เวียดนามเป็นจุดหมายปลางทางเชิงกลยุทธ์ทางด้านการวิจัยของซัมซุง

ผู้อำนวยการซวง จู โฮ ผู้อำนวยการทั่วไปซัมซุง กล่าวว่าซัมซุงเวียดนามวางแผนที่จะขยายการลงทุนในเวียดนาม โดยจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อสร้างความร่วมมือกับองค์กรในประเทศและมีส่วนร่วมในโครงสร้างพื้นฐานอีกด้วย ตามบทสัมภาษณ์ของหนังสือพิมพ์ “Tuoi tre” เปิดเผยถึงระยะเวลาในการก่อสร้างของศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ที่ฮานอย มีกำหนดการเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2565 ทั้งนี้ เมื่อมองย้อนกลับไปจะพบว่าในปี 2563 บริษัทซัมซุงเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ทำให้การส่งออกลดลงในช่วงครึ่งแรกของปี ก่อนที่จะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลัง ทำให้ในปีนี้ ธุรกิจทำรายได้จากการส่งออกราว 57 พันล้านเหรียญสหรัฐ ต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้เล็กน้อย แต่ยังถือว่าอยู่ในทิศทางเป็นบวกท่ามกลางการระบาด นอกจากนี้ ผู้อำนวยการซัมซุง กล่าวเสริมว่าเวียดนามไม่เพียงแต่จะเป็นศูนย์กลางการผลิตระดับโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดหมายปลางทางเชิงกลุยธ์ทางด้านการวิจัยและพัฒนาของซัมซุง

  ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-a-strategic-destination-for-samsungs-rd-activities/197190.vnp

สหรัฐฯ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำเข้าสินค้าเกษตรรายใหญที่สุดของเวียดนาม

ตามรายงานล่าสุดของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท แสดงให้เห็นว่าในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ยอดส่งออกและนำเข้าสินค้าเกษตรโดยรวม อยู่ที่ประมาณ 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ หากจำแนกพบว่าการส่งออก มีมูลค่าราว 6.17 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.6% และการนำเข้า มีมูลค่า 4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทำให้เวียดนามเกินดุลการค้า 1.37 พันล้านเหรียญสหรัฐ  ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าเกษตรส่งออกที่สำคัญของเวียดนามที่มีการเติบโตได้ดี ได้แก่ ยางพารา มีมูลค่า 516 ล้านเหรียญสหรัฐ (โต 9.9%) รองลงมาใบชา เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผัก ไม้และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากไม้ หวายและไม้ไผ่ นอกจากนี้ สหรัฐฯ เป็นลูกค้าสินค้าเกษตรของเวียดนามรายใหญ่ที่สุดในช่วงเวลาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงฯ มุ่งเน้นไปที่จัดกิจกรรมส่งเสริมการค้า รวมถึงศึกษากฎระเบียบของตลาดและอุปสรรคทางเทคนิคในเขตการค้าเสรี (FTAs) เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/us-becomes-largest-importer-of-vietnamese-agricultural-products-during-jan-feb-28790.html

เวียดนามรับข้อเสนอสภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจแก่นักลงทุนต่างชาติ

เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ณ กรุงฮานอย นาย Mai Tien Dung รัฐมนตรีและประธานสำนักงานรัฐบาล กล่าวต้อนรับนายลีคังอู ผู้อำนวยการทั่วไปของบริษัทล็อตเต้ พร็อพเพอร์ตี้ และนาย Horst Geicke ประธานและกรรมการผู้จัดการบริษัทโฮทรัม แซงซัวรี่ โดยภายในงานต้อนรับนั้น นายลีคังอูได้แสดงความยินดีกับรัฐบาลในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้และเรื่องการผลิตวัคซีน ตลอดจนความร่วมมือที่มีอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ นาย Dung ยังกล่าวเสริมว่ารัฐบาลเวียดนามชื่นชมความพยายามของเกาหลีใต้ในฐานะเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ๋ที่สุดในประเทศ และทั้งสองประเทศยังมุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามอุปสรรคการระบาดของเชื้อไวรัส ทั้งนี้ รัฐมนตรีฯ กล่าวถึงปัญหาที่ภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวถือว่าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ดังนั้น จึงต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวค่อนข้างมาก

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/vietnam-willing-to-offer-optimal-conditions-for-foreign-investors-28795.html

