‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เผชิญกับอุปสรรคมากมาย

นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม กล่าวในที่ประชุมรัฐบาลว่าเศรษฐกิจเวียดนามยังคงเผชิญกับความท้าทายมากขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก การส่งออกที่หดตัวลงและวิกฤติสินเชื่อ ถึงแม้จะได้รับสัญญาของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่ว่าแนวโน้มของการเติบโตทางเศรษฐกิจก็จะถูกขัดขวางจากการบริโภคที่อ่อนแอและอุปสรรคทางการค้าโลก ทั้งนี้  อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ได้สร้างแรงกดดันต่อหนี้สาธารณะและความกังวลทางการเงินยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่จะขัดขวางการฟื้นตัวของหลายๆประเทศ หลังสิ้นสุดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค นอกจากนี้ ความท้าทายที่เกิดขึ้นใหม่ ได้แก่ ความไม่มั่นคงด้านอาหารโลก ผลผลิตน้ำมันที่ซบเซาและสภาพอากาศที่รุนแรง กำลังเพิ่มข้อจำกัดที่ส่งผลกระทบต่อตลาดโลก

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnam-faces-protracted-economic-headwinds/

ส่งออกเวียดนามยังไม่ฟื้น เหตุอุปสงค์ทั่วโลกอ่อนแอ

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า รายงานว่าภาคการส่งออกของเวียดนามเผชิญกับภาวะถดถอยในปี 2566 ทั้งการส่งออกและการนำเข้าที่หดตัวลงในอัตราตัวเลขสองหลัก ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ค. และจากข้อมูลการส่งออกของเวียดนามในเดือน ก.ค. พบว่ามีมูลค่าอยู่ที่ 29.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ภาคเศรษฐกิจในประเทศ ลดลง 4.2% ในขณะที่ภาคการลงทุนจากต่างประเทศ ลดลง 3.2% อีกทั้ง การส่งออกรวมของเวียดนามในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 194.73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 10.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สาเหตุสำคัญมาจากอุปสงค์ทั่วโลกที่อ่อนแอ โดยเฉพาะตลาดส่งออกสำคัญของเวียดนาม อาทิเช่น สหรัฐ (-21.8%), ยุโรป (-9.9%), อาเซียน (-9.6%), เกาหลีใต้ (-8.8%) และญี่ปุ่น (-3.5%) เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnams-foreign-trade-sector-struggles-as-global-demand-weakens/

แนวโน้มศก.เวียดนาม ครึ่งหลังปี 66 มีทิศทางในเชิงบวก

องค์กรระหว่างประเทศและสื่อ ยังคงประเมินการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนาม มีทิศทางไปในเชิงบวกเป็นไปตามการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและแนวโน้มในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ตามเว็บไซต์ Fibre2fashion ของสหรัฐได้อ้างรายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารแห่งชาติสิงคโปร์ (DBS) ระบุว่าถึงแม้เศรษฐกิจโลกจะเติบโตช้าลง แต่เศรษฐกิจเวียดนามก็สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งกว่าหลายๆประเทศทั่วโลก และยังเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ทั้งนี้ IMF คาดการณ์ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจของเวียดนามจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายที่ระดับ 4.5% ของธนาคารกลางเวียดนาม ในขณะเดียวกัน  ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 7% ในช่วงครึ่งปีหลัง

ที่มา : https://www.reuters.com/markets/commodities/vietnam-aims-raise-annual-raw-rare-earths-output-2-mln-tyr-by-2030-2023-07-25/

ทางการ สปป.ลาว พร้อมแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ ควบคู่การสร้างความมั่นคง

คณะกรรมการกลางของพรรคประชาชนปฏิวัติ สปป.ลาว มีมติให้เริ่มมาตรการเพื่อให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจจะเติบโตร้อยละ 4.5 ในปีนี้ ในขณะที่กำลังพยายามควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นและชะลอการอ่อนค่าของเงินกีบ โดยคณะกรรมการกลางพรรคเพิ่งมีมติในประเด็นดังกล่าวในการประชุมสมัยที่ 6 ซึ่งสรุปการดำเนินการที่รัฐบาลต้องดำเนินการเพื่อเอาชนะปัญหาทางเศรษฐกิจที่กำลังดำเนินอยู่เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศผิดนัดชำระหนี้ รวมถึงเป็นการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบไปยังภาคประชาชน โดยปัจจุบัน สปป.ลาว กำลังเผชิญกับความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับการขาดดุลเงินตราต่างประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น เงินกีบที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง และค่าครองชีพที่สูงขึ้น เป็นสำคัญ นอกจากนี้ทางการยังจำเป็นต้องทบทวนนโยบายสินเชื่อเพื่อให้แน่ใจว่าธนาคารพาณิชย์จะปล่อยสินเชื่อให้กับภาคเอกชนมากพอเพื่อกระตุ้นภาคการผลิตในประเทศ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Partyresolves149.php

‘สหราชอาณาจักร’ ยอมรับเวียดนามเป็นเศรษฐกิจระบบตลาด

สำนักงานกำกับดูแลด้านมาตรการการค้าของเวียดนาม (TRAV) ระบุว่าสหราชอาณาจักร (UK) พร้อมที่จะยอมรับว่าอุตสาหกรรมเวียดนามอยู่ในช่วงวางรากฐานของเศรษฐกิจระบบตลาด และจะไม่กำหนดกฎเกณฑ์ที่ทำให้เสียเปรียบ หากได้รับการตรวจสอบเป็นไปตามมาตรการป้องกันทางการค้า ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรแสดงเจตจำนงที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกใหม่ของความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ส่งผลให้เวียดนามเชื่อมโยงกับตลาดต่างประเทศ จำนวน 71 ประเทศ รวมถึงคู่ค้าสำคัญที่ผ่านการลงนามข้อตกลงการค้า และเมื่อเวียดนามได้รับการยอมรับว่าเป็นเศรษฐกิจระบบตลาด ทำให้สินค้าของเวียดนามจะได้รับการปฎิบัติที่เป็นธรรมมากขึ้น และผู้ส่งออกจะสามารถเข้าถึงตลาดได้อีกจำนวนมาก

