สปป.ลาวเผชิญกับการส่งเงินกลับประเทศที่ลดลงอย่างรวดเร็ว

คณะกรรมการวางแผนการเงินและตรวจสอบของสมัชชาแห่งชาติและนักเศรษฐศาสตร์อาวุโสกล่าวว่าการส่งเงินกลับประเทศในสปป.ลาวคาดว่าจะลดลงประมาณร้อยละ 50 ในปี 63 อันเป็นผลมาจากการระบาดของโควิด -19 ประธาน การส่งเงินกลับประเทศดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญในเศรษฐกิจสปป.ลาวและความพยายามลดความยากจน ซึ่งแรงงานข้ามชาติสปป.ลาวมากกว่า 100,000 คนได้เดินทางกลับบ้านจากการแพร่ระบาดของโควิด -19 ส่วนใหญ่ทำงานในประเทศไทยส่วนที่เหลือทำงานในเกาหลีใต้และญี่ปุ่น และแรงงานบางส่วนที่ทำงานในประเทศอื่น ๆ แต่มีจำนวนไม่มากนัก ตามรายงานของธนาคารโลกฉบับล่าสุดที่เปิดเผยเมื่อเดือนมิ.ย.ปีนี้ผลกระทบทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากโควิด -19 ส่งผลเสียต่อสปป.ลาวในการส่งเงินเข้าประเทศและอาจผลักดันให้ผู้คนจำนวนมากถึง 214,000 คนเข้าสู่ความยากจน นับตั้งแต่เกิดการระบาดส่งผลให้มีการส่งเงินกลับประเทศลดลงประมาณ 125 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 0.7% ของ GDP ในปี 63 ครัวเรือนในสปป.ลาวประมาณ 9 % ได้รับการโอนเงินจากต่างประเทศและการส่งเงินคิดเป็น 60% ของรายได้ครัวเรือน ตามรายงานของธนาคารโลกรายได้ครัวเรือนของผู้รับลดลงอย่างมากอาจส่งผลให้อัตราความยากจนเพิ่มขึ้น คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4 – 3.1 % ในปี 63 อย่างไรก็ตามการหยุดชะงักของประเทศขัดขวางกิจกรรมทางเศรษฐกิจซึ่งส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเงินในประเทศและรายได้ของคนในท้องถิ่น

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos_to_159.php

เวียดนามนำเข้าถ่านหินโต 50%

กรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามนำเข้าถ่านหินจากต่างประเทศ ปริมาณ 36.5 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 50 ในแง่ปริมาณ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งในเดือน ก.ค. เพียงเดือนเดียว ปริมาณนำเข้าถ่านหินอยู่ที่ 5 ล้านตัน ด้วยมูลค่าราว 294 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่นำเข้ามาจากอินโดนีเซีย รัสเซียและจีน เป็นต้น ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พบว่าเวียดนามนำเข้าถ่านหินจำนวนมาก เนื่องจากมีความต้องการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนเพิ่มขึ้นและการผลิตในประเทศมีความยุ่งยาก โดยสมาคมพลังงานเวียดนาม ระบุเสริมว่ารัฐบาลจะพยายามลดการนำเข้าถ่านหิน ไม่ว่ามาจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมก็ตาม แต่โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนมีสัดส่วนร้อยละ 36.1 ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้ คาดว่าในปีนี้ เวียดนามจะนำเข้าถ่านหิน 12 ล้านตัน และในปี 2573 จะนำเข้าถ่านหินสูงถึง 50 ล้านตัน เพื่อเป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnam-coal-imports-jump-50-417417.vov

เวียดนามนำเข้ารถยนต์ดิ่งลงฮวบ 50% เผชิญกับการระบาดของไวรัสโควิด-19

กรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามนำเข้ารถยนต์ 44,973 คัน ลดลงร้อยละ 47.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ความต้องการรถยนต์ลดลง ขณะที่ มูลค่าการนำเข้ารถยนต์ราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 47 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งปริมาณการนำเข้ารถยนต์ส่วนใหญ่ของเวียดนามร้อยละ 80 มาจากประเทศไทย (19,944 คัน) และอินโดนีเซีย (17,723 คัน) ที่ปลอดภาษีภายใต้กรอบการค้าเสรีอาเซียน นอกจากนี้ จากรายงานของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์เวียดนาม (VAMA) ระบุว่ายอดขายรถยนต์ของเวียดนามในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงร้อยละ 28 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ปริมาณยอดขายอยู่ที่ 131,200 คัน เป็นผลมาจากความต้องการของผู้คนลดลงท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/industries/car-imports-plummet-nearly-50-pct-covid-19-blamed-4147657.html

