รัฐบาลเมียนมาเผยแผนสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่ (SEZ) ในรัฐมอญ

เขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่ (SEZ) จะดำเนินการในรัฐมอญโดยเชื่อมโยงเมียนมากับแนวพื้นที่เศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำตะวันออก-ตะวันตก โดย SEZ แห่งใหม่มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมต่อกับดานังของเวียดนามและจะเป็น SEZ ที่ใหญ่ที่สุดในเมียนมาหากได้รับการอนุมัติ คาดว่าจะมีค่าใช้จ่าย 117 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการพัฒนาและใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปีจึงจะแล้วเสร็จ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับประเทศที่อยู่บนทางเดินเศรษฐกิจโดยมีการสร้างท่าเรือน้ำลึกและการเชื่อมต่อเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา (Thilawa SEZ) ผ่านเครือข่ายการขนส่งท้องถิ่น ในการเลือกที่ตั้ง การศึกษาความเป็นไปได้และจัดทำแผนแม่บทโดยได้รับความช่วยเหลือจากทีมที่ปรึกษาระหว่างประเทศ จุดประสงค์ในการเชื่อมต่อเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่ (SEZ) ของรัฐมอญกับเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา (Thilawa SEZ) เพื่อให้ทั้งสองพื้นที่เป็นเขตอุตสาหกรรมที่มีมาตรฐาน มีความโปร่งใส และมีคุณภาพระดับโลก โครงการนี้จะรวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารเมืองเพื่อพัฒนาอย่างเมืองเมาะลำเลิงในรัฐมอญ เมืองพะอานและเมืองเมียวดีในรัฐกะเหรี่ยง

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/govt-reveals-plans-build-new-sez-mon-state.html

สนามบินนานาชาติย่างกุ้งขยายการระงับการให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ

รัฐบาลย่างกุ้งขยายการระงับการให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศที่สนามบินนานาชาติย่างกุ้งจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2563 เพื่อป้องกันและควบคุมไวรัส COVID-19 ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขและการกีฬาและกรมการบินพลเรือนได้สั่งห้ามทำการบินขาเข้าระหว่างประเทศชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2563 เนื่องจากร้านค้าทั้งหมดในสนามบินนานาชาติย่างกุ้งถูกปิดในช่วงการระบาดของ COVID-19 รัฐบาลจึงได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการเช่าของร้านค้า นอกจากนี้ยังตัดเงินเดือนพนักงานสนามบินเพื่อความอยู่รอดในระยะยาว จากเที่ยวบินผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ระหว่างประเทศถูกห้ามจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 จำนวนผู้ใช้เที่ยวบินลดลงเป็นสองเท่าตั้งแต่ต้นกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นมา

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/ygn-airport-extends-suspension-on-operation-of-international-flights

เมียนมาปล่อยสินเชื่อ 100 พันล้านจัต เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากพิษ COVID-19

ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา คณะกรรมการแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ COVID-19 (CERP) ได้ประกาศกองทุนสินเชื่อใหม่ 100 พันล้านจัต เป้าหมายเพื่อช่วยเหลือธุรกิจในภาคเกษตรปศุสัตว์ การส่งออก / นำเข้า การผลิต ห่วงโซ่อุปทาน อาหารและเครื่องดื่ม (F&B) หน่วยงานต่างประเทศ และโรงเรียนอาชีวศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างไรก็ตามความล้มเหลวในการชำระคืนเงินกู้จะส่งผลให้ถูกเรียกเก็บเงินตามกฎหมายและธุรกิจจะส่งผลลบต่อเครดิตบูโรและเพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับเงินกู้จาก MFI ตามประกาศของคณะกรรมการ CERP เงินกู้ยืมจากกองทุนสามารถสมัครได้ที่สหพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรมสหภาพเมียมา สำนักงานใหญ่ ภูมิภาค และสำนักงานของรัฐ ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคมถึง 10 สิงหาคม 2563 เงินกู้นี้จะใช้สำหรับการจ่ายค่าแรงและการดำเนินธุรกิจเท่านั้น

