กัมพูชาส่งออกแตะ 2.05 หมื่นล้านดอลลาร์ สำหรับในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ย.

กรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) เผยว่าการส่งออกของกัมพูชาในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2023 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 2.049 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 1.2 เป็นผลมาจากภาคอุตสาหกรรมหลักอย่าง เสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าเดินทาง กลับมาขยายตัว โดยสหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกหลักของกัมพูชา คิดเป็นมูลค่าการส่งออกรวม 8.14 พันล้านดอลลาร์ ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.9 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่การส่งออกไปยังเวียดนาม ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 37.8 สู่มูลค่า 2.61 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 1.89 พันล้านดอลลาร์ รวมถึงการส่งออกไปยังจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกันร้อยละ 18.5 คิดเป็นมูลค่า 1.31 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอุตสาหกรรมดังกล่าวมีโรงงานและสถานประกอบการรวมกว่า 1,133 แห่ง ก่อให้เกิดการจ้างงานประมาณกว่า 840,000 คน และด้วยความตกลง RCEP และ FTA ร่วมกับจีนและเกาหลีใต้ ที่มีผลบังคับใช้ในปี 2022 มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการส่งเสริมสินค้าของกัมพูชาและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501405278/cambodias-exports-touch-20-5-billion-in-jan-nov/

‘เวียดนาม’ เล็งนำเข้าไฟฟ้ามากขึ้นจากสปป.ลาว

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ร้องขอให้การไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) พิจารณาสร้างสายส่งไฟฟ้าใหม่ เพื่อที่จะนำเข้าไฟฟ้าจากสปป.ลาวมากยิ่งขึ้น โดยแผนงานดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อจ่ายไฟฟ้าให้กับภาคเหนือของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง เนื่องจากยังไม่มีโครงการพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าแห่งใหม่จนถึงปี 2568 ทั้งนี้ ในปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีได้อนุมัตินโยบายรับซื้อไฟฟ้าจากสปป.ลาว เนื่องจากต้นทุนที่ดีหากเทียบกับแหล่งอื่นในภูมิภาค

นอกจากนี้ ในช่วง 11 เดือนของปีนี้ เวียดนามนำเข้าไฟฟ้าจากสปป.ลาวและจีน ราว 4 พันล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง หรือคิดเป็น 1.5% ของการใช้พลังงานทั้งประเทศ

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnam-mulls-importing-more-electricity-from-laos/

‘สี จิ้นผิง’ เยือนเวียดนาม หลังสหรัฐฯกระชับความสัมพันธ์

สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของสาธารณรัฐประชาชนจีน เดินทางมาเยือนเวียดนามในวันที่ 12 ธ.ค. หลังจากผ่านไป 3 เดือนที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เดินทางมากรุงฮานอย ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ของผู้นำจีน เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์ทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ดี การเยือนของจีนในครั้งนี้ได้ถูกเลื่อนออกไปอีก เนื่องจากมีการหารือที่ยืดเยื้อถึงการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี

นอกจากนี้ มีสัญญาณของการยกระดับความสัมพันธ์ขยับขึ้นไปสู่ระดับที่จีนมองว่าอยู่เหนือความสัมพันธ์สหรัฐฯ-เวียดนาม

ที่มา : https://www.straitstimes.com/asia/chinas-xi-visits-vietnam-after-biden-seeks-to-boost-ties

World Bank แนะ สปป.ลาว ต้องปฏิรูปทางการคลัง เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

