‘เวียดนาม’ เผยเดือน พ.ค. ส่งออกดิ่ง 6.4% ขณะที่ผลผลิตอุตฯ พุ่ง 5.8%

สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานข้อมูลของรัฐบาลเมื่อวันที่ 29 พ.ย. ว่าการส่งออกของเวียดนาม มีมูลค่าอยู่ที่ 306 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวลดลง 6.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) ระบุว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และดัชนีราคาผู้บริโภค เดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 3.45% จากปีก่อนหน้า

ที่มา : https://www.reuters.com/markets/asia/vietnams-year-to-date-exports-down-64-nov-industrial-output-up-58-2023-11-29/

CPI เวียดนาม เดือน ก.ย. พุ่งสูงสุดในรอบ 5 ปี

สำนักงานสถิติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเวียดนามในเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 1.08% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากค่าเล่าเรียนที่เพิ่มขึ้น ราคาข้าวที่สูงขึ้น ค่าก๊าซและเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น และค่าเช่าที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคเฉลี่ย 9 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 3.16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นมาจากราคาตั๋วเครื่องบินพุ่ง 71.56% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnams-cpi-in-sept-rises-to-five-year-high/

เงินเฟ้อไทย ก.ค. 66 เพิ่ม 0.38% ยังต่ำสุดในอาเซียน

นายพูนพงษ์ นัยนาภาภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์ทางการค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทยเดือนกรกฎาคม 2566 อยู่ที่ 107.82 เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2556 ที่อยู่ที่ 107.41 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้นเพียง 0.38% ซึ่งสูงขึ้นจากเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากเทียบเงินเฟ้อไทยกับต่างประเทศ (ข้อมูลล่าสุดเดือน มิ.ย. 2566) พบว่าอัตราเงินเฟ้อในหลายประเทศทั่วโลกมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อต่ำ และต่ำที่สุดในอาเซียน นอกจากนี้ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในอีก 5 เดือนที่เหลือ เงินเฟ้อน่าจะเพิ่มขึ้นไม่เกินเดือนละ 1%

ที่มา : https://www.prachachat.net/economy/news-1364174

‘CIEM’ คาดเศรษฐกิจเวียดนามปีนี้ โต 6.46% และเงินเฟ้อ 4.39%

จากงานสัมมนาที่จัดขึ้นโดยหน่วยงาน Centre Institute for Economic Management (CIEM) ได้ประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเวียดนาม ภายใต้ 3 สถานการณ์ ดังนี้

สถานการณ์แรก มองว่าหากเศรษฐกิจโลกยังคงดำเนินต่อไปได้ และเวียดนามจะยังคงใช้นโยบายในลักษณะแบบเดิมในช่วงครึ่งหลังของปี 2564-2565 ด้วยเหตุนี้ คาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัว 5.34% ในปีนี้ แต่การส่งออกจะหดตัวลง 5.64% และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะเพิ่มขึ้น 3.43%

ในขณะที่สถานการณ์ที่สอง ตั้งสมมติฐานเหมือนกัยสถานการณ์แรก แต่จะมีการปรับนโยบายการเงินผ่อนคลายที่เกี่ยวข้องกับการลดอัตราดอกเบี้ยและสถานการณ์ทางการคลังที่เป็นบวกมากขึ้นในเวียดนาม ด้วยเหตุนี้ คาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัว 5.72% ในปีนี้ แต่การส่งออกจะหดตัวลง 3.66% และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะเพิ่มขึ้น 3.87%

และสถานกาณณ์ที่สาม ตั้งสมมติฐานในเชิงบวกมากขึ้นท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว ด้วยเหตุนี้ คาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัว 6.46% ในปีนี้ แต่การส่งออกจะหดตัวลง 2.17% และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะสูงถึง 4.39%

ที่มา : https://en.sggp.org.vn/vietnams-economic-growth-forecast-at-646-percent-inflation-439-percent-post103486.html

เงินเฟ้อ ‘เวียดนาม’ เดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 0.01%

สำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภคของเวียดนาม (CPI) เดือนพฤษภาคม ปี 2566 เพิ่มขึ้น 0.01% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 2.43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สาเหตุสำคัญมาจากราคาอาหาร ค่าไฟฟ้าและน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ สำนักงานฯ ระบุว่าการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อตั้งแต่ต้นปีนี้มีทิศทางที่ชะลอตัวลง โดยในเดือน ม.ค. อยู่ที่ 4.89%, เดือน ก.พ. 4.31%, เดือน มี.ค. 3.35%, เดือน เม.ย. 2.81% และเดือนพ.ค. 2.43%

นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนพฤษภาคม ปี 2566 เพิ่มขึ้น 0.27% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 4.54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 4.83% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตของดัชนีราคาผู้บริโภค 3.55%

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/cpi-increases-by-001-in-may/253788.vnp

IMF คาดเศรษฐกิจ สปป.ลาว ปีนี้โตเฉลี่ยร้อยละ 4

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจ สปป.ลาว จะเติบโตร้อยละ 4 ในปีนี้ แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกจะยังอยู่บนความไม่แน่นอน แต่ถึงอย่างไรในรายงานของ IMF ช่วงเดือนเมษายน ได้ระบุว่าการยกเลิกข้อจำกัดด้านการเดินทางและการเปิดประเทศอีกครั้งของจีน จะส่งผลทำให้เศรษฐกิจในภูมิภาครวมถึง สปป.ลาว กลับมาขยายตัว โดยหนึ่งในความท้าทายหลักสำหรับ สปป.ลาว ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าคือการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากต้นทุนสินค้าและบริการที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบันที่กำลังสร้างผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่ง IMF คาดการณ์ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคใน สปป.ลาว จะขึ้นไปแตะที่เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 15.1 ในปีนี้ ถือเป็นอัตราสูงสุดที่คาดการณ์ไว้สำหรับประเทศในกลุ่มเอเชียเกิดใหม่

