การส่งออกยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจเวียดนาม ปี 64

หลังจากเติบโตไปในทิศทางที่เป็นบวก 6.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในปี 2563 ภาคการส่งออกคาดว่ายังคงเป็นแรงคับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจเวียดนามในปีนี้ นายเหงียน ซวน ทัญ (Nguyen Xuan Thanh) นักเศรษฐศาสตร์และที่ปรึกษาสำนักงานนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเครือข่ายตลาดส่งออก จะช่วยให้เวียดนามชดเชยจากการสูญเสียการส่งออกไปยังตลาดดั้งเดิมที่ลดลง อาทิ สหภาพยุโรปหรืออาเซียน อย่างไรก็ตาม การส่งออกไปยังสหรัฐฯ จะเผชิญกับอุปสรรคมากขึ้นในปีนี้ เนื่องจากเวียดนามเกินดุลการค้า 62.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว แต่ด้วยข้อตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป-เวียดนาม (EVFTA) และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) จะช่วยให้การค้าระหว่างประเทศดีขึ้น ทั้งนี้ ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม (VCCI) เปิดเผยว่ากระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ควรมีบทบาทมากขึ้นในการทำกิจกรรมระหว่างช่วงการบังคับใช้ข้อตกลงการค้าเสรีที่เวียดนามเป็นสมาชิกอยู่ รวมถึงส่งเสริมกิจกรรมการค้าให้แก่ตลาดที่มีศักยภาพ และนำเทคโนโลยีมาใช้กับการค้าและอีคอมเมิร์ซ เป็นต้น

  ที่มา : http://hanoitimes.vn/exports-set-to-remain-growth-driver-for-vietnam-in-2021-315931.html

เวียดนามส่งออกข้าวไปยังฟิลิปปินส์ สูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

กรมศุลกากรเวียดนาม เผยการส่งออกข้าวของเวียดนามไปยังตลาดฟิลิปปินส์ในปีที่แล้ว ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีมูลค่าเกินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งทางสำนักงานดังกล่าว ตั้งข้อสังเกตว่าฟิลิปปินส์เป็นผู้บริโภคข้าวเวียดนามรายใหญ่ที่สุด ด้วยปริมาณการนำเข้า 2.22 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1.06 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 4% และ 19.3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามลำดับ นอกจากเรื่องปริมาณการส่งออกข้าวจำนวนมากไปยังฟิลิปปินส์แล้วนั้น ราคาส่งออกข้าวไปยังตลาดดังกล่าว ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยอยู่ที่ 476 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 14.7% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดฟิลิปปินส์ยังคงเป็นผู้บริโภคข้าวรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ด้วยสัดส่วน 35.5% ของปริมาณการส่งออกทั้งหมด และ 33.9% ของมูลค่าการส่งออกข้าวรวม

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-rice-exports-to-the-philippines-reached-over-us1-billion-831365.vov

เวียดนามเอาชนะจีน อินเดีย ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการผลิตถัดไป

ตามรายงานของ Economist Intelligence Unit (EIU) เผยว่าเวียดนามเป็นจุดหมายปลางทางของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในเอเชีย หลังออกจากจีนและอินเดีย ด้วยเหตุนี้ เวียดนามจึงเป็นศูนย์กลางการผลิตด้วยต้นทุนต่ำในห่วงโซ่อุปทานของเอเชีย ซึ่งปัจจัยสำคัญในการเติบโตของประเทศนั้น ได้แก่ ข้อเสนอให้กับบริษัทระหว่างประเทศ เพื่อให้ธุรกิจสามารถจัดตั้งหน่วยงานในการผลิตสินค้าไฮเทค ด้วยค่าจ้างแรงงานที่ต่ำ และผลประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) เป็นต้น อีกทั้ง หน่วยงาน EIU ระบุว่าเวียดนามมีคะแนนมากกว่าทั้งอินเดียและจีน เกี่ยวกับเรื่องนโนบาย FDI นอกจากนี้ การเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ FTA จะแสดงถึงจุดแข็งของความสัมพันธ์ทางการค้าของเวียดนาม และช่วยลดต้นทุนทางด้านการส่งออกอีกด้วย

  ที่มา : https://vov.vn/en/economy/vietnam-beats-china-india-to-become-next-manufacturing-hub-831078.vov

