‘เวียดนาม’ เผยยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ผุดเป็นดอกเห็ด

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าผู้ประกอบการจัดตั้งบริษัทใหม่ทั่วประเทศในเดือน เมษายน 2565 จำนวน 15,000 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียน 164.1 ล้านล้านดอง (7.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) โดยภาพรวมแล้ว จำนวนบริษัทที่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของจำนวนบริษัทที่ถอนตัวออกจากตลาดในเดือนเมษายน อีกทั้ง ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามมีจำนวนบริษัทจัดตั้งใหม่จำนวน 49,591 ราย ด้วยเงินทุนจดทะเบียนรวม 635.3 ล้านล้านดอง เพิ่มขึ้น 12.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แสดงให้เห็นถึงการกลับมาขยายตัวของกิจการจัดตั้งใหม่ตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่านโยบายสนับสนุนของรัฐบาลและสภาแห่งชาติเวียดนามอยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/newly-opened-firms-mushroom-during-new-normal/227898.vnp

 

เวียดนามเผยกว๋างนิญเป็นเมืองที่มีศักยภาพสูงสุด จากการจัดอันดับ PCI ปี 64

หอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม (VCCI) กับสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) เปิดเผยว่าดัชนีความสามารถในการแข่งขันของจังหวัด (Provincial Competitive Index: PCI) ของจังหวัดกว๋างนิญเท่ากับ 73.02 อยู่ในอันดับที่ 1 ของประเทศในปี 2564 นับว่าเป็นจังหวัดลำดับที่ 1 ในการแข่งขันของจังหวัด 5 ปีติดต่อกัน ด้วยการบริหารจัดการทางด้านเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เป็นมิตรและอำนวยความสะดวกในการดำเนินกิจการ รองลงมาจังหวัดไฮฟองอยู่ในอันดับที่ 2 เป็นครั้งแรก ทั้งนี้ ตามรายงานของหอฯ เวียดนาม ชี้ให้เห็นว่าดัชนี PCI ในปี 2564 การดำเนินกิจการอยู่ในความยากลำบาก เนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 แต่ภาคธุรกิจประเมินแล้วว่าการจัดการระบบเศรษฐกิจของจังหวัดดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1176410/quang-ninh-continues-to-top-pci-rankings-in-2021.html

‘นครโฮจิมินห์’ เผย 4 เดือนปี 65 เม็ดเงิน FDI ทะลุ 1.28 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ตามรายงานกรมวางแผนและการลงทุนของเมือง เปิดเผยว่าในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2565 เมืองโฮจิมินห์ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เป็นมูลค่า 1.28 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.18% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งจากจำนวนเงินทุนทั้งหมด ประมาณ 186.25 ล้านเหรียญสหรัฐเข้าไปอยู่ในโครงการลงทุนใหม่ จำนวน 181 โครงการ เพิ่มขึ้น 81% ในแง่ของจำนวนโครงการ แต่ลดลง 48.28% ในแง่ของมูลค่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่ การปรับเพิ่มเงินทุน ประมาณ 640.42 ล้านเหรียญสหรัฐ จำนวน 44 โครงการในปัจจุบัน ทั้งนี้ เงินทุนจากต่างชาติส่วนใหญ่ 51.48% ไหลไปยังกิจการสื่อสารและโทรคมนาคม รองลงมา 23.25% กิจการขายส่งและขายปลีกยานยนต์ และ 11.84% การเงิน การธนาคารและการประกันภัย อีกทั้ง สิงคโปร์เป็นนักลงทุนต่างชาติใหญ่ที่สุดในเมืองโฮจิมินห์ คิดเป็นสัดส่วน 51.95% ของเงินทุนทั้งหมด รองลงมาญี่ปุ่นและเกาหลีใต้

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/over-128-billion-usd-in-fdi-channeled-into-hcm-city-in-4-months/227661.vnp

