‘ศก.เวียดนาม’ เผิชญกับความท้าทายใหม่ ท่ามกลางความไม่แน่นอนโลก

The Economic Information Daily ซึ่งเป็นสื่อในเครือของสำนักข่าวซินหัวที่เป็นสื่อของรัฐบาลจีน ได้ตีพิมพ์บทความระบุว่าเศรษฐกิจเวียดนามเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ท่ามกลางสถานการณ์ทั่วโลกที่มีความผันผวน ตามรายละเอียดชี้ให้เห็นว่าเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจท้องถิ่นได้รับความสนใจจากประชาคมระหว่างประเทศ เศรษฐกิจของประเทศมีความยืดหยุ่น โดยเฉพาะเมื่อเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2563 เวียดนามก็เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีการเติบโตของ GDP เป็นบวก นอกจากนี้ เศรษฐกิจเวียดนามกำลังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และการดำเนินใช้ชีวิตกำลังจะกลับสู่ภาวะปกติเหมือนก่อนเกิดโรคระบาด แต่ก็กำลังเผชิญกับอุปสรรคใหม่ อาทิ ปัญหาเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นและความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกและปัจจัยดังกล่าวเริ่มที่จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามอีกด้วย

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnamese-economy-facing-new-challenges-amid-global-uncertainties-post946020.vov

รองนายกฯ เวียดนาม ตั้งเป้า GDP โต 6.5%

การประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 15 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2565 นาย เล วัน แถ่ง (Le Van Thanh) รองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม กล่าวว่าเศรษฐกิจเวียดนามปี 2565 ให้โตได้ตามเป้าหมาย 6-6.5% ถือเป็นเป็นความท้าทายครั้งใหญ่จากสถานการณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่ในปัจจุบันเวียดนามมุ่งรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจในระดับมหภาคและควบคุมอัตราเงินเฟ้อ แสดงได้จากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 2.1% นอกจากนี้ รัฐบาลจะดำเนินงานตามมติของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและมุ่งป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ตลอดจนขอความร่วมมือกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตามนโยบายการเงินและการคลัง เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ควบคุมเงินเฟ้อและเพิ่มรายรับงบประมาณของภาครัฐ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/growth-target-of-65-remains-big-challenge-deputy-pm-post945860.vov

‘เวียดนาม’ ชี้ไตรมาส 3 เศรษฐกิจส่งสัญญาปัญหาเงินเฟ้อ

Trần Toàn Thắng หัวหน้าศูนย์ข้อมูลและวิเคราห์เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่าในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เป็นสถานการณ์ความตึงเครียดมากที่สุดในการรับมือปัญหาเงินเฟ้อ ภายในงานเสวนาเศรษฐกิจเวียดนามแห่งปี 2022 ซึ่งจากรายงานได้เน้นย้ำถึงกระบวนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเวียดนาม แต่ต้องเผชิญกับแรงกดดันกับปัญหาต่างๆ ในปีนี้ แรงกดดันเงินเฟ้อและต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้แล้ว ความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย ถือได้ว่าสร้างผลกระทบทางอ้อมต่อเศรษฐกิจเวียดนามอีกด้วย ตลอดจนการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าสำคัญอย่างประเทศจีนที่คงเข็มงวดนโยบาย “Zero COVID” กลายเป็นแรงกดดันต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจเวียดนามและส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1194073/q3-set-to-be-tough-period-for-inflation.html

อัตราเงินเฟ้อสปป.ลาว ใกล้สองหลัก

อัตราเงินเฟ้อปีต่อปีในประเทศลาวเพิ่มขึ้นเป็น 9.9% ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2559 ตามรายงานล่าสุดจากสำนักงานสถิติลาว ดัชนีราคาผู้บริโภคพุ่งขึ้นเร็วที่สุดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริโภคต้องจ่ายเงินค่าอาหาร เชื้อเพลิง และสิ่งจำเป็นอื่นๆ มากขึ้น สปป.ลาวมีอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนใหญ่ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นจากขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนส่งผลให้ตลาดเชื้อเพลิงทั่วโลกผันผวนและการอ่อนค่าของ kip อย่างต่อเนื่อง ในเดือนเมษายน ค่าใช้จ่ายในหมวดการสื่อสารและการขนส่งเพิ่มขึ้น 6.7%  ราคาในหมวดสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และร้อยละ 16.3 เมื่อเทียบปีต่อปี ค่ารักษาพยาบาลและค่ายาเพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และ 11% เมื่อเทียบเป็นรายปี การเพิ่มขึ้นของหมวดนี้เป็นผลมาจากราคายาและค่ารักษาพยาบาล ในขณะเดียวกัน ราคาเสื้อผ้าและรองเท้าเพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และ 9.4 % เมื่อเทียบเป็นรายปี นอกจากนี้ ราคาในหมวดที่อยู่อาศัย น้ำ ไฟฟ้า และก๊าซ เพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และ 9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ค่าอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น 1.8% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และ 5.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten86_Inflation_y22.php

ผู้เชี่ยวชาญชี้ ควบคุมเงินเฟ้อของเวียดนามให้อยู่ในระดับ 4% เป็นไปได้ยาก

รศ. ดร.ตรัง แถ่ง มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์แห่งชาติ (NEU) เปิดเผยว่าเวียดนามมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ 6.5% ในปี 2565 แต่การรักษาอัตราเงินเฟ้อให้ต่ำกว่า 4% เป็นไปได้ยาก โดยการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ เนื่องมาจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตในประเทศ ซึ่งเป็นแรงกดดันเงินเฟ้อของประเทศในปีนี้ ทั้งนี้ ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่าการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน 45% จะทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.6% และดัชนีราคาราคาผู้ผลิต (PPI) 2%

