กระทรวงเสนอจำกัดปริมาณการส่งออกข้าว 400,000 ตันต่อเดือน

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) ได้เสนอแผนต่อนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการควบคุมปริมาณส่งออกข้าวต่อเดือนและการกักตุน 400,000 ตัน จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยข้อเสนอดังกล่าวนั้น คาดว่าปริมาณการส่งออกข้าวในเดือนเม.ย.-พ.ค. อยู่ที่ประมาณ 800,000 ตัน และนากยรัฐมนตรีจะนำไปพิจารณาถึงการส่งออกข้าวในเดือนพ.ค. ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเม.ย. ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯ เสนอให้ส่งออกข้าวผ่านชายแดนระหว่างประเทศเท่านั้น ซึ่งมีอุปกรณ์อินเทอร์เน็ตครบครันที่จะทำให้กรมศุลกากรสามารถตรวจสอบได้ สำหรับความต้องการบริโภคและการเก็บสินค้า ทางกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทคาดว่าความต้องการข้าวเปลือกในประเทศปีนี้ อยู่ที่ 29.96 ล้านตัน ส่วนที่เหลือจะนำไปส่งออกประมาณ 13.5 ล้านตัน

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/ministry-proposes-limiting-rice-exports-to-400000-tonnes-per-month-411991.vov

ส่อง GDP กรุงฮานอย โต 3.27% ในช่วงไตรมาสแรก

จากข้อมูลของหน่วยงานสถิติประจำเมือง ระบุว่ากรุงฮานอย มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภูมิภาค (GRDP) ไตรมาสแรกของปี 2563 ปรับตัวขึ้นร้อยละ 3.27 ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยภาคเกษตร ป่าไม้และประมง ลดลงร้อยละ 1.17 ขณะที่ ภาคอุตสาหกรรม การก่อสร้างและภาคบริการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.46 และ 3.2 ตามลำดับ สำหรับภาคการค้าปลีกและบริการ มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 135.7 ล้านล้านด่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะเดียวกัน การท่องเที่ยว การขนส่ง บริการจัดงานเลี้ยง อุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป การค้าระหว่างประเทศและภาคบริการอื่นๆ ปรับตัวลดลงอย่างหนัก ทั้งนี้ เมืองหลวงดึงดูดเม็ดเงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) อยู่ที่ 389 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยโครงการใหม่ 170 โครงการ และอีก 36 โครงการที่ปรับเพิ่มทุน รวมถึงมูลค่าอีก 257.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มาจากการซื้อหุ้น ซึ่งในปัจจุบัน กรุงฮานอยได้ดึงดูดโครงการ FDI อยู่ที่ 6,102 โครงการ คิดเป็นมูลค่าจดทะเบียน 42.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/hanoi-reports-327percent-gdp-growth-in-q1/170976.vnp

ทางรถไฟวงแหวนของย่างกุ้งลดจำนวนเที่ยวโดยสารลง

จากการติดเชื้อ COVID-19 ได้แพร่กระจายไปทั่วประเทศในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวนผู้โดยสารรถไฟของย่างกุ้งลดลง การรถไฟเมียนมาจึงตัดสินใจลดจำนวนเที่ยวรถไฟลงตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา ปัจจุบันเส้นทางวงเวียนในย่างกุ้งมีความจุ 198 ตู้ จากจำนวนทั้งหมด 69 ตู้โดยสารซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของความจุผู้โดยสารรวมจะถูกหยุดชั่วคราวทำให้เหลือเที่ยวโดยสาร 99 เที่ยวที่ดำเนินการตามปกติ ปกติมีผู้โดยสารกว่า 50,000 คนเดินทางบนรถไฟทุกวัน แต่ปัจจุบันลดลงเหลือประมาณ 30,000 คน

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/yangons-circular-railway-line-carriages-be-reduced.html

ก่อสร้างหดตัวเนื่องจากการระบาดของ COVID-19

สหพันธ์ผู้ประกอบการก่อสร้างของเมียนมา (MCEF) ให้ข้อมูลว่าการก่อสร้างเมียนมาชะลอตัวลงราว 30% เนื่องจากการขาดแคลนวัสดุก่อสร้างที่นำเข้าและบางส่วนได้หยุดชั่วคราวเนื่องจากปัญหากระแสเงินสด ประมาณ 70%  ของโครงการยังคงทำงานตามปกติแต่สถานการณ์ยังไม่เลวร้ายนัก จากผลกระทบของการระบาด COVID-19 โครงการก่อสร้างต้องหยุดลงหากรัฐบาลเรียกร้องให้มีการหยุดโครงการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส คนงานได้รับอนุญาตให้กลับบ้านเกิดของพวกเขาหากพวกเขาต้องการและโครงการก่อสร้างดำเนินงานไปบางส่วน เพื่อรักษางานและเพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไป

