ค้าปลีกเวียดนาม แตะ 350 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 68

จากรายงานชองกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ระบุว่าการใช้จ่ายของชนชั้นกลางและรายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้น ส่งผลให้รายได้ของภาคค้าปลีกเวียดนาม เพิ่มขึ้น 1.6% เท่าในปี 2563 และมีมูลค่าสูงถึง 350 พันล้านดอลลาร์สหรัฐของปี 2568 รวมถึงคาดว่าปี 64-68 อัตราการขยายตัวของภาคค้าปลีก 9-9.5% ในขณะเดียวกัน ประเด็นเรื่องมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในเวียดนาม ปี 2563 ใช้เวลาเพียง 22 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่สั้นกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ทำให้ช่วยลดแรงกดดันต่อการบริโภคในประเทศ ทั้งนี้ ตามข้อมูลของบริษัทวิจัยตลาดของนีลเส็น เปิดเผยว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในประเทศ ลดลงราว 5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในไตรมาสที่ 2 และลดลง 26%, 19% ในตลาดสิงคโปร์และอินโดนีเซีย เป็นผลมาจากเวียดนามสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ ทำให้ภาคค้าปลีกมีแนวโน้มที่จะโตในปีหน้า จากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและความพร้อมในการใช้วัคซีน

  ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/industries/retail-market-size-to-hit-350-bln-by-2025-4214029.html

สปป.ลาวสั่งห้ามนำเข้าอาหารทะเลไทยหลังการระบาดของ COVID -19 ครั้งใหม่

สปป.ลาวสั่งห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากไทยชั่วคราวหลังพบ COVID -19 ระบาดครั้งใหม่ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสปป.ลาวกังวลว่าอาหารทะเลอาจปนเปื้อนเชื้อไวรัส ดังนั้นการนำเข้าจึงถูกระงับโดยมีผลทันที คำสั่งห้ามดังกล่าวมีผลหลังจากที่อำเภอสมุทรสาครของไทยกลายเป็นศูนย์กลางของการระบาดของ COVID -19 ครั้งใหม่โดยมีพบผู้ติดเชื้อกว่า 1,000 คน ส่งผลโดยตรงต่อผู้นำเข้าอาหารทะเลในสปป.ลาวได้รับผลกระทบจากการไม่สามารถนำเข้าได้ สมุทรสาครถือเป็นจังหวัดที่มีอุตสาหกรรมประมงใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมีมูลค่าในปี 2562 กว่า 5.8 พันล้านบาท ดังนั้นการเกิดการระบาดระลอกใหม่ครั้งนี้มีการคาดการณ์ว่าผู้ประกอบการไทยจะสูญเสียเงินจากการส่งออกอาหารทะเลไปยังสปป.ลาวกว่า 100 ล้านบาท

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos251.php

ททท.คาดปีใหม่เงินสะพัดท่องเที่ยวแค่หมื่นล.

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2564 คาดว่าหดตัวลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของนักท่องเที่ยวเกิดความหวั่นวิตกกังวลกับสถานการณ์การแพร่ระบาด ทั้งนี้ ททท.ประเมินว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวปีใหม่ 2564 ซึ่งเป็นวันหยุดยาวต่อเนื่อง 4 วัน ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค.63 – 3 ม.ค. 64 คาดว่า จะมีคนไทยเดินทางภายในประเทศ 2.75 ล้านคน-ครั้ง และมีการใช้จ่ายสร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่มากว่า 10,742 ล้านบาท โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 37% ซึ่งลดลงจากปีก่อนมาก เพราะปีที่ผ่านมามีวันหยุดยาวถึง 5 วัน และมีการเดินทางท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ เพราะเป็นช่วงก่อนที่จะมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยสร้างรายได้หมุนเวียนมากถึง 23,800 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเกิดล็อกดาวน์จังหวัดสมุทรสาคร แต่ก็ยังไม่นำไปสู่การล็อกดาวน์เป็นวงกว้าง ดังนั้น บางพื้นที่จึงยังจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 64 ที่ ททท. เป็นผู้จัด หรือร่วมสนับสนุนการจัดงานใน 4 พื้นที่ทั้งเมืองหลักและเมืองรองตามภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ กรุงเทพฯ กระบี่ ราชบุรี และร้อยเอ็ด แต่การจัดงานได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ ยกระดับความปลอดภัยตามมาตรการควบคุมโรค คาดว่ามีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่ประมาณ 4.71 แสนคน-ครั้ง และมีรายได้หมุนเวียน 1,800 ล้านบาท