บริษัทในพื้นที่ลงทุนเพื่อพัฒนาท่าเรือพาณิชย์แห่งใหม่ในอิระวดี

เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 63  Ever Flow River Public Co (EFR) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ย่างกุ้งและ Ayeyar Hinthar Holdings (AHH) จะร่วมมือกันพัฒนาท่าเรือ Ayeyarwaddy International Industry Port (AIIP) โดย EFR  Unison Choice Services ซึ่งเป็น บริษัทย่อยของ EFR จะร่วมมือกับ AHH เพื่อจัดตั้ง A Logistics Co Ltd ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้จัดการสำหรับโครงการ โดย AIIP Unison Choice Service จะถือหุ้นร้อยละ 60 ใน A Logistics ขณะที่ AHH จะถือร้อยละ 40 AIIP จะมีบทบาทสำคัญในการอำนวยความสะดวกในการส่งออกสินค้าที่ผลิตในเมียนมาและการนำเข้าวัตถุดิบ วัสดุก่อสร้าง และอุปกรณ์เสริมที่จำเป็น นอกจากนี้ยังจะเปิดใช้เส้นทางเดินเรือที่เชื่อมต่อโดยตรงกับท่าเรือในและต่างประเทศ EFR ให้บริการโลจิสติกส์รวมถึงการขนส่งการขนส่งทางอากาศ คลังสินค้า การขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ และการกระจายสินค้า จนถึงช่วงการระบาดของ COVID-19 EFR ได้พัฒนาโครงการที่สำคัญ 2 โครงการ Hlaing Inland Terminal และ Logistic Center มีมูลค่า 46 ล้านดอลลาร์สหรัฐในย่างกุ้งจะประกอบไปด้วยศูนย์โลจิสติกส์ คลังสินค้าทัณฑ์บน (bonded warehouse ) คลังสินค้าภายในประเทศและอาคารสำนักงาน 7 ชั้นบนพื้นที่ 40 เอเคอร์ และกำลังสร้างศูนย์กระจายสินค้าในมัณฑะเลย์อีกด้วย

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/local-firms-develop-new-commercial-port-ayeyarwady.html

บริษัทในย่างกุ้งทั้งหมดต้องชำระภาษีอิเล็กทรอนิกส์ภายในเดือนตุลาคมนี้

จากข้อมูลของกรมสรรพากร (IRD) บริษัททั้งหมดในย่างกุ้งจะต้องยื่นภาษีทางออนไลน์ เช่น ภาษีเงินได้ ภาษีการค้าหรือภาษีสินค้าพิเศษผ่านระบบการชำระเงินผ่านมือถือโดยเริ่ม ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 63 ผู้เสียภาษีจะสามารถชำระภาษีผ่านบริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ต แอปธนาคารบนมือถือ และบัตรเดบิตขององค์กรที่ออกโดยสมาคมระบบการชำระเงินของเมียนมา (MPU) โดยได้เชื่อมต่อกับธนาคาร 5 แห่ง เช่น  CB Bank และ KBZ ปัจจุบันมีการนำส่งรายได้จากภาษี 50,000 ล้านจัต ผ่านระบบออนไลน์ ผู้ที่จ่ายภาษีเงินได้ ณ สำนักงานสรรพากรจะต้องเปลี่ยนไปใช้ระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ผ่านการโอนบัญชีธนาคาร ธุรกิจต่างๆ จะนำระบบการชำระภาษีบนมือถือมาใช้แทนสมุดบัญชีเงินฝากแบบเก่า

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/all-yangon-firms-must-use-e-tax-payment-october.html