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/covid-19-relief-plan-committee-myanmar-announces-new-k100b-loan-programme.html

เมียนมาอนุมัติกู้สินเชื่อของ ADB หนี้คงค้างที่ 8.8 ล้านล้านจัตในปี 61-62

หนี้ในประเทศและต่างประเทศของเมียนมาอยู่ที่ 40.8 ล้านล้านจัต ณ สิ้นเดือนกันยายน 2562 ซึ่งใกล้เคียงกับร้อยละ 40 ของ GDP ตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและอุตสาหกรรมแจ้งให้รัฐสภาทราบเกี่ยวกับรายงานหนี้สินประจำปี 2561- 2562  ในวันที่ 24 กรกฎาคม หนี้ของประเทศประมาณร้อยละ 63 เป็นหนึ้ภายในท้องถิ่น ในขณะเดียวกันเงินทุนต่างประเทศส่วนใหญ่ถูกจัดสรรให้กับกระทรวงการก่อสร้างและกระทรวงการไฟฟ้าและพลังงาน คาดว่าในปีนี้หนี้จะเพิ่มขึ้นอีกโดยรัฐบาลได้กู้ยืมเงินจาก ธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพื่อสนับสนุนโครงการระดับประเทศและโครงการกระตุ้นทางเศรษฐกิจของ COVID-19 สภาผู้แทนราษฎรของเมียนมาอนุมัติการกู้ยืมเงิน 171.3 ล้านดอลาร์สหรัฐจากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ใช้ในโครงการไฟฟ้าเขตชนบทในรัฐกะเหรี่ยง เขตอิรวดี เขตพะโค และเขตมะกเว คาดว่าจะสร้างประโยชน์ให้กับ 2,815 หมู่บ้าน จำนวน 400,400 ครัวเรือน เงินกู้ดังกล่าวมีระยะเวลา 32 ปี รวมระยะเวลาผ่อนผันแปดปีซึ่งจะเรียกเก็บดอกเบี้ยที่ร้อยละ 1 สำหรับส่วนที่เหลืออีก 24 ปี อัตราดอกเบี้ยจะเป็นร้อยละ 1.5 โดยอัตราผลตอบแทนภายในทางเศรษฐกิจคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 15

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-approves-adb-loan-outstanding-debt-hits-k408-trillion-2018-19.html

รัฐบาลเมียนมาวางแผนซื้อข้าวสำรองเพิ่ม

กระทรวงพาณิชย์เผยรัฐบาลกำลังวางแผนที่จะซื้อข้าวเพิ่มอีก 20,000 ตันเพื่อเป็นแหล่งสำรองข้าว  เมื่อต้นปีรัฐบาลเมียนมาประกาศจะซื้อข้าว 50,000 ตันจากเกษตรกรเพื่อการสำรองหลังตรวจพบ COVID-19 ในเมียนมาเป็นครั้งแรก และจะซื้อเพิ่มอีก 20,000 ตัน ข้าวได้รับการจัดหาจากบริษัทส่งออก 12 แห่งและเก็บไว้ที่โกดัง 9 แห่ง ระหว่างวันที่ 30 เมษายนถึง 12 มิถุนายน 2563 มีการซื้อข้าวจากเมืองย่างกุ้ง 40,000 ตัน 3,000 ตันจากมัณฑะเลย์ และ 1,000 ตันจากเนปิดอว์ เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 เมียนมาส่งออกข้าวได้สูงสุด 2.5 ล้านตันในปีงบประมาณ 2562-2563 มีการซื้อข้าวจากผู้ค้าข้าวในท้องถิ่นมากถึง 38 พันล้านจัตและคาดว่าจะซื้อข้าวสำหรับส่งออกได้มากถึง 10% เพื่อทำการสำรอง

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-govt-plans-buy-more-reserve-rice.html

