‘เวียดนาม’ เผย ม.ค.-พ.ค. ยอดจัดเก็บงบประมาณของรัฐ โต 7.4%

กรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าการจัดเก็บงบประมาณของรัฐที่มาจากกิจกรรมการนำเข้าและส่งออกในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 165.7 ล้านล้านด่อง คิดเป็น 44.2% ของยอดเป้าหมายทั้งปี และขยายตัว 7.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทั้งนี้ จากข้อมูลในเดือน พ.ค.67 พบว่าการนำเข้าและส่งออก เพิ่มขึ้น 9.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน มูลค่ากว่า 66.62 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภาคการส่งออกผักและผลไม้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ในขณะเดียวกันเวียดนามมีการนำเข้าน้ำมันดิบ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรและชิ้นส่วน เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ กรมศุลกากร รายงานว่าการละเมิดทางการค้าต่างประเทศในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค. มีจำนวน 6,256 คดี และมูลค่าของสินค้าที่เสียหายสูงถึง 8.4 ล้านล้านด่อง

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/state-budget-revenue-from-trade-activities-grows-7-4-in-jan-may/

‘นายกฯ เวียดนาม’ สั่งจัดงบประมาณปี 68 มุ่งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

นายฟาม มินห์ จิญ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ลงนามคำสั่งว่าด้วยการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และจัดทำงบประมาณปี 2568 โดยตั้งข้อสังเกตไว้ว่าแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในปีหน้านั้น ได้มีการร่างขึ้นมาแล้ว ท่ามกลางสถานการณ์ที่รวดเร็วและคาดการณ์ไม่ได้ ในขณะที่ในปี 2568 ถือเป็นปีที่สำคัญของเวียดนาม เนื่องจากตรงกันกับช่วงการประชุมสมัชชาของพรรคทุกระดับ ก่อนที่จะไปสู่การประชุมสมัชชาพรรคแห่งชาติครั้งที่ 14

ทั้งนี้ ตามแผนการทำงานดังกล่าว ทางนายกฯ เรียกร้องให้กระทรวง หน่วยงานกลางและท้องถิ่น ระบุประเด็นหลักของแผนพัฒนาปี 2568 และตรวจสอบให้แน่ใจว่าสามารถบรรลุเป้าหมายได้และแนวทางการแก้ไข รวมถึงชี้แจงรายละเอียดของเนื้อหา ระยะเวลาและความคืบหน้า ในขณะเดียวกัน การจัดทำแผนงบประมาณปี 2568 ต้องมีรายละเอียดของการใช้จ่ายงบประมาณและการจัดเก็บงบประมาณ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/pm-orders-building-socio-economic-development-plans-budget-estimates-for-2025-post287427.vnp

‘เวียดนาม’ เผยสัดส่วนหนี้สาธารณะ ปี 66 แตะ 37% ต่อ GDP

กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าหนี้สาธารณะของเวียดนามในปี 2566 มีมูลค่า 3.8 พันล้านล้านด่อง หรือคิดเป็น 37% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งตัวเลขหนี้สาธารณะดังกล่าวอยู่ในระดับไม่เกินเพดาน 60% ตามที่รัฐสภากำหนดไว้ และยังต่ำกว่าประมาณการณ์ของกระทรวงฯ

ทั้งนี้ นายโฮ ดึก ฟอก  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าถึงแม้เวียดนามจะเผชิญกับความท้าทายของเศรษฐกิจโลก แต่นโยบายการคลังของเวียดนามในปีที่แล้ว สามารถบรรลุความสำเร็จมาได้ อย่างไรก็ดี เมื่อประเมินปี 2567 กระทรวงการคลังประมาณการณ์ถึงปัจจัยและความท้าทายต่างๆ และมองว่าการจัดเก็บงบประมาณของรัฐ คาดว่าจะอยู่ที่ 1.7 พันล้านล้านด่อง ในขณะที่การใช้จ่ายงบประมาณที่ 2.1 พันล้านล้านด่อง

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnams-2023-public-debt-at-37-of-gdp-post1069195.vov