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Laoeconomy73.php

“เวียดนาม” เผย CPI ไตรมาสแรกปี 66 พุ่ง 4.3%

กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้น 4.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และสาเหตุสำคัญที่ทำให้ดัชนี CPI ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาจากราคาที่อยู่อาศัยและวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น 7.2% และราคาอาหาร เพิ่มขึ้น 4.5% โดยราคาที่อยู่อาศัยและวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องมาจากค่าเช่าและต้นทุนปัจจัยการผลิตที่สูงขึ้น ได้แก่ ปูนซีเมนต์ เหล็กและทราย เป็นต้น ในขณะเดียวกัน ความต้องการบริโภคอาหารเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ ส่งผลให้ราคาอาหารสูงขึ้นและยังทำให้ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 1% นอกจากนี้ กระทรวงฯ ได้ประเมินสถานการณ์ของภาวะเงินเฟ้อไว้ 3 สถานการณ์ (Scenarios) ในช่วงไตรมาสที่ 2 และในช่วงที่เหลือของปี 2566 ตลอดจนคาดการณ์ว่าดัชนี CPI เฉลี่ยในปีนี้ เพิ่มขึ้น 3.9% – 4.8%

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-s-cpi-inches-up-in-q1-2125534.html

“เงินเฟ้อเวียดนาม” คาดพุ่งสูง 4.8% ปี 2566

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) ระบุว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน มี.ค. ลดลง 0.1-0.2% เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ. แต่เพิ่มขึ้น 3.4-3.5% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และคาดการณ์ว่าแนวโน้มเงินเฟ้อของเวียดนามจะเพิ่มสูงขึ้น 3.9-4.8% ในปี 2566 ใกล้เคียงกับระดับเป้าหมายของเงินเฟ้อที่ตั้งไว้ที่ 4.5% เนื่องจากแรงกดดันจากเงินเฟ้อยังคงสูงในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ได้ชี้แจ้งกับที่ประชุมคณะกรรมการกำกับดูแลราคาสินค้า เมื่อวันที่ 24 มี.ค. โดยมีรองนายกรัฐมนตรี เลมิงค้าย เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ เพื่อพิจารณาผลของการคำนวณราคาที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ขั้นต้น ได้แก่ ปิโตรเลียม ธัญพืช อาหาร อัตราค่าไฟฟ้าในครัวเรือน วัสดุการก่อสร้าง การศึกษา การดูแลสุขภาพและค่าเช่าที่อยู่อาศัย

นอกจากนี้ รองนายกฯ ยังได้แนะนำให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการทบทวนและวิเคราะห์ปัจจัยหรือสาเหตุที่มีผลกระทบต่อวัตถุดิบและผลผลิต เพื่อนำไปปรับปรุงการจัดการด้านราคา

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnams-inflation-forecast-to-reach-4-8-in-2023/

“เวียดนาม” เผย CPI เดือน ม.ค. เพิ่มขึ้น

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือน ก.พ. 2566 เพิ่มขึ้น 0.45% เมื่อเทียบรายเดือน และ 4.31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว การปรับขึ้นของดัชนี CPI เป็นผลมาจากราคาเชื้อเพลิงในประเทศที่สูงขึ้น เหตุจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งสูงขึ้นและค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น หลังจากเทศกาลปีใหม่ทางจันทรคติ ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการหลัก มี 5 กลุ่มจาก 11 กลุ่มที่ผลักดันให้ดัชนี CPI ปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบรายเดือน ได้แก่ กลุ่มขนส่งที่เพิ่มขึ้นสูงสุด 2.11% จากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ตามมาด้วยราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าบริการขนส่งสาธารณะ ค่าบริการรถไฟโดยสาร ค่าที่อยู่อาศัยและการก่อสร้าง โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น และราคาก๊าซหุงต้ม ไฟฟ้า และค่าบำรุงรักษาที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 0.25% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และ 4.96% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnams-cpi-edges-up-in-february/

“เวียดนาม” เผยปัจจัยขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไตรมาสแรก

การลงทุน การบริโภคในประเทศและการค้าต่างประเทศเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในเดือน ก.พ. และไตรมาสแรกของปีนี้ จากข้อมูลของกระทรวงการวางแผนและการลงทุน (MPI) เปิดเผยว่าภาวะเศรษฐกิจในเดือน ม.ค. 2566 ยังคงอยู่ในทิศทางที่เป็นบวกและเศรษฐกิจมหภาคยังอยู่ในระดับทรงตัว โดยเฉพาะดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 4.89% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่ตลาดการเงิน สินเชื่อขยายตัว 0.65% เมื่อเทียบกับปี 2565 ทั้งนี้ รายรับงบประมาณในเดือน ม.ค. สูงถึง 11.3% ของประมาณการรับรายรับต่อปี การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศสูงถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ภาครัฐฯ เร่งปรับปรุงสภาพแวดล้อมการลงทุนและส่งเสริมให้ภาคเอกชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและสินเชื่อธุรกิจ ตลอดจนสนับสนุนกำลังซื้อภายในประเทศผ่านการดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อเป็นแรงกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศและการค้าระหว่างประเทศ

ที่มา : https://ven.vn/q1-economic-growth-drivers-46867.html