โควิดฉุดยอดค้าชายแดน-ผ่านแดน ครึ่งปี หด 9.18% พาณิชย์ เร่งสปีดเปิดด่านเพิ่ม

กรมการค้าต่างประเทศ เผยสถิติการค้าชายแดน-ผ่านแดน 6 เดือนของปี 2563 มูลค่ารวมทั้งสิ้น 627,480 ล้านบาท ลดลง 9.18% จากปัญหาโควิด-19 พร้อมจากนี้ กรมฯดันเปิดด่านค้าชายแดนให้เพิ่มจากปัจจุบัน 40 จุด มาเลเซียยังครองแชมป์ค้าชายแดนสูงสุด สำหรับมูลค่าการค้าชายแดนกับเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ (มาเลเซีย เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา) ในช่วง ม.ค.-มิ.ย. 63 พบว่า มาเลเซียเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มีมูลค่าการค้ารวม 109,401 ล้านบาท (ลดลง 26.81%) รองลงมาคือ สปป.ลาว มูลค่า 92,285 ล้านบาท (ลดลง 7.09%) เมียนมา มูลค่า 86,744 ล้านบาท (ลดลง 13.65%) และกัมพูชา มูลค่า 82,023 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 2.27%) เรียงตามลำดับ ทั้งนี้ สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยไปมาเลเซีย ได้แก่ ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์ และแผงวงจรไฟฟ้า สปป.ลาว ได้แก่ น้ำมันดีเซล สินค้าปศุสัตว์อื่นๆ และสินค้าแร่และเชื้อเพลิงอื่นๆ เมียนมา ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำมันดีเซล และปูนซีเมนต์ และกัมพูชา ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ สินค้าปศุสัตว์ และรถยนต์นั่ง ขณะที่มูลค่าการค้าผ่านแดนประเทศเพื่อนบ้านไปยัง จีน สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศอื่น ๆ ในช่วง ม.ค.- มิ.ย. 63 พบว่า จีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งมีมูลค่าการค้ารวม 109,896 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 16.00%) รองลงมา คือ สิงคโปร์ มูลค่า 41,694 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 13.70%) เวียดนาม มูลค่า 29,900 ล้านบาท (ลดลง 23.89%) และประเทศอื่นๆ มูลค่า 75,537 ล้านบาท (ลดลง 16.78%) สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยไปจีน ได้แก่ ผลไม้สดฯ เครื่องคอมพิวเตอร์ฯ และยางพารา สิงคโปร์ ได้แก่ เครื่องยนต์สันดาปฯ เครื่องคอมพิวเตอร์ฯ และแผงวงจรไฟฟ้า และเวียดนาม ได้แก่ ผลไม้สดแช่เย็นฯ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ อุปกรณ์กึ่งตัวนำฯ ปัจจุบันไทยได้เปิดจุดผ่านแดน (จุดผ่านแดนถาวร/จุดผ่านแดนชั่วคราว/จุดผ่อนปรนการค้าและการท่องเที่ยว/จุดผ่อนปรนพิเศษ) 40 แห่ง จากทั้งหมด 97 แห่งทั่วประเทศ โดยเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 จังหวัดสระแก้วได้มีประกาศเปิดจุดผ่านแดนเพื่อการขนส่งสินค้าเพิ่มอีก 2 แห่ง คือ จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และบ้านหนองปรือ รวมทั้งได้มีมาตรการผ่อนคลายจุดผ่านแดนที่เปิดอยู่แล้วอีก 2 แห่ง คือ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ และจุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกทางการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา จุดผ่อนปรนการค้าบ้านยักษ์คุ จังหวัดอำนาจเจริญ นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ได้นำคณะเดินทางลงพื้นที่ ณ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ในการร่วมกันผลักดันให้มีการกลับมาเปิดทำการจุดผ่อนปรนการค้ากิ่วผาวอก อ.เชียงดาว และบ้านหลักแต่ง อ.เวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง ทั้งนี้ ปัจจุบันจุดผ่อนปรนการค้าทั้ง 2 แห่งดังกล่าวปิดทำการเนื่องจากฝ่ายเมียนมาไม่อนุญาตให้มีการเดินทางเข้า-ออกด้วยเหตุผลความมั่นคงภายใน

ที่มา: https://www.prachachat.net/economy/news-506891

ผู้นำสปป.ลาวและเวียดนามเจรจาทางโทรศัพท์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคี

ตัวแทนสปป.ลาวและเวียดนามได้มีการเจรจาทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมระหว่างเลขาธิการพรรคประชาชนปฎิวัติสปป.ลาว Mr.Bounnhang Vorachit และประธานาธิบดีเวียดนาม Mr.Nguyen Phu Trong ได้ตกลงที่จะปกป้องและดูแลความสัมพันธ์ฉันมิตรที่ดีความเป็นปึกแผ่นพิเศษและความร่วมมือที่ครอบคลุมระหว่างลาวและเวียดนามต่อไปพวกเขาได้ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองภาคีและรัฐในช่วงหลายปีที่ผ่านมาซึ่งได้รับการปรับปรุงและพัฒนาในทุกสาขาที่เอื้อต่อการรักษาเสถียรภาพทางการเมืองและการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในทั้ง 2 ประเทศนอกจากนี้พวกเขายังให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับกัมพูชาเพื่อพัฒนาระหว่างสามประเทศอย่างมีประสิทธิผลและในขณะเดียวกันก็ประสานงานกับชาติอื่น ๆ ในการจัดการและการใช้ทรัพยากรน้ำของแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Lao_vietnamese158.php

