รัฐบาลกัมพูชาจัดสรรงบประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับธนาคาร SME

รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสนับสนุน SME Bank โดยนายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวว่าได้อนุมัติให้ใช้เงินจำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อจัดตั้งธนาคาร ซึ่งกระทรวงเศรษฐกิจและการเงินประกาศเมื่อต้นปีที่ผ่านมาว่าธนาคาร SME คาดว่าจะมีระบบออนไลน์ภายในปลายปี 2562 โดย ประธานสหพันธ์สมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งกัมพูชากล่าวว่าเป้าหมายของธนาคารคือการสนับสนุนธุรกิจในท้องถิ่นและช่วยให้พวกเขาขยายตัว ซึ่งกล่าวว่า SMEs ในท้องถิ่นมักประสบปัญหาในการเข้าถึงสินเชื่อเนื่องจากขาดหลักทรัพย์ค้ำประกันในการกู้จากธนาคาร SME โดยบริษัทจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานทางการเงินและบัญชีที่เหมาะสม ซึ่งธนาคาร SME ในกัมพูชาจะจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อช่วยให้บริษัทเหล่านี้ได้รับสินเชื่อที่เหมาะสมที่สุดแก่กิจการ โดยเลขาธิการแห่งรัฐของกระทรวงอุตสาหกรรมและหัตถกรรมกล่าวว่ากัมพูชามี SMEs ประมาณ 520,000 ราย แต่มีเพียง 150,000 ราย ที่เป็นผู้ผลิตที่จดทะเบียน ซึ่งเชื่อว่าธนาคาร SME จะให้ความสำคัญกับหลายภาคส่วนรวมถึงภาคการผลิตการท่องเที่ยว การแปรรูปอาหารและ บริษัทสตาร์ทอัพ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50670809/govt-allocates-100-million-to-sme-bank/

รัสเซียกระตือรือร้นสำรวจธุรกิจในเมียนมา

สัปดาห์ก่อนหน้านี้ รมต.กระทรวงการลงทุนและความสัมพันธ์เศรษฐกิจระหว่างประเทศ ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนธุรกิจของรัสเซียในเนปิดอว์ โดยได้หารือถึงโอกาสการลงทุนและการค้ากับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจของสหพันธรัฐรัสเซียและเอกอัครราชทูตของสหพันธรัฐรัสเซีย ในการหารือเมียนมาเรียกร้องให้รัสเซียให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมด้านเทคนิคและการอาชีพสำหรับชาวเมียนมาและส่งเสริมการร่วมทุนในภาคเกษตร อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน และการท่องเที่ยว และผลักดันโครงการของรัสเซียที่ได้รับการสนับสนุนเพิ่ม และสร้างเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศ ในที่ประชุมเดือน ก.ย. รัสเซียเสนอการช่วยเหลือการเปลี่ยนสื่อออกอากาศของท้องถิ่นจากระบบอนาล็อกเป็นระบบดิจิตอล และสนับสนุนในด้านดิจิทัล เช่น ร่างกฎหมายความมั่นคงทางไซเบอร์เป็นครั้งแรก สร้างแพลตฟอร์มรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ และพัฒนาเมืองอัจฉริยะ รัสเซียเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่อันดับที่ 22 ด้วยเงินลงทุนกว่า 90 พันล้านเหรียญสหรัฐในธุรกิจท้องถิ่นสองแห่ง การค้าระหว่างประเทศมีมูลค่ารวม 46 ล้านเหรียญสหรัฐในปีงบประมาณ 61-62

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/russia-keen-explore-business-opportunities-myanmar.html

