เวียดนามเผยมูลค่าโมบายอีคอมเมิร์ซ แตะ 10.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปี 66

บริษัทวิจัยทางตลาด “Appota” เผยว่าโมบายพาณิชย์ในเวียดนามเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยมูลค่าราว 10.2 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2566 ซึ่งการเติบโตดังกล่าว มีสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของรายได้มาจากธุรกิจกับผู้บริโภค (B2C) ในเวียดนาม และในอีกแง่หนึ่ง อัตราการทำธุรกรรมครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่าแพลตฟอร์มโทรศัพท์มือถือได้รับความนิยมมากกว่าเดสก์ท็อป คิดเป็นสัดส่วน 62% ของการทำธุรกรรมทั้งหมด ทั้งนี้ เมื่อปีก่อน จำนวนผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปในเวียดนาม ทั้งสิ้น 49 ล้านคน ติดอันดับที่ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย (137 ล้านคน) และฟิลิปปินส์ (57 ล้านคน) สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงโอกาสการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซและระบบการชำระเงิน ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ใช้และมูลค่าการซื้อในเวียดนาม ตลอดจนยกระดับศักยภาพของตลาดอีคอมเมิร์ซเร็วๆนี้

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-mobile-e-commerce-to-value-us102-billion-by-2023-317335.html

“หอเยอรมัน” เผยผู้ประกอบการชาวเยอรมันเชื่อมั่นเศรษฐกิจเวียดนามฟื้นตัวปีหน้า

จากการสำรวจของสมาคมหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งเยอรมนี (DIHK) เผยเมื่อวันที่ 12 พ.ค. ระบุว่าผู้ประกอบการ 46% มองว่ามีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจในปีที่แล้ว และ 66% หวังว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวในปีนี้ ตามาด้วย 30% เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวในปี 2565 “เวียดนามกลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านการลงทุนในการปรับโครงสร้างการผลิตใหม่ในระดับโลกและยังเป็นห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาค” ทั้งนี้ เมื่อถามถึง 10 เดือนข้างหน้า พบว่านักธุรกิจส่วนใหญ่ 55% มองว่าเศรษฐกิจเวียดนามในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ดี และ 11% มองว่าแย่ ในขณะเดียวกัน ข้อสังเกตอื่นๆ บริษัทเยอรมัน 47% มั่นใจว่าจะขยายการทำธุรกิจในเวียดนาม และ 50% จะจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นในปีนี้และปีหน้า อย่างไรก็ตาม หอเยอรมัน ระบุเพิ่มเติมว่า เวียดนามยังขาดแรงงานที่มีคุณภาพและความต้องการอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเป็นความท้าทายครั้งสำคัญของนักธุรกิจชาวเยอรมันในเวียดนา

ที่มา : http://hanoitimes.vn/german-businesses-expect-vietnam-economic-recovery-by-2022-dihk-317333.html

ปลูกถั่วเขียวช่วงหน้าร้อน สร้างกำไรงามให้เกษตรกรเมืองญองอู้

เกษตรกรเมืองญองอู้ เขตมัณฑะเลย์ กำลังเร่งการปลูกถั่วเขียวในช่วงฤดูร้อนโดยการใช้น้ำบาดาลและใกล้เข้าสู่การเก็บเกี่ยวคาดผลผลิตราคาพุ่ง 39,000 จัตต่อตะกร้า ซึ่งเกษตรกรจะเริ่มหว่านเมล็ดในเดือนมีนาคมโดยการใช้น้ำบาดาล หลังจากนั้นสองเดือนก็เริ่มให้ผลผลิตสามารถนำไปขายได้ ในการเก็บเกี่ยวแต่ละเอเคอร์ต้องการคนงานประมาณ 20 คน ค่าแรงต่อหัวอยู่ที่ 3,000 จัตต่อวัน ถั่วเขียวที่เก็บเกี่ยวจะนำไปตากแดดให้แห้งก่อนที่จะขายให้กับผู้ที่มารับซื้อ ถั่วเขียวแต่ละตะกร้าที่ขายจะมีน้ำหนัก 19 visses ราคาอยู่ที่ 39,000 จัต ซึ่งสร้างความพึงพอใจให้เกษตรกรเป็นอย่างมาก

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/summer-green-gram-growing-using-underground-water-gets-good-price/#article-title

