“เวียดนาม” ชี้ ก.ย. นักท่องเที่ยวลดลง 14%

สำนักงานการบินพลเรือนประเทศเวียดนาม (CAAV) เปิดเผยว่าเดือน ก.ย.65 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศเวียดนามรวมทั้งสิ้น 4.2 ล้านคน ลดลง 14% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เนื่องจากสายการบินเข้าสู่โลว์ซีซั่น นอกฤดูกาลท่องเที่ยว มักจะอยู่จนถึงสิ้นเดือนธันวาคม ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 สายการบินเวียดนามต้อนรับผู้โดยสารจำนวนทั้งสิ้น 37 ล้านคน โดยมาจากสายการบินต่างชาติ 2.9 ล้านคน และสายการบินในประเทศ 19.5 ล้านคน

นอกจากนี้ สำนักงานการบินพลเรือนประเทศเวียดนาม คาดการณ์ว่าสนามบินทั่วประเทศจะให้บริการผู้โดยสารได้ประมาณ 87.8 ล้านคนในปีนี้ ขยายตัว 190% เมื่อเทียบกับปี 2564 รวมถึงจำนวนผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศ จะอยู่ที่ 5 ล้านคน และ 82.8 ล้านคน ขยายตัว 844% และ 178.4% ตามลำดับ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/number-of-air-passengers-down-14-in-september/238960.vnp

“นายกรัฐมนตรีเวียดนาม” ร้องขอให้มีการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว

นาย ฝ่าม มิงห์ จิ๋ง นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ขอความร่วมมือกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบันและศึกษาแนวทางในการหาทางออก เพื่อรักษาความมีเสถียรภาพของตลาดและราคาข้าว รวมถึงปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกร หลังจากอินเดียประกาศว่าจะจำกัดการส่งออกข้าว ทั้งนี้ สำนักงานรัฐบาลเวียดนาม เพิ่งออกเอกสารปฏิบัติตามคําสั่งเลขที่ 6263/VPCP-KTTH เกี่ยวกับข้อจำกัดการส่งออกข้าวของอินเดียและผลกระทบต่อภาคการผลิตและการส่งออกข้าวของเวียดนาม ด้วยเหตุนี้ อินเดียจึงออกคำสั่งห้ามส่งออกข้าวหัก มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. ด้วยอัตราภาษีส่งออก 20% สำหรับข้าวขาวและข้าวกล้อง คิดเป็น 60% ของการส่งออกข้าวทั้งหมดของอินเดีย เนื่องจากรัฐบาลอินเดียมีความกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่ลดลงและภาวะราคาอาหารเฟ้อ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1338276/prime-minister-asked-to-stabilise-rice-price.html

“เวียดนาม” เปลี่ยนจากขาดดุลการค้า กลับมาเกินดุลการค้ากับกัมพูชา

การส่งออกเวียดนามไปยังตลาดกัมพูชาในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัว 32.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มีมูลค่า 1,029 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นการขยายตัวสูงที่สุดจากปีก่อน โดยกัมพูชาเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่อันดับที่ 11 ของเวียดนาม และคิดเป็น 1.7% ของมูลค่าการส่งออกรวมทั้งหมดของเวียดนาม ทั้งนี้ สินค้าส่งออกหลักไปยังตลาดกัมพูชาที่มีมูลค่าเกินกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีจำนวน 10 รายการ อาทิเช่น เหล็กและเหล็กกล้า มีมูลค่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาสิ่งทอ น้ำมันเชื้อเพลิงและอื่นๆ เป็นต้น โดยเฉพาะสินค้าน้ำมันเชื้อเพลิง สิ่งทอ ปุ๋ยและเหล็กที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในขณะที่ตัวเลขการนำเข้าของเวียดนาม ขยายตัวค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับตัวเลขการส่งออก ดังนั้น เวียดนามจึงเปลี่ยนจากเดิมที่ขาดดุลการค้ากับกัมพูชาในปีที่แล้ว กลับกลายมาเป็นเกินดุลการค้าในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501157292/vietnam-changes-from-trade-deficit-to-trade-surplus-with-cambodia/