นักเศรษฐศาสตร์ คาดเศรษฐกิจเวียดนามเร่งตัวพุ่งในปีนี้

การขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนามเติบโตค่อนข้างช้า เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อปีที่แล้ว แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน ประเมินว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะเร่งพุ่งสูงขึ้น แค่รอโอกาสที่จะกลับมา ดังนั้น รัฐบาลจึงตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้อยู่ที่ 6.5% เพิ่มขึ้น 2 เท่าของปีที่แล้ว นับว่าเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ สาเหตุจากยังคงมีความเสี่ยงจาก COVID-19 และความขัดแย้งทางการค้า รวมถึงความไม่แน่นอนทางด้านการเมืองทั่วโลก อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุน กล่าวว่าเวียดนามมีโอกาสอีกมากมายและเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ ประกอบกับโอกาสจากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) และการหันมานำเทคโนโลยีมาใช้ในธุรกิจ อีคอมเมิร์ซ รวมถึงการก่อตั้งของอุตสาหกรรมใหม่และโมเดลธุรกิจ นอกจากนี้ ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB), ธนาคารยูโอบี (UOB) และธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) คาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัว 6.3%, 7.1% และ 8.1% ในปีนี้ ตามลำดับ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/858071/vietnamese-economy-tipped-to-bounce-back-in-2021.html

เวียดนามส่งออกทุเรียนไปจีน ผ่านช่องทางหลัก

เวียดนามเร่งเจรจาข้อตกลงทางการค้า เพื่อที่จะส่งออกทุเรียนไปยังประเทศจีน ในจำนวนที่มากขึ้นผ่านช่องทางหลัก ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่จีนก็ยังเป็นผู้บริโภคทุเรียนของเวียดนามรายใหญ่ที่สุดในปีที่แล้ว เมื่อพิจารณาจากตัวเลขสถิติ พบว่าจีนนำเข้าทุเรียนทั่วโลกอยู่ที่ 397,000 ตัน เป็นมูลค่า 1.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 10.8% เมื่อเทียบกับปี 2562 อย่างไรก็ตาม การนำเข้าทุเรียนของเวียดนาม ลดลง 66.3% ในช่วง 8 เดือนแรกของปีที่แล้ว ทั้งนี้ เวียดนามส่งออกทุเรียนแบบปอกเปลือกและทุเรียนแช่แข็งไปยังตลาดจีนเป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่ผ่านช่องทางไม่เป็นทางการ อย่างไรก็ตาม จีนเพิ่งระงับช่องทางไม่เป็นทางการชั่วคราว เนื่องจากกลัวการระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้ส่งออกในประเทศลำบาก นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท ได้เร่งเจรจากับทางจีนเพื่อส่งออกสินค้าเกษตรผ่านช่องทางที่เป็นทางการ โดยจะให้ความสำคัญกับสินค้าเกษตร อาทิ ทุเรียน มันเทศ รังนก ส้มโอ เสาวรส อะโวคาโด และอื่นๆ เป็นต้น

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-to-export-durians-to-china-via-official-channels-830589.vov

จังหวัดด่งนายดึงดูดเม็ดเงิน FDI 226 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงครึ่งเดือนแรกเดือนมกราคม 64

ตามข้อมูลจากคณะกรรมการเขตอุตสาหกรรมจังหวัด เผยว่าจังหวัดด่งนาย (Dong Nai) ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) จำนวน 11 โครงการ รวมมูลค่ามากกว่า 226 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือนมกราคม 2564 นับว่าสูงที่สุดในช่วงเวลาเดียวกันในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา โดยมีโครงการขนานใหญ่ ได้แก่ Hansol Electronics (100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมฮอร์นายและโรงงาน Ojitex (60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทั้งนี้ นาย Pham Van Cuong รองผู้อำนวยการคณะกรรมการบอร์ด กล่าวเสริมว่านักลงทุนเน้นที่จะเบิกจ่ายเงินทุนในการสร้างโรงงานและการซื้อเครื่องจักรในไตรมาสที่ 1 และเริ่มดำเนินโครงการภายในสิ้นปี 2564 เป็นผลมาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจเวียดนาม รวมถึงสภาพแวดล้อมทางการลงทุนที่ดีในจังหวัดด่งนาย นอกจากนี้ ในปัจจุบัน ทางจังหวัดดังกล่าวมีจำนวน 32 เขตอุตสาหกรรม ด้วยอัตราการดำเนินงาน 80%

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/dong-nai-attracts-over-226-million-usd-in-fdi-on-first-days-of-2021/194729.vnp