รัฐบาลออสเตรเลียให้ทุนครอบคลุมวัคซีน 1 ล้านโดสในลาว

รัฐบาลออสเตรเลียมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 15.2 ล้านเหรียญออสเตรเลียแก่สปป.ลาว เพื่อจัดหาวัคซีนให้ครอบคลุมปริมาณ 1 ล้านโดส ทุนนี้ยังครอบคลุมถึงการฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์เกี่ยวกับวิธีการฉีดวัคซีนอย่างปลอดภัย เพื่อเพิ่มประสิทธิด้านสาธารณสุขของสปป.ลาว นายพอลเคลลีเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำสปป.ลาวกล่าวว่า “รัฐบาลออสเตรเลียยินดีที่ได้ช่วยเหลือประชาชนลาวในช่วงเวลาที่ต้องการ การดูแลให้สปป.ลาวเข้าถึงวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญและมีความสำคัญเร่งด่วนสำหรับรัฐบาลออสเตรเลีย” ทั้งนี Mr.Pany Yathotou รองประธานาธิบดีสปป.ลาวกล่าวเพิ่มเติมว่า “เงินช่วยเหลือจากออสเตรเลียเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าวัคซีนโควิด -19 จะเปิดตัวในสปป.ลาวอย่างมีประสิทธิภาพ เงินส่วนใหญ่จะใช้ในการซื้อยาและเพื่อช่วยลาวในการกระจายและบริหารวัคซีน นอกจากนี้ยังสนับสนุนการรณรงค์ข้อมูลสาธารณะเผยแพร่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัคซีนและการแปลข้อมูลเป็นภาษากลุ่มชาติพันธุ์เพื่อการสื่อได้ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ

ที่มา : https://thethaiger.com/coronavirus/australian-government-provides-grant-to-cover-1-million-vaccine-doses-in-laos

โครงการสนามบินเสียมเรียบ ก่อสร้างแล้วเสร็จกว่าร้อยละ 40

การก่อสร้างสนามบินนานาชาติเสียมราฐ อังกอร์แห่งใหม่เสร็จสมบูรณ์แล้วร้อยละ 42 แม้จะมีเหตุขัดข้องบางประการจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้านโฆษกและรัฐมนตรีต่างประเทศของสำนักเลขาธิการการบินพลเรือนกัมพูชา ได้รายงานข้อมูลต่อ National Radio of Cambodia (RNK) โดยเน้นย้ำว่าความคืบหน้าเป็นไปตามกำหนดที่ได้วางไว้ โดยโครงการนี้ดำเนินการโดยผู้พัฒนาชาวจีนภายใต้บริษัท Angkor International Airport Investment (Cambodia) Co., Ltd. (AIAI) เป็นผู้รับผิดชอบหลัก ซึ่งคาดว่าเมื่อสนามบินก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีส่วนช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมายังเสียมราฐมากขึ้น โดยถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศและเพิ่มการจ้างงาน รวมถึงรายได้โดยเฉพาะคนในท้องถิ่น ซึ่งสนามบินนานาชาติเสียมราฐ อังกอร์ เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2020 บนพื้นที่ประมาณ 700 เฮกตาร์ และมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2023

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50855895/siem-reaps-new-airport-rapid-taking-shape-40-completed/

กัมพูชากำหนดเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ครั้งล่าสุด

รัฐบาลกัมพูชากำหนดโครงการช่วยเหลือทางด้านการเงินสำหรับกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิ-19 ในพื้นที่ที่ถูกล็อกดาวน์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวรายงานโดยผู้อำนวยการฝ่ายการวางแผน กระทรวงแผนการ ในฟอรัมพิเศษที่ถ่ายทอดสดโดย TVK เมื่อวานนี้ โดยทางรัฐบาลกัมพูชาได้แถลงเปิดตัวมาตรการช่วยเหลือด้วยการมอบเงินเพื่อเป็นการเยี่ยวยาในด้านการดำเนินชีวิต หลังรัฐบาลสั่งล็อกดาวน์ในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดสูง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงพนมเปญ เขตเมืองกัลดาล และจังหวัดพระสีหนุ ซึ่งครอบครัวที่มีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือจะได้รับเงินเยี่ยวยาอยู่ในช่วงประมาณครอบครัวละ 39 ดอลลาร์ ถึงเกือบ 78 ดอลลาร์ เป็นระยะเวลา 5 เดือน ขึ้นอยู่กับขนาดของครอบครัว โดยคนงานในโรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการถูกล็อกดาวน์จะได้รับเงินเยี่ยวยาจำนวน 40 ดอลลาร์ เป็นระยะเวลา 1 เดือน สำหรับครอบครัวที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จะได้รับเงินเยียวยาเพิ่ม 75 ดอลลาร์ นอกเหนือจากกรณีข้างต้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50855861/cash-assistance-programme-for-marginalised-and-adversely-affected-groups-by-covid-19-in-lockdown-areas-to-begin-next-week/

