‘FDI’ ไหลเข้าฮานอย พุ่ง 30% ในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้

ตามข้อมูลของหน่วยงานส่วนท้องถิ่น เปิดเผยว่ามีธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 ทั้งหมด 9,400 ราย ลดลง 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) และทุนจดทะเบียนรวม ลดลง 22.3%YoY อย่างไรก็ตาม ยังมีธุรกิจที่กลับมาดำเนินกิจการ จำนวนราว 4,800 ราย เพิ่มขึ้น 5.5%YoY ขณะเดียวกัน จากข้อมูลสถานการณ์การจดทะเบียนธุรกิจในเดือนมีนาคม 2568 พบว่ามีธุรกิจจัดตั้งใหม่ในเมืองฮานอย 2,634 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 24.4 ล้านล้านดอง และธุรกิจที่กลับมาดำเนินกิจการ จำนวน 967 ราย ทั้งนี้ ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 อยู่ที่ 1.48 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 31%YoY ประกอบไปด้วยโครงการใหม่ 114 โครงการ (41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามมาด้วยโครงการที่มีการระดมทุน 45 โครงการ (ราว 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และการลงทุนหรือการซื้อหุ้น 111 โครงการ (241 ล้านเหรียญสหรัฐ)

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/fdi-inflows-into-hanoi-soar-over-30-in-four-months-post318655.vnp

‘ดัชนี PMI’ ภาคการผลิตเวียดนาม เดือนเม.ย. ลดลงสู่ระดับ 45.6 หลังผลกระทบกำแพงภาษีสหรัฐฯ

เอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) เปิดเผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเวียดนามในเดือนเมษายน 2568 ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 45.6 จากระดับ 50.5 ในเดือนมีนาคม สะท้อนให้เห็นว่าการดำเนินธุรกิจอยู่ในทิศทางที่แย่ที่สุด นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากการปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่อยอดคำสั่งซื้อใหม่ที่ลดลงอย่างรวดเร็ว และลดลงอย่างรุนแรงในรอบ 2 ปี ทั้งนี้ แอนดรูว์ ฮาร์เกอร์ (Andrew Harker) ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐศาสตร์ของ S&P Global Market Intelligence กล่าวว่าการกำหนดภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ทำให้ภาคการผลิตของเวียดนามหดตัวในเดือนเมษายน โดยบริษัทต่างๆ พบว่าคำสั่งซื้อใหม่ การส่งออก และการผลิตลดลงอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งไปกว่านั้น ยังเผชิญกับความเสี่ยงต่อการหยุดชะงักของภาคการผลิตที่ได้รับผลกระทบจากภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้น ทำให้ความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลง

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1717033/viet-nam-s-manufacturing-pmi-declines-amid-tariff-announcements.html

‘VinFast’ ลงนามเงินกู้ 190 ล้านเหรียญฯ เดินหน้าตั้งโรงงานในอินโดนีเซีย

วินฟาสต์ (VinFast) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ (EV) ของเวียดนาม ลงนามสัญญาเงินกู้ระยะยาว 110 ล้านเหรียญสหรัฐ และสินเชื่อเพิ่มวงเงิน 80 ล้านเหรียญสหรัฐ กับธนาคารอินโดนีเซีย 2 แห่ง ได้แก่ ธนาคารบีเอ็นไอ (BNI) และธนาคารเมย์แบงก์ (Maybank) โดยภายใต้ข้อตกลงสัญญาฉบับนี้ ทางธนาคาร BNI จะเป็นผู้จัดหาเงินทุนหลัก และเป็นผู้ดำเนินการรับประกันสินเชื่อร่วม 1.85 ล้านล้านรูเปียห์ เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในจังหวัดชวาตะวันตก ทั้งนี้ นาย Pham Sanh Chau ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ VinFast Asia กล่าวว่าโครงการนี้จะเป็นตัวเร่งที่สำคัญสำหรับการขยายตัวของ VinFast ในอินโดนีเซีย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการผลิตทั่วโลก และตอบสนองความต้องการในการเปลี่ยนแปลงสู่รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vinfast-signs-190-million-usd-loan-for-its-plant-in-indonesia-post318579.vnp