World Bank เสนอแนะผ่านรายงานเศรษฐกิจโลกว่า สปป.ลาว มีความจำเป็นต้องทำการปฏิรูปทางการคลังเพื่อบรรเทาปัญหาทางเศรษฐกิจและช่วยสร้างระบบที่มีความยั่งยืนมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน สปป.ลาว มีระดับหนี้ที่สูง การเก็บรายได้ของรัฐบาลไม่เพียงพอ และเกิดการอ่อนค่าของเงินกีบ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการลงทุนด้านการศึกษา การฝึกอบรม และด้านสาธารณสุขที่ไม่เพียงพอ ล้วนบ่อนทำลายการพัฒนาที่ครอบคลุมในระยะยาว ประชาชนขาดทักษะฝีมือและขาดการดูแลสุขภาพที่ดี เนื่องจากปัญหาความยากจน มาเรียม เชอร์แมน ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำเมียนมา กัมพูชา และลาว เสนอแนะว่า “การเปลี่ยนแปลงนโยบายการคลังจะสามารถช่วยแก้ไขความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ ปกป้องประชากรที่ได้รับผลกระทบ กระตุ้นการเติบโต และลดความยากจน รวมถึงความไม่เท่าเทียมกันได้” ทั้งนี้ จากรายงานดังกล่าวนี้สรุปใจความสำคัญได้ว่า การปรับปรุงการเก็บรายได้ ตลอดจนประสิทธิผลและความเท่าเทียมของการใช้จ่ายสาธารณะ มีมาตรการในการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการจัดเก็บภาษี การปฏิรูปการบริหารจัดการรัฐวิสาหกิจและสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงกำหนดเป้าหมายการใช้จ่ายภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ที่มา : https://english.news.cn/20231212/35c48e9f07274111be9d458c8524ed8b/c.html

คณะกรรมการกลางว่าด้วยการกำกับดูแลการไหลเวียนของการค้าและสินค้า หารือเรื่องการจำหน่ายเชื้อเพลิง และมาตรการเพื่อเพิ่มการส่งออกผลิตผลทางการเกษตร

Mya Tun Oo รัฐมนตรีสหภาพสมาชิกสภาบริหารแห่งรัฐ และประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยการกำกับดูแลการไหลเวียนของการค้าและสินค้า ได้กล่าวปราศรัยในการประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 2/2566 ที่กรุงเนปิดอว์เมื่อวานนี้ ว่ามีการเตรียมการอย่างเป็นระบบเพื่อให้แน่ใจว่ามีเชื้อเพลิงเพียงพอที่สถานีบริการน้ำมันและจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงในสต็อก ในทางกลับกันยังกำกับดูแลการต่อต้านการค้าเชื้อเพลิงที่ผิดกฎหมายอีกด้วย ทั้งนี้ คณะกรรมการยังเน้นไปที่มาตรการเชิงปฏิบัติสำหรับการนำเข้า การจัดเก็บ และการจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และพิจารณาว่าเชื้อเพลิงที่นำเข้ามีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานคุณภาพหรือไม่ ในทำนองเดียวกัน มีการแจกจ่ายน้ำมันสำหรับใช้ปรุงอาหารอย่างเพียงพอไปยังภูมิภาคและรัฐ รวมถึงกรุงเนปิดอว์ เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีเสถียรภาพต่อตลาดและราคาสินค้า อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีสหภาพฯ กล่าวต่อว่าในสมัยนั้นมีการใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อส่งเสริมปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เช่น ข้าว ถั่ว ข้าวโพด งา และยางพารา นอกจากนี้ยังต้องกำกับดูแลการส่งกลับรายได้จากการส่งออกตามขั้นตอนที่กำหนดและจะจัดลำดับความสำคัญของการนำเข้าวัตถุดิบสำหรับเขตอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้าส่งออก และเน้นย้ำถึงความร่วมมือกับ UMFCCI สมาคมพี่น้อง และองค์กรที่เกี่ยวข้อง

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/central-committee-on-ensuring-smooth-flow-of-trade-and-goods-discusses-fuel-distribution-measures-to-increase-export-of-farm-produce/#article-title