เวียดนาม-กัมพูชา-สปป.ลาว ขอความร่วมมือกระตุ้นการท่องเที่ยวระหว่างกัน

หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของกลุ่มประเทศพื้นที่สามเหลี่ยม (กัมพูชา–สปป.ลาว–เวียดนาม) ได้ตั้งเป้าที่จะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวน 3.3 ล้านคน ภายในปี 2025 ด้านผู้อำนวยการทั่วไปของสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม (VNAT) Nguyen Trung Khanh กล่าวว่าเป้าหมายของแผนคือการดึงดูดผู้เยี่ยมชมพื้นที่สามเหลี่ยม 3.3 ล้านคน ภายในปี 2025 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 14 ต่อปี ซึ่งจะเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นสองเท่าภายในปี 2030 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก โครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว และทรัพยากรบุคคลที่มีคุณสมบัติ โดยเวียดนามจะทำหน้าที่เป็นประธานในภารกิจหลัก 5 ประการ ได้แก่ ส่งเสริมการเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศสู่พื้นที่ เชื่อมโยงธุรกิจและสมาคมในภูมิภาคให้มีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก เชื่อมโยงกลุ่มนักท่องเที่ยวและรีสอร์ท เปิดตัวกิจกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาค และจัดเวทีส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคประจำปี นอกจากนี้ ประเทศจะประสานงานกับ สปป.ลาว และกัมพูชา เพื่อดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยว 10 อีเว้นท์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501064559/vietnam-provinces-seek-tourism-cooperation-with-four-provinces-cambodia/

‘โลจิสติกส์เวียดนาม’ คุมเข้มมาตรฐานสากล

สมาคมโลจิสติกส์ธุรกิจเวียดนาม (VLA) รายงานว่าอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของเวียดนามได้รับแรงกดดันเกี่ยวกับการฝึกอบรมและยกระดับความรู้ของพนักงาน ตลอดจนการติดตามมาตรฐานระดับสากล ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลครั้งล่าสุดของสมาคมฯ พบว่ากิจการส่วนใหญ่ต้องการฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับการบริหารงานคุณภาพที่ทันสมัย อาทิ ISO 9001, ISO 14001, ISO 17025, HACCP และ ISO 22000 เป็นต้น ในขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าถึงเวลาแล้วที่เวียดนามต้องจัดตั้งระบบการจัดการคุณภาพให้ดีขึ้น และให้ครอบคลุมกับกิจการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ วิธีการขนส่งและการบริโภคพลังงาน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-logistics-must-keep-up-with-international-standards/227570.vnp

ผู้เชี่ยวชาญชี้ ควบคุมเงินเฟ้อของเวียดนามให้อยู่ในระดับ 4% เป็นไปได้ยาก

รศ. ดร.ตรัง แถ่ง มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์แห่งชาติ (NEU) เปิดเผยว่าเวียดนามมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ 6.5% ในปี 2565 แต่การรักษาอัตราเงินเฟ้อให้ต่ำกว่า 4% เป็นไปได้ยาก โดยการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ เนื่องมาจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตในประเทศ ซึ่งเป็นแรงกดดันเงินเฟ้อของประเทศในปีนี้ ทั้งนี้ ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่าการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน 45% จะทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.6% และดัชนีราคาราคาผู้ผลิต (PPI) 2%

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/under4percent-inflation-rate-tough-to-complete-experts/227568.vnp

คาดมูลค่าการค้าระหว่าง กัมพูชา-เวียดนาม แตะหมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2022

กระทรวงพาณิชย์ของกัมพูชาและกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนามได้ร่วมหารือเกี่ยวกับการส่งเสริมกิจกรรมทางด้านการค้า โดยให้คำมั่นที่จะผลักดันปริมาณการค้าทวิภาคีให้มีมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ภายในปีนี้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการหาวิธีแก้ไข Extended Cumulation Rule สำหรับการผลิตจักรยานที่กัมพูชาส่งออกไปยังสหภาพยุโรป หลังจากที่ข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรปได้มีผลบังคับใช้ไปเมื่อในปี 2020 ในขณะที่ประเด็นการส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์และน้ำตาลจากกัมพูชาไปยังเวียดนาม ซึ่งมีอุปสรรคทางเทคนิคบางประการ ทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นที่จะทำงานร่วมกันต่อไปเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างเต็มความสามารถ โดยในปี 2021 ปริมาณการค้าร่วมระหว่างกัมพูชากับเวียดนามแตะระดับเกือบ 9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งในไตรมาสแรกของปีนี้ การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและเวียดนามมีมูลค่าแตะ 1.7 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นกัมพูชาส่งออกของกัมพูชาไปยังเวียดนามมูลค่า 758 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 ขณะที่กัมพูชานำเข้าสินค้าจากเวียดนามมูลค่า 963 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.7