‘ตลาดแรงงานเวียดนาม’ พร้อมยกระดับศักยภาพให้ทันสมัย สู่ระดับโลก

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม เปิดเผยว่าตลาดแรงงานในปี 2567 กลับมาฟื้นตัวก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โดยจำนวนแรงงานที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป 53 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่า 575,000 คน จากปี 2566 ตามมาด้วยจำนวนผู้มีงานทำ 51.9 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.1% ในขณะที่อัตราการว่างงานลดลงเหลือ 2.24% นอกจากนี้ แรงงานชาวเวียดนามมากกว่า 700,000 คนได้รับการจ้างงานในต่างประเทศภายใต้ข้อตกลงตามสัญญา โดยมีส่วนสนับสนุนเงินโอนเข้าประเทศปีละ 3.5 – 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มุ่งส่งเสริมตลาดแรงงานให้มีทักษะและความสามารถที่ดีขึ้น ผ่านการปฏิรูปเชิงกลยุทธ์ รวมถึงส่งเสริมการจ้างงาน การประกันสังคม การประกันภัยคุ้มครองการว่างงาน และเร่งการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานให้ตอบสนองกับยุคดิจิทัล

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1716901/viet-nam-s-labour-market-modernised-toward-deeper-global-integration.html

‘เวียดนาม – เกาหลีใต้’ คุมเข้มสินค้าจีนเลี่ยงภาษี

เว็บไซต์นิกเกอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานว่าเวียดนามและเกาหลีใต้ เข้มงวดกับสินค้าจีนที่ทำการส่งออกผ่านประเทศของตน เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ในอัตราที่สูง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีฟาม มิงห์ จิ๋งห์ กล่าวกับเจ้าหน้าที่ในระหว่างการประชุมรัฐบาลว่าได้หารือเกี่ยวกับข้อกังวลที่สหรัฐฯ หยิบยกประเด็นขึ้นมา รวมถึงสั่งให้ดำเนินการต่อต้านการลักลอบขนของ เร่งแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงทางการค้า และความพยายามปกปิดแหล่งกำเนิดสินค้า ในขณะเดียวกัน เกาหลีใต้ก็ดำเนินการเช่นเดียวกัน โดยกรมศุลกากรของเกาหลีใต้ ประกาศจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจ เพื่อสืบสวนการส่งออกที่ฉ้อโกง

ที่มา : https://kr-asia.com/vietnam-south-korea-crack-down-on-chinese-goods-skirting-us-tariffs

‘เวียดนาม’ ตั้งเป้าลงทุน 18 พันล้านเหรียญฯ ลุยแผนพัฒนาพลังงานจนถึงปี 2035

ตามข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เปิดเผยว่าเวียดนามจำเป็นที่จะต้องใช้งบลงทุนประจำปี สูงถึง 16 – 18 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งแต่ปัจจุบันจนถึงปี 2035 ซึ่งเป็นไปตามแผนพัฒนาพลังงานแห่งชาติฉบับที่ 8 (PDP VIII) ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานฉบับใหม่ ได้รับการอนุมัติภายใต้มติที่ 768/QĐ-TTg ว่าด้วยการสร้างความมั่งคงด้านพลังงาน และการตอบสนองความต้องการของการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเวียดนามตั้งเป้าที่จะจัดหาพลังงานไฟฟ้าให้เพียงพอต่อการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เฉลี่ยที่ 10% ต่อปี ในช่วงปี 2026 – 2030 และจะขยายตัว 7.5% ต่อปี ในช่วงปี 2031 – 2050 นอกจากนี้ เวียดนามตั้งเป้าที่จะเป็น 1 ใน 4 ประเทศอาเซียนที่มีความมั่งคงด้านพลังงานไฟฟ้ามากที่สุด และอยู่ใน 3 อันดับแรกในด้านการเข้าถึงแหล่งไฟฟ้าได้ง่าย

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1716817/viet-nam-eyes-us-18-billion-a-year-for-power-plan-through-2035.html

‘เวียดนาม’ กลายเป็นเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปี 2036

จากรายงาน World Economic League Table 2022 ของศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์และธุรกิจ (CEBR) เปิดเผยว่าเวียดนามจะกลายเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย และจะมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 20 ของโลก โดยที่มาของการเติบโตทางเศรษฐกิจเวียดนามนั้น เกิดขึ้นจากนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจ “Doi Moi” ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 และกระแสการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่เติบโตเชิงบวก ส่งผลให้เศรษฐกิจเวียดนามเติบโตอย่างรวดเร็ว และผลักดันจากประเทศยากจนไปสู่ประเทศที่มีรายได้ปานกลางในระดับต่ำ ทั้งนี้ ในปัจจุบัน เวียดนามใช้แผนการพัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2021 – 2025 โดยมุ่งส่งเสริมการบูรณาการห่วงโซ่อุปทานของโลก ตลอดจนแสวงหาความร่วมมือทางการค้าและการกระจายการส่งออก

ที่มา : https://www.nationthailand.com/blogs/news/asean/40049395

นายกฯ กัมพูชา ระบุ! การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นกุญแจสำคัญในการดึงดูดการลงทุนและการสร้างงาน