เมียนมาร์กระตุ้นการส่งออกถั่วพัลส์ตามเป้าหมายประจำปี โดยส่งออกไปแล้ว 1 ล้านตัน

สมาคมผู้ค้าถั่วพัลส์ ถั่ว ข้าวโพด และเมล็ดงาของเมียนมาร์ รายงานว่า ด้วยการส่งออกพัลส์ในปัจจุบันมากกว่า 1 ล้านตัน โดยส่วนใหญ่ทางทะเล ในปีงบประมาณนี้ คาดการณ์ว่าสมาคมจะบรรลุเป้าหมายประจำปีตามปกติอยู่ที่ประมาณ 1.5 ถึง 2 ล้านตันต่อปี โดยการค้าทางทะเลถือเป็นช่องทางหลักในการส่งออก ในขณะที่เส้นทางชายแดนส่วนใหญ่ใช้สำหรับขนส่งสินค้าไปยังประเทศจีน ท่ามกลางความยากลำบากในการขนส่งทางถนน ทั้งนี้ ในบรรดาประเทศปลายทาง อินเดียถือเป็นประเทศอันดับหนึ่งที่เมียนมาร์มีการส่งออกสินค้าประเภทดังกล่าว โดยการส่งออกไปยังอินเดียส่วนใหญ่ผ่านทางทะเล เนื่องจากการค้าชายแดนเป็นเรื่องยากในการขนส่ง อย่างไรก็ดี ตามข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ ในช่วงระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึง 17 พฤศจิกายน ปีงบประมาณนี้ เมียนมาร์มีรายได้มากกว่า 850 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการส่งออกถั่วพัลส์มากกว่า 1 ล้านตัน รวมถึงถั่วดำและถั่วแฮะ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-pulses-export-on-track-to-meet-annual-target-with-1-mln-tonne-already-shipped/

ADB ร่วมกับ MPWT สร้างโครงการฝังกลบในพระตะบอง มูลค่า 6.28 ล้านดอลลาร์

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ร่วมมือกับกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง (MPWT) ในการก่อสร้างหลุมฝังกลบแบบควบคุมขนาด 20 เฮกตาร์ ในจังหวัดพระตะบองสำเร็จ โดยมีเป้าหมายเพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของประชากรในชุมชนที่มีอยู่ราว 126,000 คน ด้วยกำลังการกำจัดขยะ 100 ตัน ต่อวันเป็นเวลา 10 ปี ด้วยเม็ดเงินลงทุนในโครงการมูลค่า 6.28 ล้านดอลลาร์ ภายใต้ชื่อโครงการการจัดการสิ่งแวดล้อมในเขตเมืองครั้งที่สองในลุ่มน้ำทะเลสาบโตนเลสาบ โดยโครงการนำร่องได้เริ่มดำเนินการมาแล้ว 2 เดือน และพร้อมที่จะให้บริการแก่ชุมชนทั่วทั้งจังหวัด ซึ่งจุดฝังกลบดังกล่าวตั้งอยู่ห่างจากเทศบาลเมืองพระตะบอง 25 กิโลเมตร และห่างจากชุมชนเนื่องจากความกังวลด้านสุขภาพของประชาชนในระยะยาว โดยขยะทั้งหมดสามารถนำมาใช้เป็นทรัพยากรในการผลิตก๊าซและปุ๋ยต่อไปได้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501404698/adb-mpwt-build-6-28-million-landfill-project-in-battambang/

กัมพูชาดันระบบชำระเงินข้ามพรมแดนร่วมกับจีน หวังกระตุ้นการท่องเที่ยว

ภาคการท่องเที่ยวกัมพูชามีแนวโน้มขยายตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการจัดทำข้อตกลงสำคัญอย่างข้อตกลงการชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างจีนและกัมพูชา ซึ่งมีศักยภาพในการผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่กำลังเฟื่องฟู หลังได้รับผลกระทบมาจากโควิด-19 ด้วยการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เกิดการใช้จ่ายที่มากขึ้นด้วยการเสริมความสะดวกในการชำระเงิน ผ่านระบบภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว นอกจากข้อตกลงข้างต้นทั้งสองประเทศยังวางแผนที่จะผลักดันนโยบายส่งเสริมเที่ยวบินและการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวระหว่างกันเพื่อที่จะส่งเสริมการเดินทางระหว่างกันมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้นักท่องเที่ยวชาวจีนในกัมพูชาสามารถชำระเงินโดยเข้าถึงระบบ Alipay ผ่านระบบ Bakong ของกัมพูชา และนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาในประเทศจีน ให้สามารถชำระเงินโดยใช้ระบบ Bakong เพื่อซื้อสินค้ากับผู้ขายที่ใช้ Alipay ในประเทศจีนได้สะดวกขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501404692/cross-border-payment-deals-with-china-to-catapult-tourist-numbers/