สมาคมยานยนต์เวียดนามเผยยอดขายในเดือนเมษายน ลดลงเล็กน้อย

สมาคมผู้ผลิตรถยนต์เวียดนาม (VAMA) เปิดเผยว่ายอดขายรถยนต์ในเดือนเมษายน อยู่ที่ 30,065 คัน ลดลง 3% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน หากแบ่งประเภท พบว่ายอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 20,398 คัน ลดลง 3% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม ตามมาด้วยยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์ 8,887 คัน และรถยนต์ที่ใช้งานเฉพาะทาง 780 คัน ทั้งนี้ ฮุนได (Hyundai) ติดอันดับยอดขายที่ดีที่สุด รองลงมาโตโยต้า เกีย ฟอร์ต มาสด้าและฮอนด้า เป็นต้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vama-members-see-slight-fall-in-april-car-sales/201393.vnp

ผู้ซื้อสหรัฐฯ และอียู เลือกเวียดนามเป็นปลายทางสำหรับแหล่งวัตถุดิบในปี 64

ตามรายงาน Qima ระบุว่าประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ซื้อทั่วโลก และ 38% ของผู้ซื้อสหรัฐฯ มองว่าเวียดนามเป็นเป้าหมายของการจัดหาวัตถุดิบในปี 2564 ซึ่งมีทางเลือกแรก ผู้ซื้อจะกระจายออกไปยังประเทศจีน ทำให้เวียดนามกลายเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ซื้อชาวตะวันตกเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจนถึงปีนี้ ข้อมูลดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความต้องการตรวจสอบและตรวจบัญชีในเวียดนาม ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ นับว่าเติบโต 3 ไตรมาสติดต่อกัน

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/us-eu-buyers-to-choose-vietnam-as-sourcing-destination-in-2021-857081.vov

ความต้องการข้าวเพิ่มหลังโควิดคลี่คลาย หนุน ราคาข้าวพุ่ง

ราคาข้าวและพืชผลข้าวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในตลาดในประเทศเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นผู้ค้าจากตลาดค้าส่งหลังการคลี่คลายของ COVID-19 ในประเทศ ราคาข้าวในประเทศเพิ่มขึ้น 700-3,000 จัตต่อถุง ปัจจุบันราคาข้าวขยับอยู่ในช่วง 22,500 ถึง 50,000 จัตต่อถุงขึ้นอยู่กับคุณภาพและสายพันธุ์ ส่วนตลาดต่างประเทศราคาข้าวส่งออกของเมียนมาต่ำกว่าของไทยและเวียดนาม แต่ยังสูงกว่าอินเดียและปากีสถานเมียนมาส่งออกข้าวและปลายข้าว 720,000 ตันในช่วงไตรมาสที่ 1 (1 ต.ค.63 – 15 ม.ค.64) ของปีงบประมาณ 63-64 มีรายได้กว่า 275 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นการค้าชายแดน 308,000 ตันส่วนการค้าทางทะเล 418,000 ตัน ปีที่แล้วส่งออกข้าวไปยังตลาดต่างประเทศ 66 ประเทศ จีนเป็นผู้นำเข้าหลักรองลงมาคือ ฟิลิปปินส์และมาเลเซีย ในปีงบประมาณ 60-61 เมียนมาส่งออกข้าวถึง 3.6 ล้านตัน นับเป็นสถิติการส่งออกข้าวสูงสุดตลอดกาล แต่การส่งออกลดลงเหลือ 2.3 ล้านตันในปีงบประมาณ 61-62

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/rice-prices-spike-up-on-local-demand/

แขวงตอนกลางและภาคใต้ สปป.ลาว ยกระดับการควบคุมชายแดน

แขวงภาคกลางและภาคใต้ที่มีพรมแดนติดกับประเทศไทยกำลังดำเนินการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด -19 โดยการตั้งจุดตรวจเพิ่มเติมและตรวจตราพื้นที่ชายแดนเพื่อป้องกันการผู้แพร่เชื้อที่อาจเดินผ่านทางช่องธรรมชาติอย่างผิดกฎหมาย จากข้อมูลของคณะทำงานแห่งชาติเพื่อการป้องกันและควบคุมโควิด -19 เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมพบว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ทั้งหมด 50 คนในแขวงสะหวันนะเขต ซึ่งมีพหรมแดนติดกับประเทศไทยทำให้สปป.ลาวต้องออกคำสั่งปฏิบัติตามมาตรการขั้นสูงเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส โดยมีกรอบระยะเวลาไปจนถึงวันที่ 21 พฤษภาคมเป็นอย่างน้อย การปิดชายแดนครั้งนี้เป็นไปอย่างเข้มงวดส่งผลให้การค้าระหว่างชายแดนที่มีสัดส่วนมากถึงร้อยละ 80 ของการส่งออกทั้งหมดของสปป.ลาวเกิดความล่าช้าและต้นทุนในการดำเนินธุรกิจสูงขึ้นจากการที่ต้องมีการตรวจเชื้อผ็ขับรถบรรทุกขนส่งก่อนเข้าประเทศ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Central91.php