โฮจิมินห์ซิตี้: ยอดเงินลงทุนจากต่างประเทศ 337.8 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำนักงานวางแผนและการลงทุนประจำเมือง ระบุว่าภาคอสังหาริมทรัพย์มียอดเงินลงทุนสูงสุด ด้วยมูลค่า 145.1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วน 43% ของเงินลงทุนรวม รองลงมาโครงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (57.5 ล้านเหรียญสหรัฐ) และอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป (41 ล้านเหรียญสหรัฐ) ทั้งนี้ เมืองโฮจิมินห์ถือเป็นศูนย์กลางดึงดูดเม็ดเงินทุนจากต่างชาติ แต่เมื่อประเมินในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. พบว่ามีจำนวนเพียง 3 โครงการ เป็นมูลค่า 115 ล้านเหรียญสหรัฐ สาเหตุหลักมาจากการระบาดของโควิด-19 ไปทั่วโลก นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อหุ้นในบริษัทเวียดนาม กว่า 169.5 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงเวลาดังกล่าว

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/890438/viet-nam-racks-up-129-billion-in-trade-surplus-in-two-months.html

รองผู้ว่าธนาคารกลางเวียดนาม เตือนบิตคอยน์ยังผิดกฎหมาย

ดาว มินท์ ตู (Dao Minh Tu) รองผู้ว่าการธนาคารชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม กล่าวว่าบิตคอยน์ (Bitcoin) หรือสุกลเงินดิจิตอลอื่นๆ มิใช้สกุลเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย “สกุลเงินดิจิตอลไม่สามารถชำระเงินได้และไม่อนุญาตให้ใช้แทนสกุลเงินเวียดนาม” ในปัจจุบันธนาคารกลางเวียดนาม กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงการคลัง ดำเนินการชี้แจ้งข้อมูลทางกฎหมายที่เกี่ยวกับเงินเสมือนและสินทรัพย์ทางธุรกิจเสมือน นอกจากนี้ รองฯ ยังกล่าวย้ำว่าในมุมมองของธนาคารกลางต่อการลงทุน Forex (ตลาดซื้อขายสกุลเงินตราต่างประเทศ) เป็นเพียงการให้บริการซื้อขายเงินตราต่างประเทศทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งต้องได้รับอนุญาตจากสถาบันสินเชื่อและธนาคารพาณิชน์ ดังนั้น ถ้าหน่วยงานใดไม่ได้รับใบอนุญาตให้ซื้อขายเงินตราต่างประเทศ จะถือว่าทำผิดกฎหมาย

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/state-bank-deputy-governor-bitcoin-is-not-legal-in-vietnam-28767.html

กัมพูชา-เวียดนาม ตัวเลือกลงทุนแทนเมียนมา

ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่ยืดเยื้อในเมียนมาขณะนี้ ทำให้บริษัทต่างชาติเริ่มคิดที่จะถอนการลงทุนออกจากประเทศนี้ ขณะที่มีบริษัทบางแห่งประกาศยุติความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัทท้องถิ่นที่มีสายสัมพันธ์กับกองทัพให้เห็นบ้างแล้ว และหันไปมองประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงที่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากกว่าอย่างกัมพูชาและเวียดนาม ข้อมูลจากสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(อาเซียน)ระบุว่า การลงทุนโดยตรงของต่างชาติ(เอฟดีไอ)ที่ไหลเข้าไปในกลุ่มประเทศ CLMV ขยายตัว 6.3% ในปี 2562 โดยเวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ1 ในแง่ของมูลค่าการลงทุนที่ 16,100 ล้านดอลลาร์ และเมียนมา เคยเป็นประเทศที่มีอัตราการขยายตัวของเอฟดีไอสูงสุดที่ 55.9% แต่เมื่อกองทัพเข้ายึดอำนาจเมื่อวันที่ 1ก.พ.ที่ผ่านมา กระแสเอฟดีไอในเมียนมาก็ไม่เพิ่มขึ้นเลย

ทั้งนี้ ฟิลด์ พิคเกอริง หัวหน้าหน่วยงานด้านการลงทุนจากวัลเพส อินเวสต์เมนท์ แมเนจเมน กล่าวว่าความไม่สงบเรียบร้อยที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ ทำให้บรรดาผู้ประกอบการเมียนมาอาจเลือกย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่น และเข้าไปสร้างธุรกิจให้เติบโตในดินแดนอื่นภายในภูมิภาคอาเซียน เท่ากับว่าเป็นความสูญเสียของเมียนมาแต่เป็นการได้ประโยชน์ของประเทศอื่นๆในภูมิภาคแทน

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/925213