การก่อสร้างทางด่วนของกัมพูชาเสร็จสมบูรณ์ร้อยละ 20

กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง (MPWT) ได้อัพเดทความคืบหน้าของงานก่อสร้างโครงการทางพิเศษโดยเชื่อมเมืองหลวงพนมเปญกับจังหวัดชายฝั่งทะเลสีหนุเสร็จสมบูรณ์ 20.65% ในขณะที่ค่าชดเชยสำหรับคนในท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากโครงการนั้นชำระเสร็จสมบูรณ์แล้ว 88.84% ในเดือนเมษายน ด้วยค่าใช้จ่ายประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในการก่อสร้างทางพิเศษระยะทาง 190 กิโลเมตร โดยเริ่มต้นในเดือนมีนาคม 2562 และได้รับการจัดตารางใหม่ให้แล้วเสร็จก่อนหน้านี้คือปลายปี 2565 เพื่อเชื่อมต่อเมืองหลวงของพนมเปญและจังหวัดท่าเรือน้ำลึกของจังหวัดพระสีหนุในกัมพูชาฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งโครงการทางด่วนนี้ลงทุนโดย China Road and Bridge Corporation (CRBC) โดยจะมีสองเลนสำหรับแต่ละทิศทางและยานพาหนะสามารถเดินทางด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50724925/expressway-construction-20-percent-complete-compensation-work-88-complete/

ประวิตร ตั้งเป้าขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะสู้กลุ่มอาเซียน

รองนายกฯ ประวิตร เผยคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เร่งรัดศึกษาเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์สร้างแรงจูงใจเพื่อพัฒนาเมืองอัจฉริยะให้สามารถแข่งขันในระดับอาเซียน โดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รายงานการดำเนินงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ผ่านมาได้ประกาศเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ 27 เขตทั่วประเทศ มีความก้าวหน้าของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะต้นแบบใน 4 พื้นที่ คือ กรุงเทพมหานคร พื้นที่ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน จังหวัดชลบุรี พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร และจังหวัดภูเก็ต โดยคณะกรรมการฯ ได้เร่งรัดศึกษาเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ในการสร้างแรงจูงใจเพื่อพัฒนาเมืองอัจฉริยะให้สามารถแข่งขันในระดับอาเซียนได้ อีกทั้งยังแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและบริหารโครงการเมืองอัจฉริยะ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ เป็นประธาน และได้เตรียมความพร้อม ในการสานต่อความร่วมมือด้านเมืองอัจฉริยะอาเซียน โดยให้ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ เป็นผู้แทน เข้าร่วมการประชุม ASEAN Smart Cities Network (ASCN) ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 8-10 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ ณ เมืองฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

ที่มา : https://www.matichon.co.th/publicize/news_2193668

สรรพากรจำปาศักดิ์รับรายได้จากภาษีไตรมาสแรก 144 พันล้านกีบ

ภายในปี 2563 กรมสรรพากรจำปาศักดิ์คาดว่าจะได้รับตัวเลขของภาษีทั้งหมด 790 พันล้านกีบโดยในไตรมาสแรกมีรายได้ 144 พันล้านกีบ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 18.16 เปอร์เซ็นต์ คุณสุขขำสิโสภณหัวหน้าสรรพากรของจังหวัดจำปาศักดิ์ได้ให้สัมภาษณ์กล่าวว่า “ขณะนี้ระบบภาษีสรรพากร (TAXRIS) กำลังดำเนินการอยู่ผ่านระบบธนาคารตามนโยบายรัฐบาลเพื่อเปลี่ยนกระแสรายได้เป็นบัญชีให้โปร่งใสสามารถตรวจสอบได้เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการเสียภาษี” หัวหน้าสำนักงานสรรพากรในจังหวัดจำปาศักดิ์ยังให้ความสำคัญเพิ่มเติมว่ายังมีมาตรการเพิ่มเติมที่ต้องดำเนินการในด้านการเรียกเก็บภาษีจากภาคธุรกิจผ่านระบบที่ทันสมัยและได้มาตราฐานตามหลักทางภาษีอากรสากล เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศด้านภาษีและจะมีมาตราเข้มงวดขึ้นด้านกฎหมายเพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีที่จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของภาครัฐ

ที่มา : https://laoedaily.com.la/2020/05/20/78396/

การก่อสร้างทางหลวงไปยังเวียงจันทน์จะแล้วเสร็จในเดือนหน้า

การก่อสร้างถนนคอนกรีตพร้อมเสาไฟฟ้าให้แสงสว่างใน 4 เส้นทางไปยังเวียงจันทน์ดำเนินการมาแล้วมากกว่า 85% และคาดว่าจะแล้วเสร็จ 100% ภายในเดือนกรกฎาคม คุณโล่พันตาหัวหน้าฝ่ายออกแบบการก่อสร้างอธิบายว่า เราได้วางระบบไฟฟ้าพร้อมกับระบบประปาไปพร้อมกับการทำถนนคอนกรีตที่จะเป็นเส้นทางหลักไปยังนครหลวงเวียงจันทร์ ซึ่งจะทำให้การเดินทางสะดวกและปลอดภัยมากขึ้นในทางเศรษฐกิจการลงทุนดังกล่าวทำให้ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศพัฒนาขึ้นและจะเป็นปัจจัยที่สำคัญในการดึงดูดการลงทุนและสร้างบรรยากาศที่ดีในการลงทุนจากต่างประเทศ โครงดังกล่าวมีมูลค่าการก่อสร้าง 45.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 405 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://laoedaily.com.la/2020/05/20/78399/

‘กรมเจรจาฯ’ เผยไทยครองแชมป์ส่งออกคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เบอร์ 1 อาเซียน เชื่อ FTA และ ITA ช่วยสร้างแต้มต่อและดึงดูดการลงทุนได้จริง

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ทั่วโลกมีกิจกรรมผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มความต้องการคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เพิ่มขึ้นด้วย จึงเป็นโอกาสของอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไทยที่มีศักยภาพอยู่แล้ว จะพัฒนาเทคโนโลยีให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงและขยายการส่งออกในตลาดโลกได้ โดยในปี 2562 ไทยเป็นผู้ส่งออกคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อันดับที่ 6 ของโลก ทั้งนี้ จากสถิติการค้าระหว่างประเทศในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ พบว่าไทยส่งออกคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ มูลค่าสูงถึง 3,943 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญ เช่น สหรัฐฯ สัดส่วนร้อยละ 37 ฮ่องกง, อาเซียน, สหภาพยุโรปและจีน เป็นต้น หากจำแนกรายสินค้า พบว่า ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีสัดส่วนการส่งออกมากที่สุดในกลุ่ม สำหรับการเปิดเสรีทางการค้าถือเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้การส่งออกสินค้าคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ของไทยเติบโต นอกจากนี้ “ผู้ประกอบการควรศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อนำมาพัฒนาสินค้าให้ทันต่อความต้องการของตลาด โดยเฉพาะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีขนาดเล็กและเบา ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งควรวางแนวทางปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิตหรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิตสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว และเพิ่มความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก”