สหภาพยุโรปมอบเงินสนับสนุนงบประมาณชาติให้แก่ สปป.ลาว 18.4 ล้านยูโร

สหภาพยุโรป (EU) อนุมัติเงินช่วยเหลือจำนวน 18.4 ล้านยูโร แก่รัฐบาล สปป.ลาว ซึ่งในอดีตได้รับการสนับสนุนมาแล้วสองโครงการ ได้แก่ โครงการสนับสนุนภาคการศึกษาภายใต้กรอบระยะเวลาประจำปี 2018-2021 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายในแผนพัฒนาภาคการศึกษาให้สำเร็จตามเป้าหมาย โดยเฉพาะความพยายามในการให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นอย่างน้อย ด้วยการปรับปรุงคุณภาพการศึกษาและการจัดการภาครัฐในภาคส่วนดังกล่าว และโครงการถัดมาเน้นการสนับสนุนทางโภชนาการนับตั้งแต่ปี 2019-2022 เพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางอาหารในประเทศ สำหรับในปี 2023 สหภาพยุโรปกำลังพิจารณาอนุมัติงบประมาณมูลค่ารวม 4.4 ล้านยูโร เพื่อสนับสนุนงบประมาณชาติ โดยมุ่งเน้นไปที่ภาคส่วนสำคัญดังเดิมไม่ว่าจะเป็นภาคการศึกษาและสุขภาพในประเทศ เพื่อหวังปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคนในประเทศ รวมถึงบรรเทาความยากจนให้หมดไป

ที่มา : http://vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_172_EU_y23.php

กัมพูชาจัดสรรงบประมาณ 100 ล้านดอลลาร์ ส่งเสริมภาคการเกษตร

นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณกว่า 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อส่งเสริมภาคเกษตรกรรมภายในประเทศ โดยได้กล่าวไว้ในระหว่างการพบปะกับแรงงานโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าราว 18,000 คน ในกรุงพนมเปญ ซึ่งฮุนมาเนตกล่าวเสริมว่าราคาสินค้าเกษตรในปัจจุบันมีความผันผวนตามความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่างบประมาณส่วนดังกล่าวจะช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาสินค้าเกษตรในประเทศได้ในระยะหนึ่ง นอกจากนี้ งบประมาณดังกล่าวยังจะถูกนำมาใช้เพื่อปรับปรุงระบบชลประทานและการฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคเกษตรกรรมในประเทศ ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องวางแผนที่จะส่งเจ้าหน้าที่ด้านการเกษตรไปยังทุกชุมชนทั่วประเทศเพื่อทำงานร่วมกับเกษตรกรโดยตรง เพื่อหวังแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน สำหรับในช่วง 7 เดือนแรกของปี กัมพูชาส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรไปยัง 68 ประเทศทั่วโลก คิดเป็นมูลค่ารวมเกือบ 2.63 พันล้านดอลลาร์ หรือนับเป็นปริมาณรวมกว่า 4.51 ล้านตัน ตามรายงานของกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญของกัมพูชา ได้แก่ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง มะม่วง กล้วยสด พริกไทย และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501351567/cambodia-reserves-100-mln-for-boosting-agriculture-pm/

‘RCEP’ ถกเข้ม เร่งติดตามการดำเนินงาน หนุนผู้ประกอบการใช้สิทธิประโยชน์ คาดสมาชิก 15 ประเทศ พร้อมใช้ความตกลงปีนี้

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผยผลการประชุมคณะกรรมการร่วม RCEP ครั้งที่ 3 เร่งติดตามการดำเนินงานตามพันธกรณีความตกลง RCEP ทั้งการปรับโอนพิกัดศุลกากร การจัดตั้งหน่วยงานสนับสนุน การจัดสรรงบประมาณ คาดสมาชิก 15 ประเทศ พร้อมใช้ความตกลงปีนี้ เดินหน้าหาแนวทางสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจผ่านแผนงาน มุ่งเน้นทั้งการค้าสินค้า บริการ การลงทุน ทรัพย์สินทางปัญญา และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

นอกจากนี้ สำหรับในช่วง 11 เดือน (ม.ค. – พ.ย. 2565) มีการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง RCEP เพื่อส่งออกไปตลาด RCEP มูลค่า 919.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการส่งออกไปเกาหลีใต้มากที่สุด รองลงมา คือ จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และนิวซีแลนด์ สำหรับสินค้าส่งออกที่ขอใช้สิทธิ์ RCEP สูงสุด อาทิ น้ำมันหล่อลื่น ปลาทูน่ากระป๋อง มันสำปะหลังเส้น ทุเรียนสด และเลนส์สำหรับกล้องถ่ายภาพ

ที่มา : http://www.acnews.net/detailnews.php?news_id=N256674555

“เวียดนาม” เผยยังไม่ได้จัดสรรงบประมาณ 28.8 ล้านล้านดอง พัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

