ครึ่งปีแรก กัมพูชาจัดเก็บภาษีศุลกากรขาเข้าแล้วกว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์

กรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชาได้รายงานถึงการจัดเก็บภาษีศุลกากรในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1,293 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นร้อยละ 50.1 ของแผนการจัดเก็บภาษีประจำปี 2022 ด้าน Khun Nhim อธิบดี กล่าวเสริมว่า รายรับจากการจัดเก็บภาษีศุลกากรและสรรพสามิต ส่วนใหญ่มากจากภาษีรถยนต์และเครื่องจักร ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 43 ของการจัดเก็บทั้งหมด โดยหากรวมทั้งภาษีสำหรับสินค้าขาเข้าและขาออกแล้ว กัมพูชาสามารถจัดเก็บรายได้จากภาษีอยู่ที่ 1,726 ล้านดอลลาร์ สำหรับในช่วงเดือน มกราคม-พฤษภาคม ปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.95 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้เปิดพรมแดนใหม่อีกครั้ง เพื่อเป็นการพลักดันให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเดินได้อีกครั้ง โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกเป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501108599/cambodia-2022-first-half-customs-income-at-1-2-billion/

นักท่องเที่ยวต่างชาติ เยือนกัมพูชาพุ่ง 394% ในช่วงครึ่งปีแรก

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนกัมพูชาเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 394 หรือคิดเป็นจำนวน 506,762 คน ในช่วงครึ่งปีแรก รายงานโดยกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา ซึ่งชี้ให้เห็นถึงสัญญาณเชิงบวกสำหรับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวกัมพูชา ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนกัมพูชาในช่วงเวลาดังกล่าว ได้แก่ เวียดนาม ไทย จีน สหรัฐอเมริกา อินโดนีเซีย ฝรั่งเศส สาธารณรัฐเกาหลี มาเลเซีย สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย เป็นสำคัญ โดยปัจจุบันอัตราการฉีดวัคซีนของกัมพูชาถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก ซึ่งกัมพูชาคาดว่าจะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 700,000 คน ภายในปี 2022 ในขณะเดียวกันกัมพูชาได้มีการบันถึกถึงนักท่องเที่ยวขาออกอยู่ที่ 181,246 คน เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 1,600 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2021

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501109007/foreign-tourist-arrivals-increase-394-percent-in-first-half-of-2022/

โพลชี้ชัด! ประชาชนรายได้น้อยกว่ารายจ่าย น้ำมัน-อาหารแพงกระทบคุณภาพชีวิต

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ปัญหาการใช้จ่ายของประชาชน” พบว่า รายได้ปัจจุบันของประชาชน พบว่า ร้อยละ 47.10 ระบุว่า รายได้ลดลง รองลงมา ร้อยละ 46.72 ระบุว่า รายได้เท่าเดิม และร้อยละ 6.18 ระบุว่า รายได้มากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบรายได้กับรายจ่ายในแต่ละเดือนของประชาชน พบว่า ร้อยละ 60.06 ระบุว่า รายได้น้อยกว่ารายจ่าย รองลงมา ร้อยละ 32.62 ระบุว่า รายได้พอ ๆ กับรายจ่าย และร้อยละ 7.32 ระบุว่ารายได้มากกว่ารายจ่าย เมื่อถามถึงการใช้จ่ายในปัจจุบันที่สร้างผลกระทบมากที่สุด พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 32.73 ระบุว่า การใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิง อันดับ 2 ร้อยละ 25.79 ระบุว่า การใช้จ่ายด้านอาหารประจำวัน อันดับ 3 ร้อยละ 13.47 ระบุว่า การใช้จ่ายด้านไฟฟ้าในครัวเรือน อันดับ 4 ร้อยละ 6.10 ระบุว่า การใช้จ่ายด้านแก๊สหุงต้ม อันดับ 5 ร้อยละ 3.36 ระบุว่า การใช้จ่ายด้านการผ่อนชำระค่ารถ เป็นต้น

ที่มา: https://www.posttoday.com/economy/news/686804

 