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/814874

กัมพูชาร่วมมือกับเวียดนามในการรับมือโควิด-19

กัมพูชาและเวียดนามได้ให้คำมั่นที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามแนวชายแดนระหว่างประเทศ โดยกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชากล่าวในแถลงการณ์ โดยคำปฏิญาณดังกล่าวมีขึ้นในระหว่างการประชุมของคณะกรรมาธิการร่วมระหว่างกัมพูชา-เวียดนามด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งที่ 18 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาเป็นประธาน โดยทั้งสองฝ่ายแสดงความขอบคุณสำหรับความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพและการสนับสนุนซึ่งกันและกันในการป้องกันและต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะที่การค้าสินค้าข้ามพรมแดนและการลงทุนก็ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้กัมพูชามีผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันแล้วทั้งสิ้น 363 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตเป็น 0 พร้อมกับได้รับการรักษาฟื้นตัวแล้ว 349 ราย ในขณะที่เวียดนามมีรายงานผู้ป่วยทั้งหมด 1,420 ราย จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตรวม 35 ราย และได้รับการฟื้นตัวแล้วทั้งสิ้น 1,281 ราย ตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขของทั้งทั้งสอง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50796851/cambodia-vietnam-vow-close-cooperation-to-fight-covid-19/

การค้าระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชายังคงดำเนินต่อแม้มีการติดเชื้อภายในประเทศไทย

ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของไทยพุ่งสูงขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการระบาดในเขตจังหวัดสมุทรสาคร มีผู้ติดเชื้อเกือบ 1,000 คน ทำให้รัฐบาลกัมพูชากังวลเป็นอย่างมากจากการระบาดรอบใหม่นี้ แต่อย่างไรก็ตามการกำหนดมาตรการพิเศษด้านศุลกากรโดยรัฐบาลทั้งสองประเทศกล่าวว่ายังคงสามารถทำการค้าระหว่างกันได้ตามปกติ ณ ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายใต้มาตรการที่ได้ทำการกำหนด โดยรองประธานหอการค้ากัมพูชากล่าวว่าจนถึงขณะนี้การค้าชายแดนกัมพูชา-ไทยยังคงปกติและไม่มีปัญหาความแออัดหรือความล้มเหลวในการเคลียร์สินค้าเนื่องจากมาตรการความปลอดภัย โควิด-19 ที่เข้มงวดขึ้นจากทั้งสองรัฐบาล ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในคู่ค้าหลักของกัมพูชา โดยเฉพาะสินค้าเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน อาหารแช่แข็ง และวัตถุดิบแปรรูปจำนวนมาก ที่ขายในตลาดกัมพูชาที่ทำการนำเข้าจากประเทศไทย จากข้อมูลที่เปิดเผยโดยกระทรวงพาณิชย์ของไทยในช่วงไตรมาสที่ 3 แสดงให้เห็นว่าปริมาณการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและไทยอยู่ที่ 5.569 พันล้านดอลลาร์ลดลงร้อยละ 19 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยการส่งออกของกัมพูชาอยู่ที่ 958 ล้านดอลลาร์ลดลงร้อยละ 48 ในขณะที่การส่งออกไปกัมพูชาของไทยอยู่ที่ 4.611 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 9 ซึ่งการลดลงของการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและไทยเกี่ยวข้องกับผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคระบาดในปีนี้เป็นหลัก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50796894/business-as-usual-despite-recent-thai-virus-outbreak/

เมียนมาจับมืออินเดียร่วมผลิตวัคซีนป้องกัน COVID-19

เมียนมาอยู่ระหว่างการหารือเพื่อซื้อและผลิตวัคซีนป้องกันโควิด -19 ร่วมกับบริษัทยาของอินเดียในประเทศ จากการหารือระหว่างนาย Saurabh Kumar เอกอัครราชทูตอินเดียประจำเมียนมาและกระทรวงสาธารณสุขและกีฬา (MOHS) เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 63 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีตัวเลือกผลิตวัคซีน 13 ชนิด แต่กำลังพิจารณาผลิตวัคซีนบางชนิดในประเทศโดยร่วมมือกับอินเดียและร่วมมือกันจัดตั้งหน่วยงานด้านเภสัชกรรมในการผลิตยา ปัจจุบันอินเดียมีการลงทุนมูลค่า 773 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน 35 ภาคธุรกิจในเมียนมา ซึ่งเมียนมากำลังสร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนที่น่าดึงดูดและยืดหยุ่นเพื่อต้อนรับนักลงทุนจากอินเดีย ขณะนี้กำลังขอทุนจากธนาคารโลก, ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย, สำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เกือบ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อผลิตวัคซีน ในปีงบ 63-64 แต่ละกระทรวงอาจถูกขอให้จัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งใหม่เพื่อจ่ายค่าวัคซีนหากจำเป็น ซึ่งเมื่อปีที่แล้วกระทรวงต่างๆ ได้รับการร้องขอให้จัดสรรงบประมาณอีก 10% ให้กับแผนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน COVID-19 ทั้งนี้ MOHS กำลังหารือกับจีนและรัสเซียเพื่อขอรับวัคซีนเพิ่มเติม เมียนมาคาดว่าจะสามารถใช้ฉีดวัคซีนได้ในเดือนเมษายน 64 ประมาณ 20% จากจำนวนประชากร 54.4 ล้านคน ภายในสิ้นปีหน้าคาดว่า 40% ของจำนวนประชากรจะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 และจะต้องได้รับการรับรองจาก WHO

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-talks-india-buy-make-covid-19-vaccines.html

