกรรมทางสังคม หากมีการวางแผนจัดงานในระดับจังหวัดหรืออำเภอผู้จัดงานจะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายกเทศมนตรีนครเวียงจันทน์ กระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และท่องเที่ยว ให้ทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆเพื่อสร้างความตระหนักรู้แก่สาธารณชนถึงความจำเป็นที่จะต้องเฝ้าระวัง รัฐบาลสั่งการให้กระทรวงป้องกันประเทศและกระทรวงป้องกันความสงบทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อให้แน่ใจว่าประชาชนจะไม่ข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมาย จนถึงขณะนี้สปป.ลาวได้บันทึกผู้ป่วยแล้ว 39 ราย รักษาหายแล้ว 24 คน

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Covid_233.php

รัฐบาลสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำวงเงิน 80 พันล้านกีบเพื่อช่วยเหลือ SMEs

เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำมูลค่ามากถึง 80 พันล้านกีบ (มากกว่า 8.6 ล้านเหรียญสหรัฐ) ได้ถูกมอบให้กับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในอัตราดอกเบี้ยที่สม่ำเสมอเพียงร้อยละ 3  คุณสมจิตร อินทมิตรรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์กล่าวในการประชุมรัฐสภาของสมัชชาแห่งชาติ (NA) เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า “ผู้สมัคร SMEs จำเป็นต้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนดเพื่อขอรับเงินกู้ มีแผนธุรกิจที่ชัดเจนการ ฝึกอบรมวิชาชีพ SMEsได้รับการรับรองจากภาคอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ในการจัดทำบัญชีตามกฎหมายว่าด้วยการบัญชี” เกณฑ์เหล่านี้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าเงินกู้ถูกนำไปใช้อย่างเป็นประโยชน์ในการระดมทุนอย่างต่อเนื่องและป้องกันไม่ให้กลายเป็นเงินกู้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้โดยผู้กู้จะมีเวลาหนึ่งปีในการเตรียมตัวให้เข้าตามเกณฑ์ที่ทางธนาคารพาณิชย์กำหนดรวมถึงการวางระบบบัญชีที่ครอบคลุมและได้มาตรฐานการบัญชี รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs การให้เงินทุนสนับสนุนเป็นมาตรการที่มีส่วนสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจสปป.ลาว ปัจจุบัน SME คิดเป็นประมาณร้อยละ 99 ของภาคธุรกิจที่จดทะเบียนทั้งหมดในสปป.ลาวจึงถือเป็นภาคส่วนที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_80232.php