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1551526/uk-to-recognise-viet-nam-as-market-economy.html

อาเซียนสรุปผลเจรจาด้านเศรษฐกิจเตรียมชงวงถก รมต.เคาะ ส.ค.นี้

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เข้าร่วมประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน (Senior Economic Officials Meeting: SEOM) ครั้งที่ 3/54 ระหว่างวันที่ 11-16 ก.ค.ที่ผ่านมา ณ เมืองสุราบายา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เพื่อติดตามการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจของปี 2566 ก่อนเสนอผลลัพธ์ต่อรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนในเดือน ส.ค.นี้ พร้อมเตรียมการประชุมกับประเทศนอกภูมิภาค ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา จีน สหภาพยุโรป ฮ่องกง อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/iq03/3439183

‘สื่อเยอรมัน’ ยกย่องศักยภาพการพัฒนาและโอกาสการลงทุนของเวียดนาม

หนังสือพิมพ์โฟกัส ของเยอรมนีได้เผยแพร่บทความเกี่ยวกับการพัฒนาการทางเศรษฐกิจของเอเชีย และมองว่าเศรษฐกิจเวียดนามมีศักยภาพในระดับสูง โดยบทความดังกล่าวอ้างถึงคุณ Horst Geicke นักลงทุนและประธานของบริษัท Deutsches Haus กล่าวว่าเวียดนามเป็นแหล่งลงทุนแห่งใหม่ของนักลงทุนต่างชาติและกิจการเยอรมนี นอกจากประเทศสิงคโปร์แล้วในภูมิภาคเอเชีย มีเพียงเวียดนามประเทศเดียวที่ลงนามข้อตกลงการค้าเสรีกับสหภาพยุโรป (EVFTA) นอกจากนี้ เวียดนามดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศ ประมาณ 27,720 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2565 และตัวเลขเงินลงทุนจากต่างประเทศมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนาม ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศขยายตัว 8% ในปีที่แล้ว และเฉลี่ยที่ 5.9% ในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา

ที่มา : https://en.nhandan.vn/german-newspapers-praise-vietnams-development-potential-investment-opportunities-post127720.html

‘ADB’ ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามปีนี้ โต 5.8%

ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ระบุในรายงาน Asian Development Outlook (ADO) ประจำเดือนกรกฎาคม 2566 ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามในปีนี้ อยู่ที่ 5.8% และปีหน้า 6.5% จากที่เคยประมาณการไว้ที่ 6.5% และ 6.8% ในเดือนเมษายน เนื่องมาจากอุปสงค์ภายนอกที่อ่อนแอ ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตและภาคอุตสาหกรรม ในขณะที่คาดกาณ์ว่ากิจกรรมในประเทศจะปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ ภาวะเงินเฟ้อในประเทศ คาดว่าจะชะลอตัวลงเหลือ 4% ในปี 2566 และปีหน้า เป็นผลมาจากทิศทางราคาเชื้อเพลิงและอาหารลดลง

ที่มา : https://en.nhandan.vn/adb-lowers-growth-forecast-for-vietnams-to-58-this-year-post127656.html

สปป.ลาว นำเสนอแผนพัฒนาที่ยั่งยืน ณ เวที UN

รัฐบาล สปป.ลาว ได้ยืนยันความมุ่งมั่นในการสนับสนุนความร่วมมือในระดับพหุภาคี และยกระดับความเป็นหุ้นส่วนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ภายในปี 2030 กล่าวโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ Mr.Phoxay Khaykhamphithoune ซึ่งย้ำถึงจุดยืนของรัฐบาลในการดำเนินการ ร่วมกับความพยายามในการฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยรัฐบาล สปป.ลาว ได้นำมาตรการที่สำคัญมาปรับใช้ รวมถึงได้กำหนดวาระแห่งชาติว่าด้วยการจัดการปัญหาทางเศรษฐกิจและการเงินสำหรับปี 2021-2023 ไปจนถึงการกำหนดแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 9 สำหรับปี 2023-2025 เพื่อปรับตัวต่อสถานการณ์หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos139.php

ADB คาดการท่องเที่ยวกัมพูชากลับมาฟื้นตัวอย่างเต็มรูปแบบแล้ว

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) รายงานการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวภายในกลุ่มประเทศเอเชียและแปซิฟิก รวมถึงกัมพูชาที่สถานการณ์เริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติ ซึ่งได้รายงานไว้ใน Asian Development Outlook (ADO) ประจำเดือนกรกฎาคมปีนี้ โดยได้ปรับคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาไว้ที่ร้อยละ 5.5 ในปีนี้ และขยายตัวร้อยละ 6 ในปีหน้า จากการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวและบริการที่แข็งแกร่งมากขึ้น สำหรับแนวโน้มการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวอยู่ที่ร้อยละ 7.3 ขณะภาคการเกษตรของกัมพูชาที่ถือเป็น 1 ใน 4 เสาหลักของระบบเศรษฐกิจ คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 1.1 อย่างไรก็ตาม คาดว่าภาคอุตสาหกรรมจะเติบโตช้าลงมาอยู่ที่ร้อยละ 5.8 ในปีนี้ และร้อยละ 7.8 ในปีหน้า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501327000/tourism-recovery-in-full-swing-says-adb/