ในช่วง 7 เดือนแรกรัฐบาลกัมพูชาจัดเก็บภาษีได้เกือบ 1.9 พันล้านดอลลาร์

กรมภาษีอากร (GDT) กล่าวว่ามีรายได้จากการจัดเก็บภาษีรวม 7,605.46 พันล้านเรียล (ประมาณ 1,877.89 ล้านดอลลาร์) เป็นรายได้จากภาษีในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รายงานโดย GDT ในการประชุมสรุป คิดเป็นเกือบร้อยละ 66 ของแผนรายรับประจำปี โดยรายได้จากภาษีมาจากแหล่งที่มาหลัก 2 แหล่ง ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และภาษีเงินได้ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.17 และ 22.71 ตามลำดับ จากการดำเนินนโยบายปฏิรูปในเชิงลึกของรัฐบาลอย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิผล โดยใช้มาตรการหลัก ๆ ได้แก่ การเสริมสร้างและจัดการการปฏิรูปภาษี การปรับปรุงระบบ e-Fill การสนับสนุนการจัดเก็บภาษีเป็นต้น ซึ่งรัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายที่จะรวบรวมรายได้จากการจัดเก็บภาษีอยู่ที่ประมาณ 11,543 พันล้านเรียล (ประมาณ 2,885 ล้านดอลลาร์) ภายในปี 2020

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50755254/cambodia-collects-close-to-1-9-billion-in-fiscal-revenue-in-first-seven-months/

เซเว่นอีเลฟเว่น วางแผนบุกตลาดกัมพูชา

เชนร้านสะดวกซื้อ “เซเว่นอีเลฟเว่น” ซึ่งเป็นที่รู้จักในระดับสากลมีแผนที่จะบุกตลาดกัมพูชาในปีหน้าภายใต้ความร่วมมือของ บริษัท ซีพีออลล์กัมพูชา ตามที่สถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยกล่าวว่า บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) จะทำการลงทุนเปิดร้านแฟรนไชส์ประมาณ 700 ถึง 1,000 สาขาในกัมพูชา ภายในช่วง 5 ปีแรก อย่างไรก็ตามมีคำถามว่ามาร์ตอื่น ๆ ในกัมพูชาจะตอบสนองต่อการแข่งขันที่กำลังจะมาถึงจากเซเว่นอีเลฟเว่นอย่างไร โดยร้อยละ 50 ของสินค้าที่ผลิตในกัมพูชาจะวางจำหน่ายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นแห่งใหม่ทั่วประเทศ และจะเสนอแฟรนไชส์ให้กับเจ้าของธุรกิจในท้องถิ่น และนักลงทุนต่างชาติที่สนใจมีสาขาเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นของตนเอง ซึ่งในการให้สัมภาษณ์กับ RFI ในเดือนพฤษภาคม โฆษกกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าโครงการนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ขายรายอื่นในกัมพูชา แต่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50755370/poser-over-competition-from-7-11-stores-opening-in-kingdom/

เวียดนามเผยการส่งออกผักและผลไม้ไปยังไทยพุ่งสูงขึ้น แม้โควิดระบาด

กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท รายงานว่าในเดือน ม.ค.-ก.ค. ยอดส่งออกผักและผลไม้ของเวียดนามประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 12.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งสินค้าที่มีมูลค่าลดลงมากที่สุด คือ แก้วมังกรที่มีสัดส่วนร้อยละ 34 ของยอดส่งออกรวม ลดลงร้อยละ 6 ตามมาด้วยกล้วย (9.5%), ทุเรียน (71%) และแตงโม (38.5%) โดยจีนยังคงเป็นผู้นำเข้าผักผลไม้รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 59 ของยอดส่งออกรวม แต่ว่าในช่วงเวลาดังกล่าว ยอดส่งออกไปยังจีนลดลงร้อยละ 29 อย่างไรก็ตาม การส่งออกผักและผลไม้ของเวียดนามไปยังไทย อยู่ที่ 79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 234 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ คุณ Dang Phuc Nguyen เลขาธิการสมาคมผักและผลไม้ของเวียดนาม กล่าวว่าซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือกลุ่มเซ็นทรัลของไทยในเวียดนาม ช่วยให้ผักและผลไม้เวียดนามกระจายไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตในไทย ขณะเดียวกัน มาตรฐานในการนำเข้าผักผลไม้ของไทย ไม่เข็มงวดเท่ากับสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานทางการเกษตรที่ดีและเหมาะสมสำหรับพืชของเวียดนาม (Good Agricultural Practices of Vietnam: VietGAP)

ที่มา : http://dtinews.vn/en/news/018/69437/fruit-and-vegetable-exports-to-thailand-surges-despite-pandemic.html