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/construction-contraction-due-virus-outbreak.html

คณะกรรมการป้องกันและควบคุมของ Covid-19 ขอความร่วมประชาชนในการดาเนินการป้องกัน Covid-19 อย่างเคร่งครัด

คณะกรรมการระดับชาติที่รับผิดชอบการป้องกันและควบคุมของ Covid-19 (Taskforce) ได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วประเทศดำเนินการตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีอย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากจำนวนผู้ป่วยไวรัสเพิ่มขึ้นเป็น 9 คนในปัจจุบัน ทั้งนี้รัฐบาลได้กำหนดมาตรการสำคัญเพื่อจากัด การเคลื่อนไหวอย่างอิสระ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนจนถึงวันที่ 19 เมษายน ยกเว้นเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ต่อสู้กับ Covid-19 รวมถึงงานสาคัญอื่น ๆ มาตรการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเนื่องจากรัฐบาลเชื่อว่าหากยังมีการพบปะกันของประชาชนในระยะยาวจะทำให้มีการแพร่เชื้อไวรัสสู่ผู้อื่นได้ ทั้งนี้ปัจจุบันไม่เพียงแค่การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 เท่านั้นที่สปป.ลาวกาลังเผชิญแต่ปัญหาในเรื่องฝุ่น P.M. 2.5 ก็ยังพบว่ามีค่าเกินมาตราฐานในหลายพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณที่ติดชายแดนทางตอนเหนือของไทย ทำให้มาตราการที่ออกมาดังกล่าวจะต้องครอบคลุมในการแก้ปัญหาค่าฝุ่นที่เกินมาตราฐานด้วย รัฐบาลเชื่อว่าหากประชาชนให้ความร่วมมือได้อย่างมีประสิทธิภาพจะทำให้ปัญหาที่เผชิญในปัจจุบันบรรเทาลงและกลับมาฟื้นตัวได้ในอนาคต

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Taskforce.php

รัฐบาลสปป.ลาวแจ้วสถานทูตต่างประเทศในสปป.ลาวถึงมาตราการป้องกัน COVID -19

รัฐบาลสปป.ลาวได้จัดการประชุมระหว่างรัฐบาลและสถานทูตต่างประเทศ ผู้แทนทางการทูตและองค์กรระหว่างประเทศในสปป.ลาวเพื่อทำความเข้าใจและวางแผนแก้ไขปัญหาที่พวกเขาอาจเผชิญในระหว่างการปิดตัวของสปป.ลาวเพื่อต่อสู้กับการระบาดใหญ่ของโควิด -19 โดยในที่ประชุมมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนาย Saleumxay Kommasith เป็นประธานได้กล่าวว่า“ เราจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อสื่อสารกับต่างชาติที่อาศัยและทางานในสปป. ลาวในมาตรการใด ๆ ที่รัฐบาลจะดาเนินการต่อไปเพื่อตอบสนองต่อ Covid-19 โปรดทราบว่าเราจะดำเนินการผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงต่างประเทศของเราหากรัฐบาลดำเนินมาตรการเพิ่มเติม ” คาสั่งของนายกรัฐมนตรีใหม่นี้ครอบคลุมถึงมาตรการที่เข้มงวดเกี่ยวกับการข้ามประเทศและการเดินทางภายในประเทศลาว ทั้งนี้เป็นไปเพื่อความปลอดภัยของประชาชนชาวสปป.ลาวและผู้อยู่ในสปป.ลาวทุกคน

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos64.php

ราคาน้ำมันดิ่งลง 4,252 ด่ง/ลิตร

ราคาน้ำมันขายปลีกลดลง ในวันที่ 29 มีนาคม ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลดลงในรอบ 6 ปี ตั้งแต่ต้นปีนี้ จากการปรับเปลี่ยนของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า และกระทรวงการคลัง เผยว่าราคาเบนซิน ออกเทน 92 ลดลงเหลือ 4,100–11,956 ด่ง (0.69 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อลิตร และราคาเบนซิน ออกเทน 95 ก็ลดลงเหลือ 4,252-12,560 ด่งต่อลิตร ในขณะที่ ราคาน้ำมันดีเซล (0.05%) และราคาน้ำมันก๊าด อยู่ที่  11,259 ด่งต่อลิตร และ 9,141 ด่งต่อลิตร, ลดลง 1,776 และ 2,705 ด่งต่อลิตร ตามลำดับ ทั้งนี้ ทางกระทรวง 2 แห่งข้างต้น จะประเมินราคาน้ำมันในทุกๆ 15 วัน เพื่อปรับราคาน้ำมันในประเทศให้ทันต่อความผันผวนของราคาน้ำมันตลาดโลก