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในภาคชนบทได้รับทุนสนับสนุน

ตลาดเกิดใหม่เมียนมา (EME- พม่า) มีบริษัทอีคอมเมิร์ซสำหรับร้านค้าปลีกในชนบทที่ตั้งอยู่ในย่างกุ้ง โดยมีตัวเลขการลงทุนรวมหกหลักแต่ยังไม่เป็นที่เปิดเผย Ezay ก่อตั้งขึ้นในเดือนสิงหาคมเริ่มต้นด้วยการให้บริการแพลตฟอร์มมือถือสำหรับลูกค้าที่จะซื้อหุ้นใหม่จากผู้ค้าส่งรวมถึงจัดส่งสินค้าออนไลน์ แทนที่จะมาร้านค้าด้วยตัวเอง เพื่อเชื่อมโยงผู้ค้าส่งและผู้ค้าปลีกผ่านแพลตฟอร์มมือถือ ทำให้การส่งมอบสินค้าสู่ร้านค้าปลีกทำได้ง่ายขึ้น สามารถแก้ปัญหานี้ในชนบททั่วประเทศ ผลตอบรับเป็นไปในเชิงบวกจากผู้ค้าปลีกว่ามีความสะดวกสบาย การจัดส่งและราคาไม่ต่างกันเมื่อเปรียบเทียบกับออฟไลน์มากนัก บริษัทวางแผนขยายธุรกิจในเมียนมาให้เร็วมากกว่านี้ และพัฒนาด้านซัพพลายเชนการค้าปลีกและสร้างความพึงพอใจของลูกค้า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของเมียนมายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นที่มีมูลค่าตลาด 6 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตามการช็อปปิ้งออนไลน์บนโซเชียลมีเดียนั้นมีอยู่เป็นจำนวนมากขึ้นเนื่องจากบัญชี Facebook มีมากกว่า 85% ของปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมดของประเทศ

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/rural-e-commerce-startup-secures-funding.html

กระทรวงการวางแผนและการลงทุนประชุมโครงการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมห่งชาติ

เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่กระทรวงการวางแผนและการลงทุนจากภาคการวางแผนและการลงทุนทั่วประเทศเข้าร่วมการประชุมเพื่อรายงานความสำเร็จสำหรับปี 62และหารือเกี่ยวกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในปี 2563 และในอีก 5 ปี (2564-2568)ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ 6 ภาคส่วนประกอบด้วย การพัฒนาเศรษฐกิจชนบท,การลดความยากจน,การพัฒนาที่ยั่งยืน,การป้องกันความปลอดภัย,การร่วมมือระหว่างประเทศและการบูรณาการระหว่างประเทศรวมถึงการพัฒนานโยบายกลยุทธ์และกฎหมาย โดยจะเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงสำคัญๆเพื่อพัฒนาประเทศไปในทิสทางเดียวกันในทุกภาคส่วนตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Planning.php

สมัชชาแห่งชาติ (NA) จะพิจารณากฎหมาย 23 ฉบับที่จะใช้ในปีหน้า

สมัชชาแห่งชาติ (NA) จะมีการพิจารณากฎหมายใหม่ 10 ฉบับและแก้ไขกฎหมายที่มีอยู่ 13 ฉบับในปีหน้าเพื่อพิจารณาและอนุมัติกฎหมายรวมถึงมีการอภิปรายประเด็นสำคัญอื่น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าการออกกฎหมายทั้งหมดเป็นไปตามหลักนิติธรรม โดยก่อนหน้าได้มีการอนุมัติออกกฎหมายใหม่ไปแล้วในช่วงต้นปี 62 เป็นกฎหมายเกี่ยวกับ กฎหมายเศรษฐกิจและการเงิน กฎหมายสังคม – วัฒนธรรม กฎหมายความยุติธรรมและการบริหาร และในปี 63จะมีการพิจารณาอนุมัติกฎหมายเพิ่มเติมอีกได้แก่ กฎหมายด้านภาษี กฎหมายการพัฒนาสิ่งแวดล้อม กฎหมายเกี่ยวกับการแบ่งเขตแดนระดับชาติและการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง นอกจากนี้ NA ยังตรวจสอบการทำงานขององค์กรตุลาการที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้การออกกฎหมายถูกบังคับใช้อย่างตรงไปตรงมาเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของกฎหมายแต่ละฉบับ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Planning.php