‘ลาว-อาเซียน’ หารือแนวทางดึงดูด ‘นักท่องเที่ยว’ มากขึ้น

หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ ไทมส์ รายงานว่าทางการลาวกำลังเจรจากับกลุ่มประเทศสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียนอื่นๆ เพื่อแบ่งปันแนวคิดในวิธีการดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้นและทำให้พวกเขารู้สึกได้รับการต้อนรับ ทั้งกำหนดแผนการมุ่งรับรองสุขภาพและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ขณะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ยังระบาดต่อเนื่อง ประเด็นเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในวาระการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ 56 ซึ่งจัดขึ้นผ่านระบบออนไลน์ที่นครหลวงเวียงจันทน์ของลาว ระหว่างวันอังคารถึงวันพุธ (5-6 ก.ค.) โดยมีคม ดวงจันทา อธิบดีกรมการตลาดการท่องเที่ยว สังกัดกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวของลาวเป็นประธาน อนึ่ง ลาวรายงานจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศที่เดินทางภายในลาว ราว 626,825 คน และรองรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ 35,980 คน ในไตรมาสแรกของปี 2022 โดยมีการคาดการณ์ว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นอีกในช่วงที่เหลือของปีนี้

ที่มา : https://www.opt-news.com/news/27327

“Xiaomi” ยืนยันเตรียมสร้างสายการผลิตสมาร์ทโฟนในเวียดนาม

เสียวหมี่ (Xiaomi) ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือสัญชาติจีน ประกาศเริ่มผลิตสมาร์ทโฟนในเวียดนาม โดย DBG Technology ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ DBG Electronics ของฮ่องกงที่ตั้งโรงงานในจังหวัดท้ายเงวียน (Thai Nguyen) ภาคเหนือของประเทศ ทั้งนี้ บริษัท DBG Technology  เผยว่าโรงงานแห่งใหม่ในเวียดนามจะเป็นศูนย์กลางในการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงมาเลเซียและไทย ในขณะที่ต้นทุนการขนส่งในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และต้นทุนโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัญหาดังกล่าว ทางผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสัญชาติจีนได้จับมือกับพันธมิตรในการโลคัลไลเซชันด้านการผลิต

ที่มา : https://hanoitimes.vn/xiaomi-confirms-production-of-smartphones-in-vietnam-321190.html

AMRO ชี้ “ศก.เวียดนามเติบโตได้ดี”

สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 (AMRO) รายงานภาวะเศรษฐกิจไตรมาส คาดการณ์ว่าตัวเลขการเติบโต GDP ของเวียดนามสูงเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน รองจากฟิลิปปินส์ ปี 2565 และจะสูงเป็นอันดับที่ 1 ในปีหน้า ทั้งนี้ เศรษฐกิจเวียดนามมีแนวโน้มที่จะขยายตัว 6.3% ในปีนี้ และ 6.5% ในปีหน้า ซึ่งสูงกว่าตัวเลขอัตราการเติบโตของกลุ่มประเทศในภูมิภาคที่อยู่ประมาณ 4.3% และ 4.9% ตามลำดับ

นอกจากนี้ เวียดนามถือเป็นประเทศที่เปิดกว้างทางด้านเศรษฐกิจอย่างมาก โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีน แต่อย่างไรก็ดี ยังเผชิญกับความเสี่ยงจากความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนที่ได้สร้างแรงกดดันต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์และเงินเฟ้อทั่วโลก ส่งผลให้เงินเฟ้อในภูมิภาคเพิ่มสูงขึ้น 5.2% ในปีนี้ โดยเวียดนามยังมีฐานะทางการคลังที่แข็งแกร่ง ในขณะเดียวกันยังใช้นโยบายการคลัง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ รวมถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnamese-economy-to-perform-well-amro-post955081.vov

นักลงทุนจีน แห่ซื้อที่ดินในสปป.ลาว

ธุรกิจจีนเข้ามากว้านซื้อที่ดินในสปป.ลาว สำหรับโรงงาน โรงแรมและโครงการพัฒนาด้านอื่นๆ เนื่องจากอิทธิพลของจีนเข้ามาขยายตัวอย่างต่อเนื่องในประเทศที่ยากจนและไม่มีทางออกสู่ทะเล โดยสำนักข่าว RFA อ้างตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ในเวียงจันทน์ เปิดเผยว่า ชาวจีนจำนวนมากกำลังจะเข้ามาซื้อที่ดินในอนาคต ราคาที่ดินใกล้สถานีรถไฟเวียงจันทน์อยู่ที่ 2,500 บาท (70 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อตารางเมตร และที่ดินที่ได้รับการจดทะเบียนส่วนใหญ่ถูกขายไปกับชาวจีน นอกจากนี้ จีนเป็นผู้ลงทุนและให้ความช่วยเหลือต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของลาว และเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองรองจากไทย