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/8529702-petrol-prices-see-sharp-fall-of-up-to-vnd4-252-per-litre.html

สหรัฐฯ ดึงดูดการลงทุนของเวียดนามสูงสุด ในช่วง 3 เดือนแรก

เวียดนามลงทุนไปยังต่างประเทศ ด้วยมูลค่า 49.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2563 สหรัฐอเมริกายังคงเป็นประเทศที่มีมูลค่าการลงทุนของเวียดนามไปยังต่างประเทศสูงที่สุด โดยเวียดนามมีโครงการจดทะเบียนการลงทุน 78 โครงการ ด้วยมูลค่า 22.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ โครงการที่ปรับเพิ่มเงินทุนจำนวน 6 โครงการ ด้วยมูลค่า 26.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับสาขาธุรกิจที่ได้รับการลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจบริการด้านที่พักและอาหาร มูลค่า 14.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 29.9 ของการลงทุนทั้งหมดโดยมาจากบริษัทเวียดนาม รองลงมาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และด้านการผลิต ซึ่งในช่วงไตรมาสแรก สหรัฐอเมริกายังคงเป็นผู้รับทุนรายใหญ่ที่สุดจากเวียดนาม มูลค่า 20.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40.8 ของการลงทุนทั้งหมด รองลงมาสิงคโปร์และกัมพูชา ทั้งนี้ จากข้อมูลของหน่วยงานการลงทุนในต่างประเทศ ระบุว่าในเดือนม.ค.-มี.ค. เวียดนามมีโครงการจดทะเบียนใหม่ 758 โครงการ ด้วยมูลค่า 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในแง่ของเงินทุนโครงการที่ปรับเพิ่มเงินทุน 230 โครงการ มูลค่า 1.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วยร้อยละ 82 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/us-attracts-most-vietnamese-investment-in-three-months/170914.vnp

รมว. คลังกัมพูชากล่าว ในช่วงฤดูแล้งกัมพูชาจะยังคงไม่ขาดแคลนไฟฟ้า

กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานกัมพูชาได้ย้ำว่าจะไม่มีการขาดแคลนพลังงานในช่วงฤดูแล้งในปีนี้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเหมืองแร่และพลังงานยืนยันว่าประชาชนและภาคธุรกิจจะไม่ประสบปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน ซึ่งนักลงทุนเอกชนผู้พัฒนาระบบไฟฟ้าภายในประเทศยืนยันกับรัฐบาลเพื่อให้แน่ใจว่าแหล่งจ่ายไฟในประเทศมีความเสถียรภาพมากขึ้น โดยในช่วงฤดูแล้งของปีที่แล้วประเทศประสบปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้า 400 เมกะวัตต์ เนื่องจากการขาดแคลนน้ำในการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ ซึ่งในปี 2019 แหล่งจ่ายไฟของกัมพูชาเพิ่มขึ้น 28% เป็น 3,382 mW โดยแหล่งพลังงานหลักในการดำเนินงานของกัมพูชาคือเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ 7 แห่ง ที่สร้างพลังงานทั้งหมด 1,328 mW คิดเป็น 33.5% ของพลังงานทั้งหมดภายประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50707162/minister-reiterates-no-more-power-shortage-during-the-dry-season/

การค้าข้ามพรมแดนระหว่างกัมพูชากับเวียดนามยังคงที่ ท่ามกลางการระบาดของ COVID-19

การค้าข้ามพรมแดนระหว่างกัมพูชากับเวียดนามได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวดแม้จะมีการหยุดการเข้าและออกของประชาชน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่กระจายของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันที่ถูกเรียกว่า COVID-19 โดยการพูดคุยกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเวียดนาม Truong Cong Nhan ของแผนกศุลกากรที่ด่านชายแดน Khanh Binh ภายใต้สำนักงานศุลกากรจังหวัด Giang กล่าวว่าการขนส่งสินค้าผ่านช่องทาง Khanh Binh – Chrey Thom ยังคงดำเนินต่อไปตามปกติ รถบรรทุกต่อวันเทียบเท่ากับจำนวนก่อนที่คำสั่งระงับการเข้า – ออกจะมีผลในวันที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้มาตรการกักกันทางการแพทย์ได้ถูกนำไปใช้อย่างเคร่งครัดกับรถบรรทุกที่เข้าสู่เวียดนามเพื่อรับสินค้าที่ส่งออกไปยังกัมพูชา โดยกองกำลังทั้งสามของกัมพูชารวมถึงหน่วยแพทย์ชายแดนและด่านศุลกากรได้ทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อปฏิบัติตามขั้นตอนการกักกันอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้ขับขี่ จากนั้นคนขับจะรอในห้องกักกันขณะที่โหลดสินค้า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50707441/trade-across-cambodia-vietnam-border-remains-stable-amid-covid-19-outbreak/