นายกฯ ฮุน มาแณต กล่าวว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของกัมพูชาเป็นโอกาสในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ รวมถึงสร้างงานให้ประชาชน โดยได้กล่าวไว้ในระหว่างวันครบรอบ 139 ปี วันแรงงานสากล ณ กรุงพนมเปญ ซึ่งนายกฯ ได้เน้นย้ำว่าการเติบโตอย่างยั่งยืนเป็นเครื่องย้ำเตือนว่าความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจต้องเดินควบคู่ไปกับการปกป้องสิ่งแวดล้อมและความเท่าเทียมทางสังคม โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 นายกฯ ได้เปิดเผยว่า สภาส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจแห่งกัมพูชา (CDC) ได้รับจดทะเบียนโครงการลงทุนทั้งหมด 172 โครงการ มูลค่ารวม 2.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะสร้างงานกว่า 120,000 อัตรา นอกจากนี้ เขายังขอให้เจ้าของกิจการ สถานประกอบการ แรงงาน และองค์กรวิชาชีพ ยึดมั่นกฎหมายและมาตรฐานทางกฎหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างวัฒนธรรมการปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ดึงดูดการลงทุน และสร้างโอกาสงานที่มีคุณค่า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501675478/pm-says-economic-recovery-key-to-investment-job-growth/

กัมพูชาขยายความสัมพันธ์ทางการค้าท่ามกลางการขึ้นภาษีจากสหรัฐฯ

กัมพูชากำลังเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศคู่ค้า ในขณะที่ต้องเผชิญกับมาตรการภาษีตอบแทนใหม่จากสหรัฐอเมริกา โดยเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการปราศรัยของ นายกฯ ฮุน มาแณต ต่อที่ประชุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (27 เม.ย.) ซึ่งมีผู้นำจากสหภาพแรงงานในภาคเศรษฐกิจนอกระบบและสมาคมเจ้าหน้าที่วิชาการถึง 5,000 คนเข้าร่วม เนื่องในโอกาสครบรอบ 139 ปี วันแรงงานสากล (1 พ.ค.) โดยนายกฯ ได้เน้นย้ำถึงความพยายามของกัมพูชาในการกระจายความร่วมมือทางการค้า นอกจากนี้ ยังระบุว่าได้หารือเกี่ยวกับการขยายความร่วมมือทางการค้ากับนายกรัฐมนตรีไทยระหว่างการเยือนกัมพูชาเมื่อเร็วๆ นี้ และมีแผนที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์กับประเทศคู่ค้าต่อไป ในการประชุมสุดยอดอาเซียนที่กำลังจะมาถึง เพื่อดึงดูดการลงทุนเพิ่มเติม แม้สหรัฐฯ จะมีนโยบายในการปรับขึ้นภาษีกับกว่า 200 ประเทศ ซึ่งต้นเดือนนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้ประกาศใช้นโยบาย “ภาษีศุลกากรตอบโต้” โดยปัจจุบันถูกระงับไว้ 90 วัน ภายใต้นโยบายนี้ สินค้าจากกัมพูชาจะถูกเก็บภาษีสูงสุดถึงร้อยละ 49 เมื่อส่งออกไปยังสหรัฐฯ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501675690/cambodia-expands-trade-ties-amid-u-s-reciprocal-tariffs/

ท่าอากาศยานในราชอาณาจักรต้อนรับผู้โดยสาร 1.96 ล้านคนในไตรมาสแรก

รายงานจากสำนักงานเลขาธิการการบินพลเรือนแห่งรัฐ (SSCA) เปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกของปี 2025 ท่าอากาศยานทั่วกัมพูชาต้อนรับผู้โดยสารรวม 1.96 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคมปีนี้ ท่าอากาศยานนานาชาติทั้ง 3 แห่งของประเทศจัดการบินทั้งหมด 17,434 เที่ยวบิน นอกจากนี้ ปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันร้อยละ 10 ปริมาณสูงถึง 17,147 ตัน ขณะที่ SSCA คาดการณ์ว่าในปี 2025 กัมพูชาคาดการณ์ว่าจะให้การต้อนรับผู้โดยสารทางอากาศ 7.5 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากปี 2024 ด้าน Sinn Chanserey Vutha รัฐมนตรีช่วยสำนัก SSCA และโฆษกระบุว่าการเติบโตของการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ การไหลเข้าของนักลงทุนและนักธุรกิจต่างชาติ การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกในท่าอากาศยาน และการเชื่อมต่อการบินสู่จุดหมายปลายทางหลัก เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการคาดการณ์ดังกล่าว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501675474/kingdoms-airports-handle-1-96m-air-passengers-in-q1/