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501063033/cambodia-vietnam-eye-10-billion-bilateral-trade-in-2022/

‘IMF’ คาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามปี 65 โต 6%

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2565 ขยายตัว 6% และจะพุ่งขึ้น 7.2% ในปี 2566 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้คาดการณ์ในครั้งนี้เป็นผลมาจากการใช้นโยบายให้ปรับตัวร่วมกับการระบาดของโควิด-19 และการประสบความสำเร็จจากการฉีดวัคซีน ควบคุมการระบาด ทั้งนี้ นาง Era Dabla-Norris หัวหน้าคณะทำงานกองทุนการเงินระหว่างประเทศฝ่ายภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ได้เข้าร่วมหารือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายอาวุโสของธนาคารกลางเวียดนาม (SBV), กระทรวงการคลัง (MOF), สำนักงานวางแผนและการลงทุน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะปรึกษาหารือเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงการให้คำแนะนำด้านนโยบายเศรษฐกิจ ซึ่งจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ IMF เปิดเผยว่าความขัดแย้งในยูเครน คาดว่าจะส่งผลกระทบการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและเพิ่มแรงกดดันเงินเฟ้อ ถึงแม้ว่าราคาสินค้าสูงขึ้น แต่ภาวะเงินเฟ้อยังสามารถควบคุมได้และอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายที่ 4%

ที่มา : https://hanoitimes.vn/vietnam-forcast-to-achieve-gdp-growth-of-6-this-year-imf-320607.html

 

‘เวียดนาม’ เผยไตรมาสแรก ปี 65 อุตสาหกรรมเหล็ก ขาดดุลการค้า 800 ล้านเหรียญสหรัฐ

สมาคมเหล็กเวียดนาม (VSA) เปิดเผยไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 อุตสาหกรรมเหล็กได้นำเข้า 3 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 3.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้เกิดการขาดดุลการค้าราว 800 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่อุตสาหกรรมเหล็กในประเทศในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ จะบรรลุเป้าหมายการเติบโตของ GDP ที่ประมาณ 5% แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว เป็นผลมาจากพัฒนาเรื่องระบบการเมืองการปกครองที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโต นอกจากนี้ ยอดขายเหล็กสำเร็จรูป 8,137 ตัน เพิ่มขึ้น 11.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยปริมาณการใช้เหล็กเพิ่มสูงขึ้นจากการลงทุนของภาครัฐในโครงการใหม่ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานและวิศวกรรมก่อสร้าง ทำให้ต้องนำเข้าเหล็กมากขึ้น

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/steel-industry-posts-trade-deficit-of-us-800-million-in-first-quarter-post939405.vov

‘เวียดนาม’ มีโอกาสส่งออกสินค้าเกษตรพุ่ง แม้เผชิญกับภาวะที่ไม่แน่นอน

ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่าเวียดนามยังมีโอกาสอีกมากจากการส่งออกสินค้าเกษตรไปยังต่างประเทศ ถึงแม้ว่าจะเผชิญกับผลกระทบจากสงครามรัสเซียและยูเครน ก่อให้เกิดกิจกรรมการค้าทั่วโลกซบเซาลง โดยเฉพาะความตกลงการค้าเสรีที่เวียดนามร่วมลงนามไว้ โดยรองเลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมผลิตและส่งออกเฟอร์นิเจอร์ (HAWA) คุณ Bui Huu Them มองว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้ของเวียดนามไปยังตลาดสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปยังคงเติบโตได้แข็งแกร่ง ปัจจุบันมีสัดส่วน 80% ของมูลค่าการค้าผลิตภัณฑ์ไม้ทั้งหมด ในขณะเดียวกัน คุณ โด ห่า นาม (Do Ha Nam) รองประธานสมาคมอาหารเวียดนาม กล่าวว่าการที่กลุ่มประเทศตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย ทำให้เวียดนามสามารถนำเข้าปุ๋ย ข้าวสาลี ฯลฯ ด้วยราคาที่แข่งขันได้มากขึ้น และนับว่าเป็นโอกาสอันดีที่เวียดนามจะส่งเสริมการส่งออกข้าวและผลผลิตเกษตรไปยังตลาดสหภาพยุโรป ภายใต้ข้อตกลง EVFTA

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-has-great-opportunities-in-agricultural-exports-despite-global-turbulence-320599.html