นายเหวียน ชีดุ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและลงทุน รายงานประชุมคณะกรรมการของสมัชชาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ กล่าวว่างบประมาณกว่า 28.8 ล้านล้านดอง (1.25 พันล้านเหรียญสหรัฐ) จากโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ยังไม่ได้มีการจัดสรรงบประมาณ โดยทางสมัชชาแห่งชาติได้มีมติอนุมัตินโยบายการคลังและการเงินที่สนับสนุนโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงได้กำหนดเป้าหมาย หลักการและเกณฑ์ในการคัดเลือกและการจัดสรรเงินทุนแก่โครงการลงทุนภาครัฐ ดังนั้น จึงมีการจัดสรรเงินสูงสุด 176 ล้านล้านดองในปี 2565 และปี 2566 ทั้งนี้ ในจำนวนเงินที่ไม่ได้จัดสรรนั้น มีมูลค่ามากกว่า 25.5 ล้านล้านดอง ด้วยจำนวน 169 โครงการที่กระจายไปตามหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ กระทรวง หน่วยงานส่วนกลางและหน่วยงานท้องถิ่น

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/over-28-8-trillion-vnd-for-socio-economic-development-yet-to-be-allocated-2109916.html

“เวียดนาม” ประกาศลดภาษี VAT เหตุช่วยฟื้นตัวเศรษฐกิจ

กรมจัดเก็บภาษีอากร (GDT) เปิดเผยว่าทางหน่วยงานประสบความสำเร็จในการจัดเก็บงบประมาณรายได้ของรัฐบาล อยู่ที่ 1.692 ล้านล้านดอง หรือคิดประมาณ 20% ของงบประมาณรายได้รวม ซึ่งการจัดเก็บงบประมาณดังกล่าวสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หน่วยงานสามารถจัดเก็บรายได้ในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมากกว่า 85% แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐฯ อยู่ในระดับสูง ประมาณ 18% ของ GDP ส่งผลให้ธุรกิจ ประชาชนและเศรษฐกิจ เผชิญกับความยากลำบากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นเวียดนามจึงดำเนินนโยบายการคลัง เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค ตลอดจนกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภค ด้วยการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 2% หรือประมาณ 51.4 ล้านล้านดอง

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vat-reduction-helps-economic-recovery-2101467.html

“บ่าเหรี่ยะ หวุงเต่า” ตั้งเป้ารายได้ต่อหัว 8,200 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2566

คุณ Dang Minh Thong รองประธานคณะกรรมการจังหวัดบ่าเหรี่ยะ หวุงเต่า (Ba Ria – Vung Tau) กล่าวว่าในปี 2566 เงินลงทุนเพื่อการพัฒนาในจังหวัดจะสูงถึง 59 ล้านล้านดอง หรือประมาณ 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 6.54% โดยรายได้งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 89 ล้านล้านดอง ดังนั้น ทางหน่วยงานจังหวัดจึงจัดทำแผนการปฏิบัติงาน (Action Plan) อาทิเช่น โครงสร้างพื้นฐานระหว่างภูมิภาค โครงการสำคัญต่างๆ รวมถึงโครงการของรัฐฯ ระยะกลางในปี 2564-2569 และยังพัฒนาจังหวัดบ่าเหรี่ยะ หวุงเต่าให้กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของชาติ นอกจากนี้ จังหวัดดังกล่าวได้รับเงินลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งสิ้นประมาณ 2.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/ba-ria-vung-tau-aims-for-per-capita-grdp-of-8200-usd-in-2023/247275.vnp

“สปป.ลาว” เร่งจัดหาเงินในการชำระหนี้ เงินเดือนและโครงการพัฒนาของภาครัฐ

กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ การพัฒนาโครงการลงทุนและการชำระหนี้ เป็นค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ของรัฐบาลที่ได้จัดสรรในปี 2566 โดยรัฐบาลปรับเพิ่มวงเงินงบประมาณรายจ่ายจากปีที่แล้ว อยู่ที่ 34.5 ล้านล้านกีบ ขึ้นมาอยู่ที่ 43.49 ล้านล้านกีบในปี 2566 ในขณะที่รายได้ของประเทศตั้งเป้าไว้ที่ 38.44 ล้านล้านกีบ เพิ่มขึ้น 21.7% เมื่อเทียบปีต่อปี และแผนการใช้จ่ายงบประมาณในปีนี้ คิดเป็นร้อยละ 18.58% ของ GDP ทั้งนี้ รัฐบาลได้ทำการปรับปรุงเกี่ยวกับการบริหารรายจ่ายและการพัฒนาระบบการชำระเงิน ซึ่งเป้าหมายที่สำคัญ คือ การจัดการรายได้ในประเทศให้เพียงพอกับการใช้จ่ายได้ หรือทำให้เกินดุลงบประมาณ เพื่อให้รัฐฯ มีเงินสำรองในการชำระหนี้ อย่างไรก็ตาม ค่าเงินกีบที่อ่อนค่าลง ทำให้รัฐบาลต้องคาดการณ์ว่าจะสามารถชำระหนี้ต่างประเทศได้หรือไม่

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_More14.php