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/under4percent-inflation-rate-tough-to-complete-experts/227568.vnp

‘เวียดนาม’ เผยนโยบายการคลัง คุมเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป้าหมาย

นาย Võ Thành Hưng รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเวียดนาม เปิดเผยว่าได้ดำเนินนโยบายการคลัง เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ตลอดจนควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป้าหมาย (4%) ที่สภาแห่งชาติกำหนดไว้ ท่ามกลางราคาสินค้าในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อตลาดในประเทศ ทั้งราคาอาหารและวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้อัตราเงินเฟ้อของเวียดนาม เฉลี่ย 1.92% ในไตรมาสแรกของปีนี้ นโยบายการคลังจึงต้องลดภาษีและค่าธรรมเนียม เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจให้ควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้ นอกจากนี้  ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อของเวียดนามจะยังต่ำกว่า 4% และเสริมว่ารัฐบาลมีความสามารถที่จะควบคุมราคาสินค้าให้มีความยืดหยุ่น เช่น การลดภาษีการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสำหรับเชื้อเพลิง

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1174694/fiscal-policies-work-to-keep-inflation-under-control.html

 

คาดสินค้ากลุ่มพลังงาน ดันเงินเฟ้อกัมพูชาพุ่ง 4.7% ในปี 2022

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) คาดกัมพูชาได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤต สงครามระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน ค่อนข้างต่ำ แต่อัตราเงินเฟ้อภายในจะยังคงเร่งขึ้นภายในปี 2022 ตามรายงานล่าสุดของ ADB โดยได้คาดการอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 4.7 จากราคาสินค้าในกลุ่มพลังงานและน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น อันเนื่องมาจากวิกฤตสงคราม ประกอบกับอุปสงค์ภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยก๊าซธรรมชาติถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการผลิตปุ๋ยไนโตรเจน ซึ่งรัสเซียและเบลารุสส่งออกสินค้าชนิดนี้คิดเป็นกว่าร้อยละ 32 ของการส่งออกทั่วโลก ส่งผลทำให้ต้นทุนการเพาะปลูกพืชผลคาดว่าจะเพิ่มขึ้น นอกจากปุ๋ยแล้ว ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นยังทำให้การทำฟาร์มมีต้นทุนที่สูงขึ้น ทำให้เงินเฟ้อด้านอาหารทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501054826/energy-prices-set-to-accelerate-inflation-to-4-7-in-2022/

เงินเฟ้อสปป.ลาวพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

อัตราเงินเฟ้อในเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อนมากกว่าที่คาดการณ์ และเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2559 ในเดือนมีนาคมราคาในหมวดการสื่อสารและการขนส่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 เมื่อเทียบเดือนที่แล้ว ราคาเชื้อเพลิงและก๊าซเพิ่มขึ้นร้อยละ 49.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และยังมีราคาสินค้าในอีกหลายหมวดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสาเหตุมาจากการระบาดของโควิด-19 ประกอบกับราคาน้ำมันที่ผันผวนทำให้ราคาสินค้าต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงในการผลิตหรือการขนส่งเพิ่มขึ้นและค่า kip ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากความต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐและเงินบาทที่เพิ่มขึ้น เพราะสปป.ลาวยังต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าและวัสดุเข้าเพื่อผลิต เป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น

 

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Investment68.php

วงล้อเศรษฐกิจ – ซ้ำเติมผู้บริโภค

ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ของโลก (คิดเป็น 28.5% ของปริมาณการส่งออกขอโลก) ดันราคาข้าวสาลีพุ่งสูงสุดในรอบหลายปี ได้ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานและราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรโลกให้ปรับตัวพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก จึงมีอิทธิพลต่อการปรับตัวของราคาข้าวสาลีในตลาดโลกอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลต่อไทยในแง่ต้นทุนวัตถุดิบของอุตสาหกรรมปลายน้ำที่ใช้ข้าวสาลีเป็นส่วนประกอบอย่างอาหารคน และอาหารสัตว์ ทำให้มีราคาปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น ในปี 2565 ทั้งต้นทุนราคาวัตถุดิบและต้นทุนโลจิสติกส์จะอยู่ในระดับที่สูง รวมถึงราคาอาหารที่เพิ่มขึ้น ซ้ำเติมภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงที่สุดแล้ว จะส่งผลกระทบไปยังราคาอาหารปลายทางที่ต้องจ่ายสูงขึ้นด้วย เช่น เนื้อสัตว์ หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป/ขนมปัง ตามราคาข้าวสาลีและราคาธัญพืชทดแทนที่ปรับเพิ่มขึ้น เป็นต้น

ที่มา: https://www.khaosod.co.th/economics/news_6951461

‘บลจ. VinaCapital’ ปรับลดประมาณการ GDP เวียดนาม โต 6.5% ในปีนี้

VinaCapital หนึ่งในบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่มีประสบการณ์มากที่สุดในเวียดนาม ประเมินการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในปีนี้ มีแนวโน้มขยายตัวที่ 6.5% หรือต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าที่ 1%

คุณ Michael Kokalan หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบลจ. VinaCapital กล่าวว่าความขัดแย้งของรัสเซียและยูเครนได้สร้างผลกระทบต่อตลาดการเงินระหว่างประเทศและกดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์

อย่างไรดีความขัดแย้งดังกล่าว ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจเวียดนามเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ปัจจัยเสี่ยงจากสภาวะเศรษฐกิจที่สำคัญ คือราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มสูงขึ้น อาจทำให้เงินเฟ้อของเวียดนามปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 1-2%

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างกระทันหัน ซึ่งจะทำให้ค่าเงินเวียดนาม (VND) อ่อนค่าลง 1-2% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/business/vinacapital-lowers-vietnam-s-estimated-gdp-rate-to-6-5-this-year-822837.html