“เวียดนาม” ยกระดับเพาะปลูกข้าวคุณภาพสูง

เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ได้มีการประชุมเพื่อหารือทบทวนเกี่ยวกับพืชผลทางการเกษตรในฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว ปี 2665 และแผนการดำเนินงานของพืชผลฤดูหนาว-ฤดูใบไม้ผลิในปี 2565-2566 ทางตอนใต้ของประเทศ โดยประธานสมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) กล่าวว่าการส่งออกข้าวของเวียดนามในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ มีปริมาณ 4.38 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.7% และ 9.89% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามลำดับ และคาดว่าจะส่งออกได้ราว 6.3-6.5 ล้านตันในปีนี้ ทั้งนี้ การส่งออกข้าวของเวียดนามมุ่งไปที่ข้าวที่มีคุณภาพสูงและมีกลิ่นห่อม โดยเฉพาะข้าวพันธุ์ Dai thom 8, OM 5451 และ OM 18 นอกจากนี้ ข้าวหอมมะลิ มีสัดส่วนราว 41.2% ของการส่งออกข้าวทั้งหมด ปริมาณ 6.2 ล้านตันในปีที่แล้ว ขณะที่ข้าวขาวและข้าวเหนียวคุณภาพสูง คิดเป็น 37.63% และ 16.37% ตามลำดับ

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnam-steps-up-high-quality-rice-cultivation-in-winter-spring-crop/

“เวียดนาม” เผยรายได้อีคอมเมิร์ซแบบ B2C พุ่งแตะ 16 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้

เวียดนาม อยู่ที่ราว 16.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นปีแรกที่มีมูลค่าอยู่ในระดับสูงสุด และจากตัวแทนของสำนักงานอีคอมเมิร์ซและเศรษฐกิจดิจิทัลของเวียดนาม กล่าวว่าตามรายงานข้างต้น แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ของตลาดอีคอมเมิร์ซของเวียดนามที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโรค โดยเฉพาะที่สร้างความรุนแรงต่อภาคการค้าและบริการของเวียดนามและทั่วโลก ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาสัดส่วนรายได้ยอดค้าปลีกอีคอมเมิร์ซและบริการ เพิ่มจากเดิม 7% มาอยู่ที่ 27% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อีกทั้ง มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซของเวียดนามจะก้าวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 เป็นอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-b2c-retail-e-commerce-revenue-to-exceed-16-billion-this-year-2060814.html

“ธนาคารโลก” ประเมินการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเวียดนามยังคงเป็นไปในทิศทางที่ดี

ตามรายงานทางด้านเศรษฐกิจเวียดนาม ธนาคารโลก (World Bank) ระบุว่าภาคอุตสาหกรรมการผลิตและการค้าปลีก มีอัตราการขยายตัวในเดือนสิงหาคม 15.6% และ 50.2% ตามลำดับ ในขณะที่การส่งออกและการนำเข้าในเดือนสิงหาคม ขยายตัว 22.6% และ 11.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามลำดับ ทั้งนี้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ไปยังตลาดเวียดนามลดลง สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของนักลงทุน จากความไม่แน่นอนทั่วโลก ในขณะเดียวกัน ยอดการลงทุนจริงยังคงขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อทิศทางในเชิงบวก 11 เดือน นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ลดลงจาก 3.1% ในเดือนกรกฎาคม มาอยู่ที่ 2.9% ในเดือนสิงหาคม เป็นผลมาจากราคาน้ำมันลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงเร่งตัวขึ้นจาก 2.6% ในเดือนกรกฎาคม มาอยู่ที่ 3.1% ในเดือนสิงหาคม เนื่องจากได้รับผลกระทบระลอกที่สองของการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต

ที่มา : https://en.nhandan.vn/world-bank-upbeat-about-vietnams-continued-economic-recovery-post118037.html

“ค่าแรงต่ำ แรงงานจำนวนมาก” ขับเคลื่อนธุรกิจสตาร์ทอัพสิงคโปร์ในเวียดนาม

หนังสือพิมพ์เดอะ สเตรท์ส ไทม์สของสิงคโปร์ รายงานว่าจำนวนพนักงานมาก ค่าแรงงานอยู่ในระดับต่ำและตลาดที่มีขนาดใหญ่ของเวียดนาม จึงทำให้เวียดนามเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับบริษัทสตาร์ทอัพ (Startups) สิงคโปร์

ทั้งนี้ คุณ James Tan พาร์ทเนอร์ของบริษัทกองทุน “Quest Ventures” กล่าวว่ากำลังแรงงานของเวียดนาม มีการศึกษาที่ดีขึ้นและค่าแรงงานยังค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับสิงคโปร์ ประกอบกับเวียดนามมีประชากรที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีและชนชั้นกลางที่กำลังขยายตัว ทำให้กลายมาเป็นฐานลูกค้าของธุรกิจที่มีศักยภาพ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1315198/low-labour-costs-large-workforce-drive-singapore-start-ups-in-viet-nam.html