รัฐมนตรีชื่นชมการมีส่วนร่วมของสหรัฐฯในการพัฒนาเศรษฐกิจในกัมพูชา

กระทรวงเศรษฐกิจและการเงินของกัมพูชากล่าวว่าความร่วมมือระหว่างกัมพูชาและสหรัฐอเมริกามีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของกัมพูชาโดยให้เงินช่วยเหลือสนับสนุนหลายล้านเหรียญสหรัฐ โดยความช่วยเหลือนี้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นในหลายภาค ซึ่งโดยเฉพาะด้านการศึกษา สุขภาพ การเกษตรและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในขณะเดียวกันบริษัทจากสหรัฐฯจำนวนมากทำการลงทุนและการค้าเพิ่มขึ้นทุกปีในกัมพูชา โดยจากข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯการค้าระหว่างกัมพูชาและสหรัฐอเมริกามีมูลค่าสูงถึง 4.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2562 เพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งข้อมูลจากการจัดส่งของกัมพูชาไปยังสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 38% สู่ 3.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่มูลค่าการนำเข้าจากสหรัฐฯอยู่ที่ 400 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 24% ซึ่งกัมพูชาส่วนใหญ่ส่งออกสิ่งทอ, รองเท้า, สินค้าการท่องเที่ยวและสินค้าเกษตรไปยังสหรัฐอเมริกาในขณะที่การนำเข้าส่วนใหญ่ของกัมพูชาเป็นยานพาหนะ, อาหารสัตว์และเครื่องจักรมายังกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50670375/minister-praises-us-contribution-to-kingdoms-economic-development/

รัฐบาลเวียดนามยังคงสนับสนุนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่อง

จากคำแถลงการณ์ในที่ประชุมผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมของรองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดในประเทศ ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เปิดเผยว่ากองทุนเสถียรภาพราคาเชื้อเพลิง ช่วยให้รัฐบาลกลางเวียดนามสามารถบริหารราคาเชื้อเพลิงในประเทศได้ สำหรับอนาคตเร็วๆนี้ โดยผู้ค้าน้ำมันและกลุ่มบริษัทขนส่งได้โต้แย้งถึงกองทุนว่าการบริหารกองทุนนั้น จะต้องคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นส่วนสำคัญที่สุดและการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง จะไม่ส่งผลประโยชน์หรือได้รับประโยชน์ที่น้อยมากทั้งผู้ค้าและผู้บริโภค รวมไปถึงจะสร้างช่องว่างระหว่างราคาเชื้อเพลิงในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการฉ้อโกงและการลักลอบขนส่งข้ามพรมแดน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงใช้กองทุนเป็นเครื่องมือในการบริหารราคาน้ำมันในประเทศ เพื่อให้สามารถควบคุมเงินเฟ้อและสร้างความมั่งคงทางเศรษฐกิจมหภาค นอกจากนี้ ตามรายงานของกระทรวง ระบุว่ากองทุนดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายราว 73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาเชื้อเพลิง ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2562

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/state-to-continue-support-for-fuel-price-fund-407614.vov

ภาคอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มของเวียดนาม มียอดเกินดุลการค้า 16.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามรายงานของสมาคมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเวียดนาม (VITAS) เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มียอดเกินดุลการค้า 16.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อยู่ที่ 2.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสิ่งที่น่าสนใจ คือ ตัวเลขมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดทั้งปี ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.55 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ มูลค่าการนำเข้าเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ อยู่ที่ประมาณ 22.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ เวียดนามอยู่ในอันดับที่ 3 ของประเทศที่ส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มรายใหญ่ที่สุดทั่วโลก รองจากจีนและอินเดียเท่านั้น รวมถึงยังสามารถสร้างงานได้อีกประมาณ 3 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของกำลังแรงงานทั้งหมดของอุตสาหกรรม