ย่างกุ้งเปิดตัวระบบการชำระเงินของรถโดยสารประจำทาง

Yangon Bus Service (YBS) เปิดตัวระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์บนรถโดยสารเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยมียอดขาย 5,387 ใบภายในสองวันหลังจากเปิดตัว ผู้เดินทางส่วนใหญ่จะได้รับบัตรฟรีหากซื้อบัตรเครดิตมูลค่า 5,000 จัต คาดว่าจะขายบัตรเติมเงินมากกว่า 250,000 ใบในช่วงเดือนแรก บัตรดังกล่าวสามารถซื้อได้ที่ร้าน Grab and Go กว่า 100 แห่งทั่วเมือง ในเมืองย่างกุ้งมีการจำหน่ายบัตร 2,500 ใบในแต่ละวัน Yangon Payment Services (YPS) จะถูกติดตั้งบนรถบัสรวม 597 แห่งที่ดำเนินการโดย บริษัท ขนส่งสาธารณะย่างกุ้ง (YPBC) และสายรถบัสบันดุลา YPS จะถูกติดตั้งบนรถเมล์ในเมืองและโดยสารที่เดินทางระยะไกลไกลภายในสามเดือนข้างหน้า บัตรจะขายใบละ 2,000 จัตโดยรายละเอียดจะถูกโฆษณาบนรถบัส ระบบขนส่งสาธารณะในย่างกุ้งได้ถูกเปลี่ยนไปจากระบบ Ma Hta Tha แทนที่โดย Yangon Bus Service (YBS) เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2560 ปัจจุบันมีรถบัสมากกว่า 120 สายที่ให้บริการทั่วเมืองด้วยรถโดยสารมากกว่า 4,300 คันต่อวัน และมีผู้โดยสารมากกว่า 1.8 ล้านคน

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/yangon-payment-system-launched.html

EU สนับนุนเงิน 43 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อปฏิรูปการศึกษาของเมียนมา

สหภาพยุโรปให้ทุนเพื่อส่งเสริมการปฏิรูปการศึกษาในปีการศึกษาใหม่จำนวน 37.6 ล้านยูโร (ประมาณ 60 พันล้านจัต / 43.08 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา  ท่ามกลางการระบาดใหญ่ของ COVID-19 และทำให้แน่ใจว่าเด็กทุกคนสามารถกลับไปโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่ารัฐบาลจะยังคงพยายามปรับปรุงการศึกษาและการฝึกอบรมสายอาชีพทั่วประเทศ เงินช่วยเหลือเป็นการชำระเงินครั้งที่สามจำนวน 221 ล้านยูโรจากสหภาพยุโรปเพื่อเพิ่มการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพสำหรับทุกคนในประเทศ ซึ่งต้องทำให้แน่ใจว่าเด็ก ๆ จะไม่ถูกทิ้งไว้ในช่วงวิกฤตินี้ การเข้าถึงการศึกษาและการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องจะมีความสำคัญต่อการฟื้นฟูอย่างยั่งยืนและความสามารถของเราในการป้องกันและตอบสนองต่อภัยคุกคามดังกล่าวได้ดีขึ้นในอนาคต เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาโรงเรียนกว่า 5,600 แห่งทั่วประเทศเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่ คาดว่าโรงเรียนประถมและมัธยมต้นจะเปิดในสองสัปดาห์ รัฐบาลเตรียมห้องเรียนเพื่อรองรับระยะห่างทางสังคม (social distancing) เพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับแนวทางการควบคุมและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของ COVID-19 ครูจะได้เรียนรู้หลักสูตรใหม่ออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มในการพัฒนาการศึกษาของเมียนมา เพื่อสนับสนุนการการสอนดิจิทัลมากขึ้นมีการเตรียมคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต ให้กับโรงเรียนและครู กระทรวงจะประเมินแต่ละโรงเรียนและปรับให้เข้ากับสถานการณ์ในแต่ละท้องถิ่น

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/eu-releases-43-million-boost-myanmar-education-reforms.html