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/beco/3125668

สายการบินแบมบูเวียดนามเข้าตลาดหลักทรัพย์ ไตรมาส 4

สายการบินแบมบูแอร์เวย์ส (Bamboo Airways) คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ (HOSE) ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยบริษัทตั้งเป้าเพิ่มจำนวนเส้นทางสายการบินในประเทศมากเป็นสองเท่า รวมทั้งเปิดเส้นทางการบินใหม่ไปยังสหรัฐอเมริกา ภายในสิ้นปี 2564 หรือต้นปี 2565 ซึ่งการเคลื่อนไหวของบริษัทดังกล่าว มาจากแผนแรกเริ่มอยู่แล้วที่จะนำไปจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้บริษัทต้องเลื่อนการจดทะเบียนออกไป ทั้งนี้ ในปัจจุบัน สายการบินแบมบูแอร์เวย์สกำลังวางแผนที่จะซื้อเครื่องยนต์ คิดเป็นมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐมาจากบ.เจเนอรัลอิเล็กทริก (GE) สำหรับเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ และจะขยายธุรกิจต่อไปเมื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสได้ นอกจากนี้ สายการบินมีแนวโน้มให้เช่าเครื่องบินเพิ่มขึ้นในปีนี้ เนื่องจากต้องการขยายการดำเนินงาน โดยจริงๆแล้ว ปัจจุบันสายการบินขยายการดำเนินงานในประเทศ 45-50 เที่ยวบิน/วัน และคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 100 เที่ยวบิน/วัน ในช่วงต้นเดือนมิ.ย. คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 80 ของเที่ยวบินทั้งหมดก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดไวรัส

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/bamboo-airways-to-go-public-on-stock-market-in-q4-413869.vov

เวียดนามเผยส่งออกเหล็กฉุดรุนแรง รับพิษโควิด-19

สมาคมเหล็กเวียดนาม (VSA) คาดว่าอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศจะยังได้รับผลกระทบหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สิ้นสุดลงไป เนื่องจากยอดส่งออกเหล็กไปยังตลาดต่างประเทศลดลงอย่างรุนแรง ซึ่งการลดลงข้างต้น ส่วนใหญ่มาจากการผลิตอุตสาหกรรมที่หลากหลายขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์เหล็ก ได้แก่ กิจกรรมการก่อสร้าง รถยนต์ รถจักรยานยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ยังไม่ฟื้นตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการผลิตเหล็กสำเร็จรูปที่มีทุกประเภท ในช่วง 4 เดือนของปีนี้ มีปริมาณการผลิต 7.5 ล้านตัน ในขณะที่ การบริโภคเหล็ก 6.75 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 8.4 และ 13.3 เมื่อเทียบกับปีก่อน ตามลำดับ ส่งผลให้ยอดส่งออกเหล็กดิ่งลงร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับปีก่อน คิดเป็นปริมาณ 1.28 ล้านตัน  ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ คาดการณ์ส่งออกกลับมาเป็นบวกในไตรมาสสอง เมื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของตลาดในประเทศได้ นอกจากนี้ ยังมีการนำมาตรการ/นโยบายของภาครัฐ เพื่อส่งเสริมตลาดให้กลับมาฟื้นตัวเร็วที่สุด

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/steel-exports-suffer-severe-drops-due-to-covid19-413868.vov

World Bank พร้อมสนับสนุนการปฏิรูปเศรษฐกิจในเมียนมา

ธนาคารโลกจะให้การสนับสนุนเมียนมาภายใต้กรอบความร่วมมือกับประเทศตั้งแต่ปี 2563 ถึง 2566 โดยมุ่งเน้นไปที่สามด้าน เช่น การสร้างทุนมนุษย์และส่งเสริมชุมชน กระตุ้นการเติบโตของภาคเอกชนที่นำโดยรับผิดชอบและโอกาสทางเศรษฐกิจโดยรวม และเพิ่มความยืดหยุ่นในการรับมือกับภัยธรรมชาติในขณะเดียวกันก็มั่นใจว่าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะถูกจัดการอย่างยั่งยืน การคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในขณะนี้คาดว่าจะลดลงอย่างรวดเร็วจาก 6.3 เปอร์เซ็นต์ใน 2561-2562 เหลือ 2% ในปี 2562-2563 เนื่องจาก COVID – 19 ในขณะที่เศรษฐกิจคาดว่าจะฟื้นในปีหน้าหากการระบาดสามารถควบคุมได้และการค้าโลกกลับมาอีกครั้ง ในขณะเดียวกันธนาคารโลกได้ให้เงินกู้ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงการฉุกเฉินอย่าง COVID-19 และได้รับเงินช่วยเหลือ 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากแหล่งเงินทุนฉุกเฉินสำหรับการแพร่ระบาด

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/world-bank-pledges-support-economic-reform-myanmar.html