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/garment-and-textile-sector-enjoys-trade-surplus-of-us166-billion-407615.vov

พุกามจัดงานวิ่งส่งเสริมการท่องเที่ยว

การวิ่งของเมียนมาจัดขึ้นครั้งแรกจัดขึ้นที่พุกามเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโดยมีผู้เข้าร่วมจากทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 300 คนซึ่งประกอบด้วย หน่วยงาน บริษัทต่างๆ และผู้ที่สนใจสุขภาพเข้าร่วมงาน จัดขึ้นโดย China Daily และ RVIPS Publications โดยวิ่งผ่านจุดชมทิวทัศน์และวัฒนธรรมอันงดงามของพุกาม งานนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการจัดมิตรภาพระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมโครงการ Belt and Road รวมถึงการส่งเสริมสุขภาพและมิตรภาพระหว่างประเทศ จากยอดค่าธรรมเนียมเข้าชมแหล่งมรดกโลกพุกามท ราว 5 จัต (ประมาณ 3,313 ดอลลาร์สหรัฐ) ช่วยส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน กระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวได้ออกแคมเปญรณรงค์งดใช้พลาสติกในพุกามเพื่อเป็นการพัฒนาประเทศ การจัดงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามโดยมีผู้ชมนับร้อยและเมื่อกีฬาวิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นทั่วประเทศควรส่งเสริมการเชื่อมสัมพันธ์ วิถีชีวิต และการรักสุขภาพผ่านกิจกรรมนี้

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/bagan-run-promotes-friendship-tourism

เกษตรกรเร่งรัฐฯ เจรจาส่งออกสับปะรดไปจีน

สมาคมผู้ปลูกสับปะรดกำลังขอให้รัฐบาลเจรจาส่งออกไปยังประเทศจีนโดยเร็วที่สุด ภายหลังเกษตรกรได้รับความเสียหายราว 700 ล้านจัต (458 ล้านเหรียญสหรัฐ) เนื่องจากจีนห้ามนำเข้าผลไม้จากเมียนมาซึ่งมีความเสียหายมากกว่า 24,800 ตันที่เขตการค้าชายแดมูเซ แม้ว่าสมาคมผู้ผลิตผักและผลไม้ของเมียนมา (MFVP) จะขอเจรจาการส่งออกสับปะรดและอโวคาโดแต่ทางการจีนร่วมการือเฉพาะการส่งออกกล้วย ข้าว มันสำปะหลัง และเสาวรส ซึ่งรัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามมีความล่าช้าและอีก 6 เดือนเท่านั้นก็จะถึงฤดูเพาะปลูกแล้ว โดยปกติแล้ว 90% ของอาโวคาโดจะถูกส่งออกไปยังไทยและควรมีการเจรจากับจีนเพื่อเร่งการส่งออกก่อนการการเก็บเกี่ยว MFVP กล่าวว่าเกตรกรต้องการลงทุนในลักษณะของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) เพื่อสร้างโรงงานบรรจุภัณฑ์และโรงงานอบแห้งเพื่อเพิ่มมูลค่าในการส่งออก และเพิ่มทุนสำหรับวัตถุดิบ เครื่องจักร และต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้น ทว่าเอสเอ็มอีเผชิญกับความยากลำบากในการจัดหาหลักประกันด้านสินเชื่อของธนาคาร ดังนั้นรัฐบาลควรเข้ามาสนับสนุน ทั้งนี้กระทรวงการคลังและวางแผนกล่าวว่าธนาคารเพื่อการพัฒนาการเกษตรจะให้สินเชื่อพิเศษสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ และกำลังเจรจากับธนาคารเอกชนและธนาคารของรัฐเรื่องข้อกำหนดสำหรับสินเชื่อ SME ต่อไป

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/pineapple-growers-call-official-export-channels-china.html