ที่มา : https://www.rfa.org/english/news/laos/land-07062022143130.html

Q1 ของปีงบ 65-66 ค้าระหว่างประเทศเมียนมา พุ่งแตะ 18.19%

ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ถึง วันที่ 24 มิ.ย.2565 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2565-2566  มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของเมียนมาเพิ่มขึ้น 18.19% เมื่อเทียบปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 7.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการส่งออกเพิ่มขึ้น 18.34 % ในขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 18.04 % แม้ว่าการค้าโดยรวมจะสูงขึ้น แต่การค้าชายแดนของประเทศลดลง 15.54 % มาอยู่ที่กว่า 1.719 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการระบาดของโควิด-19 ซึ่งการค้าขายส่วนใหญ่ผ่านเส้นทางเดินเรือ ส่วนการค้าชายแดนจะทำการค้ากับจีน ไทย บังกลาเทศ และอินเดีย ทั้งนี้สินค้าส่งออกสำคัญของเมียนมา ได้แก่ สินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ การประมง แร่ธาตุและผลิตภัณฑ์จากป่า ส่วนการนำเข้าจะเป็นสินค้าทุน สินค้าขั้นกลาง และสินค้าอุปโภคบริโภค

ที่มา : https://english.news.cn/20220707/a1174db83ab2439296f539a3a2e35999/c.html

CDC ให้การสนับสนุนภาคธุรกิจมาเลเซียในกัมพูชา

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) พร้อมที่จะให้บริการและสนับสนุนแก่นักลงทุนชาวมาเลเซียในกัมพูชา เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมายังกัมพูชามากขึ้น ด้าน Sok Chenda Sophea เลขาธิการสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา กล่าวในการประชุม ‘การเจรจาระดับสูงอาเซียน-อิตาลีว่าด้วยความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ’ ครั้งที่ 6 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยเลขาธิการ CDC กล่าวว่า ปัจจุบันกัมพูชาได้ออกกฎหมายด้านการลงทุนฉบับใหม่ เพื่อเป็นการสนับสนุนนักลงทุนและเป็นการสร้างแรงจูงใจแก่นักลงทุนมากขึ้น ในการเข้ามาลงทุนยังกัมพูชา ด้าน Lim Heng รองประธานหอการค้ากัมพูชา กล่าวว่า ในเดือนมิถุนายนกัมพูชาจะสามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติจากมาเลเซียและประเทศอื่น ๆ ได้มากขึ้น อันเนื่องมาจากข้อตกลงทางการค้า อาทิเช่น EBA, GSP, FTA กัมพูชา-จีน และ RCEP ที่ถือเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต่างชาติสนใจ โดยในช่วง มกราคม-พฤษภาคม ปีนี้ การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและมาเลเซียอยู่ที่ 244 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลของกรมศุลกากรและสรรพสามิต ซึ่งคิดเป็นการส่งออกของกัมพูชามูลค่า 44 ล้านดอลลาร์ ไปยังมาเลเซีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 จากปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501108010/cdc-offers-support-for-malaysian-businesses-in-cambodia/

กัมพูชาจ่อออก Golden Visa ให้กับนักลงทุนไทย

กัมพูชาเปิดตัวโครงการ “My 2nd Home” เพื่อสนับสนุนการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในกัมพูชา โดยโปรแกรมนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างนึงว่า “Golden Visa” ซึ่งจะให้วีซ่ากับนักลงทุนเป็นเวลา 10 ปี โดยไม่จำกัดการเข้าออกประเทศ ควบคู่ไปกับสิทธิประโยชน์อื่นๆที่ทางการกัมพูชาจะมอบให้ ซึ่งผู้ที่ต้องการที่จะสมัครวีซ่าดังกล่าว จะต้องเป็นนักลงทุนชาวต่างชาติที่มีเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์ในกัมพูชา และเป็นบุคคลที่รัฐบาลกัมพูชารับรอง โดยไม่จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษาหรือความสามารถทางภาษา ซึ่งนักลงทุนต่างชาติที่ได้รับวีซ่าข้างต้นจะได้รับประโยชน์ในการเข้าถึงประกันและการรักษาพยาบาลแบบวีไอพี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501108375/cambodia-goes-head-on-with-thailand-in-implementing-10-year-golden-visa/