โควิด-19 ดันยอดสินเชื่อบ้านพุ่งสูงขึ้น

สมาคมบริการอสังหาริมทรัพย์แห่งเมียนมาเผย ยอดสินเชื่อของธนาคารจาการ ขายอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น สินเชื่อบ้านยังคงได้รับความนิยมอย่างมากในปีนี้แม้ว่ายอดอสังหาริมทรัพย์ที่ขายในตลาดจะลดลงก็ตาม ผลจากราคาลดลงและอัตราดอกเบี้ยลดลง สินเชื่อบ้านจึงกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตลาดอสังหาฯ ส่วนใหญ่ในเขตเมืองนอกย่างกุ้งโดยพาะอพาร์ตเมนต์ที่มีราคาต่ำกว่า 50 ล้านจัต จากผลกระทบของ COVID-19 ยอดขายในครึ่งปีหลังลดลงอย่างมาก แต่หลังจากการล็อกดาวน์ COVID-19 ระรอก 2 การขายและการตลาดออนไลน์ได้เข้ามามีส่วนสำคัญเนื่องจากตัวแทนผู้ซื้อและผู้ขายแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะพบกัน พบว่าผู้ซื้อมากกว่า 90% ค้นหาที่อยู่อาศัยหรืออสังหาฯ ทางออนไลน์ของบริษัทต่างๆ จึงจำเป็นต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือ ทั้งนี้นายหน้าต้องปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อสนร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคยุคใหม่อีกด้วย

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/home-loans-rise-during-covid-19-period.html

กัมพูชาคาดการณ์ GDP ต่อหัวสำหรับปี 2021

กัมพูชาคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศต่อหัวของประเทศไว้ที่ 1,771 ดอลลาร์ ในปี 2021 เพิ่มขึ้นจาก 1,600 ดอลลาร์ ในปี 2020 ประกาศโดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง โดยการเติบโตดังกล่าวเกิดจากความพยายามต่างๆของรัฐบาล รวมถึงการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตลอดจนอุตสาหกรรมหลักของประเทศมีการพัฒนา ซึ่งรัฐบาลได้จ่ายงบประมาณแผ่นดินไปแล้วกว่า 200 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับหนุนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤต COVID-19 และจะจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบภายในประเทศหากวิกฤตยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าการส่งออกด้านการผลิตโดยรวมจะได้รับผลกระทบจากโรคระบาด แต่การส่งออกจักรยาน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนยานยนต์ รวมถึงอุปกรณ์เสริมก็มีปริมาณที่เพิ่มขึ้น โดยเศรษฐกิจของกัมพูชาคาดว่าจะหดตัวลงร้อยละ 2 ในปี 2020 แต่จะกลับมาเติบโตอีกร้อยละ 4 ในปี 2021 ตามการคาดการณ์ล่าสุดของธนาคารโลก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50796394/cambodia-anticipates-1771-per-capita-gdp-for-2021/

กัมพูชาร่วมระดมสมองแก้ปัญหาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศ

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งกัมพูชาเองก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นเดียวกัน โดยรัฐบาลได้ริเริ่มโครงการต่างๆเพื่อตอบสนองต่อผลกระทบที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบันไปบ้างแล้ว ล่าสุดได้จัดการประชุมทางวิดีโอทั้ง 4 ภูมิภาคภายในประเทศกัมพูชา ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ซึ่งรัฐบาลเสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบมาแล้วหลายประการ อาทิ เช่น การยกเว้นภาษีและค่าธรรมเนียม ทั้งการปรับโครงสร้างหนี้สินธนาคาร สำหรับคนที่ทำงานด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดมากที่สุดรัฐบาลได้จัดโปรแกรมการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะให้กับแรงงานได้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น โดยประธานสมาคมตัวแทนการท่องเที่ยวแห่งกัมพูชา (CATA) กล่าวว่าการชะลอตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะส่งผลให้มีคนตกงานในภาคการท่องเที่ยวถึง 60,000 ตำแหน่งในอนาคต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50795857/think-tank-addresses-tourism-industry-impacts/

บริษัทผู้จัดจำหน่ายยานยนต์ในกัมพูชากำลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19

โควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของกัมพูชาเป็นอย่างมากโดยปริมาณการค้าลดลงเกือบร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากสถิติการนำเข้าและส่งออกล่าสุดในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ปริมาณการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ลดลงร้อยละ 34.1 และ 39.5 ตามลำดับ โดยผู้จำหน่ายรถยนต์รายใหญ่ในประเทศระบุว่าอุปทานและอุปสงค์ในภาคนี้ลดลงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นสำคัญ ซึ่ง RMA Group (RMA) ระบุว่าเนื่องจากโครงการลงทุนภาคเอกชนและภาครัฐขนาดใหญ่หลายโครงการในกัมพูชาถูกเลื่อนหรือยกเลิก ประกอบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการโรงแรมต้องประสบกับความสูญเสียอย่างหนัก ทั้งธนาคารของประเทศที่กำลังระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นส่งผลให้ความต้องการรถยนต์ลดลงไปด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50795854/automotive-firms-hit-on-imports-exports/